บทที่ 13 หลุดสารภาพความจริง
“เป็นไปได้ยังไงคะ…คุณช่วยอธิบายให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม”
“….” เลโอไม่พูดอะไร จากนั้นหยิบซองสีน้ำตาลบนโต๊ะยื่นให้
มือเล็กค่อย ๆ ดึงกระดาษด้านในออกมาดู พร้อมกับกวาดสายตาอ่านรายละเอียดในแผ่นกระดาษ
“เรื่องแบบนี้… มันจะเกินจริงไปแล้ว”
ปากเล็กพึมพำ นัยน์ตาสีน้ำผึ้งสั่นระริก เพราะเนื้อหาในนั้นมันยากที่
จะเชื่อ และเนื้อหาในนั้นเขียนด้วยลายมือ
เรื่องราวเมื่อ 27 ปีก่อน แม่นิดา ได้คลอดลูกสาวออกมาคนหนึ่ง ซึ่งยังไม่ทันได้ตั้งชื่อ เธอก็ป่วยเป็นซึมเศร้าหลังคลอด จึงได้จ้างพี่เลี้ยงมาดูแล แต่ทว่าตระกูลลี่ได้ตรวจสอบเพียงแค่ประวัติพี่เลี้ยง ไม่ได้ตรวจสอบความสัมพันธ์ภายในครอบครัว ด้วยความชะล่าใจ และไว้ใจ ตระกูลลี่ไม่รู้ว่าสามีของพี่เลี้ยงคนนั้น เป็นคนของศัตรู
ในแต่ละวันพี่เลี้ยงดูแลเด็กพึ่งคลอดได้เป็นอย่างดี จนกระทั่ง
วันหนึ่ง ลูกสาวคนแรกของตระกูลลี่ถูกลักพาตัวไป
ผู้เป็นพ่อโกรธจนเลือดขึ้นหน้า จึงได้พาลูกน้องจำนวนหนึ่งบุกเข้าไปในรังของศัตรู จากนั้นกวาดล้างจนสิ้นซาก และคิดว่าลูกสาวของตัวเองจะอยู่ในนี้ ทว่ากลับไม่พบ จึงได้เค้นเอาคำตอบจากผู้เป็นภรรยาของหัวหน้าตระกูล เธอตอบว่า เด็กคนนั้นได้ตายไปแล้ว โดยเธอได้สั่งให้ลูกน้องจับถ่วงน้ำ ไม่รู้ว่าลูกน้องของเธอเอาไปที่ไหน
ต่อมา ลูกน้องของมาเฟียตระกูลนั้น เกิดรู้สึกใจอ่อน ได้นำเด็กไปทิ้งไว้ที่หน้าบ้านเด็กกำพร้า แล้วแวะเวียนมาดูบ่อย ๆก็ได้ทราบชื่อว่าเธอชื่อรมิดา
ผู้หญิงคนนั้นได้แต่เก็บเงียบเอาไว้ ด้วยความที่รู้สึกผิด จึงเขียนระบายใส่สมุดบันทึกไว้ จนกระทั่งวันนี้เลโอไปตามสืบมาจนรู้เรื่องราวทุกอย่างเมื่อ 27 ปีก่อน
“แบบนี้พ่อกับแม่ถึงไม่ตามหาฉันสินะ เพราะคิดว่าฉัน
ตายแล้ว…”
เรียวปากสีหวานพึมพำ น้ำตาร่วงเผาะ ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจดีที่รู้ว่าตอนนี้เธอมีครอบครัวแล้ว แต่เพราะว่าการที่ได้เข้ามาอยู่ในร่างของน้องสาวนั้น นั่นหมายความว่าน้องสาวแท้ ๆ ได้จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ
“พูดอะไรของเธอ…”
เลโอเอ่ยถาม เพราะเมื่อครู่ได้ยินไม่ชัดนัก อีกทั้งฤทธิ์
แอลกอฮอลล์มันทำให้เขาเริ่มมึนเมา การกระทำจึงเชื่องช้ามากขึ้น
