ตั้งแต่วันนี้ เหมือนชีวิตของสาลี่ก็จะไม่มีคำว่าสงบสุขอีกเลยเธอจำใจต้องมาสอนพิเศษให้ลูกชายนักการเมืองนั่นก็คือเด็กหนุ่มที่มีคลิปวิดีโอของแฟนเธออยู่ในมือครั้งก่อน
"พี่เคลียร์กับแฟนหรือยัง" ผมถามเข้าประเด็น "ถ้าให้เดาคงติดต่อไม่ได้"
"นายรู้ได้ยังไง"
"รู้สิเพราะเวลาผู้ชายเจออะไรที่เด็ดก็มักจะลุ่มหลงสักระยะหนึ่ง"
"อะไรที่ไหนว่าเด็ด"
"คนซิงอย่างพี่ไม่เข้าใจหรอก"
ผมหรี่ตามองใบหน้าที่วันนี้ได้เห็นใกล้ๆ ในช่วงกลางวันแสงแดดจ้าลอดผ่านต่างห้อง ก็ผู้หญิงที่ผมให้ไปล่อลวงเป็นสาวในสต๊อกที่ลีลาดีมาก แต่เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าไอ้ผู้ชายคนนั้นมันไม่เล่นด้วย
"หน้าตานายนี่ดูเลวร้ายมากนะ" คนอะไรยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์อยู่คนเดียว
"จะว่าผมเลวร้ายแล้วแฟนพี่เรียกอะไร..ระยำ"
"ฉันไม่อยากเถียงกับนายรีบอ่านแล้วทำตามโจทย์ที่ให้ไว้ซะ"
"พ่อผมจ้างพี่เท่าไหร่เดี๋ยวให้สองเท่าแต่ไม่ต้องสอนได้ไหมจะเล่นเกม"
ขอต่อรองเจรจาปกติผมก็เป็นคนขี้เกียจแต่เนื่องด้วยอีกแค่หนึ่งเทอมก็จะขึ้นมหาวิทยาลัย พ่อคงไม่อยากให้ผมทำเสียหน้าจึงจ้างคนมาสอนแต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกนะ
"ไม่! ฉันรับเงินพ่อนายมาเรียบร้อยแล้วและจะทำตามจรรยาบรรณที่ตั้งเอาไว้นั่นก็คือสอนและสอบเพื่อเป็นการติวหนังสือให้นาย"
"ทำเป็นหยิ่ง เหอะ"
เวลาผ่านไปกระทั่งเย็น สาลี่กลับบ้านโดยนั่งรถแท็กซี่ เธอสะดวกแบบนี้มากกว่า
อพาร์ตเมนต์
"พี่สงกรานต์"
"สาลี่ไปไหนมาพี่ตามหาอยู่ พอดีโทรศัพท์มือถือของพี่หล่นน้ำก็เลยไม่สามารถติดต่อได้"
"เหรอคะนึกว่าพี่ไปค้างแรมกับผู้หญิงคนไหนซะอีก"
"พี่มีแค่สาลี่คนเดียวนะ"
ชายตัวสูงใหญ่เดินตรงดิ่งเข้ามาแต่เธอกับผละถอยหนีก่อนจะหยิบมือถือมาเปิดคลิปวิดีโออย่างว่า
"ชัดเจนไหมคะและคงไม่ต้องให้หนูพูดซ้ำว่าระหว่างเราควรจบจริงๆ สักทีกี่ครั้งที่พี่นอกใจแล้วพยายามเบี่ยงเบนจะหนีแต่ครั้งนี้หลักฐานชัด"
"สาลี่ฟังพี่.."
เพียะ!
"ถ้าหากว่าพี่เป็นลูกผู้ชายพอช่วยเคารพการตัดสินใจของหนูด้วยค่ะ"
พูดจบฉันก็เดินเลี่ยงพี่สงกรานต์ไปทั้งน้ำตาคลอบอกตามตรงว่าเสียความรู้สึกมากแต่ได้ยินพี่สงกรานต์สบถบางคำไม่ค่อยชัดคำ
"ใครแม่งแอบถ่ายกูวะ!"
หลายวันผ่านไป
ฉันมีติวหนังสือให้เด็กบ้าทุกวันเสาร์และอาทิตย์แต่หลังจากที่ติวก็ส่งสติกเกอร์มาในไลน์ไม่ยอมหยุดหย่อน
บ้านใหญ่ เค
"เบื่อจังพี่สอนอะไรเนี่ยไม่เข้าหัวเลย"
"ฉันสอนไม่เข้าหัวหรือนายไม่ฉลาดกันแน่แค่โจทย์เล็กๆ ของเด็กมอต้นก็ยังทำผิดเลย"
"ดูถูกเกินไปแล้วนะอย่างน้อยผมก็ท่องสูตรคูณถึงแม่สิบสามจบ"
"ฉันท่องจบได้ตั้งแต่ประถมแล้ว"
เป็นอะไรที่น่ารำคาญแถมสอนยากสอนเย็นดูไม่ค่อยตั้งใจและไม่มีสมาธิเพราะดื่มเหล้าเมาหนักบ่อยจึงทำให้ความคิดถูกบั่นทอนด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์สินะ
"พี่ชื่ออะไรนะ..." แกล้งสักนิดเพื่อทำลายบรรยากาศน่าเบื่อ
"สาลี่"
"แล้วรู้ยังผมชื่ออะไร"
"ฉันมาสอนและติวหนังสือให้นาย ทำไมจะไม่รู้ว่านายชื่อเค"
ใบหน้าหล่อเหลาเกยคางไว้บนโต๊ะที่สอนฝั่งตรงข้ามก่อนที่หยัดกายลุกยืนพร้อมกับโน้มตัวเข้าใกล้อีกฝ่ายจนใบหน้าแทบจะชิดติด พลางพูดเสียงกระซิบ
"พี่ยังซิงจริงเหรอไม่น่าเชื่อ"
"ก็ไม่ได้ขอให้เชื่อ"
"ไหนขอดูหน่อยดิ"
"ไอ้บ้า!"
ฉันรีบผละตัวถอยสายตาเจ้าเล่ห์คอยแต่คุกคามอยู่เรื่อยจนเวลาผ่านไปช่วงบ่าย
"คืนนี้ผมต้องไปเที่ยวคลับพรุ่งนี้แกล้งงดสอนได้ไหม"
"ให้แกล้งงดสอนจะบ้าเหรอ"
"หรือบอกพ่อว่าป่วยก็ได้"
"ถ้าพ่อนายถามว่าป่วยเป็นอะไรล่ะ?"
ฉันขมวดคิ้วจดจ้อง นักการเมืองชั้นผู้ใหญ่จะต้องรอบคอบแน่แล้วจะให้โกหกยังไง เด็กบ้าท่าทีครุ่นคิดก่อนจะตอบกลับ
"บอกไปว่าป่วยเป็นหวัด"
"ใส่แมสหรือกินยาก็ได้"
"งั้นเป็นโรคกระเพาะ"
"โรคนี้ก็แค่กินยาเดี๋ยวก็หาย"
เด็กหนุ่มหลับตาถอนหายใจก่อนที่จะเปลี่ยนท่าทางเป็นเท้าเอวแล้วพูดออกมาอย่างตั้งใจ
"บอกไปว่าป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย!หรือไส้ติ่งใกล้จะแตก! หรือไม่ก็วัณโรค เป็นลมบ้าหมู!"
""
"ตายห่าไปเลยอะ!จบ อันนั้นก็ไม่ได้อันนี้ก็ไม่เอา หวุ่ว"