ตรวนสวาทล่ามรัก 7 พินัยกรรม
หลังจากงานศพของแม็กซิโมผ่านไป 1 วัน หนูน้อยมีอาก็มีอาการป่วยขึ้นมาทันทีทำให้อัญชิตาต้องกลับมาดูทารกน้อยที่คฤหาสน์ และในจังหวะเดียวกันนั้นเป็นจังหวะที่เฟียร์โรและไอซีสมาถึงที่อิตาลีพอดี จึงได้สานต่อและดูแลงานศพของแม็กซิโมจนเสร็จสิ้นไปด้วยดี
เมื่องานศพของแม็กซิโมจบพิธีลงไอซีสก็ขอกลับอียิปต์ทันทีปล่อยให้เฟียร์โรสะสางงานทางนี้ให้เสร็จเรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปคือทนายประจำตระกูลได้นัดผู้เกี่ยวข้องเพื่อเปิดพินัยกรรม โดยเวลาการนัดหมายคือช่วงเย็นของวันนี้สถานที่คือคฤหาสน์ของตระกูลเมเดซีนี
ตั้งแต่มาถึงอิตาลีเฟียร์โรก็พักที่โรงแรม เขาและไอซีสผู้เป็นมารดาไม่ได้มานอนค้างที่คฤหาสน์แห่งนี้ อาจเป็นเพราะความหลังที่ฝังใจหรือเพราะทิฐิในตัวของเฟียร์โรเองที่มีต่อแม็กซิโมทำให้ชายหนุ่มไม่คิดที่จะเข้ามาเหยียบที่นี่เลย
"ฉันมาแล้ว...ตรงเวลาเปะ จัดการได้เลยคุณทนาย" เขาเอ่ยบอกทนายประจำตระกูลที่นั่งรออยู่โซฟาตรงห้องโถงกลางคฤหาสน์
เฟียร์โรที่มาในชุดสูทสุดหรูของแบรนด์อาร์มานี เดินเข้ามาด้วยท่วงท่าสง่างาม ก่อนตัวเขาเองจะนั่งลงที่โซฟาหนังตัวใหญ่ตรงกลางตัวที่ถัดจากทนายนั่ง
ห้องโถงในคฤหาสน์เก่าแก่สไตล์อิตาลีแห่งนี้ที่ทุกอย่างตกแต่งออกมาสวยหรูไม่ว่าจะเป็นรูปปั้น ภาพวาดต่างๆล้วนแต่เป็นศิลปะที่เก่าแก่และหาดูได้ยาก และทั้งหมดทั้งมวลนี้มันไม่เคยเปลี่ยนไปเลยตั้งแต่ที่ตัวเขาได้จากไป
"รออีกสักครู่นะครับคุณเฟียร์โร" เสียงชายชราวัยเจ็ดสิบที่มีนามว่าเปาโลซึ่งเป็นทนายประจำตระกูลพูดขึ้น และเฟียร์โรไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ใบหน้าคมยังคงนิ่งเฉยยากเกินที่จะคาดเดาว่าเขากำลังคิดอะไร
ใบหน้าหล่อเหลาที่ดูอิดโรยลงบ้างเล็กน้อยจาการยุ่งและนอนน้อยเนื่องจากงานศพของผู้เป็นพ่อ แต่แค่นี้มันก็ไม่ได้ทำให้ความหล่อเหลาของเขาลดลงไปได้เลยเขายังคงสง่างามสมกับเป็นเฟียร์โร ทรีฟาอานา เมดีซีนี หนุ่มลูกครึ่งที่สืบทอดเชื้อสายอิตาลีและอียิปต์
ชายหนุ่มยังคงมองไปรอบๆภายในคฤหาสน์พร้อมกับภาพความทรงจำเก่าๆในอดีตที่ผุดขึ้นมาเรื่อยๆ
เฟียร์โรต้องสลัดความคิดทั้งหมดทิ้งไปเมื่อเขานึกขึ้นได้ว่ามาที่นี่เพื่ออะไร แต่ไม่ใช่เพื่อรื้อฟื้นความทรงจำของเขาในวัยเด็ก เขามาที่นี่เพราะเซ็นรับเอาทรัพย์สมบัติของพ่อเขาที่ทิ้งไว้
"ฉันต้องรอใคร ในเมื่อท่านแม่เองก็ให้ฉันมาเป็นตัวแทนแล้ว จะรออะไรอีกฉันไม่มีเวลามากพอหรอกนะคุณทนาย" ชายหนุ่มเริ่มแสดงท่าทางหงุดหงิดขึ้นมา เพราะเขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะต้องให้เขารออะไรหรือต้องรอใครอีก
"ครับ ต้องรอ...รอคุณ....."
"ขอโทษที่ทำให้รอนะคะ พอดีมีอางอแงนิดหน่อยเลยทำให้ช้าเลยค่ะ" ไม่ทันที่ทนายเปาโลจะพูดจบ เสียงหวานที่เฟียร์โรไม่เคยลืมไปจากความทรงจำของเขาได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง
แล้วทำไมเสียงนั้นมันถึงได้มาดังที่นี่!
แม้จะนานร่วมปีแล้วก็ตามที่เจ้าตัวไม่ได้ยินมันแต่ทว่าเขากลับจำได้ดีว่ามันคือเสียงของใคร ทำให้ชายหนุ่มต้องหันไปมองทันทีเพื่อยืนยันกับตัวเองว่าเขาไม่ได้หูฝาดไป
และมันก็เป็นจริงตามที่เขาคาด
สายตาคมจ้องใบหน้าหวานที่เขาไม่คิดว่าจะได้เจอเธอที่นี่ เขามองกวาดลงมาตั้งแต่ใบหน้าหวานไล่ลงไปจนจรดเท้า
ใช่เธอจริงๆด้วย! แม่แอร์โฮสเตสสาวคนนั้น
แล้วเธอมาทำอะไรอยู่ที่นี่ล่ะ?
"กระผมขออนุญาตแนะนำให้คุณเฟียร์โรรู้จักนะครับ คุณผู้หญิงท่านนี้ชื่อคุณอัญชิตา หรือจะเรียกสั้นๆว่าคุณอัญชันก็ได้ครับ เธอเป็นภรรยาอีกคนของนายท่านแม็กซิโม" เปาโลเอ่ยแนะนำอัญชิตาให้เฟียร์โรรู้จัก
"เมียอีกคนของพ่อฉัน?" เฟียร์โรพูดขึ้นมาราวกับคนละเมอ นี่เธอคือเมียของพ่อเขางั้นหรือ
"ใช่ครับ เอ่อ...คุณอัญชันครับนี่คือคุณเฟียร์โรลูกชายของนายท่านแม็กซิโมที่ผมเคยบอกคุณอัญชันในตอนแรกครับ" เปาโลแนะนำเขาให้อัญชิตารู้จักเช่นกัน
อัญชิตารู้สึกคุ้นหน้าเฟียร์โรมาก แต่เจ้าตัวกลับจำไม่ได้ว่าเคยเจอที่ไหนมาก่อน
"ค่ะ สวัสดีค่ะคุณเฟียร์โร ดิฉันอัญชิตาหรือเรียกว่าอันชัญก็ได้ค่ะเอาที่คุณสะดวก" เธอยิ้มน้อยๆพร้อมกับยกมือไหว้เขาอย่างนอบน้อมเพราะมั่นใจว่าเฟียร์โรอายุมากกว่าเธอแน่นอน แต่ทว่าสิ่งที่เธอได้รับกลับมาคือสายตาที่ดูถูกและคำพูดที่เหยียดหยาม
"เธอคงหิวเงินมากสินะถึงยอมมาเป็นเมียคนแก่รุ่นราวคราวพ่อแบบนี้"
"........" อัญชิตาไม่ได้ตอบกลับแต่อย่างใดเธอยังคงนิ่งพร้อมกับหันไปหาเปาโลและพยักหน้าเพื่อเป็นสัญญาณบอกว่าเปิดพินัยกรรมได้เลย
"เรามาเข้าเรื่องกันเลยนะครับ" คุณทนายเปาโลเอ่ยขึ้น เพื่อเป็นการตัดบทที่จะไม่ให้เฟียร์โรพูดดูถูกเหยียดหยามอัญชิตาไปมากกว่านี้
"ผมจะเริ่มเปิดพินัยกรรมของท่านแม็กซิโมแล้วนะครับ พินัยกรรมนี้ได้เขียนเมื่อห้าปีที่แล้วและมาแก้ไขอีกครั้งในเดือนที่แล้ว ซึ่งในตอนนั้นท่านแม็กซิโมมีสติสัมมันประชันญะครบถ้วนไม่เป็นผู้บกพร่องทางร่างกายและสติปัญญาแต่อย่างใด และมีกระผมทนายเปาโลเป็นพยานในตอนนั้นด้วย" ทนายเปาโลเอ่ยบอกทั้งสองก่อนจะหยิบซองสีน้ำตาลเปิดออกมา
"ในพินัยกรรมบอกว่าหุ้นทั้งหมดของตระกูลเมดีซีนีที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ของญี่ปุ่นและต่างประเทศซึ่งไม่รวมกับหุ้นอยู่ในอิตาลีจะแบ่งออกเป็นสามส่วน
โดยส่วนที่หนึ่งเป็นของคุณเฟียร์โร 75%
ส่วนที่สองมอบให้คุณมีอา 20%
และส่วนที่สามมอบให้คุณอัญชัน 5%
อีกทั้งบ้านพร้อมที่ดินในย่านกินซ่าที่กรุงโตเกียวพร้อมกับรถยนต์อีก10คันมอบให้คุณมีอาทั้งหมด
สำหรับหุ้นและอสังหาริมทรัพย์ต่างๆที่อยู่ในอิตาลีและรถยนต์อีก52คันมอบให้คุณเฟียร์โรทั้งหมด
