ฝ่ามือบางอันแรงน้อยนิดตบเข้าสู่ใบหน้าซีกขวาเขาเต็มแรง ทว่าเจ็บชาไม่เท่ากับหัวใจแกร่งด้านชาที่ถูกหญิงสาวตัดพ้อต่อว่าเขาแถมยังเว้าวอนขอให้ปล่อยเธอไป
“อย่าถามในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะไม่ว่ายังไงฉันไม่ปล่อยเธอไป ถึงแม้ว่าเธออาจไม่ใช่คนทำผิดก็ตาม”
คำตอบจากปากผู้ชายเห็นแก่ตัว ปรวีร์สับสนความคิดตัวเองว่าทำไมถึงไม่ต้องการปล่อยเธอออกจากชีวิตเขา ทั้งที่เธอเองเป็นคนไม่เห็นค่าในความรักของผู้ชายคนนี้สักนิด
“คนเห็นแก่ตัว”
กิ่งพยอมเบือนหน้าหนีไปอีกทาง ไม่อยากเห็นหน้าอันธพาลเถื่อนทำตัวศาลเตี้ยลงโทษความแค้นส่วนตัว เธอเกลียดเขา
“ฉันยอมรับก็ได้ว่าฉันเห็นแก่ตัว ฉันทนไม่ได้ที่จะเห็นเธอมีความสุข โดยที่ฉันต้องทุกข์ทรมานใจอยู่คนเดียว มันไม่ยุติธรรมไปหน่อยเหรอ”
“แล้วจะให้ฉันทำยังไง นายถึงจะเชื่อว่าฉันไม่ใช่เป็นคนที่ทำให้ฟ้าใสกับลูกในท้องตาย ฉันเองก็เสียใจที่เพื่อนรักต้องมาจบชีวิต”
เสียงสะอื้นไห้ของคนป่วยสาว คนฟังแอบเจ็บปวดหนึบตามไปด้วย
“ฉันผิดเองที่เอาความแค้นมาครอบงำอารมณ์ตัวเองจนขาดสติลักพาตัวเธอมา ทว่ายังไงฉันไม่สามารถปล่อยเธอไปจากที่นี่ได้จริงๆ จนกว่าฉันจะแน่ใจว่าเธอเป็นผู้บริสุทธิ์”
กิ่งพยอมมองนายใหญ่ปรวีร์ตีหน้าเศร้าสลด รู้สึกผิดกับการกระทำตัวเองด้วยความลังเลใจ หญิงสาวไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหนกัน เธอยังเข็ดขยาดหวาดกลัวโหมดโหดร้าย เวลาโกรธสุดขีด กลัวว่าเขาจะทำร้ายร่างกายเธออีกครั้งเหมือนตอนแรก
“อีกนานแค่ไหนกว่าที่เรื่องทุกอย่างจะจบ”
กิ่งพยอมแอบหน่วงใจแปลกเมื่อนึกถึงว่าเธอต้องกลับบ้าน ถ้าหากเขาเบื่อหน่ายเธอแล้ว
“เธอไม่อยากอยู่กับฉันที่นี่แล้วเหรอ กิ่ง”
สายตาเว้าวอนเอ่ยถามหญิงสาวคนเคยรักข้างเดียว ความจริงเขาอยากอยู่กับเธอตลอดชีวิตเสียด้วยซ้ำ
“เอ่อ ฉัน...”
กิ่งพยอมไม่กล้าสบตาดวงตาคู่คม หัวใจด้านในเคยนิ่งสงบกลับเต้นแรงผิดปกติ เธอบอกตัวเองว่ารักพี่ชายเขา ทว่าทำไมเวลาอยู่ใกล้ปรเมศ หัวใจกลับรู้สึกเฉยๆ
เธอเพียงหลอกตัวเองว่าหลงใหลในความเป็นสุภาพบุรุษของพี่ชายปรวีร์ จึงเข้าใจไปเองว่ารักปรเมศ ทั้งที่ส่วนลึกจิตใจกลับรู้สึกสับสนจนไม่อยากยอมรับมัน
ไม่ทันกิ่งพยอมเอ่ยตอบนายใหญ่โหดดุดัน เสียงท้องร้องดังโครกครากดังขัดจังหวะบรรยากาศดีของทั้งคู่ สีหน้าแดงระเรื่อเขินอายตัวเอง ตั้งแต่อาทิตย์หนึ่งไม่มีอะไรตกถึงท้องเพราะคนใจจืดใจดำตรงหน้า
“หิวข้าวแล้วก็ไม่บอก ฉันจำได้ว่าเธอชอบกินข้าวต้มร้านโปรดของจังหวัดเชียงรายตอนเด็กที่เราเคยไปกินด้วยกันสองคน ฉันเลยให้อัคคีซื้อมา”
“นายยังจำได้ด้วยเหรอ เรื่องผ่านมาตั้งหลายปีกว่า”
กิ่งพยอมอึ้งเล็กน้อยที่เขาไม่ลืมความสัมพันธ์เพื่อนที่ดีต่อกันตอนสมัยเด็ก ตอนนั้นเธอเป็นเด็กผู้หญิงคนเดียวได้รับความดูแลของสองพี่ชายที่ติดอยู่ข้างไร่ด้วยกัน ถึงแม้ปรวีร์จะแกล้งเด็กผู้หญิงขี้แย ภายจิตใจเขาก็เป็นพี่ชายแสนดีคนหนึ่งไม่แพ้กับปรเมศ
“เรื่องของเธอ ฉันจำได้หมดทุกอย่าง ไม่มีทางลืม”
ปรวีร์หยิบถ้วยข้ามต้มร้อนๆ เพิ่งทำมาใหม่ก่อนจะเป่าให้เย็นลง ตั้งใจจะป้อนนักโทษสาว ท่าทางแสนดีอ่อนโยนทำให้กิ่งพยอมหายหวาดกลัว เขาเหมือนพี่ชายคนเดิมของน้องกิ่งกลับมา
“มา เดี๋ยวฉันป้อน”
“ไม่ต้อง ฉันกินเองได้”
กิ่งพยอมปฏิเสธความหวังดี ทว่าคนเผด็จการจะยอมฟังคนป่วยสาวดื้อด้านอยู่ตลอดเวลา
“อย่าดื้อ หรือว่าอยากให้ฉันป้อนด้วยวิธีฉบับของฉัน”
คนป่วยสาวไม่เข้าใจคำพูดของนายใหญ่ไร่ภูฟ้า ปรวีร์ไม่รอช้าจึงสาธิตให้หญิงสาวเข้าใจกระจ่างชัดเจนด้วยการตักข้าวต้มเข้าปากตัวเองก่อนจับบีบบังคับใบหน้าแสนหวานกดจูบกลีบปากนุ่ม ใช้ชั้นเชิงหลอกล่อจนเธอเคลิ้มตาม เขาดันอาหารจากปากเข้าสู่เธอจนกลืนผ่านลำคอ
“หวานกว่าข้าวต้มเสียอีก”
ชายหนุ่มถอนจูบจากปากบวมแดงเจ่อ มองดูชิ้นผลงานพลางยกยิ้มย่ามใจที่กำราบเด็กดื้อพยศได้สำเร็จ
“คนบ้า คนฉวยโอกาส”
กิ่งพยอมส่งค้อนขวับแก่คนป่าเถื่อน เขามันร้ายกาจ ร้ายลึกมากที่สุด
“ทีนี้จะให้ฉันป้อนดีๆ หรือยัง หรือว่าติดใจอยากให้ฉันป้อนเธอด้วยปากต่อปากต่อล่ะ”
“ฉันไม่กินแล้ว” คนป่วยยังคงดื้อด้านไม่เลิก
“กินนิดเดียวจะไปอิ่มได้ยังไง ทีนี้เธอจะมีแรงไว้สำหรับคืนนี้ได้เหรอ ที่รัก”
“ฉันไม่ใช่นางบำเรอหรือที่รักของนาย ถ้านายอยากมากขนาดนั้น นายก็ไปหาคู่ขาของนายสิ”
เธอรังเกียจตัวเองที่ตกเป็นผู้หญิงอีกคนของผู้ชายเจ้าชู้ คิดว่าเขาหาผู้หญิงคนอื่นระบายความใคร่ต่อจากตน หัวใจดวงน้อยแอบเจ็บจี๊ด
“เธอหึงฉันเหรอ?”
“ฉันจะไปหึงนายทำไม ฉันไม่ได้พิศวาสอะไรนายสักหน่อย”
กิ่งพยอมรีบปฏิเสธหัวใจตัวเองว่าหวั่นไหวกับการทำดีของผู้ชายตรงหน้า เธอกำลังทำใจที่ว่าปรเมศรักเธอเพียงน้องสาวแสนดีคนหนึ่ง คนไม่ได้รัก ต่อให้ทำดีแทบตายแค่ไหนก็ยังไม่ได้ความรักจากเขาอยู่ดี
“ถ้าเธอยังมีความหวังตำแหน่งสะใภ้ใหญ่ของสกุลเรวัติอยู่ บอกไว้ก่อนว่าเธอหมดสิทธิ์!”
ปรวีร์ระงับอารมณ์ขุ่นเคืองเก็บกดไว้แล้วหยิบรูปภาพจากโทรศัพท์สุดหรูตัวเองให้หญิงสาวดูความจริงบางอย่าง
“หมายความว่ายังไง”
“พี่เมศไม่ได้รักเธอแบบคู่รักทั่วไป พี่เมศเห็นเธอเพียงน้องสาวแสนดีคนหนึ่ง เพราะคนที่พี่เมศรักคนเดียวคือคุณเพียงดารา และพวกเขาสองคนมีลูกชายด้วยกันก่อนจะมาเจอเธอ นี่ไงรูปแต่งงานของพี่เมศและพี่สะใภ้ของฉัน”
กิ่งพยอมมองดูรูปแต่งงานสุดแสนโรแมนติกของอดีตคู่หมั้นพร้อมหญิงสาวผู้โชคดี เพียงดารา เธอเคยเจอแต่ที่เป็นเลขาคนสนิทของปรเมศ มิหนำซ้ำตรงกลางเป็นเด็กชายหน้าตาคล้ายคลึงปรเมศสมัยเด็ก ที่เขาบอกว่ามีลูกมีเมียมาก่อนแล้วเป็นความจริง
“แล้วมาบอกฉันทำไม นายคงสมเพชฉันสินะที่ฉันไม่ได้เป็นพี่สะใภ้ของนาย นายวีร์”
กิ่งพยอมไม่รู้สึกเสียใจกับอดีตคู่หมั้น ทว่ากลับผู้ชายตรงหน้ากลับทำให้เธอต้องเสียใจกับการกระทำห่ามดิบเถื่อน
‘โบราณเขาว่าเกลียดอย่างไรก็ได้อย่างนั้น’
“นึกว่าเธอจะยังไม่ตัดใจจากพี่ชายฉัน หรือว่าแท้จริงแล้วเธอไม่ได้รักพี่เมศตั้งแต่แรก แต่แกล้งทำเป็นคู่หมั้นหวงก้าง อยากจับปลาสองมือเหมือนคนเขาพูดกัน เธอเป็นผู้หญิงประเภทไหนกันแน่”
“นี่นายพูดอะไร ฉันไม่เห็นรู้เรื่อง”
กิ่งพยอมปกปิดความลับบางอย่างไว้ที่เคยให้คำสัญญากับเพื่อนรัก ปรวีร์ไม่มีทางรู้ว่าเธอรู้สึกอย่างไรที่ต้องฝืนความรู้สึกไว้เสียสละแก่ฟ้าใส
“ไม่รู้ก็ไม่เป็นไร เพราะถึงยังไงเธอก็เป็นเมียฉัน ผัวจะทำอะไร เธอก็ห้ามขัดใจ”
“เมีย!”
กิ่งพยอมทำหน้าเหวอกับคำพูดโพล่งปากไม่ทันยั้งคิดจากนายใหญ่เอาแต่ใจตนเองเป็นใหญ่
“ทีนี้จะให้ผัวป้อนได้หรือยัง เมีย”
ปรวีร์คิดดีแล้วทุกคำพูดที่เอ่ยออกมา ตลอดเวลาเขาไม่เคยลืมเด็กผู้หญิงขี้แยที่ชื่อหนูกิ่งได้ลงสักครั้ง
กิ่งพยอมกลัวถูกคนใหญ่โตจะลวนลามจับเธอทำเมียอีกรอบในเตียงคนไข้ หญิงสาวยอมนั่งอยู่นิ่งๆ ปล่อยให้คนอ้างตัวว่าเป็นผัวเธอป้อนข้าวป้อนน้ำ ป้อนยา
‘ห้ามใจหวั่นไหวเด็ดขาดนะกิ่ง ผู้ชายคนไม่มีหัวใจไม่มีทางรักเธอได้หรอก!’
___________
ป้าสีนวลทาบอกตกใจกับการบอกเล่าจากลูกสาวคนเดียวว่านายใหญ่ปรวีร์พาผู้หญิงหน้าตาดีราวกับนางฟ้ามากักขังไว้ที่บ้านหลังไม้ท้ายไร่ แถมกระทำโหดร้ายป่าเถื่อน ซาดิสม์รุนแรงจนเห็นรอยเลือดติดตรงเตียงฟูกนอนสีขาว แต่นั่นยังไม่เจ็บใจเท่ากับน้ำตาลกลัวว่าผู้หญิงคนนั้นจะมาแย่งเขาไปจากเธอ
“น้ำตาลไม่ยอมนะคะคุณแม่ ยังไงน้ำตาลต้องได้เป็นนายหญิงของที่นี่!”
“ใจเย็นๆ ก่อนลูกรัก รอนายใหญ่กลับมาก่อนดีกว่า แม่เองก็ไม่ยอมให้ใครมาทำให้ลูกต้องเสียใจเด็ดขาด” แม่บ้านใหญ่เอ่ยปลอบใจลูกสาว
รถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาจอดตรงหน้าบ้าน ปรวีร์ช้อนอุ้มร่างระหงไร้สติแนบอกแกร่งสนิทสนม สายตาทอดมองด้วยความเป็นห่วงใย การกระทำชัดเจนไม่รอดพ้นจากแววตานางบำเรอคนโปรด
“คุณวีร์ นั่นใครเหรอคะ” ป้าสีนวลเอ่ยถาม
“คนงานหญิงคนใหม่ของฉันเองละ ป้าไม่ต้องจัดห้องใหม่ เพราะเธอต้องมาพักอยู่ในห้องเดียวกันกับฉัน!”
“.....”