ตรวนสวาทล่ามรัก 6 ชีวิตที่แปรเปลี่ยน
เมื่อคุยเรื่องงานศพของริกะเสร็จแล้วแม็กซิโมจึงให้อัญชิตาไปพักผ่อนเพราะดูเธอแล้วหน้าตาก็ไม่ค่อยสดใสเหมือนกันคงเป็นเพราะเครียดหลายอย่าง ไหนจะทั้งโดนจ้างออกจากงานและยังมาได้ยินว่าเพื่อนสนิทยังมาเสียชีวิตอีก
ในขณะที่หญิงสาวลงจากรถแท็กซี่เพื่อที่จะเข้าไปในอพาร์ทเม้นท์ของตนเอง เธอก็เห็นกลุ่มชายชุดดำสามสี่คนที่เดินตามหลังเธอมา
"หยุดนะนังตัวดี" หนึ่งในชายชุดดำที่เดินตามมานั้นวิ่งมาจับตัวเธอเอาไว้
"นี่มันอะไรกัน ปล่อยฉันนะ พวกแกต้องการอะไร"
"ต้องการอะไรงั้นเหรอ ก่อนหน้านี้เธอไปทำอะไรกับใครไว้ล่ะ"
"ทำอะไรเหรอ?... อ่อ....นี่ฟูมิโกะจ้างพวกแกมาเหรอ"
"ฮ่าๆ ฮ่า ใช่คุณฟูมิโกะบอกว่าให้พวกฉันมอบความสุขให้เธอก่อนแล้วค่อยจัดการฆ่าทีหลัง"
"อย่านะ"
"มา! มาให้พวกฉันเป็นผัวเธอก่อนนะ ฮ่าๆ ฮ่า" หนึ่งในนั้นจับใบหน้าเธอให้หันตรงก่อนมันจะแลบลิ้นออกมายาวจนสุดแล้วเลียตั้งแต่คอของเธอขึ้นไปจนไปถึงแก้มเนียน
ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงปืนดังสนั่นทำให้ชายฉกรรจ์ทั้งสี่คนหยุดชะงักก่อนพวกมันจะหันมามองที่ต้นเสียง
"คุณแม็กซิโม" แม็กซิโมและลูกน้องอีกห้าคนที่ยืนอยู่อีกฝั่ง โดยมีฟรานเชสโก้ลูกน้องคนสนิทที่เป็นคนกำลังยืนเหนี่ยวไกอยู่
ปัง! กระสุนอีกหนึ่งนัดถูกส่งไปที่แขนของชายที่กำลังจับตัวอัญชิตาทำให้หญิงสาวสามารถหลุดจากการจับกุมของพวกมันเอาไว้แล้ววิ่งมายังแม็กซิโมที่ยืนอยู่อีกฝั่ง และการยิงในครั้งนี้ทำให้ชายฉกรรจ์สี่คนนั้นหนีไปทันทีโดยหนึ่งในนั้นได้รับบากเจ็บ
"ขอบคุณมากๆนะคะคุณแม็กซิโม ถ้าไม่ได้คุณหนูคงแย่แน่ๆเลย"
"เธอไม่เป็นไรก็ดีแล้ว"
"ว่าแต่คุณมาที่นี่ทำไมคะ"
"เธอลืมเอกสารไว้ที่โรงพยาบาลฉันเลยตามเอามาให้ และโชคดีมากที่มาทันเห็นเหตุการณ์นี้"
"ขอบคุณอีกครั้งค่ะ"
"พวกนี้เป็นพวกยากูซ่า ปกติแล้วมันจะพกทั้งปืน และดาบ แต่ว่าวันนี้มันคงคิดว่ามันจัดการเธอที่เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวมันเลยชะล่าใจไม่ได้เอาอะไรมาเลย ถือว่าเป็นโชคดีของพวกเราด้วย"
"ฟูมิโกะถึงขั้นให้ยากูซ่ามาทำร้ายฉันเลยเหรอเนี่ย"
"เธอไปมีเรื่องกับใคร"
" ลูกเจ้าของสายการบินค่ะ วันนี้เขาตบหน้าฉันไปฉันเลยเอาคืน"
"ฉันว่าเธอคงอยู่ที่ญี่ปุ่นไม่ได้แล้วแหละ ไปอยู่อิตาลีกับฉันเถอะ เธอเลี้ยงมีอาให้ฉันส่วนฉันจะคุ้มครองเธอจากพวกนี้เอง"
".........."
