ตอนที่18

1196 Words
อีกทางด้านหนึ่ง เขาจ้องมองภาพของหญิงสาวชาวไทย เจ้าของรูปร่างเล็กบอบบาง ซึ่งกำลังเดินขึ้นไปยังอพาร์ทเม้นต์ที่เจ้าหล่อนเช่าเอาไว้ ข้างกายเธอในยามนี้มีกระเป๋าเดินทางใบขนาดกลางสีสันสดใสวางอยู่ข้างๆ ในระหว่างที่เจ้าหล่อนก้มหน้าควานหาของจากในกระเป๋าสะพายใบโต เขามีหน้าที่จับตามองเจ้าหล่อนมานานหลายเดือนแล้ว และเมื่อไม่นานมานี้เขาก็เพิ่งได้รับคำสั่งมาใหม่ แน่นอนว่าทุกอย่างถูกกำหนดโดย ‘เจ้านาย’ ของเขาทุกขั้นตอน และเป็นทุกขั้นตอนที่จะต้องไม่เกิดความผิดพลาด! “เธอถึงบ้านแล้วครับ” เขาโทรรายงานคนเป็นเจ้านายหลังจากที่มองร่างเล็กของหญิงสาวหายเข้าไปในตัวอาคารเรียบร้อย “เราจะทำยังไงต่อดีครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามเพื่อขอความคิดเห็นจากอีกฝ่าย สิ้นคำถามของเขา ความเงียบก็ก่อกำเนิดขึ้นอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนที่คนเป็นเจ้านายจะออกคำสั่งแก่เขาว่า “เอาตัวเธอมาให้ฉัน” “ครับ…ท่าน...” เขารับคำเป็นครั้งสุดท้าย ปลายสายเป็นฝ่ายตัดการติดต่อเอง แล้วจากนั้นเขาจึงเป็นฝ่ายติดต่อหาลูกน้องของเขาบ้างเพื่อทำตามคำสั่งของคนเป็นเจ้านาย ชลธิณาโทรศัพท์ติดต่อชลนรรจ์ในทันทีที่ปิดประตูห้องพักของตนเอง และเมื่ออีกฝ่ายรับสายหญิงสาวก็รายงานตัวต่อไปในทันทีว่า “นานาถึงแล้วนะนัท หายห่วงแล้วนะ” “ดีแล้ว” น้ำเสียงของปลายสายเต็มไปด้วยความโล่งใจ “ทางนี้เราล่ะโกรธอีเลียนมากเลย สุดท้ายดันไม่มีเรื่องด่วนอะไร ไม่รู้ตอนแรกมันจะแตกตื่นรีบกลับจนต้องเลื่อนไฟลท์ทำไม ทั้งๆ ที่เรายังมีเวลาตั้งอาทิตย์จะได้ไปอยู่กับนานา” เขาบ่น เพราะตนเองต้องรีบควานหาตั๋วใหม่ด่วนเพื่อกลับบอสตัน ทิ้งให้ชลธิณาที่ตามกำหนดเดิมคือกลับในวันนี้ ซึ่งก็คือตามหลังเขาหนึ่งวันต้องอยู่ที่ลาสเวกัสกับเอวิลีนเพียงลำพังสองสาว ทำเอาเขาทั้งห่วงทั้งกังวลไปสารพัดตามประสาคนขี้หวง “ไม่เป็นไรหรอกน่า นานาอยู่ได้” หญิงสาวบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนใจกับความ ‘หวงเวอร์’ ของแฝดหนุ่ม ที่ไม่ว่าอย่างไรก็คิดแต่ว่าเธอยังเด็กอยู่เสมอ ทั้งๆ ที่อายุเท่ากันแท้ๆ “ไม่รู้สิ” ชลนรรจ์บอกออกมาด้วยน้ำเสียงที่มีเค้าของความไม่สบายใจ “เราห่วงนานามากเลยนะช่วงนี้” ไม่รู้เป็นอย่างไร ตั้งแต่แยกกันแล้วชลนรรจ์รู้สึกจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว กระวนกระวายคิดถึงแต่ฝาแฝดของตนเอง ห่วงใยเธอสารพัดเสียจนอธิบายไม่ถูก รู้สึกแต่มันหน่วงๆ อยู่ในหัวใจทั้งๆ ที่มันก็ไม่มีอะไรทั้งสิ้น ส่งผลให้เขาตามจิกหญิงสาวอยู่แทบจะทุกชั่วโมงจนเขาเองก็รู้ว่าชลธิณาชักจะเริ่มรำคาญขึ้นมาเต็มที “มันไม่มีอะไรหรอกน่านัท เชื่อนานาสิ” หญิงสาวย้ำอีกครั้ง และน้ำเสียงที่เริ่มขุ่นเล็กๆ ของเธอก็ทำให้ชลนรรจ์ได้แต่ยอมแพ้และเลิกที่จะเซ้าซี้หญิงสาวอย่างไร้เหตุผลเสียที “โอเค นานาพักผ่อนเถอะ เดินทางเหนื่อยๆ นัทไม่กวนแล้ว” เขาบอกด้วยน้ำเสียงที่พยายามตัดใจและทำใจให้สบาย และนั่นก็ทำให้ชลธิณามีน้ำเสียงดีขึ้นมากในตอนที่ตอบเขากลับไปว่า “จ้า นัทก็พักผ่อนด้วยนะ” “จ้ะ” ชลนรรจ์รับคำแล้วชลธิณาก็ไม่รอให้อีกฝ่ายบ่นอะไรออกมาต่อ หญิงสาวชิงตัดสายไปก่อน แล้วหลังจากนั้นเธอจึงหันมาลากกระเป๋าเดินทางใบเล็กของตนเองตรงไปยังโซฟาที่ตั้งอยู่มุมรับแขก เปิดประเป๋าออกเพื่อคัดแยกของข้างในนั้นออกมา อะไรของฝาก อะไรเสื้อผ้าที่เธอจะ ต้องนำไปซักแล้วจัดการคัดแยกมันให้เรียบร้อย ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงประตูที่ดังขึ้นทำให้ชลธิณาที่เพิ่งจะเก็บของเสร็จพอดีชะงักเท้าที่กำลังจะเดินเข้าไปในห้องนอนของตนเองเปลี่ยนมาเป็นเปิดประตูเพื่อดูว่าใครคือคนที่มาพอดี “สวัสดีค่ะ” หญิงสาวเอ่ยทักทายอีกฝ่ายผ่านประตูที่แง้มเอาไว้ ฝ่ายผู้มาเยือนจ้องเธอตาเขม็ง สีหน้าของเขาราบเรียบในตอนที่ย้อนถามเธอกลับว่า “คุณคือคุณนานาใช่ไหม” “ค่ะ” หญิงสาวตอบรับ และเพียงเท่านั้นฝ่ายนั้นก็ผลักประตูเข้ามาในทันที “เอ๊ะ! พวกคุณเป็นใคร” เธอแหวถามเขาด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก เริ่มรู้สึกว่าตัวเองตัดสินใจผิดพลาดที่เปิดประตูให้คนพวกนี้ แม้ว่าจะแง้มเอาไว้ก็ตามแต่เธอก็สู้แรงของพวกเขาไม่ได้ “พวกเรามีธุระกับคุณนิดหน่อย” ผู้ชายสองคนที่อยู่ในชุดแบล็กไท ท่าทางดูสุภาพเรียบร้อยจนเธอเกิดความไว้ใจว่าไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็เอ่ยขึ้นมา แต่เพราะพฤติกรรมอุกอาจของพวกเขาเมื่อครู่ก็ทำให้หญิงสาวไม่กล้าเข้าใกล้ ได้แต่ถอยห่างอย่างหวาดระแวง “แต่ฉันไม่รู้จักคุณ” เธอปฏิเสธเสียงแข็ง แล้วตั้งท่าจะไล่พวกเขาออกไป หากหนึ่งในนั้นกลับเอ่ยขึ้นมาเสียก่อน “ไม่เป็นไรหรอก...แค่เรารู้จักกับคุณก็พอ” “เอ๊ะ!” ชลธิณาร้องอย่างขัดใจ แต่แล้วในชั่ววินาทีนั้น หนึ่งในสองก็เข้ามาประชิดตัวเธอ หญิงสาวดิ้นรนทว่าไม่อาจหลุดพ้นเมื่อพวกเขาโปะผ้าสีขาวลงบนปากและจมูกของเธออย่างรวดเร็วโดยที่หญิงสาวไม่ทัน ตั้งตัว และแม้จะพยายามต่อสู้เพื่อเอาตัวรอดมากเพียงใดแต่ก็เป็นการต่อสู้อันไร้ค่า เพราะไม่กี่วินาทีต่อมาเธอก็ไม่รับรู้อะไรอีกต่อไป... ชลธิณาสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เมื่อเริ่มรู้สึกตัวแล้ว เธอกวาดตามองเพดานสีครีมด้วยความมึนงงและยังจับต้นชนปลายอะไรไม่ถูก ก่อนจะเริ่มสำนึกว่าครั้งสุดท้ายก่อนที่เธอจะรับไปนั้นเกิดอะไรขึ้นกับตนเองกันแน่ หญิงสาวผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะต้องทิ้งตัวลงกับหมอนตามเดิมเพราะอาการมึนหัวที่เกิดขึ้นในเสี้ยววินาทีนั้น เธอยังไม่หายดีจากอาการมึนยาสลบ และในสายตาอันพร่าเลือน เธอเห็นเงาตะคุ่มของใครสักคนยืนมองเธอจากปลายเตียง และจากรูปร่างนั้นเธอคาดว่าเขาน่าจะเป็น...ผู้ชาย “ที่นี่...ที่ไหน” หญิงสาวกลั้นใจถามเขาออกไป เปลือกตาของเธอปิดแน่น ขณะ ที่พยายามหายใจให้เป็นจังหวะ เพื่อที่เธอจะได้หายมึนศีรษะเสียที น่าแปลก...คนที่อยู่ตรงนั้นกลับไม่ตอบอะไรเธอ จนหญิงสาวเกือบจะอดรนทนไม่ไหวลืมตาขึ้นมาเอาเรื่องกับเขาอีกรอบแล้ว จู่ๆ คนที่เงียบมาตลอดก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ เยือกเย็นว่า... “ยินดีต้อนรับสู่นรกของเธอ...นานา”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD