ก่อนฟ้าสางเริ่มวันใหม่ มีเรื่องราวมากมายผ่านเข้ามาแต่ไม่ได้ผ่านเลยไปเช่นทุกครั้ง แค่เพียงแวบเดียวของความรู้สึกในครั้งแรก ฉันก็รู้ได้ในทันทีว่า...‘มันไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกแล้ว’
“ไม่ต้องพูดอะไรค่ะ!” หลังจากรู้สึกตัวว่าเตียงขยับยวบ ฉันได้เอ่ยถ้อยคำแรกรับอรุณกับใครบางคนที่ยันตัวลุกขึ้นนั่งกับเตียง
สภาพเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ท่อนบน ส่งผลให้สายตาที่ยังคงจดจำรอยสักอสรพิษบ้าบอที่แผงอก พันเลื้อยลงมายังท่อนแขนกำยำ หรือแม้กระทั่งหน้าท้องที่มีมัดกล้ามเป็นลอนหนั่นแน่นสวยงามนั่น ร่องรอยขีดข่วนแดงและซิบเลือดที่แห้งไปแล้วบนผิวกายขาว...ฉันยังจดจำมันได้ดีราวภาพติดตา
แม้กระทั่งตอนนี้ใบหูยังแว่วน้ำเสียงห้าวต่ำแต่แสนเซ็กซี่เร้าอารมณ์ส่วนลึกในกายสาว รวมถึงไออุ่นของลมหายใจที่รินรดผิวกายสั่นเทิ้มตลอดคืน จมูกยังจดจำกลิ่นกายเจือน้ำหอมหรูหราผสมเคล้าเข้ากับกลิ่นแอลกอฮอล์รสซาบซ่าที่ส่งผ่านจากปลายลิ้นสู่ปลายลิ้น ทั้ง ๆ ที่จำได้ แต่ในหัว...กลับไม่มีชื่อของเขาปรากฎขึ้นมาแม้ตัวอักษร
“...” เขาปรายหางตามองมายังฉัน โดยไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา
“ฉันกำลังจะกลับ คุณจะนอนต่อหรืออะไรก็ตามสบาย” ฉันบอกราวกับไม่แคร์ ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร ทั้งที่ในใจมันอึดอัดราวถูกแท่นหินใหญ่มากดทับเอาไว้ อึดอัด...เสียจนอยากหยุดหายใจไปเสียตอนนี้
อยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว...สมองสั่งการว่าอย่างนั้น เรื่องที่มันผ่านไปแล้วก็ควรปล่อยให้มันผ่านไป จงอย่าเรียกร้อง เพราะมันคงดูน่าสมเพช ใช่! ฉันรู้ดีว่าทุกอย่าง มันจะไม่จบถ้าฉันยังอยู่ตรงนี้ ฉันจึงตัดสินใจก้าวขาลงจากเตียง แม้ร่างกายจะทรมานจนเดินแทบขาสั่น ปวดแปลบไปทุกสัดส่วนอณูรูขุมขน ยิ่งตอนที่ก้าวขาแล้วรับรู้ว่าส่วนนั้นมันคงบวมช้ำก็ยิ่งอยากกรีดร้องออกมา แต่ก็ไม่วายกัดฟันหยิบเอาเสื้อผ้าทุกชิ้นบนพื้นขึ้นมาสวมเร็ว ๆ ในใจพยายามพร่ำคำว่า ‘อย่าอาย’ ซ้ำ ๆ
“เฮ้! ไม่ได้ซีเรียสเรื่องผ้าปูเลอะหรอกนะ แต่เมื่อคืนไม่ได้ใส่ถุง”
คำพูดของคนบนเตียงทำฝีเท้าเล็ก ๆ ของฉันที่กำลังจะก้าวออกจากห้องชะงักอยู่กับที่ เมื่อกี้ที่พูดมา...ล้อเล่นกันใช่ไหม?
ฉันหมุนตัวกลับมาสบสายตากับเขาเป็นครั้งแรก ชายผู้เป็นเจ้าของนัยน์ตาคมครามล้ำลึกทอประกายเฉยชานั่น
“แต่คุณก็ไม่ได้...” ไม่ได้อะไรล่ะ จู่ ๆ คำพูดมันมาจุกอยู่ที่ลำคอ ในหัวมันว่างเปล่าจนคิดหาคำมาต่อท้ายประโยคไม่ได้เลย
“แตกใน?” เขาเลิกคิ้วเรียวเข้มถาม สีหน้าราบเรียบเสียจนน่าหวาดหวั่นในอก อย่าทำเหมือนมันเป็นเรื่องปกติสิ...!
เมื่อฟังเขาถามมาความหวาดหวั่นในใจฉันก็ยิ่งก่อตัวหนาขึ้น ฉันสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ก่อนจะพูดกับเขาอีกครั้ง
“ไม่เป็นไร...ฉันคิดว่ายาคุมฉุกเฉินคงช่วยได้ อืม...ฉันว่างั้น”
พระเจ้า! เหมือนโลกทั้งใบมันทรุดตัวลงมาทับหัวฉันเลย มันหนักอึ้งแล้วก็มึนงงไปหมด แล้วเมื่อกี้อีก คำพูดบ้าบอแบบนั้น ยาคุมฉุกเฉินงั้นเหรอ? ของพรรค์นั้นน่ะ...ไม่ได้อยากไปหาซื้อนักหรอก!
ให้ตาย! เรื่องบ้าชัด ๆ นี่มันไม่ตลกเลยสักนิด
หมับ!
ในตอนที่ฉันตัดสินใจได้ว่าจะจากไปจริง ๆ ข้อมือของฉันก็ถูกคว้าไว้ ก่อนร่างแสนระบมจะถูกรั้งให้หันกลับไปเผชิญหน้ากับเจ้าของร่างสูงกำยำที่ลุกมาจากเตียงตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ทั้งสีหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึก แววตาคมคร้ามแสนเยือกเย็นที่มองมา เขายังต้องการอะไรอีก หรือแค่นี้มันยังไม่พอ ชีวิตฉันมันยังพังไม่พอรึไง!
“มีเงินรึไง เรียกมาสิ...ค่าความบริสุทธิ์ของเธอ” น้ำเสียงราบเรียบเสนอมา สายตากวาดมองเสื้อผ้ายับเยินของฉันด้วยแววตาที่คงเวทนาจับใจ แต่ถ้าถามหาต้นเหตุล่ะก็...ไม่ใช่ฝีมือเขารึไง ไม่ใช่เขาเหรอที่ทำให้ฉันมีสภาพทุเรศทุรังแบบนี้
ไม่รู้เลยว่าจะจัดการกับความรู้สึกตัวเองยังไง ฉันเลยได้แต่สะกดกลั้นอารมณ์คุกรุ่นที่กำลังก่อตัวขึ้นเงียบ ๆ ก่อนจะพูดบอกเขาไป
“ไม่เป็นไรค่ะ หนึ่ง...ฉันไม่ต้องการรู้จักคุณ สอง...สิ่งที่เสียไปฉันจำได้ว่ามันเกิดเพราะฉันขาดสติเอง นั่นคือเหตุผลที่ฉันไม่ต้องการอะไร”
ฉันตอบพร้อมชักมือกลับ แต่เขาไม่ยอมปล่อยมันง่าย ๆ มือใหญ่ร้อนราวกับเปลวไฟ และแข็งราวกับคีมเหล็กออกแรงรั้งมันเอาไว้ บีบไว้แน่นจนปวดไปถึงท่อนกระดูก เพื่อบ่งบอกว่าถ้าเขาไม่คิดจะปล่อย ฉันก็ไม่ควรขัดขืนให้เสียเวลา
“ยัง! ถ้าท้อง...ก็นะ ฉันแน่ใจว่าเธออาจจะท้อง เพราะ ‘น้ำฉันดี’ แต่ฉันไม่....” เขายังพูดไม่จบประโยคหรอก เป็นฉันที่ดันทนฟังคำพูดแสลงหูต่อไม่ได้จึงแทรกเสียงขึ้น
“ฉันโอเค ไม่เป็นไร จบนะคะ” ฉันบอกรัว ๆ และรีบกระชากมือกลับ หมุนตัวมาเปิดประตู แล้วก้าวเท้าพรวด ๆ ออกจากห้องนั้นทันที ในใจภาวนาว่าให้มันเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายเถอะนะ
ทว่าเรื่องราวของ ‘ฉันและเขา’ มันกลับไม่เป็นไปอย่างที่ฉันต้องการ เมื่อเราเริ่มต้นความสัมพันธ์กันอีกครั้งด้วยสถานะ ‘นักบำบัด(กำมะลอ) กับคนไข้ (จิตป่วย)’
เขาบอกว่าสิ่งที่เขาไม่ชอบมากที่สุดคือ ‘คนโง่’ และฉันกำลังทำตัวแบบนั้น ซึ่งฉันได้ตอบเขากลับในใจไปว่า สิ่งที่ฉันไม่ชอบที่สุดคือ ‘คนจองหองอวดดี’ และเขาเป็นคนแบบนั้น
-----------------
เหยื่อ.หลง.เสือ
Psycho’n victim
แนว ดาร์กโรมานซ์
ผู้เขียน : ตัวตึงดึงปฐพี
วาดปก - OUIXACL
ออกแบบอาร์ต – Darling Rome
ช่องทางติดต่อนักเขียน :
เฟซบุ๊ก Darling Rome
Tiktok @romez.smt
ห้องคุยนิยายโอเพ่นแชทไลน์
ห้องนิยายDarlingRome
กลุ่มลับสปอยล์งานบ้านเฟซบุ๊ก
ห้องนิยายตัวตึงดึงปฐพี
ช่องทางเผยแพร่ผลงาน
readawrite/m*b/t******i/pinto/dreame
เกี่ยวกับลิขสิทธิ์
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 และฉบับเพิ่มเติม ห้ามมิให้ทำซ้ำ คัดลอก ลอกเลียน ดัดแปลง แก้ไข ตีพิมพ์ หาไอเดีย สแกนเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของนิยายเรื่องนี้ไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนักเขียนนามปากกา ‘ตัวตึงดึงปฐพี’ หรือ ‘เจ้าของลิขสิทธิ์’ เป็นลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจนและถูกต้อง หากมีการฝ่าฝืนไม่ว่าในกรณใดข้างต้น ทางนักเขียนผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์นิยายจะขอดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด
นามปากกา ตัวตึงดึงปฐพี
เจ้าของลิขสิทธิ์
แวะคุยกับนักเขียน
นิยาย “เหยื่อ.หลง.เสือ” ได้พูดถึงเรื่องราวของ ‘ลีออน’ ชายผู้สูญเสียคนเคยรักและประสาทสัมผัสบางส่วนไปในเหตุการณ์หนึ่ง แต่เพราะชีวิตยังต้องเดินต่อ บิดาของเขาจึงตามหาหมอหรือผู้เชี่ยวชาญที่จะมาช่วยรักษาอาการของลีออนให้กลับมาเป็นปกติ แต่ด้วยพื้นฐานเดิมของลีออนที่เป็นคนเข้าถึงยากและเรื่องมากพอสมควร ไม่ว่าหมอหน้าไหนก็รับมือกับเขาได้ยากเหลือเกิน กระทั่งวันที่ ‘ม่านไหม’ นักบำบัดคนใหม่เข้ามาดูแล ทุกอย่างของเขามันก็เริ่มเปลี่ยนไป อาการของลีออนจะดีขึ้นจริงหรือไหม ม่านไหมจะสามารถช่วยเขาได้จริงไหม ฝากติดตามเรื่องราวของพวกเขาได้ที่นี่ ซึ่งตัวละครและสังคมทั้งหมดในนิยายเรื่องนี้ เป็นเพียงเหตุการณ์ที่ผู้เขียนสร้างขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น เนื้อหาบางส่วนบางตอนมีถ้อยคำสอดเสียด ดูแคลน และกดดัน การกระทำของตัวละครบางฉากมีความรุนแรงทางอารมณ์และกายภาพ อาชญากรรม มีฉากร่วมรักแบบผู้ใหญ่ ผู้อ่านที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรมีผู้ปกครองแนะนำ และใช้วิจารณญาณในการอ่าน ทัศนคติในเนื้อหาไม่มีความเกี่ยวของกับผู้เขียนแต่อย่างใด
ด้วยรักและสานฝัน
ขอขอบคุณทุกกำลังใจและการสนับสนุน