บทที่.1 ร่ำรวยในกรงทอง

976 Words
คฤหาสน์หลังใหญ่โตล้อมไปด้วยเหล่าบริวารมากมาย ตระกูลอภิมหาประมุข เป็นหนึ่งในครอบครัวที่มีทรัพย์สมบัติล้นหลาม เรียกว่าใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด "น้ำหอมกลิ่นนี้คุณท่านซื้อมาจากปารีส ประมูลมาในราคาเกือบล้านคุณหนูชอบไหมคะ" เสียงพี่เลี้ยงที่กำลังแต่งกายให้ลูกสาวคนเล็กของบ้าน "วันนี้คุณหนูพรฟ้าจะใส่ชุดสีอะไรดี" "อะไรก็ได้ค่ะ" "จะให้ดีไซเนอร์เข้ามาจัดให้ไหมคะ" "พี่สมณคะ แค่ชุดอยู่บ้านธรรมดาไม่เห็นต้องพิถีพิถันมากนักเลย" "ไม่ได้สิคะคุณหญิงท่านสั่งไว้" พรฟ้า หรือ นางสาว ศรสวรรค์ คือชื่อของฉันเอง ในทุกวันที่ตื่นลืมตาแทบจะไม่ต้องขยับตัวมีทั้งคนแปรงฟัน พาไปอาบน้ำ ป้อนข้าว บลาๆ จนคิดว่าตัวเองเป็นอัมพาตส่วนไหนหรือเปล่า แต่ก็นะ..วิถีคนรวย หลังจากคุณแม่เสียชีวิตไปหลายปีคุณพ่อก็แต่งงานใหม่โดยแม่เลี้ยงมีลูกสาวติดมาด้วยซึ่งอายุมากกว่า "ฉันไม่กินข้าวต้มปลาบอกแล้วไง อีไพร่!พูดไม่รู้เรื่องเหรอ" นั่นไงล่ะเสียงพี่สาวซึ่งเป็นลูกติดจากคุณแม่เลี้ยงมา เธอชื่อ พี่โรส ใบหน้าหน้าสะสวยแต่ดูเป็นคนขี้หงุดหงิดมากเลย "คุณหนูห้ามพูดจาแบบนั้นเด็ดขาดนะคะ" พี่เลี้ยงกระซิบก่อนที่จะพาพรฟ้าเดินลงไปชั้นล่าง "วันนี้ไม่ต้องป้อนข้าวในห้องเหรอ..อายุเท่าไหร่นะแปดขวบ เฮ้ย! สิบแปด" "อย่าแกล้งหยอกน้องสิโรส ฮ่าๆ" "ขอโทษทีค่ะ คิก คิก" ท่าทางของแม่เลี้ยงกับพี่สาวคล้ายจะประชด แต่ช่างเถอะเพราะชินแล้ว เนื่องด้วยคุณพ่อเองก็แทบจะไม่มีเวลาจึงไม่อยากทำให้ท่านลำบากใจ เวลาล่วงเลยไปคล้อยบ่ายแก่ กิจวัตรของฉันก็นั่งอ่านหนังสือวรรณกรรมหรือความรู้ฟิสิกส์ที่แสนน่าเบื่อแต่เพราะเป็นชีวิตที่เลี่ยงไม่ได้ ในครัว "เป็นตาแซ่บแท้คือสินัวคัก" คนรับใช้เมื่อพักบ่ายก็มักทำส้มตำอาหารหลักของภาคอีสานกินกัน "ใส่มาโลดปลาแดกเป็นต่อนเลยเอื้อย" "โอ๊ย ถืกใจข่อยหลาย" "ปลาแดกแซ่บ" ด้วยความเบื่อหน่ายฉันจึงเดินเล่นไปทั่วจนได้ยินเสียงในห้องครัวเล็ดลอดออกมา "ว้าย ค..คุณหนูพรฟ้า" ทุกคนต่างตื่นตกใจรีบเก็บข้าวของที่วางลงยัดเก็บตู้ใส่อาหารทันที "มีอะไรตายในห้องนี้หรือเปล่าคะ.." "ปะ เปล่าค่ะไม่ทราบว่าคุณหนูมีอะไรให้พวกเรารับใช้ แล้วคุณพี่เลี้ยงไปไหน" "ไม่รู้สิคะ" ดูแต่ละคนก้มหน้าก้มตาแทบจะไม่ทีใครกล้าคุยด้วย แต่อย่างว่าคุณแม่เลี้ยงชอบดุด่าพวกเขา "เมื่อกี้ได้กลิ่นเน่าๆ คืออะไรคะ" "ปลาแดก เอ้ย! ปลาร้าค่ะ พ่อให้มาจากอีสานดองเองทั้งไห" "มันตายแล้วกินได้หรือคะ" "คือ.." เป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจมากที่ได้ฟังพวกเขาพูดถึงอาหารกินประจำท้องถิ่นตัวเอง หลายวันต่อมา "ยี๋เหม็นคาวอะไรเนี่ย!" เสียงบ่นเชิงไม่พอใจของโรสเธอเดินผ่านมาหลังครัว "เธออยู่ในนี้ด้วยเหรอพรฟ้า" "พี่โรสมีอะไรหรือเปล่าคะ" "ฉันได้กลิ่นเน่าเหม็นมาก คุณแม่เคยสั่งแล้วไม่ใช่เหรอว่าห้ามนำอาหารกลิ่นแรงเข้ามา" ทุกคนก้มหน้าลงต่ำเพราะโรสถลนตาใส่ด้วยดูดุดันพรฟ้าจึงตอบกลับแทน "ใช่ค่ะเหม็นมากพรฟ้ากำลังมาตักเตือนพวกคนรับใช้อยู่ รับไม่ได้ที่สุด" "แต่พูดถึงก็เหมาะกับเธอดีนะในก้นครัวแบบนี้ หึ" "____" เป็นไปตามคาดพี่โรสคว่ำปากแล้วจ้ำอ้าวออกไปเพราะถ้าฉันไม่เห็นด้วยจะกลายเป็นทะเลาะกันครั้งใหญ่เหมือนทุกครา "มีอีกไหมคะเนี่ยหนูขออีกสักนิดหน่อยเถอะมันแซ่บหลาย ฮ่าๆ" แววตาใสซื่อจริงใจยิ่งทำให้ทุกคนรักใคร่เธอเข้าไปอีก สาวน้อยไม่ถือเนื้อตัวและพยายามเรียนรู้การใช้ชีวิตที่แตกต่างจากกรอบที่ถูกวางเอาไว้ โต๊ะรับประทานอาหารถูกจัดอย่างหรูหราในทุกมื้อ และวันนี้ก็อีกเช่นเคยเมื่อเจ้าของบ้านกลับมา "พรุ่งนี้มีเรียนเปียโนกับวิทยาศาสตร์นะครูเฮลโลจะมาสอน" คำพูดของผู้เป็นพ่อเอ่ยบอกลูกสาว "พรฟ้าเตรียมตัวหรือยัง" "เตรียมทำไมคะก็สอนแบบเดิม" "ลูกเข้าใจใช่ไหมว่าที่พ่อไม่ยอมให้เรียนปะปนกับคนทั่วไปเพราะอะไร" "ทราบค่ะเพราะคุณพ่อเป็นห่วง" "เป็นเด็กดีแบบนี้พ่อก็สบายใจ" "ค่ะ" รอยยิ้มของพ่อส่งให้มาอย่างหวังดีโดยที่ไม่เคยถามถึงความสมัครใจว่าฉันต้องการไหมสักครั้งเดียว ก็ได้แต่ถอนหายใจเบาๆ แหละนะ เวลาผ่านไปจนกระทั่งวันสำคัญ ซึ่งก็คือวันเกิดของฉันมีผู้คนมาร่วมยินดีเพราะอยากได้หน้ากันทั้งนั้น "ลูกสาวคนเล็กของท่านน่ารักน่าชังดูเรียบร้อย" "อนาคตต้องเป็นเจ้าคนนายคนยิ่งใหญ่แน่ๆ" "หรือไม่ก็อาจจะได้เป็นด๊อกเตอร์ที่ฉลาดที่สุดก็เป็นได้นะคะ" คำพูดเยินยอที่พรฟ้าฟังจนชิน ทุกความคาดหวังนับวันยิ่งกดดัน ทั้งที่วันนี้ครบรอบอายุสิบแปดปีแต่กับเป็นเรื่องน่าเศร้าเพราะทั่งชีวิตของเธอยังไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองชอบอะไร ฟุ่บ! เสียงเตียงกระเด้งรับตัวสาวน้อยหลังจากอาบน้ำโดยมีพี่เลี้ยงคอยขัดถูให้ เธอนอนมองเพดานสีขาวประดับด้วยคริสตัลแวววาวก่อนที่จะคิดถึงท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ "อิจฉาเจ้าพวกนกจังที่บินอย่างอิสระดั่งใจแล้วถ้าเราออกจากกรงขังนี้ได้จะไปที่ไหนดีนะ.."
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD