“คุณมาได้ยังไง”
“คุณเขาเอาเอกสารมาให้ คุณเจเดนเขาเป็นเจ้านายใหม่เวนี่นา” รสาพูดออกมาแบบนั้นทำให้วินเข้าใจได้ในทันทีว่าแม่ของเขาคงคิดว่ามีอะไรที่ไม่ปกติ วินได้แต่คิดในใจเขาต้องการอะไรกันแน่
“คุณกลับไปก่อนเถอะ มีอะไรค่อยคุยกันที่ทำงานพรุ่งนี้”
“งั้นก็คุยตอนนี้เลยสิ...” เจเดนเหลือบไปมองคอของชายหนุ่มก็เห็นว่ารอยที่ทำฝากเอาไว้ได้หายไปหมดแล้ว ชายหนุ่มนิ่วหน้าเล็กน้อยก่อนจะมองวินที่เดินออกไปรอหน้าบ้าน
“คุณต้องการให้เป็นไปแบบไหนกันแน่ ” วินเดินออกมาแล้วเปิดคำถามไปยังเจ้านายหนุ่ม
“กูจะเอามึงไว้เป็นของเล่น”
“คุณมันบ้า” วินได้ยินคำตอบแล้วก็ต้องตกใจ
“ไอ้เว! มึงไม่มีทางเลือกอื่น”
“แลกกับอะไรเรื่องถึงจะจบ” วินอยากรู้ว่าจะมีทางจบเรื่องไหม
“1 ปี ”
“อะไรครับ 1 ปี”
“ 1 ปีกับการอยู่เป็นของเล่นบำเรอกู”
“หา 1 ปี นานไปหรือเปล่า”
“งั้นแม่มึง พี่มึงก็ต้องรับกรรมจากการกระทำของมึงเพราะกูไม่ปล่อยไว้แน่” เจเดนพูดออกไปด้วยความอยากเอาชนะเพราะเจเดนต้องการให้เวไปอยู่ที่บ้านหลังจากที่น้องสาวเขาฟื้นแล้ว อย่างน้อยต้องไปขอขมาน้องสาวเขาถึงแม้น้องสาวเขาจะบอกว่าไม่ขอยุ่งเกี่ยวแล้วก็ตาม
“ครับ...แต่ว่า”
ไม่ทันที่วินจะพูต่อให้จบ รถยนต์คันหนึ่งก็มาจอดเทียบเข้าที่หน้าบ้าน วินรู้ทันทีว่าเวกลับมาจากข้างนอกแล้ว วินรีบวิ่งเข้าไปหาเวทันทีและเปิดประตูด้านคนขับ
“มึงคือวิน เล่นเป็นกู” วินกระซิบบอกน้องชายฝาแฝด เวรู้ทันทีว่ามีเรื่องแน่เพราะสองพี่น้องเล่นแบบนี้กันมาตั้งแต่เด็ก และสองพี่น้องเดินเข้าบ้าน
“นี่ใครวะ” เวที่กำลังสวมบทของวินถามออกไปทำเอาเจเดนขมวดคิ้วมองชายอีกคนทันทีเพราะหน้าตาที่เหมือนกันแต่ท่าทีแตกต่างกันมาก
“เจ้านายกูเอง เอาเอกสารมาให้” วินเข้ามาอธิบายเพราะกลัวว่าเจเดนจะพูดอะไรที่แปลกขึ้นมา
“อ่อ แล้วเจ้านายจำเป็นต้องเอาเอกสารมาเองเหรอ” เวถามอย่างเจาะจงให้อีกฝ่ายชะงักเพราะเวเองคิดว่ามันต้องมีอะไรแปลกๆ
“ งานสำคัญ” เจเดนพยายามข่มอารมณ์ให้ตอบแบบปกติเพราะเจเดนรู้สึกว่าสายตาพี่ชายฝาแฝดของไอ้เวกำลังหาเรื่องเขาอยู่ ท่าทางกวนตีนใช่เล่น
“นี่คุณกลับไปเถอะครับ ผมจะรีบเคลียร์งานให้ทันพรุ่งนี้” วินเอ่ยปากบอกให้เจเดนกลับไปก่อน
“ก็ได้ อยากลืมที่คุยกันไว้ ” เจเดนพูดขบก็เดินเข้าไปในบ้านเพื่อลาแม่ของพี่น้องฝาแฝด เขายกมือไหว้ลาอย่างไม่เคยทำมาก่อนกับคนแปลกหน้า
เมื่อเจเดนกลับไปแล้ว ทั้งสามคนจึงมานั่งคุยกัน วินเปิดเรื่องอธิบายให้แม่และเวฟังว่า วินไปสมัครงานโดยใช้ชื่อของเวและจะทำงานรอเวในช่วงพักรักษาตัวและเมื่อเวหายดีแล้วก็ไปทำงานเป็นตัวเองได้เลย เดี๋ยวจะสอนงานให้อีกที