"ไปดูแลมีอาช่วยฉันนะ....ได้โปรด" แม็กซิกล่าวด้วยน้ำเสียงเบาลง
"เอ่อ....ก็ได้ค่ะ คุณช่วยชีวิตฉันไว้แค่เลี้ยงมีอาจะเป็นไรไป"
"ขอบใจนะอัญชัน ฉันจะส่งตัวเธอและมีอากลับอิตาลีในวันนี้เลย ยังไงพวกยากูซ่าพวกนั้นมันคงไม่ปล่อยเธอไว้แน่ ส่วนทางนี้งานศพของริกะเดี๋ยวฉันจะจัดการเอง"
"ก็ได้ค่ะ" อัญชิตาเก็บข้าวของเท่าที่จำเป็นก่อนจะขึ้นรถกับแม็กซิโมไป
หญิงสาวถูกส่งขึ้นเครื่องบินส่วนตัวของตระกูลเมดิซีนีไปพร้อมกับทารกน้อยมีอา...จุดหมายปลายทางคืออิตาลี ซึ่งมันเป็นประเทศที่เธอไม่คาดคิดว่าตัวเองจะได้ไปอยู่ที่นั่นอย่างจริงจัง แต่มาบัดนี้โชคชะตากลับนำพาให้เธอได้ไปอยู่ที่โน่นแบบปฎิเสธไม่ได้...และต่อไปนนี้ชีวิตเธอคงแปรเปลี่ยนไปโดยปริยาย
ทันทีที่งานศพของริกะเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วแม็กซิโมและลูกน้องที่เหลือก็บินกลับอิตาลีตามลูกน้อยไป
เมื่อไปถึงอิตาลีแม็กซิโมได้บอกคุณพ่อบ้าน บรรดาคนรับใช้และคนสวนในคฤหาสน์นั้นว่ามีอาคือลูกน้อยของเขา มันจึงทำให้ทุกคนภายในบ้านเข้าใจว่าอัญชิตาคือแม่ของเด็กเป็นภรรยาของแม็กซิโมด้วยเช่นกัน
คุณพ่อบ้าน คนรับใช้ คนงานในสวน ต่างพากันให้เกียรติอัญชิตาและมีอา เหมือนกับเป็นเจ้านายอีกคนเช่นกัน มันจึงทำให้อัญชิตาอยู่ที่นี่อย่างสบายใจ
อัญชิตาเธอตั้งหน้าตั้งตาเลี้ยงทารกน้อยมีอาด้วยความรักและเอาใจใส่ราวกับว่ามีอาเป็นลูกของเธอจริงๆก็ไม่ปาน และสิ่งที่เธอทำอยู่นี้แม็กซิโมก็เห็นทุกอย่างไม่แปลกที่หญิงสาวได้รับความไว้วางใจและค่าตอบแทนอย่างมหาศาลจากแม็กซิโม
วันนี้เป็นวันที่อัญชิตาและหนูน้อยมีอามาอยู่ที่อิตาลีครบหกเดือนพอดี ในหกเดือนที่ผ่านมานี้เด็กน้อยแข็งแรงเจริญเติบโตตามวัยเป็นอย่างมาก ซึ่งสวนทางกันกับผู้เป็นพ่อ
อาการของแม็กซิโมนั้นไม่สู้ดีมีแต่ทรุดลงเรื่อยๆ เขาเริ่มเข้าโรงพยาบาลบ่อยขึ้น ร่างกายเริ่มไม่มีแรงแม้กระทั่งที่จะเดินเหินให้เหมือนเดิม เขาต้องใช้ไม้เท้าหรือไม่ก็รถเข็น
แม็กซิโมรู้ตัวดีว่าตัวเองคงอยู่ได้อีกไม่กี่วัน ดังนั้นวันนี้เขาจึงเรียกทนายประจำตระกูลเข้ามาพบเพื่อที่จะเขียนพินัยกรรมขึ้นมา
เมื่อเขียนพินัยกรรมและคุยกับทนายเสร็จเรียบร้อยแล้วคนต่อไปที่แม็กซิโมเรียกพบก็คืออัญชิตา
"คุณเรียกหนูมาพบมีอะไรไหมคะ" หญิงสาวเอ่ยถามแม็กซิโมที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องทำงาน
"ฉันอยากจะคุยกับเธอ"
"เรื่องอะไรคะ"
"มีอา" แม็กซิโมได้แต่ตอบสั้นๆ
"ค่ะ ตอนนี้มีอาอายุครบหกเดือนกับอีกสิบวัน ร่างกายแข็งสมบูรณ์ อีกทั้งพัฒนาการของแกก็ดีตามวัยหรืออาจจะเกินวัยเสียด้วยซ้ำค่ะ"
"เรื่องนั้นฉันไม่ห่วง"
"ค่ะ?"
