@ ตึกถิ่นยากูซ่า
ตุ้บ! ผลัวะ! ปึก! เสียงกระทืบทุบตีดังขึ้น เมื่อมาเฟียมาถึงพ่อก็สั่งคนจัดการเหมือนเคย
“มึงนี่ก็ทนตีนทนมือดีจริงๆ นะ “ พ่อนั่งดู
“พ่อไม่เหนื่อยบ้างหรือไงวะ” ผมลุกขึ้นอย่างเซโดนตีนไปเยอะ
“เหอะ! ถ้ากูมีลูกสักสิบคนคงไม่ต้องมาสั่งสอนมึงให้เหนื่อยแบบนี้หรอก คนหรือควาย”
“เลิกบ่นเถอะ”
“อีกแค่ไม่กี่อาทิตย์จะเปิดเรียนอย่าเสือกก่อปัญหาอีก”
“สั่งมากี่รอบแล้วเคยเห็นว่าทำได้ไหม? จะสั่งให้เปลืองน้ำลายทำไม”
“ไอ้มาเฟีย!!!”
ผู้เป็นพ่อตะโกนดังลั่นมาเฟียรีบประคองตัวเองขึ้นไปชั้นบนสุดซึ่งเป็นห้องพักส่วนตัวของเขา
-ห้องมาเฟีย-
“แม่งเอ๊ย เจ็บกว่านักมวยก็กูนี่แหละโดนซ้อมทุกวัน! ขึ้นสังเวียนตีนโคตรบ่อย”
ฟุ๊บ ~ มาเฟียทิ้งตัวลงบนเตียงหนานุ่มแล้วหลับตาด้วยความเหนื่อย ใบหน้าหล่อยับเยิน เเผลที่เพิ่งเย็บเริ่มฉีกขาดอีกครั้ง
@ บ้านโฉมงามกับเสือ
-ห้องโสภา-
“ฮื้อออ...อึก...อื้อ..ไม่นะ..ไม่” ฉันนั่งร้องไห้บนเตียงตั้งแต่กลับมาถึงบ้าน
ก๊อกๆๆ~
“โสภาร้องไห้ทำไม” โฉมงามรีบเคาะประตูและเข้ามาถาม
“ม๊า...อื้อ...ช่วยหนูด้วย”
“เกิดอะไรขึ้นลูกไหนส่งไลน์บอกจะไปเที่ยวหรือใครทำอะไรบอกม๊า”
“ม๊า...คือ...ฮึก...ฮึก...ฮื้อออ”
“ใจเย็นๆ ตั้งสติก่อนโสภา”
“ม๊าขาา...ฮื้อฮือ”
แกร๊ก~
“ใครร้องเพลงเสียงดังไปถึงชั้นล่าง” เสือเดินเข้ามา
“โสภาร้องไห้ไม่หยุดเลยพี่เสือ” โฉมงามใช้มือเช็ดน้ำตาให้ลูกสาว
“เป็นอะไรโสภาบอกป๊าสิ”
“ป๊า..ฮื้อออ..คือ..อะ..คือ...ฮื้อ”
“บอกมาสิลูก”
“คือว่าแบบนี้...ฮื้อ..ฮึก..อื้อ..ฮื้อออ”
“เข้าใจแล้วไม่น่าเลย”
“เว้ย! ไอ้พี่เสือลูกยังไม่ได้พูดอะไร”
“ก็มันมัวแต่ร้องไห้คืออึกคืออึกอยู่ได้ จะรับขวัญแห่นาคเหรอลูกคอมาเต็ม”
“พี่เสือ!!”
โสภาแน่นิ่งมองพ่อกับเเม่ทะเลาะกันอยู่จนเธอหยุดร้องไห้
“เอ้า สรุปเป็นอะไรกันแน่” เสือถามขึ้นอีกครั้ง
“ดาหลันหายไปค่ะ”
“โว้ย! ร้องไห้อย่างกับแม่มันโดนรถชนตายที่แท้ก็ตุ๊กตาตัวโปรดหาย”เสือขมวดคิ้วจ้องหน้าโสภาก่อนโฉมงามจะพูดแทรก
“กูยังอยู่ค่ะพี่เสือ แหม่..เดี๋ยวนี้มีเอาคืนด้วยนะ”
“ล้อเล่นเมียจ๋า”
“...” ฉันร้องไห้จนเหนื่อย ไม่รู้ว่าทำดาหลันหล่นหายไปที่ไหนแต่ฉันมั่นใจว่าเก็บใส่กระเป๋าเรียบร้อยแล้วนะ
@ ตึกถิ่นยากูซ่า
แก๊ก~ อึก อึก
“เฮ้อ เบื่อจริง เบื่อจัง เบื่อสัส!” ผมเปิดเบียร์ในตู้เย็นกระดกดื่มแต่แวบหนึ่งกลับมีภาพใครบางคนแทรกขึ้นมา 'อีเด็กประสาทคนนั้น'
งึก กึก งึก ` เสียงบางอย่างสั่นกระตุก มาเฟียมองไปรอบห้อง
“เสียงเชี่ยไรเนี่ย”
งึก งึก ~
“ผีกูก็เตะนะหรือถ้าเป็นผีผู้หญิงกูจะจัดให้ยับข่มขืนจนลืมไปผุดไปเกิดไม่ได้เลยมึง”
มาเฟียพยายามมองหาเสียงแม้ใจเขาจะเเข็งดูไม่เกรงกลัวอะไรแต่ทุกคนย่อมมีปมในใจ
เมื่อตอนยังเด็กเขาเล่นซ่อนแอบกับคนงาน แต่ดันไปแอบในตู้ใบเล็กพอเข้าไปกลอนล็อกอัตโนมัติทำให้เขาถูกขังไว้นานหลายชั่วโมงจนสลบไป เลยกลายเป็นคนกลัวที่แคบและกลัวความมืดมิด
งึก กึก งึก~
“ออกมาสิวะ!! ไม่แน่จริงนี่หว่า” ผมวางกระป๋องเบียร์ลงก้าวขาอย่างช้าเพื่อตามหาเสียงและเเรงสั่นจนมาหยุดอยู่ที่กระเป๋าเสื้อผ้าสีดำ หลังจากกลับมาถึงยังไม่ได้ใช้แม่บ้านให้เอาไปซัก
ซืบบบ~รูดซิบกระเป๋าอย่างมือสั่น
“อีดาหลัน!!!!”
@ มหาวิทยาลัยนานาชาติ
หลายอาทิตย์ต่อมา
“โอ๊ย กูดีใจที่เจอมึง” ไข่เจียวกอดโสภาแน่น
“บอกกูจะมาก็ไม่มาสักที”
“ก็หมากูป่วย”
“คือสรุปมึงเห็นหมาดีกว่ากู”
“มึงก็พูดโง่ๆ มึงเป็นเพื่อนคนเดียวของกูนะ” เสียงจริงจังของไข่เจียว
“แสดงว่ากูสำคัญกว่า”
“หมาสิ! มึงโตแล้วดูแลตัวเองได้มึงจะมานอยด์ มาบ่นอะไรเนี่ย”
“เอ้า อีนี่!”
-ตึดคณะออกแบบ-
“สวัสดีนักศึกษาทุกคน ที่นี่เรามีระบบพี่น้องรหัสพ่วง ทุกคนจะมีพี่รหัสคนเดียวและคอยช่วยเหลือกันจนจบเพราะพี่รหัสปีหนึ่งคือปีสองและปีสามก็คู่ปีสี่ เราจะสุ่มจากเลขนะคะ”
อาจารย์อธิบายให้ทุกคนฟัง มหาวิทยาลัยค่าเทอมแพงหนักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โสภาเข้าเรียนช้าไปหนึ่งปีเพราะเธอเรียนเสริมมาจากเกาหลี แต่ด้วย พศ.ที่เกิดต้นปีทำให้อายุปกติในชั้นเรียน
ตึก ตึก ~ ปีสองเดินเข้ามา
“ต้อนรับรุ่นพี่ปีสองจากคณะออกแบบ วันนี้เราจะได้รู้ว่าใครเป็นพี่รหัส ฉะนั้นห้ามเกเรหรือทะเลาะกัน กฎมีอยู่ข้อเดียวคือถ้ารุ่นน้องเรียนไม่ผ่านรุ่นพี่ก็จะเรียนไม่จบเช่นกัน”
“โสภา..มึงคงสวยมากเลยมีรุ่นพี่คนหนึ่งจ้องมองมึงแทบจะสิง หน้าตาดีด้วย คิกๆ” ไข่เจียวสะกิดโสภาที่มัวแต่เลื่อนดูมือถือ
ฉิง~ สายตาปะทะกันเมื่อโสภาเงยหน้ามอง
“เชี่ยยย เฮือก!!!”