ส่วนวินก็จะได้เริ่มทำงานในสายอาชีพที่เรียนจบมา วินมองว่าสายงานของวินสามารถหางานได้ง่ายกว่าถึงแม้เขาจะเพิ่งเรียนจบก็ตาม
“ลูกไม่น่าทำแบบนั้นเลยนะ เหมือนหลอกลวงเขา ” รสาเตือนสติลูกชายของเธอ โดยที่เวที่กำลังฟังวินอธิบายออกมาอย่างเงียบๆ
“ผมขอโทษครับที่ทำไปไม่คิด” วินพูดความในใจออกมาอย่างรู้สึกผิดแต่เขาไม่มีทางเลือก วินไม่อยากให้เกิดอันตรายเกิดขึ้นกับเวเพราะวินรู้ดีว่า หากเจเดนเจอกับเว เวต้องถูกเขาฆ่าแน่นอนเพราะเวไม่ใช่คนที่ยอมใคร
“ถ้ากูไปลองแล้วไม่โอเค กูลาออกเลยนะ ” เวพูดขึ้นมาอย่างตัดจบ
“เออ กูขอโทษ”วินของโทษน้องชายที่คิดเองเออเอง
“มึงมาที่ห้องกูหน่อย มีอะไรจะให้ดู”เวชวนพี่ชายไปที่ห้อง
หลังจากนั้นก็ปล่อยแม่ดูทีวีไปเพราะเวลาเพิ่งจะสองทุ่มเท่านั้นเอง ทันทีที่ประตูห้องถูกปิดลง สองหนุ่มก็มองหน้ากัน ซึ่งแต่ละคนต่างรู้ใจกัน
“มึงเล่ามา” เวเปิดประเด็นให้พี่ชายเล่าที่เกิดขึ้นเพราะเวรู้ว่าวินกำลังปกปิดบางอย่าง
“กูยังไม่เล่า มึงตอบคำถามกูมาก่อน” วินบอกกลับ
“ถามมา”
“มึงเคยไปทำผู้หญิงท้องแล้วบอกให้เขาไม่ทำแท้งไหม”
“ไม่เคย”
“ตอนนี้กูสวมรอยเป็นมึง มีคนมาบอกกูว่า มึงทำเขาท้องแล้วให้ไปทำแท้ง”
“มั่วแล้ว ไหนใคร กูจะไปเคลียร์”
“กูเคลียร์แล้ว แต่กูขอร้องนะช่วยแสดงเป็นกูต่อสักพักนะ”
“เออ”
หลังจากที่สองหนุ่มคุยกันแล้ว วินก็ออกจากห้องของเวไปยังห้องนอนของตัวเอง พรางยกโทรศัพท์ขึ้นมามองแล้วคิดว่าจะโทรหาเจเดนตอนนี้ดีหรือไม่ เอาล่ะเอาให้เคลียร์ไปเลย
วิน : (สวัสดีครับคุณเจเดน)
เจเดน : (นึกว่าจะให้รอนาน)
วิน : (ตกลงว่าคุณต้องการอะไร)
เจเดน : (มาเป็นของเล่นแก้เบื่อให้กู 1 ปี)
วิน : (แต่ผมเป็นผู้ชายนะ)
เจเดน : (กูก็เอามึงแล้ว เป็นของเล่นไม่ใช่แฟน)
วิน : (แลกกับไม่มายุ่งหรือทำร้ายแม่กับพี่น้องผมได้ไหม)
เจเดน : (ได้เพราะกูก็อยากเอาความแค้นลงที่มึงคนเดียว เพราะมึงเป็นคนทำ)
วิน : (ผมตกลง)
เจเดน : (ไปคุยกับที่บ้านมึงว่าจะมาอยู่กับกู)
วิน : (ต้องอยู่ด้วยกันเหรอ)
เจเดน : (เออสิ อยากเอาตอนไหนก็เอา)
วิน : (แค่นี้นะครับ)
ตู๊ด ตู๊ด
“ไอ้เชี่ยนี่ ตัดสายใส่กู กะจะบอกว่าจะให้พิเศษเดือนละห้าหมื่น..” เจเดนมองโทรศัพท์ก่อนจะยิ้มมุมปากราวกับว่าเขานั้นมีสิทธิ์ขาดได้ครอบครองเวเรียบร้อยแล้ว ใช่สิข้อเสนอที่แลกกับการที่เขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับคนในครอบครัว เจเดนรู้ว่าที่เขาทำมันไม่ใช่คนดีๆจะทำ เขารู้เพราะเขามันคนเลวไงล่ะ คนเลวก็เจอคนเลวกว่ามันถึงจะสาสม
เช้าวันรุ่งขึ้นที่โต๊ะอาหารบ้านของวิน วันนี้มีเมนูอาหารที่ลูกๆของแม่รสาชอบ แม่ตื่นมาทำอาหารเช้าให้ลูกชายของเธอเหมือนปกติ และวันนี้เป็นอีกที่ที่ลูกชายลงมาทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากัน เป็นวินที่เปิดการสนทนาในโต๊ะอาหารก่อนที่จะออกไปทำงาน
“วินจะต้องไปพักที่โรงแรมนะครับ ที่โรงแรมมีสวัสดิการที่พักให้เพราะจะได้ทำงานเข้ากะได้สะดวก” วินบอกถึงสิ่งที่เขาต้องการออกไป
“พักในตัวโรงแรมเลยไหม”รสาของสองแฝดถามวินกลับ
“ครับแม่ ”
“ถ้ามีอะไรให้มึงโทรมาบอกกูเลยนะ ” เวพูดออกไปเหมือนดักอีกฝ่ายไว้
“อืม มึงดูแลแม่ก่อนนะ เดี๋ยวถ้าวันหยุดงานกูจะกลับบ้าน” วินบอกแม่กับน้องชาย
“เดินทางจากบ้านไปโรงแรมก็ไกลมาก พักที่โรงแรมก็ดีเหมือนกัน” แม่ออกความเห็นว่าที่ลูกชายคนโตจะไปพักที่โรงแรมก็สะดวกจะได้ไม่ต้องเดินทางไกล
เย็นวันนี้หลังเลิกงานแล้ว วินนั่งในห้องพักพนักงาน วินมีกระเป๋าสัมภาระของตัวเองมา 1 ใบ และกำลังรอให้เจเดนติดต่อมาเพื่อแจ้งอีกทีว่าเขาต้องพักที่ไหน การตัดสินใจแบบนี้เหมือนกำลังเก็บกระเป๋าหนีตามผู้ชายยังไงไม่รู้ คิดแล้วก็นึกละอายใจในตัวเอง แต่ยังไม่ทันที่จะมีเสียงโทรศัพท์ แต่กลายเป็นเจเดนตัวเป็นๆเดินเข้ามาในห้องพักพนักงาน
“ของมึงมีแค่นี้เหรอ” เจเดนถามออกไปอย่างสงสัยเพราะมีเพียงกระเป๋าใบเดียว
“ครับ”
“มึงมันง่ายไม่ทุกอย่างเลยนะ” คำพูดดุถูกประชดประชันของเดเจนหลังทำให้วินไม่เจ็บช้ำ
“นี่คุณ” วินไม่พอใจคำว่า ง่าย เอาเสียเลยแต่ให้ทำยังไงได้เพราะวินคิดว่าทางเลือกนี้ดีที่สุด
“น้ำเสียงแบบนี้ ไม่พอใจ มึงมีสิทธิ์เหรอ ตามกูมาไปขึ้นรถ” เจเดนเดินออกจากห้องพักพนักงานห้องอาหารและเดินเชข้าลิฟท์ตัวของผู้หริหารเพื่อไปที่ชั้นจอดรถของผู้บริหาร
วินไม่ได้ตอบโตอะไร ทำได้เพียงลากกระเป๋าเดินทางเจ้านายหนุ่ม และเมื่อถึงรถยนต์ของเจเดน วินก็รู้สึกเก้ๆกังๆกับการนั่งรถคันหรูของเขา รถยนต์ขับไปตามถนนที่มีรถราคับคั่ง เจเดนเปรายสายตามาคนข้างอย่างหมั่นไส้ ทำไมนะเวลาที่ได้มองหน้าไอ้นี่แล้วเขาจะรู้สึกหงุดหงิดได้ตลอด อาจจะเพราะเวลาที่เขาต้องการให้อีกฝ่ายตอบโต้กลับเพื่อจะทำให้การสนทนาดุเดือดขึ้นแต่อีกฝ่ายกลับนิ่ง มันเลยเหมือนยิ่งทำให้เจเดนเหมือนคนบ้าเพราะอีกฝ่ายใจเย็นเหลือเกิน
ยิ่งอยากจะกวนประสาทด้วยคำพูดที่ดูถูกดูแคลนไอ้เวกลับทำหน้านิ่ง ทำหน้าตาใสซื่อ ดูออดอ้อน น่ารักฉิบหาย....เอ้ย กวนตีนฉิบหาย บางทีเขาก็สงสัยว่า ที่เขาทำอยู่มันคุ้มไหม
“มึงพร้อมจะเป็นของเล่นของกูแล้วนะ”