ตอนเย็น
"เห็นว่าเราคุ้นเคยกันนะพิ้งผมจึงขอร้องไม่ให้ลูกครูคณิตแจ้งความ"
"พิ้งต้องขอโทษท่าน ผอ. ด้วยนะคะ ช่วงนี้อีผึ้งมันคงเครียดเรื่องสอบ"
"แค่คำว่าขอโทษเหรอ หืม.."
สายตาเจ้าเล่ห์บ่งบอกความต้องการทันที หลังจากนัดหมายกันไปร่วมสวาทเพื่อเป็นการตอบแทนที่ไม่ส่งน้ำผึ้งเข้าคุก
อะพาร์ตเมนต์เก่า
เพียะ!!
"อีลูกเวรมึงเป็นบ้าเหรอเอากระดูกไก่แหลมไปแทงปากเขาจนเลือดสาด!" กลับมาถึงฝ่ามือหนาแม่ก็ฟาดลงแก้มลูกสาวพร้อมด่าทอ "มึงอยากติดคุกหรือไงอีผึ้ง"
"มันด่าแม่ก่อน ฮึก"
"ก็ช่างหัวมันสิ"
"ถึงมันจะพูดความจริงว่าแม่ขายตัวแต่หนูมีหัวใจและหนูรู้สึกแย่มากด้วย"
ฉันร้องไห้ออกมาทำไมโลกโหดร้าย แต่ใบหน้าของแม่กลับเย็นชาและเป็นแบบนี้มาตลอดตั้งแต่ฉันจำความได้
"แม่เคยรักหนูไหม ฮื้อออ เคยเห็นใจหนูหรือเปล่า" ความอัดอั้นทำให้ฉันร้องไห้ไม่หยุด
"อย่าไร้สาระอีผึ้ง มึงรีบไปอาบน้ำล้างคราบเลือดบนชุดนักเรียนมึงซะเดี๋ยวพ่อมึงมาก็เป็นเรื่อง"
"แม่ ฮื้อ"
ไม่มีแม้คำถามหรือคำพูดที่ปลอบใจ แม่เดินไปพลางวางกระเป๋าหยิบเครื่องสำอางออกมาแล้วแต่งหน้าเพิ่ม เด็กหญิงได้แต่ร้องไห้แต่รีบตั้งสติเข้าห้องน้ำชำระร่างกาย
ซึก ซัก
กาละมังสีเขียวมีเสื้อนักเรียนสีขาววางอยู่ มือน้อยขยี้ซักเพื่อซักทำความสะอาด ทว่า..น้ำกลายเป็นสีแดงเถือกด้วยเลือด
กรี๊ดดดด
เสียงกรีดร้องดังก้องสะท้อนในความทรงจำ เมื่อตอนพักกลางวัน น้ำผึ้งหยิบไก่ที่แทะปลายจนเหลือแต่กระดูกเดินพุ่งไปยังโต๊ะเพื่อนร่วมชั้น เธอกระชากผมถักเปียของบีจนหน้าแหงนขึ้นแล้วแทงปลายแหลมของไก่ลงที่ปากซ้ำๆ
ทั้งเลือดและกระดูกแข็งแหลกลานคามือ ชุดนักเรียนที่สวมใส่ถูกเลือดที่กระเด็นติดเป็นดวงกลมกระจาย
ก๊อก ก๊อก
"อีผึ้ง!! มึงอาบน้ำช้าจังวะรีบหน่อย คืนนี้ไปช่วยกูเช็ดโต๊ะที่ร้านเฮียต้อย"
"ค่ะแม่"
เพราะเสียงประตูรีบดึงสติกลับมา ตอนนี้ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจิตหลุดหรือเปล่าแต่ที่แปลกคือฉันสบายใจเมื่อได้เห็นคนเลวร้ายได้รับผลที่ก่อ สีแดงสดกลายเป็นสีโปรดของฉันทันที เวลาได้มองรู้สึก 'ดีจัง'
ร้านเฮียต้อย
เวลาหกโมงเย็นในถนนซอยแคบ มีร้านเหล้าติดกันเป็นแผนธุรกิจหลากหลาย คนที่อยากมาปลดปล่อยความสุขก็มักรวมตัวกัน มีสาวสวยคอยพร้อมให้บริการ
"น้ำผึ้งโตเป็นสาวแล้ว..ผ่านมาแค่ไม่กี่ปี ฮ่าๆ โตไวดีแท้"
"ใช่ค่ะเฮียมันสวยเหมือนแม่ อิอิ"
"ใครบอกมึง! กูดูอีผึ้งไม่มีเค้าโครงมึงแม้แต่น้อย"
"อ้าววว เฮีย"
