4 วาสนาแย่

1509 Words
“โทษทีนะ พี่คิดว่าจะเก็บให้ ไม่คิดว่าเราเองก็เร็วเหมือนกัน” ฟอร์มเอ่ยด้วยเสียงที่ฟังแล้วเหมือนไม่ได้รู้สึกผิดสักนิด "อืม...ค่ะ ไม่เป็นไรคะ" มือเล็กของเธอสั่นนิดๆ จนเธอเองยังรู้สึกได้ ฟอร์มเห็นปฏิกิริยานั้นเต็มๆ เขาไม่ได้พูดอะไร แต่แค่ยกยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจเท่านั้น เขาเก็บผ้าเช็ดหน้าสีชมพูขึ้นมา ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมา แตะปลายจมูกตัวเองเบาๆเหมือนสูดดมกลิ่น แล้วยื่นมันให้เธอช้าๆ "อืม...เอาไปสิ" ใบหน้าของเธอซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด เหมือนคนที่กำลังพยายามซ่อนความสั่นไหวไว้ แต่ซ่อนยังไงก็ไม่มิด การ์ตูนยื่นมือไปรับผ้าเช็ดหน้าจากเขา แต่ดันเผลอสบตาฟอร์มเข้าเต็มๆ แค่เสี้ยววินาทีสั้นๆเธอก็รีบหลบสายตาทันที “ขอบคุณค่ะ” เสียงเธอเบาเหมือนคนพยายามตั้งสติ มือเล็กคว้าผ้าเช็ดหน้ามากำไว้แน่นจนปลายนิ้วซีด เพื่อห้ามไม่ให้ตัวเองสั่นไปมากกว่านี้ เธอหมุนตัวแทบจะทันที แล้วเดินตรงไปที่ห้องน้ำเร็วกว่าเดิม ราวกับจะรีบเดินหนีออกจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด ฟอร์มมองตามแผ่นหลังบางนั้น พร้อมรอยยิ้มของเขาที่ปรากฏขึ้นช้าๆ เหมือนกำลังนนึกสนุกในใจ “หึ! สวยอย่างที่ไอ้ทรอยพูดจริงๆด้วย ทั้งสวยทั้งน่ารักขนาดนี้ ไม่น่าตกไปเป็นของไอ้ซีมันเลย วาสนาเธอนี่มันแย่จริงๆ” ฟอร์มพึมพำกับตัวเอง แววตาเข้มลุกวาว เหมือนคนเจอเป้าหมายที่ตัวเองตั้งใจจะเล่นสนุกด้วยยาวๆ แล้วรอยยิ้มบนมุมปากเขาก็ชัดขึ้น เป็นรอยยิ้มที่ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยสักนิด "ทำไมใจเต้นแรงขนาดนี้กันนะ" มือเล็กของการ์ตูนยกขึ้นมาลูบเบาๆที่หน้าอกของตัวเอง พร้อมมองใบหน้าที่เธอยังดูออกว่ามันแดงระเรื่อขึ้น ราวกับคนที่กำลังเขินอาย ทั้งที่เธอยังคงบอกตัวเองว่า 'ฉันแค่ตกใจ ฉันไม่ได้ตื่นเต้นอะไรทั้งนั้น' ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามบอกกับตัวเองแบบนั้น แต่ก็ยังอดคิดถึงสายตาที่เข้าจ้องมองไม่ได้ "ไม่ๆๆๆ พอๆๆๆ เลิกคิดอะไรบ้างซักทีการ์ตูน" เธอสะบัดหัวบอกกับตัวเองให้ลบภาพเมื่อสักครู่ออกให้หมด ก่อนที่เธอจะเดินเข้าห้องน้ำไป @บ้านน้าวรรณ “น้าวรรณคะ น้าวรรณ” การ์ตูนเรียกคุณน้าพร้อมกวาดสายตามองไปรอบๆ ไม่นานนักน้าวรรณก็เดินออกมาจากในครัว เช็ดมือกับเอี๊ยมลวกๆ ก่อนจะมองหลานสาวด้วยสีหน้าแปลกใจ “อ้าวตูน วันนี้ทำไมได้มาหาน้าล่ะลูก” การ์ตูนยิ้มบางๆ ยกกล่องทุเรียนพรีเมี่ยมขึ้น “หนูเห็นว่าน้าวรรณชอบกินทุเรียน หนูก็เลยซื้อทุเรียนมาฝากค่ะ” กล่องนั้นดูหรูจนน้าวรรณก็ดูออกว่ามาจากร้านดัง ราคาไม่น้อย แต่สำหรับการ์ตูน มันคือปกติ ชีวิตเธอถูกความสูญเสียปูทางให้กลายเป็นเจ้าของสมบัติทั้งหมดของพ่อแม่ ทั้งบ้าน ที่ดิน เงินฝาก ประกัน ทุกบาททุกสตางค์ตกเป็นของเธอหมด แต่ความร่ำรวยนั้น ไม่เคยทดแทนความอบอุ่นที่ขาดหายไปได้เลย หลังจากที่พ่อและแม่ของเธอจากไปด้วยอุบัตเหติในครั้งนั้น เธอก็ไม่เคยมีความสุขอีกเลย แถมเธอยังคิดโทษตัวเองว่าเป็นเพราะเธอ ทำให้พ้่อและแม่ของเธอต้องตายจาก หลังจากที่ทั้งคู่กำลังเดินทางมารับเธอที่โรงเรียน แต่มาไม่ถึงและท่านทั้งสองก็ได้จากเธอไป แบบเธอไม่มีวันได้เจอท่านทั้งสองอีกเลย น้าวรรณมองกล่องนั้นแล้วถอนหายใจเบาๆ “ขอบใจมากนะลูก ที่จริงไม่ต้องลำบากเอามาให้ก็ได้ กว่าจะมาถึงก็มืดค่ำ ไหนจะต้องขี่รถกลับอีก น้าอดเป็นห่วงหนูไม่ได้ ยิ่งอยู่คนเดียวแบบนั้น น้าก็ไม่อยากให้หนูออกไปไหนมาไหนตอนมืดๆคนเดียวด้วย” การ์ตูนก็ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน “ไม่เป็นไรหรอกค่ะน้าวรรณ ในเมืองรถเยอะค่ะ ถนนที่นั่นไม่ได้เปลี่ยวเหมือนที่นี่นะคะ น้าวรรณไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ หนูดูแลตัวเองได้ค่ะ” การ์ตูนพูดพร้อมทั้งยิ้มบางส่งให้ เพราะความจริงคือเธอไม่ได้แข็งแรงอย่างที่พูดเลย “ถึงจะแบบนั้นก็เถอะ ยังไงน้าก็ยังเป็นห่วงอยู่ดีนะลูก” น้ำเสียงน้าวรรณอ่อนโยนปนเหนื่อยใจ แบบคนที่รักหลานมากเกินกว่าจะอดเป็นห่วงได้ “ค่ะ น้าวรรณ” การ์ตูนตอบเบาๆแต่ก็ยังยิ้มให้ เหมือนอยากให้คนตรงหน้าสบายใจขึ้นสักนิด “พอดีเลย วันนี้น้าทำกับข้าวเสร็จพอดี อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนนะลูก” คำชวนพร้อมกลิ่นกับข้าวจากครัวลอยมาแตะจมูก ทำให้บ้านหลังนี้รู้สึกเหมือนที่พักใจที่เธอคิดถึงอยู่เสมอ “ได้ค่ะ แต่ว่าไม่เป็นห่วงเรื่องที่หนูจะต้องกลับคอนโดดึกดื่นแล้วเหรอคะ” การ์ตูนหัวเราะเบาๆ น้ำเสียงแซวนิดๆ น้าวรรณหันมายิ้ม “ก็ห่วงนั่นแหละลูก แต่น้าก็อยากให้หนูได้กินข้าวกับน้าก่อนนี่นา” การ์ตูนพยักหน้าเข้าใจ ก่อนถามต่อ “แล้วพี่แก้มกับน้าชายล่ะคะน้าวรรณ” เธอกวาดตามองรอบบ้าน หวังจะเห็นใครสักคน แต่ก็ไม่มีใครอยู่เลยนอกจากน้าวรรณ น้าวรรณตอบพลางเช็ดโต๊ะไปด้วย “พี่แก้มอยู่บนห้องเขานั่นแหละลูก พี่เขาเพิ่งกลับมาเมื่อไม่นาน คงกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ ส่วนน้าชายยังไม่กลับเลย เห็นว่าวันนี้มีงานด่วน น่าจะกลับช้าน่ะลูก เพราะปกติถ้ามีงานด่วนเข้ามาแบบนี้ก็จะได้กลับช้าตลอด” "อ้าวแล้วแบบนี้นะวันไม่หล่อนะชายกินข้าวด้วยหรอคะ" "น้าชายไม่กลับง่ายหรอกลูก ดึกนู้นแหละเรากินกันก่อนเลย" พูดจบน้าวรรณก็เดินกลับเข้าไปในครัว เสียงหม้อกระทบกันเบาๆ ทำให้บรรยากาศบ้านยิ่งรู้สึกอุ่นและคุ้นเคย “งั้นให้หนูช่วยนะคะน้าวรรณ” การ์ตูนพูดพลางเดินเข้ามาในครัว กลิ่นกับข้าวหอมๆลอยอบอวลไปทั่ว เธอเอื้อมมือหยิบจานจากชั้นวางตั้งใจจะช่วยจัดโต๊ะเหมือนทุกครั้งที่แวะมาบ้านหลังนี้ แต่ยังไม่ทันได้จับอะไรจริงจัง น้าวรรณก็รีบหันมา “ไม่ต้องหรอกลูก แค่นี้เอง เดี๋ยวน้าทำเอง” น้ำเสียงของน้าวรรณทั้งห่วง ทั้งเอ็นดู จนถึงขั้นดึงจานในมือเธอออกไปอย่างเบามือ ราวกับเกรงว่าหลานสาวจะเหนื่อยเอา การ์ตูนหัวเราะเบาๆ แต่ก็ยอมปล่อยให้น้าดึงจานไปโดยง่าย เธอรู้ดีว่าน้าวรรณเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เธอยังเด็ก คอยหวง คอยห่วง คอยเอาอกเอาใจ จนถึงตอนนี้เหมือนเธอยังเป็นเด็กห้าขวบ ที่วิ่งตามแม่ไปเรียนเปียโน ถึงจะโตเป็นสาวในวัยที่เข้ามหาลัยแล้ว น้าวรรณก็ยังมองเธอเป็นหนูตูนตัวเล็กๆคนเดิม "หนูไปนั่งรอน้าที่โต๊ะเถอะลูก ในครัวมันเหม็น เดี๋ยวกลิ่นอาหารจะติดชุดนักศึกษาไปด้วย" "แต่หนูอยากช่วยนี่คะ" การ์ตูนยังคงดื้อดึงขอช่วย "ไม่ต้องหรอกลูก มันจะเลอะเอา" น้าวรรณเหลือบมองหลานด้วยสายตาแสนอ่อนโยน ความทรงจำล้นออกมาเต็มอก การ์ตูนเคยเป็นคุณหนูตัวจิ๋วของบ้านเศรษฐี คนที่พ่อแม่รักจนแทบจะวางเธอไว้บนฝ่ามือ พ่อของเธอรวยและใจดี ส่วนแม่ของเธอก็เป็นผู้หญิงธรรมดา แต่โชคดีเหลือเกินที่ได้คนรักดีอย่างนั้น ทั้งคู่รักกันจนคนรอบข้างยังอิจฉา ช่วงที่พ่อของการ์ตูนต้องไปทำงานต่างประเทศ น้าวรรณนี่แหละที่คอยช่วยเลี้ยงดูเธอตามคำขอของแม่ เด็กตัวเล็กๆที่มีแก้มป่องๆยิ้มหวานๆ จนใครก็เอ็นดู เด็กคนที่เคยวิ่งมาเกาะเอวเธอทุกครั้งที่กลัวฟ้าร้อง ตอนนี้โตเป็นสาวสวยนุ่มนิ่มจนใครเห็นก็ต้องเหลียวมอง แต่สำหรับน้าวรรณการ์ตูนก็ยังเป็นเด็ก ที่เธอหวังจะคอยดูแลไปตลอดอยู่ดี "ก็ได้ค่ะ" หลานสาวแสนสวยตอบพร้อมหน้ามุ่ย แต่ก็ยังไม่วายที่จะยื่นมือเข้าไปถือถ้วยในมือของน้า แล้วเดินตรงไปที่โต๊ะอาหารทันที ไม่รอให้น้าวรรณได้พูดอะไรต่อ "เฮ้ออออ เจ้าเด็กคนนี้นิ" น้าวรรณยิ้มให้แบบที่เต็มไปด้วยความรักล้นใจ พร้อมทั้งส่ายหัวเบาๆอย่างเอ็นดู การ์ตูนยิ้มตอบ ทั้งอบอุ่น ทั้งรู้สึกเหมือนตัวเองปลอดภัยที่สุดในโลกใน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD