เมื่อเขาหมดความเสน่หาก็ไม่ต่างจากหมาถูกทิ้ง เธออยู่ในความลับเพื่อยังรักษาความสัมพันธ์เพียงชั่วคืนไว้
ใช่เธอหลงรักเขา!
ซึ่งมันนอกเหนือจากข้อตกลงของเราสองคน
เสียงจูบเคล้ากับเสียงครางของสองร่างที่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันบนเตียงในโรงแรมหรู The PP Grand Hotel ที่เป็นห้องชั้นบนสุดที่เธอต้องคอยไปทำความสะอาดหลังเลิกงาน ซึ่งเป็นหน้าที่รับผิดชอบของเธอ ที่พศินให้เธอมีหน้าที่รับผิดชอบนอกเหนือจากงานหลัก โดยมีคำสั่งจากเบื้องบนที่ชั้น 40 สั่งมาอีกที
ร่างกายใหญ่สอดเข้าประสานกับร่างเล็กหนักหน่วงราวกับหิวกระหายมาเสียเต็มประดา มือหนาบีบเคล้นเต้าตึงอวบของเธอราวกับจะขยี้เธอให้แหลกคามือ
‘เขาเป็นอะไร ทำไมอารมณ์รุนแรง’
หญิงสาวต้องทนร่วมรักกับเขา ที่แม้ว่าจะหนักหน่วงเพียงใด แต่เธอก็โหยหาร่างกายของเขาไม่แพ้กัน เพียงแค่
ภีรภาคย์สะกิด ก็ทำให้เธอพร้อมสำหรับเรื่องบนเตียงกับเขา
“อื้ม...อ๊ะ...!” เสียงครางอย่างเจ็บปวดเมื่อเขาดันเข้ามาอย่างรุนแรง ก่อนจะดึงอุปกรณ์ป้องกันออกทิ้งไปยังพื้นแล้วก็ดันเข้าลึกสุดใจกลางสาวพร้อมกับครางเสียงดังลั่น ปลดปล่อยอารมณ์ออกมาอย่างสุดเหวี่ยง เมื่อเขาเสร็จในยกที่หนึ่งของวันนี้แล้ว
เสียงหวานของเหมือนดาวกรีดร้องตามเขาไปติด ๆ เมื่อลาวาสีขาวขุ่นไหลเข้าไปภายในร่องรัก แล้วมันก็ขมิบตอดสั่นระรัว ราวกับต้องการให้เข้าลึกขึ้นไปอีก
มือเรียวจิกเล็บเข้าที่ท่อนแขนของเขาจนเกิดรอยเล็บ แต่ทว่าก็หาได้เจ็บปวดไม่ แค่มันกระตุ้นแรงปรารถนาอย่างเปี่ยมล้นในการเริ่มร่วมรักที่เร่าร้อนในรอบต่อไป
เขาสาวแก่นกายที่อ่อนได้เพียงชั่วอึดใจ และกลับมาแข็งในเวลาที่รวดเร็ว เข้าออกตามอารมณ์ และมองห่อฟอยล์สีเงินที่อยู่ด้านข้างอย่างไม่ใยดี
เขาต้องการเอาสดกับเธอในวันนี้ เพราะความเครียดกับเรื่องงาน และต้องปลดปล่อยในร่างเล็กให้หายเครียด
ร่างใหญ่ปล่อยให้สัญชาตญาณนำทาง แม้เอวจะเคลื่อนเข้าออกอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าริมฝีปากหนาก็ครอบครองริมฝีปากของเธอ บดขยี้จนกลิ่นคาวเลือดนั้นคละคลุ้งในปาก สองมือสามัคคีเคล้นคลึงเต้าอวบแรง ๆ อย่างหมั่นเขี้ยว เพราะยามเธอใส่ชุดยูนิฟอร์มพนักงาน มันโดดเด่นนำหน้าไปเสียหมด
ส่วนช่องทางที่แสนคับแคบนั้นก็ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี กว่าหนึ่งปีที่เขาได้ร่วมรักกับเธอ มันไม่ได้ทำให้หลวมเลยสักนิด ทั้งยังฟิตเสมออีกต่างหาก
ร่างกายเล็กสั่นระริกในอ้อมกอดของเขา เธอกัดฟันขบเข้าที่หัวไหล่แกร่งอย่างรุนแรง เพื่อระบายความเสียดเสียวที่กำลังเกิดขึ้น