“อ๋อ…เปล่าค่ะ”
รมิดาในร่างของคาริสาตอบ พร้อมกับยกมือขึ้นมาเช็ดคราบน้ำตา
“แล้วแผลที่มือเป็นอะไรคะ ไปมีเรื่องกับใครมาเหรอ”
“ไม่มีอะไร”
ชายหนุ่มตอบด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง ซึ่งคนตัวเล็กเองก็พอเดาออกว่านั่นมันเกิดจากเธอ มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเธอแน่นอน เพราะแต่ไหนแต่ไรมาชายหนุ่มมักจะทำอะไรลับ ๆ คอยปกป้องเธอตลอด
“รมิดาคงเกลียดผมแน่ ๆ เพราะผมทำกับน้องสาวเธอแบบนี้…”
เจ้าของใบหน้าสวยส่ายหัวน้อย ๆ ดูเหมือนว่าเลโอจะเมามากแล้ว จึงเพ้อแบบนี้ เขาว่ากันว่าคนเมามักจะพูดอะไรออกมาอย่างไม่รู้ตัว ตอนนี้เลโอคงเป็นเช่นนั้น
“อาบน้ำไหมคะ”
“…” ร่างสูงไม่โต้ตอบอะไร ปรือตามองคนตัวเล็กเพียงเล็กน้อย จากนั้นเดินไปยังเตียงขนาดคิงไซส์
ตุบ!
เลโอนอนแผ่หลา ทิ้งตัวลงบนเตียง เตียงสีขาวขนาดคิงไซส์บุ๋มลงตามน้ำหนักของชายหนุ่ม ใบหน้าของเขาไม่ได้แสดงความรู้สึกใด ๆ ออกมา ยังคงมีสีหน้าที่ราบเรียบเช่นเดิม
รมิดาเห็นแบบนั้น จึงถอนหายใจออกมาเบา ๆ ถึงไม่อาบน้ำแต่ก็ควรเปลี่ยนชุด จะนอนแบบเปียก ๆ ไม่ได้
ไม่รอช้าคนตัวเล็กเดินเข้าไปใกล้ เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ มือเล็กเรียวของเธอเอื้อมไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตทีละเม็ด
ทันใดนั้นเอง….
หมับ!
เลโอคว้าข้อมือของคนตรงหน้าแล้วกระชากเข้าหาตัว ส่วนคนตัวเล็กไม่ทันตั้งตัวจึงได้ล้มนอนทับหน้าอกของชายหนุ่ม ตามแรงกระชาก
“….”
ภายในห้องเงียบกริบ เลโอกับรมิดาใบหน้าอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบจนได้ยินเสียงลืมหายใจรินรดซึ่งกันและกัน
“คุณไม่ใช่คาริสา”
เลโอพูดพร้อมกับปรือตาขึ้นมามองหญิงสาวตรงหน้า
“พูดอะไรของคุณคะ”
“ดา…คุณกลับมาหาผมแล้วใช่ไหม”
เลโอพูดด้วยน้ำเสียงที่เนิบนาบ จากนั้นใช้วงแขนดึงรั้งคนตัวเล็กเข้าสู่อ้อมกอด
“เมามากแล้วนะคะ”
เรียวปากสีหวานพูด แต่ก็ไม่ได้ห้าม หรือผลักออก
“ผมคิดถึงคุณครับ…”
เสียงทุ้มเอ่ยอย่างแผ่วเบา แต่ไม่ได้แสดงอารมณ์ออกมาผ่านใบหน้าที่
หล่อเหลา
ในเมื่อตอนนี้คนตรงหน้าเมา ก็ถือโอกาส ถามซะเลย ก่อนหน้านี้ เลโอทำอะไรมากันแน่
“เลโอคะ”
“ครับ…”
“ก่อนหน้านี้คุณเกลียดดาไหมคะ”
“ไม่ครับ ผมไม่มีวันเกลียดคุณ”
“ทำไมถึงทำไม่แยแสแบบนั้นล่ะคะ จนดาอดคิดไม่ได้ว่าคุณหมดรักดาแล้ว”
“นั่นเป็นเพราะผมรู้ หากผมให้ความสนใจคุณ ฮันนี่จะทำร้ายคุณหนักขึ้น ตอนนั้นอำนาจภายในบ้านยังเป็นของคุณปู่”
“แล้วเรื่องที่คุณแต่งงานกับคุณฮันนี่ล่ะคะ”
“เพราะผมขัดคำสั่งของคุณปู่ไม่ได้ การแต่งงานทั้งสองตระกูลทำให้อำนาจที่อยู่ในมือเพิ่มมากขึ้น เมื่อเป็นแบบนั้น ผมจะสามารถปกป้องคุณได้…ส่วนเรื่องฮันนี่ ผมเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว ผมรวบรวมข้อมูลของตระกูลของเธอ ทำธุรกิจฉ้อโกง และค้ามนุษย์ ผมจะใช้โอกาสนี้ตัดขาดความสัมพันธ์ในทันที….หลังจากที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ผมจะได้ใช้ชีวิตอยู่กับคุณ ได้รักคุณเพียงแค่คนเดียว”
“เลโอคะ…เรื่องแบบนี้ทำไมไม่บอกดาบ้างเลย…ปล่อยให้คิดเองเออเองอยู่คนเดียว”
“ขอโทษครับ แต่เมื่อกี้…ยอมรับแล้วใช่ไหมว่าคุณคือรมิดา” เสียงที่เนิบนาบเปลี่ยนเป็นการพูดปกติ
“คะ? ทะ ทำไมน้ำเสียงของคุณเป็นปกติแล้ว…คุณไม่ได้เมาเหรอคะ”
“คุณคิดว่าไวน์แค่นี้จะทำให้ผมเมาได้เหรอ?” ชายหนุ่มย้อนถาม
“ก็คุณไม่ชอบดื่มนี่คะ”
“ไม่ได้ชอบดื่ม ไม่ได้หมายความว่าจะคออ่อนนะครับ”
“ถ้าไม่เมาจะแกล้งเมาทำไมล่ะคะ”
“ถ้าผมไม่แกล้ง คุณจะสารภาพกับผมเหรอครับว่าคุณคือใคร”
“แสดงว่าก่อนหน้านั้นไม่รู้เหรอคะ?”
“ครับ” เลโอตอบด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง
“เท่ากับว่าฉันหลุดเองใช่ไหมคะเนี่ย” เรียวปากสีหวานก้มหน้างุด ทำให้คนด้านล่างจับร่างของเธอแล้วคร่อมเอาไว้
พรึบ!
“ทีนี้บอกผมได้ไหม ทำไมถึงไม่บอกผมว่าคุณคือรมิดา แล้วทำไมถึงได้เข้ามาอยู่ในร่างของเด็กคนนี้ได้”
ชายหนุ่มถามพร้อมกับจ้องมองเข้าไปในดวงตาของรมิดา
เธออึกอักเล็กน้อย สะบัดหน้าพรืด เพื่อหลบตา เพราะกลัวว่าคนที่ทับร่างของเธอเอาไว้จะจับพิรุธได้
“ที่ฉันไม่บอกคุณ เป็นเพราะเรื่องแบบนี้มันเชื่อยากค่ะ จู่ ๆ ฉันไปบอกคุณว่าฉันคือรมิดา มีหวังคุณไม่โมโหจนเลือดขึ้นหน้าเหรอคะ ส่วนเรื่องที่ดาได้เข้ามาอยู่ในร่างของคาริสา…ฉันไม่ทราบจริง ๆ ค่ะ”
“มันจริงอยู่ที่ผมเชื่อเรื่องแบบนี้ยาก แต่เรารักกันมาหลายปี ทุกอย่างเกี่ยวกับคุณผมรู้หมดทุกเรื่อง คุณคิดว่าจะปิดผมไปได้อีกนาน
แค่ไหน”
“ดาไม่ได้คิดจะปิดบังนะคะเลโอ….ดาจะบอกอยู่แล้ว หากดาเหตุผลจริง ๆ ว่าทำไมถึงได้มาอยู่ในร่างนี้ให้ได้ก่อน”
“ครับ…ขอบคุณนะครับที่กลับมาให้ผมปก…” ยังไม่ทันที่จะพูดจบ นิ้วชี้ของรมิดาก็ได้ยกขึ้นมาทาบริมฝีปากของชายหนุ่มเอาไว้ ไม่ให้เขาพูดต่อ
“คุณเอาแต่ปกป้องดาอย่างลับ ๆ อยู่ตลอด ทำทุกอย่างเพื่อฉัน แต่คุณลืมไปอย่างหนึ่งว่า คุณเองก็สมควรได้รับการปกป้องเช่นกัน ต่อจากนี้ดาจะเป็นคน ๆ นั้นให้คุณเองนะคะ….จะเป็นให้ได้เลยค่ะ”
“อย่าจากผมไปไหนอีกได้ไหมครับ…”
“….” รมิดาไม่กล้ารับปาก ได้แต่คลี่ยิ้มส่งให้ชายหนุ่มบาง ๆ จากนั้นชวนเขาพูดเรื่องอื่นเพื่อเปลี่ยนเรื่องสนทนา
“เลโอคะ?”
“หือ…?” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเลิกคิ้ว
“จำวันที่เราไปให้อาหารสุนัขจรจัดได้ไหมคะ”
“ครับ”
“คุณบอกว่าสุนัขพวกนั้น เวลามันดีใจมันจะแกว่งหาง เวลามันกลัวหรือโดดเดี่ยว กังวล หางมันจะตก”
“ครับ แต่กับแมวเวลาแกว่งหางไม่ได้หมายความว่ามันดีใจนะครับ” ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง แต่มองรมิดาด้วยสายตาที่อ่อนโยน
“เลโอคะ ฉันอยากให้คุณมีหางค่ะ”
“หือ…ทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะครับ คุณอยากให้ผมเป็นสัตว์เลี้ยงของคุณเหรอ”
“เปล่าค่ะ…ดาแค่คิดว่า ตอนนี้ไม่รู้ว่าคุณรู้สึกยังไง…จะเศร้า หรือดีใจ หรือไม่พอใจ….ดาถึงอยากให้คุณมีหางไงคะ จะได้เข้าใจความรู้สึกและอารมณ์ของคุณ เพราะก่อนหน้านี้ดาไม่เข้าใจอะไรคุณเลย แถมยังคิดว่าคุณไม่รักดาแล้ว”
“ถ้าแบบนั้น ไม่ต้องมีหางก็ได้ครับ”
“ทำไมคะ”
“เพราะหลังจากนี้ ความรู้สึกเหล่านั้น ผมจะทำให้มันชัดเจนเอง…เอาล่ะ ไปอาบน้ำกันเถอะครับ”
ชายหนุ่มที่คร่อมร่างเล็กเอาไว้ ค่อย ๆ ลุกขึ้น แล้วช้อนตัวหญิงสาวจากเตียง จากนั้นเดินตรงดิ่งไปยังห้องน้ำ
“เลโอ…จะทำอะไรคะเนี่ย”
“อาบน้ำไงครับ”
“รู้ค่ะ ว่าจะอาบ แต่ทำไมต้องเอาดาไปด้วยคะ”
“เพราะผมจะชดเชยไงครับ ที่วันนั้นทำรุนแรงกับคุณ”
เลโอพูดออกมาอย่างหน้าตาเฉย ส่วนรมิดาที่ถูกอุ้ม ได้แต่ซุกใบหน้าแนบอกแกร่งของเขาเอาไว้ เพราะรู้ว่าต่อไปจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น