-หน้าที่พัก-
“ชะ ลา ล๊า...หืมมม” บรรยากาศเริ่มดีฉันนั่งเอาเท้าจุ่มน้ำพร้อมกับเซลฟี่ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้นอนห้องเดียวกับผู้ชายแต่ไม่เป็นไรเพราะตอนเข้าค่ายที่เกาหลีก็ได้นอนห้องรวมเหมือนกัน
ฟู่ ~ ควันลอยโขมงเมื่อมาเฟียออกมายืนสูบบุหรี่
ผว๊ะ!!
“โอ๊ยยย” จู่ๆ ก็มีบางอย่างมาตีกระทบปากผมจนบุหรี่บี้แบน
“สูบไม่ได้นะคะพี่ไม่เห็นป้ายเหรอเขาเขียนว่างดสูบบุหรี่”
“กูไม่งด! ปอดกูมึงเสือกอะไรด้วยแล้วกล้าดียังไงมาตบกูเนี่ย”
ผึก'~
“โอ๊ย!!!”
“ข...ขอโทษค่ะพี่ ก็หนูกลัว”
“อีเชี้ยเอ๊ยยย” สุดจะทนกับคนอย่างมัน ผลักไม่มองเสือกดันมือเข้าใบหน้าที่เพิ่งถูกซ้อมมา อีสัสนี่มากดแผลซ้ำอีก
ตอนนี้ทุกอย่างเหมือนจะสงบลงทั้งคู่ต่างแยกย้ายกันกินข้าวจนเวลามืดค่ำ
“หนูขอนอนเตียงด้านบน” ฉันยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“ไม่ได้ เพราะกูเป็นผู้ชายไม่ยอมให้ผู้หญิงคนไหนมาอยู่เหนือหัว นอกซะจากจะร่อน...ใส่ปากกู” ผมกระตุกยิ้ม
“ไม่ตายเหรอคะให้เครื่องบินตีปาก”
“อะไร?”
“ก็พี่บอกว่าร่อนใส่ปาก เครื่องร่อนไงเฮลิคอปเตอร์”
“ใช่ จอดตรงปากให้ใบพัดหมุดตัดลิ้นไก่กู อีสัส! พอใจมึงหรือยัง โคตรเหนื่อยเลยอีเชี้ยมึงแม่ง...”
โต้มมม~ มาเฟียหัวร้อนด่ากราดก่อนจะเดินออกจากห้องปิดกระเเทกประตูใส่
“โกรธอะไรของเขานะแล้วเป็นคนแบบไหนไม่มีอารมณ์ขันเอาซะเลย”
เวลา 22.40น.
อึก อึก~ มาเฟียกระดกเบียร์อยู่บนเตียงชั้นสองก่อนจะมีเสียงเยือกเย็นลอยมา
“ฮื้อ ฮือ...น้องดาหลันหิวข้าวไหมพี่ป้อนนะคะ”
“...”
“ง่ำๆๆ”
“ดาหลันง่วงเหรองั้นเรานอนไหม”
งึก~
“มึงคุยกับใครเนี่ย” ผมชะโงกลงดูเตียงชั้นล่างเห็นมันนั่งหันหน้าเขากำแพงแล้วบ่นพึมพำ
“คุยกับดาหลันค่ะ”
“ใครคือดาหลัน?”
“วิญญานดวงหนึ่งที่โดดตึกตายเพราะความรักไม่สมหวังเธอเดินขึ้นบันไดจากนั้นทิ้งตัวดิ่งลงมากระทบพื้นปูนจนเลือดไหลนองใต้ล่างจากชั้นที่สิบสาม”
“ม..มึงคุยกับผีเหรอ เอาดีๆ “ ใจผมสั่นตัวซีดมือที่ถือกระป๋องเบียร์เย็นเฉียบ มันที่นั่งผมยาวสลวยหันหน้ามาแบบสโลโมชัน
งึก งึก งึก` มือมาเฟียสั่นหนัก
“นี่ค่ะดาหลัน”
“สัส! เชี่ยยยย”
มาเฟียตกใจกระโดดลงจากเตียงวิ่งเอาหลังชนติดกับกำแพงแล้วหันหน้าปะทะโสภาที่นั่งถือตุ๊กตาน่ารักผมถักเปียสองข้าง
“พี่เป็นอะไร?” ฉันขมวดคิ้วงุนงง
“ตะ..ตุ๊กตาผีสิง! มึงเอาตุ๊กตาผีสิงมาด้วยทำไม”
“ตุ๊กตาผีสิงอะไรของพี่คะ..นี่ดาหลันหนูสั่งทำเองที่เกาหลี”
“เอ้า!ก็ตะกี้มึงบอกโดดตึกตาย”
“อ๋อ..หนูอ่านเรื่องสั้นสยองขวัญ แล้วพี่ถามอะไรนะ”
“กูสุดจะทนแล้วนะ ฮึบไว้ “
“พี่เป็นอะไรคะเนี่ย”
“มึงนั่นแหละเป็นอะไรโตมาแบบไหนเนี่ย ประสาท! บ้าบอ! สติมึงไม่สมประกอบแน่กูว่า! อีสัส”
“...” จู่ๆ เขาก็ยืนชี้หน้าด่าฉันเป็นวรรคเป็นเวรแถมดูโมโหหนักจนเส้นเลือดปูดโปนไล่ตามใบหน้า โกรธอะไรอีกล่ะ!
สองชั่วโมงต่อมา
“ชน เพ่ชน เอาอีกเพ่”
เสียงเมายานพร้อมกับผิดเพี้ยนของโสภาที่กระดกดื่มเบียร์ไปหลายกระป๋อง
“มึงแดกฟรีไม่พอมาสั่งกูอีกเงินในกระเป๋ากูเหลือสองร้อยบาทเพราะซื้อเบียร์มาไว้แดก อีสัส! เหมาของกูเหลือแค่สองกระป๋อง”
“พี่บ่นไรชนสิเว้ย”
“!!!!!”
“กระป๋องสุดท้ายแล้วเนี่ยกูไม่ได้มงได้เมามันละ”
“ชนนนน..เอือก..”
ติ๊ง!
“โอ๊ย” มันเอากระป๋องเบียร์มาทุบหน้าผากผม
“ชนสิวะนั่งนิ่งเป็นรถถังรัฐบาลอยู่ได้ไร้ประโยชน์”
“เมาอย่างเดียวพอไม่ต้องเสือกหาคุกให้กู”
“เลว! มึงว่าใครคะ”
“เดี๋ยวๆ มึงจะด่าหรือมึงจะอะไรเอาสักอย่างเถอะ”
“ผู้ชายแม่งเลวแบบเลวมากโคตรเว้ย!”
ตุ้บ! ตึก!
“อัก โอ๊ย อิ..อิ..อีสัส”
โสภายกขาถีบพร้อมกระเด้งตัวลุกนั่ง เท้าเตะเข้าเต็มใบหน้าของมาเฟียจนล้มนอนหงายกระเเทกพื้น
“มึงลุกมาดิวะ! ชายชั่ว ฮื้อออ”
“กูไปทำ..อึก..อะไรให้มึง”
ฟุ๊บ ตึบ` โสภาเมามากจนสติดับกิอนจะสลบไป
“จุกฉิบหายอีควาย” เกิดมาไม่เคยพบเจอผู้หญิงแบบนี้ ตอนปกติก็ดูเรียบร้อยดีแต่ตอนเมานักเลงเข้าสิงหรือไง
เช้าต่อมา
“อะ..โอ๊ย..ซี๊ดเจ็บจัง” ฉันงัวเงียตื่นมารีบลุกนั่งเพราะรู้สึกหนักหัวมึนมาก
“...”
“พี่ไปนั่งทำอะไรตรงนั้นคะ”
“ฟื้นแล้วเหรอ”
“ค่ะ ว่าแต่พี่ตื่นเช้าจังนะคะ”
“กูยังไม่ได้นอนอีงามไส้!!!”
โสภาเม้มริมฝีปากทันที เธอรู้ตัวเองอยู่ว่าเมื่อไหร่ที่ดื่มเหล้าเธอจะกลายเป็นคนก้าวร้าว
“น...หนูขอโทษนะคะ” ฉันรีบยกมือไหว้
“ขอโทษแล้วกูจะหายเจ็บไหมถีบกูทั้งคืน พอกูจะช่วยแบกไปนอนก็ตีนเตะเข้าก้านคอกูอีกอี...หึ้ม กูไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่ามึงแล้ว”
“อึ้ยยย” ฉันอายมากเพิ่งเจอกันก็ดันไปทำร้ายเขาซะแล้ว
อีกฝั่ง เวลา10.00น.
เรือสปีดโบ๊ทรับทั้งคู่ออกจากบ้านแพเพื่อมาจอดเทียบท่าฝั่ง
“พี่คะหนูขอโทษจริงๆ ถือว่าเป็นการไถ่โทษหนูมอบเงินให้พี่ไปหาหมอก็แล้วกันนะคะ” ฉันล้วงกระเป๋าใบเล็กออกมา
“เออ..แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย”
“นี่ค่ะ ขอให้หายไวๆ นะคะหนูลาแล้วสวัสดีค่ะ”
ตึก ตึก~ โสภาลากกระเป๋ารีบขึ้นรถที่มารอรับเธอกลับบ้านเพราะนัดแนะไว้
“อีเชี้ย!!!!” ผมแทบช็อกมันเอาส้นตีนตบหน้าแต่จ่ายค่ายามาห้าสิบบาท อย่าให้เจออีกนะมึงจะเอาคืนทั้งต้นทั้งดอกเลย