ส่วนคฤหาสน์ของตระกูลเมดีซีนียกให้เป็นชื่อคุณเฟียร์โรดูแล แต่คุณอัญชันและคุณมีอามีสิทธิ์ที่จะอยู่ที่นี่ตลอดไปหรือจนกระทั่งคุณอัญชันและคุณมีอาไม่อยากอยู่แล้ว
คุณอัญชันสามารถแต่งงานกับชายอื่นได้ทุกเมื่อถ้าเจอคนที่รักและถูกใจ
และทุกอย่างที่กล่าวมาจะตกเป็นของคุณเฟียร์โรโดยสมบูรณ์แบบก็ต่อเมื่อคุณเฟียร์โรจะต้องกลับมาอยู่ที่อิตาลีและช่วยคุณอัญชันเลี้ยงคุณมีอาเป็นอย่างดีจนคุณมีอาอายุครบ 15 ปี หรือตลอดไปถ้าคุณอัญชันต้องการ
ถ้าที่กล่าวมาทั้งหมดนี้คุณเฟียร์โรไม่สามารถมาอยู่ที่อิตาลีและช่วยคุณอัญชันเลี้ยงคุณมีอาได้ทรัพย์สมบัติทั้งหมดจะต้องนำทุกอย่างมาแบ่งใหม่โดยหารจำนวณด้วยสามคนเท่าๆกัน
พินัยกรรมก็ได้กล่าวมาเพียงเท่านี้ครับ หมดหน้าที่ทนายอย่างผมแล้วขอตัวนะครับคุณเฟียร์โร คุณอัญชัน"
"มันไม่แฟร์เลยอ่ะ ทำไมผู้หญิงคนนี้สามารถแต่งงานใหม่ได้ทุกเมื่อ ในเมื่อพ่อฉันเพิ่งตายไป" เฟียร์โรเสียงแข็งขึ้นมา
"ผมไม่ทราบเหมือนกันครับนี่คือความประสงค์ของท่านแม็กซิโม่ ผมก็ได้แต่เขียนตามที่ท่านบอก" ทนายเปาโลตอบมาสั้นๆ ก่อนจะเอ่ยลากับทั้งสอง
"ผมลาแล้วนะครับคุณเฟียร์โร คุณอัญชัน....สวัสดีครับ" กล่าวจบแล้วทนายเปาโลก็ขอตัวและเดินออกจากคฤหาสน์เมดิซีนีไปทันที
"หึ! ไง? เธอกับลูกคงผิดหวังล่ะสิที่ได้สมบัติของพ่อฉันไปแค่นี้ แต่ก็คงถูกใจไม่น้อยที่พ่อฉันไฟเขียวให้เธอหาผัวใหม่ได้"
"เปล่าเลยค่ะ" เธอยังคงตอบเขามาด้วยน้ำเสียงราบเรียบเพราะมันเป็นความสัตย์จริง เธอไม่คิดว่าตนเองจะได้ส่วนแบ่งเสียด้วยซ้ำเพราะแค่ค่าจ้างที่เธอได้แต่ละเดือนนั้นมันก็มหาศาลมากพอแล้ว ส่วนเรื่องเธอแต่งงานนั้นมันเป็นเรื่องของอนาคตและอีกอย่างตอนนี้เธอก็ไม่มีใครและคิดว่าคงอีกนานที่จะคิดเรื่องนี้
"ตอนนี้มีแค่ฉันกับเธอไม่ต้องมาแสดงละครหรอก"
"ทำไมฉันต้องแสดงละครด้วยล่ะคะ ฉันไม่ได้อยากได้อะไรด้วยซ้ำ"
"พูดเหมือนตัวเองเป็นคนดีนะ"
"แน่นอนค่ะ ฉันคิดว่าตัวเองก็เป็นคนดีคนหนึ่งเหมือนกัน"
"ถ้าดีจริงเธอคงไม่เอาผัวคนอืนหรอก"
"นี่คุณเฟียร์โร กรุณาให้เกียรติกันด้วยนะคะ"
"เธอมีเกียรติตรงไหน ก็แค่โสเภณีในคราบแอร์โฮสเตส"
อัญชิตากัดฟันกรอดมองเขาด้วยแววตาที่เกลียดชัง นี่เขาจะดูถูกเธอมากเกินไปแล้ว
"ต่ำ! สถุน! หยาบคายที่สุด" พูดจบหญิงสาวสะบัดหน้าเดินหนีเขากลับขึ้นไปข้างบนทันที
เฟียร์โรเมื่อเห็นท่าทาง และคำพูดของเธอที่ทำใส่ตนแล้ว ซึ่งแบบนี้ไม่เคยมีใครเคยทำใส่เขามาก่อน ทำให้เขาโกรธจนต้องเดินตามเธอขึ้นไปข้างบนโดยที่หญิงสาวไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามีคนตามขึ้นมา