"ฉันมีเรื่องอีกหนึ่งเรื่องจะขอร้องเธอได้ไหม"
"เรื่องอะไรคะคุณแม็กซิโม"
"เรื่องมีอาและลูกชายอีกคนของฉัน"
"ลูกชายของของคุณงั้นหรือคะ"
"ใช่ ฉันไม่อยากให้ลูกชายของฉันที่อยู่อียิปต์รู้ว่าแม่ของมีอาตายแล้ว ฉันกลัวว่ามีอาจะไม่มีคนรักและดูแลถ้าเขารู้ว่ามีอาไม่มีแม่"
"คุณหมายความว่าจะให้หนูบอกทุกคนว่ามีอาคือลูกของหนูกับคุณใช่ไหมคะ"
"ถูกต้อง"
"แต่ทุกคนที่นี่ก็คิดแบบนั้นนี่คะ ทุกคนคิดว่าหนูคือภรรยาของคุณและมีอาก็คือลูกของหนูกับคุณ"
"ใช่ทุกคนในที่นี้คิดแบบนั้นและฉันก็อยากให้เธอบอกกับลูกชายของฉันเช่นนี้ด้วยเหมือนกัน"
"อืม...ก็ได้ค่ะเพื่อริกะและก็เพื่อมีอาหนูทำได้ค่ะ"
"ขอบใจเธอมากนะ ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอเพียงเท่านี้แหละ"
"ค่ะ งั้นหนูขอตัวนะคะ คุณแม็กซิโมจะได้พักผ่อน"
"อืม...ขอบใจมากฉันฝากมีอาด้วยนะ" ก่อนอัญชิตาจะออกไปจากห้องแม็กซิโมยังย้ำคำเดิม ส่วนหญิงสาวก็ได้แต่ยิ้มรับ
หลังจากที่คุยกับแม็กซิโมเสร็จอัญชิตาก็เข้าไปในห้องของมีอา เธอสำรวจดูความเรียบร้อยก่อนจะมาพูดคุยกับพี่เลี้ยงก่อนจะเข้าห้องของตัวเองที่อยู่ข้างๆกันเพื่อไปอาบน้ำหลังจากนั้นค่อยกลับเข้ามาอีกที
"คุณอัญชันเข้าไปนอนเถอะค่ะ คุณมีอาคงไม่ตื่นแล้วแหละค่ะน่าจะนอนยาว เดี๋ยวทางนี้ดิฉันจะเป็นคนดูแลเองวันนี้คุณอัญชันดูมาทั้งวันแล้วไปพักผ่อนเถอะนะคะ"
"อืม...ด็ได้จ้ะ ถ้ามีอะไรหรือมีอางอแงเรียกฉันได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจนะ"
"ค่ะ คุณอัญชัน"
หลังจากที่คุยกับพี่เลี้ยงของมีอาเป็นที่เรียบร้อยแล้วอัญชิตาที่วันนี้เธอดูแลทารกน้อยมีอามาทั้งวันจึงเข้าไปนอนในห้องนอนของตัวเองซึ่งมันก็อยู่ติดกับห้องของเด็กน้อยมีอา
เช้า....
ปัง! ปัง! ปัง! เสียงเคาะประตูที่ดังสนั่นขึ้นมาแบบถี่ๆทำให้อัญชิตาที่กำลังหลับใหลอยู่นั้นสะดุ้งตื่นขึ้นมา
หญิงสาวจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองจนเรียบร้อยและมิดชิดแล้วจึงค่อยมาเปิดประตู
"มีอะไรคะ"
"คุณอัญชิตาคะ....นะ....นาย....นายท่าน....นายท่านแม็กซิโม....เสียชีวิตแล้วค่ะ คุณพ่อบ้านให้ดิฉันมาตามคุณค่ะ" สาวใช้คนที่เคาะประตูเอ่ยบอกเธอด้วยความยากลำบากและลนลาน
"คุณพระ!" หญิงสาวตกใจไม่น้อยก่อนจะตามสาวใช้คนนั้นไปที่ห้องของแม็กซิโม
อัญชิตาเป็นคนจัดงานศพให้แม็กซิโม เธอจัดงานขึ้นมาอย่างสมเกียรติสมศักดิ์ศรีของนักธุรกิจชื่อดังของโลก ส่วนทางคุณพ่อบ้านก็ได้แจ้งไปยังไอซีสและเฟียร์โรถึงเรื่องการเสียชีวิตของแม็กซิโม