หน้าท้องที่แบนราบรับกับเอวคอดกิ่วส่ายไปมาด้วยความซาบซ่านและแอ่นหยัดขึ้นรับการกระทำที่รุนแรงจากเขา
วันนี้เขาปรนเปรอเธอจนแทบสำลักในความสุข เสียงหอบหายใจของหญิงสาวนั้นไม่ได้ทำให้เขาปราณีเลยสักนิด ลำกายที่แข็งแกร่งเสียดสีเข้าออกแบบเนื้อแนบเนื้อจนในที่สุดเขาก็ปลดปล่อยลงมาอีกครั้ง
“ฮึก...อื้อ....!” เธอได้แต่ครางในลำคอในช่วงสุดท้ายของยกที่สอง เพราะเขาตะโบมจูบลงมาขบขยี้เธอจนปากบวมเจ่อ
สองลิ้นกระดกรัดพัวพันกันอย่างรวดเร็ว จนเธอต้องใช้ลมหายใจร่วมกับเขา เพราะรู้สึกเหมือนจะขาดใจกับรสจูบ
ยามนี้เธอไม่มีแม้เรี่ยวแรงจะเดิน สองขาอ่อนแรงราบไปกับพื้นเตียงนอนนุ่มเป็นที่สุด แต่เมื่อเขาได้เธอสมใจอยาก ก็ถอดถอนออกจากร่างกายของเธอทันที
“ฮึก...!” ร่างเล็กเสียววาบที่ช่องท้องแล้วก็มองดูเขาติดกระดุมเสื้ออย่างรวดเร็วราวกับมีธุระด่วน
“จะกลับเลยเหรอคะ” เธอถามเขา
“อืม...ผมจะกลับแล้ว”เขาพ่นลมหายใจก่อนจะตอบเธอออกไปอย่างรู้สึกรำคาญ
“ขับรถดี ๆ นะคะ” ร่างเล็กเหยียดกายลุกขึ้น ขณะที่ยังเปล่าเปลือยบอกส่งเขา แม้ในใจจะรู้สึกเจ็บแปลบเพียงใด แต่สถานะคนในความลับก็ไม่อาจจะเปิดเผยตัวตนออกมาได้ หรือแม้แต่แสดงความรู้สึกต่อหน้าเขา
“แล้วก็รีบกลับบ้านอย่ามัวโอ้เอ้” เขาสั่งจบก็ออกไป ทิ้งให้เธอกลับเองแบบนี้เป็นประจำอยู่แล้ว
เหมือนดาวมองดูแผ่นหลัง ที่เธอเพียงได้สัมผัสเขาเป็นเวลาสั้น ๆ ในทุกวันหรือทุกครั้งที่ต้องการ ด้วยแววตาหม่นเศร้า
แม้ทุกครั้งจะจบแบบนี้ แต่เธอเลือกที่จะตกลงกับเขาเอง เพียงเพื่ออยากทำงานที่นี่ แต่ช่วงหลังมันไม่ใช่แค่นั้นหรอก ที่เธอยอมทน แต่เป็นเพราะ ‘เธอรักเขา’ เข้าเสียแล้ว และถอนตัวถอนใจออกจากเขาไม่ได้แล้ว
เมื่อนึกถึงวันแรกที่ตกลงจะทำงานที่นี่
“คุณยินยอมทำตามใจผมหรือเปล่า หากยอมพรุ่งนี้คุณเริ่มงานได้เลย แต่ต้องพ่วงด้วยหน้าที่พิเศษ”
“พิเศษยังไงคะ”
“นอนกับผมตามที่ผมต้องการ”
“นะ...นอน...เหรอคะ” ไม่เคยรู้ว่าวงการที่ใช้เต้าไต่มีอยู่ทุกที่ แต่ทว่าแค่เป็นเพียงพนักงานต้อนรับส่วนหน้าในโรงแรมของเขา เธอต้องยอมแลกตัวเลยหรือ หากไม่เป็นเพราะเงินของเธอเพียงพอจะประทังชีวิตอยู่ได้อีกเพียงเดือนเดียวละก็ เธอไม่มีวันตัดสินใจแบบนี้เด็ดขาด
“แล้วฉันต้องทำยังไงบ้างคะ”
“ง่าย ๆ แค่ห้ามท้องเพื่อจับผม คุณคือคนในความลับ และห้ามทุกคนรู้”
คำพูดนี้เธอพยายามท่องมันให้ขึ้นใจ แล้วก็จำใส่สมองเอาไว้ว่า พื้นที่ของเธอก็แค่บนเตียงในห้องนี้เท่านั้นอย่าเผยอขึ้นไปยืนเคียงข้างเขาบนชั้นสูงสุด มันไม่ใช่ที่ของเธอ
‘เขาไม่เคยรักเธอ จำเอาไว้’
เธอเก็บร่างอันร้าวราน เก็บหัวใจที่บอบช้ำ แล้วพาตัวเองไปอาบน้ำชำระร่างกายและแต่งตัวในชุดพนักงาน ติดเข็มกลัดที่หน้าอก ที่เป็นชื่อตัวเองภาษาอังกฤษลูบมันอย่างแผ่วเบา แล้วก็จัดแต่งทรงผมให้เหมือนตอนที่เข้ามาทำความสะอาดห้องนี้
แน่นอนว่าสิ่งที่เธอต้องทำก่อนไป คือเก็บถุงยางที่เขาดึงทิ้งไว้เกลื่อนพื้นใส่ถังแล้วรวบไปทิ้งรวมกันที่ห้องขยะ
วันนี้เธอแทบหมดแรงยืน แต่ก็ต้องรวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายเพื่อกลับบ้าน ตลอดทางเธอคิดเรื่องระหว่างเธอและเขา ภีรภาคย์ คุณากร กับพนักงานระดับล่างที่เขาไม่เคยเห็นความสำคัญอื่นใดนอกจากเรื่องเซ็กส์อย่างเธอ
ข้อแลกเปลี่ยนแค่ได้งาน ก็คือแค่ได้งานจริง ๆ เธอปฏิเสธการรับของจากเขาทั้งหมด และขออยู่ในที่ของเธอ เธอหึงไม่ได้ หวงไม่ได้ แสดงตัวไม่ได้ อยู่เหมือนเป็นอากาศในชีวิตของเขา
เธอไม่ได้ขึ้นรถเมย์กลับ แต่เลือกที่จะเดินไปเรื่อย ๆ ระยะทางจากที่ทำงานถึงบ้านก็ห้ากิโล เธอเดินแล้วไปหยุดอยู่ที่ป้ายรถเมย์หนึ่ง แล้วนั่งลงปล่อยน้ำตาให้มันไหลลงมา
ไม่รู้ชีวิตเธอต้องเจอกับเรื่องราวที่อึดอัดกว่านี้อีกไหม เธอระบายให้ใครฟังก็ไม่ได้ หันหน้าไปหาใครก็ไม่ได้ มีเพียงพศินที่รับรู้สถานะของเธอและคนบนห้องนั้น
หากถามว่าอยากจบไหม ตอบได้คำเดียวว่าไม่ เธอต้องการมีเขาอยู่ แต่ทว่าวันหนึ่งเมื่อมาถึง เธอก็ต้องไปอยู่ดี
เสียงร้องครางอิ๋ง ๆ พร้อมกับหางที่สะบัดไปมา นั่นทำให้เธอตื่นจากภวังค์
“สีนิล...บอกแล้วใช่ไหมไม่ให้มารับ” สีนิลเป็นหมาที่เธอเก็บไปเลี้ยงด้วยความสงสาร เพราะโชคชะตาของมันเหมือนกับเธอไม่มีผิด
พ่อทอดทิ้งเธอและแม่ไปมีครอบครัวใหม่ และไม่ติดต่อกลับมาอีกแล้ว ส่วนแม่ก็เพิ่งทอดทิ้งให้เธออยู่ลำพังไม่นาน เนื่องจากป่วยกระเสาะกระแสะ จนสุดท้ายแม่ก็สิ้นลม
กว่าจะมีวันนี้ได้เธอผ่านเรื่องราวมามากมาย และไม่ง่ายที่จะต้องอยู่คนเดียว
สีนิลเหมือนเป็นเพื่อนระบายความทุกข์ของเธอ มันคอยอยู่ข้าง ๆ และรับฟังเธอทุกอย่าง ยามเธอเศร้ามันก็จะเอาคางมาเกยที่ตัก เหมือนอยากให้รับรู้ว่าเธอยังมีมันอยู่นะ
“กลับบ้านเรากันนะสีนิล คนถูกทิ้งหนึ่งคน กับหมาหนึ่งตัว” เธอหันมายิ้มให้มันทั้งน้ำตา แล้วก็เดินเป็นเพื่อนมันไปเรื่อย ๆ จวบจนถึงบ้าน
เธอเทอาหารให้มัน และนั่งมองมันกินจนหมด จากนั้นเทน้ำให้มันกินต่อ ทั้งยังนั่งลูบหัวหลังจากกินข้าวเสร็จแล้วจนมันหลับไป
เธอมองบ้านหลังเล็กที่ทรุดโทรมแล้วก็ต้องถอนหายใจ ดีที่แม่ยังมีบ้านให้เธอได้อยู่ ไม่อย่างนั้นคงได้นอนข้างถนนเหมือนกับสีนิลในวันนั้น