เวลาผ่านไป จนตอนนี้ น้ำผึ้งอายุครบสิบแปดปีบริบูรณ์ เรียนจบมอปลายอาทิตย์ก่อน เป็นประจำที่เธอต้องมาช่วยแม่ที่ร้านเหล้า อาชีพนี้เป็นหลักแต่อาชีพรองยังคงขายตัวให้กับเหล่าชายหนุ่มที่สนใจ
"โอ๊ย ปวดหลัง" แม่ที่มีอายุสามสิบห้าบ่น
"เดี๋ยวหนูจัดโต๊ะให้นะแม่พักเถอะ"
"เออ เร็วๆ อีกชั่วโมงร้านจะเปิด"
"ค่ะ"
พักหลังพ่อหายไปทิ้งฉันกับแม่จ่ายค่าเช่าและค่าน้ำค่าไฟเอง เฮียเจ้าของร้านใจดีเจียดเงินมาจ้างฉันเก็บกวาดร้านทั้งที่เป็นงานของเด็กในร้านอย่างแม่อยู่แล้ว
ตึบ
แก้วและจานอาหารแบ่งวางตามโต๊ะที่มีลูกค้ามาใช้บริการ หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ต่างจดจ้องสาววัยใสอย่างน้ำผึ้ง
"เสร็จแล้วไปหลังร้านก่อน!" เมื่อพิ้งเห็นจึงตวาดใส่ลูกสาว
"ค่ะแม่"
"ถ้ากูไม่เรียกไม่ต้องออกมา"
แกร๊ก
สาวน้อยอย่างผึ้งยิ้มรับคำสั่งถือไม้กวาดเข้าไปหลังร้านซึ่งเป็นที่พักพนักงาน เธอส่องกระจกดูตัวเองพลางยิ้มอย่างสวยงาม ใบหน้าแสนสะท้าน ปากนิด จมูกหน่อย ผมสีน้ำตาลเข้มขลับให้ผิวขาวสะดุดตา หน้าอกก็พอเหมาะมือไม่เล็กและไม่ใหญ่เกินไป
เวลาว่างน้ำผึ้งมักเปิดดูช่องสอนทำขนมที่อยากทำ เธอเก็บเงินหลายเดือนกว่าจะได้โทรศัพท์เครื่องนี้มา ทั้งรับจ้างช่วยแม่ ทำขนมส่งขายตามร้านก๋วยเตี๋ยว และทำความสะอาดโรงแรม
"พรุ่งนี้ทำขนมชั้นดีกว่า" ฉันนั่งดูวิธีทำและจำเพื่อนำไปใช้ เวลาผ่านไปอย่างเพลิดเพลินจนเกือบเที่ยงคืน
ตึก ตึก
"แม่ไปไหนนะ" ปกติก่อนเที่ยงคืนสักห้านาทีแม่จะต้องมาเรียกให้ฉันเก็บกวาดร้าน ซึ่งจะปิดตอนห้าทุ่มครึ่ง "หายไปไหน"
หมับ!
"ว้ายยย ตกใจหมดแม่" ฉันสะดุ้งโหยงเมื่อมือเย็นเฉียบมาคว้าแขนแรง
"อีผึ้งมึงฟังกูให้ดีนะ"
"ทำไมหน้าแม่มีแต่เลือด ค..ใครทำร้ายแม่"
"มึงต้องตั้งใจฟังกู! รีบกลับบ้านไปเก็บกระเป๋าและเอกสารสำคัญจากนั้นนั่งรถไปที่สถานีรถไฟตรงประตูสาม"
น้ำเสียงที่เหนื่อยหอบพูดพลางจับไหล่ลูกสาวไว้แน่น ดวงตาข้างหนึ่งพับปิดช้ำปูด น้ำผึ้งแน่นิ่งด้วยความกลัวหวาดหวั่น
"สัญญากับกูว่าจะไม่กลับมาที่นี่อีก" แม่มองซ้ายขวาซึ่งตอนนี้ร้านได้ปิดเหลือเพียงไฟสลัว "กูขอสั่งว่าห้ามกลับมาที่นี่"
"แม่ ฮึก ทำไมหนูต้องไป แล้วจะให้ไปไหน"
"เดี๋ยวน้ามึงจะมารับเพราะกูกับพ่อมึงต้องหนี เขาจะตามมาฆ่าพ่อมึง!!"
"ฆ่า.."
สถานการณ์วุ่นวายแต่น้ำผึ้งก็เชื่อฟังคำสั่งแม้ไม่เต็มใจ แม่บอกว่าพ่อไปขโมยเงินนักเลงจึงเป็นเรื่องราวใหญ่โต สาวน้อยคว้ากระเป๋าเก็บของสำคัญนำเงินที่แม่ให้ติดตัวเดินทางไปยังสถานีรถไฟทันที
"แม่จ๋า ฮึกกก"