บทที่ 1
บอดี้การ์ดสาว NC
ชีวิตคนเราเลือกเกิดไม่ได้และฉันเองก็เลือกเกิดไม่ได้เช่นกัน ฉันเรียนจบคณะบัญชีได้มาทำงานเป็นเลขาของท่านประธาน เจ้าของโรงงานนำเข้าอะไหล่รถยนต์
นอกจากฉันจะทำหน้าที่เป็นเลขา ฉันยังถูกคุณพ่อของฉันฝึกเรื่องทักษะการต่อสู้การใช้อาวุธจนฉันสามารถไปรับงานเป็นบอดี้การ์ดได้สบาย แต่ฉันก็เลือกที่จะมาทำงานที่นี่เพราะฐานเงินเดือนที่ฉันได้รวมทั้งตำแหน่งที่ฉันควบทั้งบอดี้การ์ดและเลขาส่วนตัวรายได้อยู่ที่หกหลัก
ฉันทำงานกับท่านประธานได้ 1 ปีทุกอย่างดูราบรื่นดี แต่สิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกใจหายนั่นก็คือตำแหน่งงานที่ท่านประธานอยากให้ฉันทำเพิ่ม เพื่อแลกกับเงินเดือนอีกเท่าตัว นั่นก็คือดูแลลูกชายของท่านทั้งสองคน
ร้อยวันพันปีฉันไม่เคยเห็นหน้าลูกชายของท่านประธานเลย เพราะทั้งสองไปสิงสถิตอยู่ที่คอนโดมิเนียม ไม่ค่อยกลับมาบ้าน เพราะมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกับท่านประธานทุกครั้งที่มา
คอนโด X
ฉันขับรถมาจอดอยู่ที่ชั้น VIP คีย์การ์ดและกุญแจต่าง ๆ ท่านประธานส่งมอบให้ฉันเป็นที่เรียบร้อย ปีนี้เป็นปีสุดท้ายที่ลูกชายของคุณท่านจะได้เรียน จากนั้นต้องมาศึกษางานกับฉันเพื่อทำงานกับท่านประธาน
แกร๊ก!
ทันทีที่ฉันเปิดประตูฉันก็พบกับความมืด มีเพียงเครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงานตามด้วยเสียงก่นกระแทกของกิจกรรมบางอย่างดังอยู่กลางห้องรับแขก
ปึก! ปึก! ปึก!
“อ๊าา~ จุก~ พี่เวย์~ อ๊าาา พี่วินอย่าทำแรงค่ะ หมวยจุก~”
ม่านตาของฉันเริ่มปรับสภาพได้ ตอนนี้ฉันเห็นเงาของคนสามคนกำลังผสมพันธุ์เหมือนกับหมาสองตัวแย่งชิงตัวเมีย สาวสวยนอนอ้าซ่าให้ผู้ชายทั้งสองรุมกระหน่ำทั้งรูหน้าและรูหลัง
ทั้งสามไม่รู้เรื่องเลยว่าตอนนี้ภายในห้องมีสมาชิกใหม่อย่างฉันเข้ามา พอฉันจะขยับดวงตาของฉันก็ต้องเบิกโพลงด้วยความตกใจ เมื่อคุณวินลุกขึ้นสลับที่กับคุณเวย์
ปึก! ปึก! ปึก!
ไม่น่าเชื่อว่าพวกเขาจะกระหน่ำกันขนาดนี้ ฉันเริ่มรู้สึกขนลุกอยากจะเป็นลมจนต้องสูดอากาศหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นก็ตัดสินใจค่อย ๆ ขยับตัวเองเดินไปหาสวิตช์ไฟ
“อ๊าาา~ หลวมไปหน่อยแต่อร่อยอยู่ พี่วินผมขอประตูหลังบ้างข้างหน้าไม่ไหวหลวมฉิบหาย”
“เออ! อ่าา~”
อุบาทว์มากพูดออกมาได้ยังไง ไม่รู้ผู้หญิงคนนั้นจะเสียเซลฟ์มากแค่ไหนเพราะทั้งสองพูดจาใส่กันรุนแรง ตอนนี้สติของฉันกำลังจะหายจึงรีบเดินไปเปิดไฟจนห้องที่มืดสนิทสว่างโล่ง ไม่พอแค่นั้นฉันยังตรงไปยังหน้าต่างเปิดผ้าม่านจนแสงแดดส่องผ่านกระจกใส
กรี๊ดดดด!
“เฮ้ยเธอเป็นใครเนี่ย!”
“เข้ามาได้ยังไง!”
ทั้งคุณวินทั้งคุณเวย์ตกใจรีบกระโดดออกจากร่างของผู้หญิงคนนั้น ทั้งสองหยิบหมอนอิงมาปิดเป้าของตัวเอง แต่ไม่ทันหรอกฉันเห็นหมดแล้ว มะเขือของพวกเขาสองคนอันเท่าแขนเลย
“สวัสดีค่ะคุณวิน สวัสดีค่ะคุณเวย์ ฉันชื่อแสนดีเป็นเลขาของคุณพ่อพวกคุณ และตอนนี้ฉันได้รับตำแหน่งใหม่คือการมาสอนงานพวกคุณ รวมทั้งเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของพวกคุณด้วยค่ะ”
“เดี๋ยวนะ แล้วเข้ามาได้ยังไงใครอนุญาตให้เธอเข้ามา!”
“คุณวินคะ ฉันเข้ามาด้วยคีย์การ์ดที่ท่านประธานมอบให้ค่ะ ส่วนเธอใส่เสื้อผ้าแล้วออกไปจากที่นี่ก่อนที่ฉันจะเรียกรปภ. ขึ้นมาลากตัวเธอออกไป”
“อีบ้า! แกคิดว่าตัวเองเป็นใครมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน ที่นี่คุณวินกับคุณเวย์ใหญ่สุด!”
“เท่าที่เห็นก็ใหญ่จริง ๆ ค่ะ ฉันเป็นคนชอบทานมะเขือยาว ชอบปลูกมะเขือยาวเอาไว้ที่บ้าน พอมาเจอมะเขือยาวของพวกคุณมันทำให้ฉันอยากกลับไปฟันต้นมะเขือที่บ้านทิ้งเลยค่ะ”
“พูดบ้าอะไรออกไปได้แล้ว... แม่งหดหมดเลยกู”
คุณวินขยับหมอนเล็กน้อยเพื่อเช็กขนาดอวัยวะเพศที่เริ่มหดตัว คุณเวย์ก็เช่นกัน ทั้งสองหันไปหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่ แม้แต่ผู้หญิงคนนั้นก็รีบหยิบชุดนักศึกษามาใส่เหมือนกัน
“เชิญออกไปจากที่นี่ค่ะ!”
“ฉันไม่ไป! แกไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉัน คนที่จะไล่ฉันได้คือคุณวินกับคุณเวย์เท่านั้น!”
“เชิญค่ะ!”
ฉันเดินเข้าไปคว้าแขนของนักศึกษาสาวแต่กลับถูกเธอสะบัดออก มือน้อย ๆ กำลังจะง้างตบใบหน้าของฉันแต่ด้วยทักษะที่ฉันมีมันทำให้ฉันยกมือขึ้นบัง จากนั้นก็ต่อยเข้าหน้าของนักศึกษาคนนั้นเต็มแรง ไม่รู้ว่าฉันออกแรงมากเกินไปหรือเปล่าดูท่าจมูกของเธอน่าจะหัก
ปัก!
“โอ๊ยยยย! ฮืออ เจ็บ! ละ เลือด!! กรี๊ดดด”
“เหี้ย! พี่วินน้องหมวยจมูกเบี้ยวเลยพี่!”
“เออ! กูรู้แล้ว เธอหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ ถ้าคิดจะมาทำร้ายใครก็ไสหัวออกไป ไม่งั้นฉันจะไล่เธอออก!”
“ต้องขอโทษด้วยนะคะ คนที่จะไล่ฉันออกได้คือท่านประธานเท่านั้น พวกคุณสองคนไม่ได้มีอำนาจที่จะสามารถไล่ฉันออกได้และที่สำคัญ พวกคุณทั้งสองต้องฟังคำสั่งฉันเท่านั้น!”
“แล้วถ้าผมกับพี่ชายไม่ทำตามคำสั่งคุณล่ะ?”
“ฉันจะรายงานพฤติกรรมของพวกคุณทั้งสองคนให้ท่านประธานทราบ เงินเดือนพวกคุณอาจจะลดลงมาเหลือเดือนละ 15,000 บาทเท่านั้นค่ะ”
“โอ๊ะ! พี่วินเอาไงดี 15,000 บาท ไม่พอใช้นะผมบอกไว้ก่อน!”
“แล้วมึงคิดว่ากูจะพอใช้หรือไง พอ ๆ เลิกทะเลาะกัน เธอไปนั่งรอในห้องครัวส่วนน้องหมวยคงต้องทำจมูกใหม่ เอางี้ค่าจ้างที่น้องมาเสียเวลารวมทั้งค่าทำจมูก พี่ให้น้อง 500,000 บาทน่าจะพอนะ แล้วก็ไม่ต้องแจ้งความล่ะ”
“กรี๊ดดด พวกพี่ทำไมเหี้ยแบบนี้คะ!”
“สรุปไม่เอาใช่ไหม?”
“เอาสิ! ไม่เอาก็โง่แล้ว คิดว่าฉันจะมีปัญญาหาเงินไปแก้จมูกหรือไงไอ้ควาย!”
“พี่วินน้องหมวยด่าพี่ว่าไอ้ควายอะ”
“กูรู้แล้วมึงไม่ต้องย้ำ!”