5 ครอบครัว

1492 Words
“ตูน!” เสียงของแก้มดังจากบันไดบ้าน น้ำเสียงสดใจปนตื่นเต้น จนการ์ตูนต้องหันขวับไปมอง ก่อนรอยยิ้มกว้างจะผุดขึ้นบนหน้าเธอทันที “พี่แก้ม” เธอลุกจากโต๊ะอาหารแล้วรีบเดินไปหาแก้มด้วยความดีใจ เหมือนเด็กที่ได้เห็นพี่สาวหลังจากห่างกันไปนาน การ์ตูนเดินเข้าไปกอดแก้มอย่างดีใจ จนแก้มเองก็อดหัวเราะไม่ได้ "มานานยัง" "ซักพักค่ะพี่แก้ม" “หื้อ~ จะมาทำไมไม่บอกพี่ก่อนล่ะตูน พี่จะได้ซื้อขนมโครกเจ้าที่ตูนชอบไว้ให้ไง” แก้มย่นจมูกใส่ด้วยความเอ็นดู ถึงการ์ตูนจะโตมาในบ้านที่ร่ำรวย อยู่อย่างสุขสบายมาตลอด แต่รสนิยมเรื่องการกินกลับธรรมดาแบบน่าเอ็นดูสุดๆ เธอไม่สนว่าร้านหรูหรือไม่ และไม่ได้สนใจว่าราคาจะถูกหรือแพง แค่ทำแล้วอร่อยเธอก็กินได้หมด โดยเฉพาะขนมโครกจากร้านในตลาดเล็กๆนั่น ลูกคุณหนูอย่างเธอก็ยังติดใจจนต้องซื้อกินอยู่บ่อยๆ การ์ตูนหัวเราะเบาๆแบบนุ่มนิ่ม “ตอนแรกหนูก็ไม่คิดว่าจะได้มาค่ะพี่แก้ม แต่พอดีหนูเห็นทุเรียนแล้วหนูคิดถึงทุกคนค่ะ หนูก็เลยซื้อทุเรียนมาฝากค่ะ” แก้มชะงักไปแว้บหนึ่งก่อนยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม รอยยิ้มที่บอกชัดว่ารักน้องสาวคนนี้ไม่แพ้แม่ของเธอเลย เธอยกมือมาลูบผมการ์ตูนอย่างเคยชิน “น่ารักตลอดเลยนะเรา ห่วงแต่คนอื่นห่วงตัวเองบ้างไหมเนี่ย" แก้มพูดพลางหัวเราะ แล้วคว้าแขนการ์ตูนไปนั่งด้วยกันบนโต๊ะอาหาร "ห่วงสิคะ~" ทั้งคู่ยิ้มพร้อมทั้งขำเล็กๆไปด้วยกัน บ้านทั้งหลังดูอบอุ่นขึ้นมาทันที เพราะมีการ์ตูนอยู่ตรงนี้ และเพราะทั้งน้าวรรณและแก้มรู้ดีว่าเด็กคนนี้ไม่ค่อยมีใครให้พึ่งอีกแล้ว ทั้งสามรวมกับน้าชายจึงคอยเป็นที่พึงพิงให้กับเธออยู่เสมอ “ลงมาแล้วเหรอลูก พอดีเลยมาทานข้าวพร้อมกัน” น้าวรรณเอ่ยพลางวางหม้อข้าวลงบนโต๊ะ ก่อนที่แก้มจะรีบเดินไปเปิดหม้อ แล้วตักข้าวยื่นให้ผู้เป็นแม่อย่างคล่องแคล่ว จากนั้นก็ตักให้อีกสองจาน หนึ่งจานสำหรับการ์ตูน อีกจานสำหรับตัวเอง ก่อนจะนั่งลงข้างน้องสาวตัวเล็กของบ้าน “พ่อยังไม่กลับมาเลยเหรอคะแม่” แก้มถามพลางมองไปทางหน้าบ้านที่ยังเงียบ “ยังเลยลูก เห็นบอกว่ามีงานด่วน วันนี้น่าจะกลับดึกน่ะแหละ” น้าวรรณตอบด้วยน้ำเสียงเหมือนพยายามไม่ให้เป็นห่วง แต่ความกังวลก็แอบซ่อนอยู่เต็มหัวใจ เพราะปกติจะกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันตลอด แต่มีพักหลังๆที่งานของสามีของเธอค่อนข้างเยอะ เขาจึงกับดึกอยู่บ่อยๆ “อืม…ช่วงนี้พ่อกลับดึกบ่อยมากเลยนะคะแม่” แก้มถอนหายใจเบาๆ “นั่นสิ แต่จะทำไงได้ล่ะลูก พ่อของเราก็ต้องดูแลลูกด้วยน้อง จะกลับตอนงานยังไม่เสร็จคงไม่ได้หรอก” น้าวรรณพูดพลางวางมือบนไหล่ลูกสาวเหมือนให้กำลังใจ แก้มหันมายิ้มให้แม่ “ไว้เงินเดือนหนูขึ้นเยอะๆ แล้วหนูจะไม่ให้พ่อต้องทำงานดึกแบบนี้อีกนะคะ” คำพูดนั้นทำให้การ์ตูนเงยหน้าขึ้นมองทั้งสองคนอย่างอบอุ่น เธอรู้ดีว่าในบ้านนี้ ทุกคนรักกันมากแค่ไหน ความผูกพันนี่แหละที่ทำให้เธอรักบ้านหลังนี้เหมือนบ้านของตัวเอง เธอวางช้อนลงเบาๆก่อนพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่ม “น้าวรรณคะ~ เงินที่หนูขายบ้านหลังในเมืองได้ หนูโอนให้น้าวรรณหมดแล้วนะคะ น้าวรรณกับน้าชายแล้วก็พี่แก้ม จะได้ไม่ต้องทำงานหนักกันอีก” คำพูดนั้นเหมือนหยุดชะงักค้างไปทั้งโต๊ะในทันที “ฮะ!! อะไรนะหนูตูน” น้าวรรณชะงักค้าง เหมือนร่างกายหยุดทำงานไปชั่วครู่ ไม่คาดคิดเลยว่าป้ายประกาศขายบ้านที่การ์ตูนติดไว้วันนั้น จะมีเจตนาแบบนี้ ส่วนแก้มก็อ้าปากค้างเช่นกัน ดวงตากลมโตกว้างขึ้นด้วยความตกใจ “การ์ตูนหมายความว่าไงอ่ะ” บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเงียบไปฉับพลัน ราวกับทุกเสียงในบ้านหายไปหมด มีเพียงสายตาตกใจสองคู่ที่จ้องการ์ตูน และหัวใจของการ์ตูนที่เต้นสม่ำเสมอ แบบคนตัดสินใจเรื่องนี้มานานแล้ว ไม่ใช่แค่ชั่ววูบ "หนูขายบ้านในเมืองแล้วค่ะ เหลือแค่บ้านหลังที่อยู่เชียงรายที่หนูยังเก็บไว้อยู่ค่ะ เผื่อว่าอนาคตหนูอยากจะไปอยู่ที่นู่น" นี่ไม่ใช่ความใจดีฉาบฉวย มันคือความรักที่เธออยากตอบแทนกลับไปด้วยทั้งหมดที่เธอมี น้าวรรณนิ่งไปพักใหญ่ ก่อนส่ายหน้าเบาๆด้วยสีหน้าทั้งตกใจยังไม่หาย “น้าบอกว่าไม่ต้องขายไงลูก บ้านหลังนั้นน้าคิดว่าควรเก็บไว้ พอหนูโตอีกหน่อย หนูก็จะได้กลับไปอยู่ที่นั่น มันเป็นบ้านของพ่อแม่หนูนะลูก” การ์ตูนยิ้มเศร้าๆ สายตาละมุนลงทันทีที่พูดถึงคนที่เธอรักที่สุดสองคน “หนูคิดว่าขายน่าจะดีกว่าค่ะ อยู่คอนโดมันสะดวกกว่า อีกอย่างถ้าหนูอยู่บ้านนั้นคนเดียว หนูก็จะคิดถึงคุณพ่อกับคุณแม่มากขึ้น หนูไม่อยากติดอยู่ในความเศร้าแล้วค่ะน้าวรรณ” คำตอบของเธอทำเอาน้าวรรณพูดไม่ออกไปครู่หนึ่ง เธอรู้ดีว่าบ้านหลังนั้นมีทุกความทรงจำของการ์ตูนอยู่เต็มไปหมด ทั้งเสียงหัวเราะ ทั้งน้ำตา ทั้งภาพครอบครัวที่ไม่มีวันได้กลับมาเหมือนเดิมอีกแล้ว “แล้วทำไมหนูไม่เก็บเงินไว้เองล่ะลูก” น้าวรรณถามเสียงแผ่ว การ์ตูนส่ายหน้าเบาๆ “ไม่ดีกว่าค่ะ หนูอยากให้น้าวรรณและทุกคนได้ใช้ค่ะ ถือเป็นการตอบแทนที่น้าวรรณเลี้ยงดูหนูมาด้วยค่ะ” แก้มรีบเสริมขึ้นทันที “แต่เงินนั่นมันเยอะไปนะตูน พี่กับพ่อก็ยังทำงานได้ ไม่ได้เดือดร้อนอะไรถึงขนาดต้องให้ตูนมาช่วยขนาดนี้นะ” การ์ตูนเงยหน้ามองพี่สาวด้วยสายตาใสเหมือนเดิม แต่อุ่นจนคนมองใจอ่อน “รับไว้เถอะนะคะพี่แก้ม น้าวรรณ หนูเก็บไว้ก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร ทุกอย่างที่พ่อกับแม่ทิ้งไว้ให้มันมากพอแล้วค่ะ หนูไม่ต้องการอะไรมากกว่านี้เลย” น้าวรรณยกมือขึ้นมาลูบหัวของการ์ตูนด้วยความรัก “โธ่ลูก~” เธอขยับเข้ามากอดการ์ตูนทันที ทั้งน้ำตาทั้งเสียงสะอื้นซ่อนอยู่ในอ้อมกอดนั้น หัวใจของคนเป็นน้าเจ็บและอ่อนยวบไปพร้อมกัน เธอไม่อยากให้หลานต้องโตมาพร้อมความสูญเสีย แต่ก็ภูมิใจเหลือเกินที่หลานคนนี้มีหัวใจงดงามแบบนี้ “พี่ขอบใจมากนะการ์ตูน” แก้มเดินเข้ามาใกล้ “แต่ถึงแบบนั้น พี่ก็จะให้แม่เก็บเงินก้อนนี้ไว้แทนเรา เผื่อในอนาคตตูนต้องใช้เงินหรือเจออะไร จะได้มีสำรอง ไม่ลำบากเข้าใจไหม” การ์ตูนพยักหน้า ยิ้มทั้งน้ำตา “ค่ะพี่แก้ม ขอบคุณนะคะที่รักและเอ็นดูหนู” แก้มยิ้มกลับทันที “ก็เราเป็นน้องของพี่นี่นา จะไม่ให้พี่รักได้ไงกันล่ะ” แล้วเธอก็เข้ามากอดการ์ตูนแน่นๆอีกคน แล้วเธอก็ซ้อนตามอ้อมแขนของผู้เป็นแม่ ทั้งสามคนกอดกันกลางห้องกินข้าว เหมือนความเจ็บปวดในใจของการ์ตูน ค่อยๆละลายหายไปทีละนิด "รักกันนะลูก ทั้งสองขอให้รักกันห่วงใยกันตลอดไปนะลูก น้าดีใจที่หนูเติบโตมาเป็นคนดีนะการ์ตูน สมกับที่แม่ของหนูเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดีจริงๆ" น้าวรรณยกหลังมือปาดน้ำตาเบาๆ ก่อนจะสูดลมหายใจ เหมือนอยากให้บรรยากาศกลับมาอบอุ่นเหมือนเดิม เธอมองลูกสาวที หลานสาวที แววตาเต็มไปด้วยความรักล้นจนแทบล้นออกมา "ค่ะน้าวรรณ" “กินข้าวกันเถอะลูก เดี๋ยวการ์ตูนจะกลับดึก” น้ำเสียงนั้นอ่อนโยนและอบอุ่น แก้มเองก็ยิ้มบางๆก่อนจะปล่อยอ้อมกอดแล้วจัดจานข้าวให้การ์ตูน ส่วนการ์ตูนก็ยกยิ้มตอบแก้มกับน้าวรรณ แบบนุ่มนิ่มเหมือนเด็กดีของบ้าน เธอนั่งลงอีกครั้งมือเล็กประคองช้อน น้าวรรณนั่งลงข้างๆ พร้อมตักกับข้าวให้หลานอย่างเคยเป็นนิสัย แก้มก็ดันจานปลาให้การ์ตูน ทั้งคู่ดูแลเธอเหมือนเธอยังเป็นเด็กสิบขวบยังไงอย่างงั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD