การกลับมา 4

1529 Words
ทางด้านกานต์พิชชาก็ขับรถไปร้องไห้ไป หญิงสาวปล่อยให้น้ำตาแห่งความเสียใจไหลลงมาอย่างไม่อาจกลั้นเอาไว้ได้อีกต่อไป เธอเสียใจที่ฐิติทำเหมือนเธอเป็นผู้หญิงไร้ค่าที่เขาจะทำอะไรกับเธอก็ได้ แถมยังพูดเหมือนว่าเธอเป็นผู้หญิงใจง่ายที่ยอมพลีกายให้เขาง่ายๆ หรือที่ผ่านมาเขามองเธอเป็นผู้หญิงแบบนั้นจริงๆ ถึงไม่คิดจะจริงจังให้เธอเป็นตัวจริงจนนำมาสู่การเลิกรา เมื่อกลับมาถึงคอนโดกานต์พิชชาก็ทิ้งตัวลงบนเตียงและร้องไห้อย่างหนักให้สมกับความเจ็บช้ำในใจและนึกย้อนไปถึงวันนั้น วันที่เป็นจุดแตกหักของความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอ หลังจากหมดสัญญากับ Star Model เธอก็บอกเขาถึงแพลนการไปเรียนต่อที่ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นความฝันอันสูงสุดที่ตั้งใจเอาไว้ แต่เขาไม่เห็นด้วยเพราะต้องอยู่ห่างกันและเสนอให้เธอเรียนที่เมืองไทย โดยเขาจะหาที่เรียนให้และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่าง แต่บทเรียนจากชีวิตรักของมารดาทำให้เธอตั้งใจแน่วแน่ว่าจะให้ความสำคัญกับหน้าที่การงานและเป้าหมายชีวิตของตัวเองมากกว่าเรื่องผู้ชาย เธอแอบหวังว่าเขาจะเข้าใจและสนับสนุนแต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้น เพราะเมื่อเธอยืนกรานที่จะไปก็ทำให้ทะเลาะกัน เขาเริ่มกลับดึกและเมากลับมาทุกคืน เธอพยายามใจดีสู้เสืออธิบายให้เขาเข้าใจ แต่ก็จบลงที่ทะเลาะกันทุกครั้งบวกกับเริ่มมีข่าวเขากับสาวสวยทายาทตระกูลดังออกมาบ่อยๆ เธอเองก็ไม่กล้าพอที่จะถาม เพราะยังมีเรื่องไม่เข้าใจกันและเธอก็รู้สถานะตัวเองดีว่าเธอกับเขาคบกันแบบไหน จนกระทั่งถึงวันเกิดของเขา ตอนแรกเธอตั้งใจว่าจะทำเค้กเซอร์ไพรส์ แต่เขาบอกว่ามีงานด่วนและไม่กลับคอนโดเธอจึงต้องพับโครงการไป แต่แล้วคืนนั้นเธอก็ได้รับข้อความปริศนาจากใครบางคนที่ทำให้เธอต้องเปลี่ยนความคิด ‘ถ้าไม่อยากโง่เป็นของเล่นให้ทิมต่อไปก็มาที่…สิ ฉันกับทิมและเพื่อนๆ กำลังฉลองวันเกิดให้เขากันอยู่ ถ้าให้เดาเธอคงไม่รู้สินะ เพราะทิมคงไม่เชิญ ถ้าไม่อยากโง่ก็มาดูให้เห็นกับตา’ เธอจำได้ดีว่าตอนที่เห็นข้อความนั้นเธอทั้งกลัวทั้งอยากรู้ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ และสุดท้ายก็ตัดสินใจไปตามคำบอกนั้น เมื่อเธอไปถึงก็มีพนักงานรออยู่แล้วและพาเธอไปยังห้องวีไอพี สิ่งที่เห็นทำให้เธอรู้สึกเหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจเพราะฐิติกำลังยืนอยู่ตรงหน้าไฮโซสาวที่เป็นข่าวกับเขา โดยที่ฝ่ายหญิงถือเค้กวันเกิดอยู่ในมือ เธอยืนอึ้งอย่างทำอะไรไม่ถูกจนกระทั่งฝ่ายหญิงหันมาทางเธอด้วยท่าทางตกใจ “อุ๊ย เข้าห้องผิดหรือเปล่าคะ” เธอมองสบตากับฐิติที่มองมาด้วยท่าทางตกใจเช่นกัน แต่เมื่อเห็นเขายังยืนเฉยเธอจึงรู้ตัวว่าไม่ควรยืนอยู่ตรงนี้อีกต่อไป “ขอโทษค่ะ ฉันคงเข้าห้องผิด” เธอจำได้ว่าตัวเองเดินออกจากด้วยความรู้สึกตัวชาดิก แม้จะอยากร้องไห้แต่กลับไม่มีน้ำตาสักหยด เมื่อเธอเดินออกมาจากสถานบันเทิงได้ไม่ทันไรก็ถูกใครบางคนดึงแขนเอาไว้ และเมื่อหันกลับไปก็พบว่าเป็นฐิตินั่นเอง เธอสะบัดมือออกทันทีแต่เขาไม่ยอมปล่อย “ปล่อย” นอกจากจะไม่ปล่อยแล้วเขายังลากเธอไปยังมัสแตงสีดำคันโปรดของเขา เธอรู้ดีว่าไม่มีทางที่จะสู้แรงเขาได้จึงยอมให้เขาจับยัดใส่รถและกอดอกเชิดหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง เธอพยายามกลั้นน้ำตาสุดฤทธิ์และบอกตัวเองในใจว่าอย่าได้ปล่อยให้น้ำตาแห่งความอ่อนแอไหลออกมาประจานตัวเองเป็นอันขาด เมื่อกลับมาถึงคอนโดเธอกับเขาก็มีปากเสียงกัน “เนี่ยเหรอคะงานด่วนที่คุณว่า คุณอยากไปฉลองวันเกิดกับผู้หญิงคนอื่นทำไมไม่บอกกั้งตรงๆ ล่ะคะ ทำไมต้องโกหกกั้งด้วย คุณเห็นกั้งเป็นอะไร” “ก็เป็นคู่ขา คู่นอนหรืออะไรก็ตามแต่จะเรียก แต่ความหมายก็คือนอนด้วยกันมีเซ็กส์กันสนุกๆ พอเบื่อก็แยกย้าย” เธอรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าแล้วสาดด้วยน้ำเย็นจัดกับคำตอบกรีดหัวใจ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันคือความจริง เธอกับเขามีข้อตกลงแบบนั้นด้วยกันจริงๆ ต่างฝ่ายต่างถูกใจกันจนนำมาสู่ความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง โดยที่ไม่มีพันธะผูกพันแล้วการที่เธอมาโวยวายเหมือนว่ามีสิทธ์ในตัวเขาแบบนี้ จึงโดนเขาสวนกลับชนิดที่ทำให้เธอทั้งเจ็บทั้งอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี “นั่นสินะคะ ขอโทษนะคะที่กั้งอาจจะถามอะไรที่ล้ำเส้นคุณเกินไป งั้นกั้งขอตัวไปอาบน้ำนอนก่อน” พูดจบ กานต์พิชชาก็เดินหายเข้าไปในห้องนอน ส่วนฐิติก็เริ่มรู้สึกเสียใจที่ปากเสียพูดออกไปแบบนั้น ชายหนุ่มเดินตามไปเพื่อหวังจะง้อแต่สายตากลับมองไปเห็นบางอย่างบนโต๊ะเสียก่อน และนั่นทำให้ความคิดที่จะง้องอนกลายเป็นความโกรธและน้อยใจขึ้นมา เพราะมันคือเอกสารที่บ่งบอกว่ากานต์พิชชาพร้อมสำหรับการเดินทางไปตามความฝันที่ออสเตรเลียแล้ว ซึ่งเป็นการยืนยันว่าเธอไม่แคร์เขา ไม่สนใจคำร้องขอของเขา กานต์พิชชาใช้เวลาอาบน้ำอยู่นานเพราะนอกจากจะชำระล้างร่างกายแล้ว เธอยังใช้สายน้ำจากเรนชาวเวอร์ช่วยชะล้างน้ำตาที่ไหลทะลักทลายลงมาอีกด้วย คำพูดของเขาช่วยตอกย้ำว่าเธอตัดสินใจถูกแล้ว แม้จะมีเสี้ยวหนึ่งของความคิดที่เธอถามตัวเองว่าหากเขาบอกว่ารักเธอและอยากจริงจัง เธอจะเปลี่ยนใจไม่ไปได้ไหม เป็นคำถามที่เธอถามตัวเองอยู่หลายครั้ง แต่ตอนนี้ทุกอย่างกระจ่างชัดแล้วว่าเขาวางเธอไว้ในฐานะไหน ดังนั้นการที่เธอเลือกจะไปคือการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดแล้วจริงๆ “ยังไงคุณก็จะไปสินะ” ฐิติถามขึ้นตอนที่กานต์พิชชาเดินออกมาจากห้องน้ำในชุดเสื้อคลุม ดวงตาที่แดงช้ำทำให้รู้ว่าเธอเพิ่งผ่านการร้องไห้มา แต่ความโกรธความน้อยใจทำให้เขาเลือกที่จะเฉยแล้วถามถึงสิ่งที่คาใจเป็นครั้งสุดท้าย กานต์พิชชามองเอกสารของเธอในมือเขาก่อนจะตอบออกไป “ค่ะ กั้งตัดสินใจแล้ว” เธอตอบแล้วเงยหน้าขึ้นสบตาของคนที่เดินเข้ามาใกล้อย่างช้าๆ ส่วนลึกเธอแอบหวังว่าเขาจะง้อและขอโทษบอกว่าสิ่งที่เขาพูดมาเมื่อกี้ เขาไม่ได้คิดแบบนั้นจริงๆ แต่แล้วความหวังของเธอก็พังทลายไปพร้อมๆ กับหัวใจของเธอ “ถ้างั้นก็สั่งลากันหน่อยเป็นไง” ฝ่ามือใหญ่กระตุกเชือกชุดคลุมออกแล้วผลักร่างเปลือยเปล่าเย้ายวนลงบนเตียงก่อนจะก้าวตามลงไปทาบทับ กานต์พิชชาไร้เรี่ยวแรงที่จะต่อสู้จึงปล่อยให้เขาเชยชมสัมผัสเรือนร่างของเธอตามอำเภอใจครั้งแล้วครั้งเล่าจนผล็อยหลับไป และนั่นคือคืนสุดท้ายของเขาและเธอ เพราะวันรุ่งขึ้นเธอก็จัดการเก็บข้าวของออกจากเพ้นท์เฮาส์ของเขาและไม่ลืมที่จะนำรถยนต์คันหรูไปคืน แต่นั่นทำให้เขาโกรธกว่าเดิมและบอกว่าหากเธอไม่ต้องการก็ขายมันทิ้งไป แต่จนแล้วจนรอดเธอก็ไม่สามารถตัดใจขายมันได้ เพราะนั่นคือของขวัญวันเกิดจากผู้ชายที่เธอรัก แม้เขาจะไม่ได้รักเธอเลยก็ตาม หลังจากนั้นไม่กี่วันเธอก็บินลัดฟ้าไปทำตามความฝันที่ประเทศออสเตรเลีย เธอยอมรับว่าแอบมองหาว่าเขาจะเปลี่ยนใจมาส่ง แต่ก็ต้องผิดหวังมีเพียงเพื่อนรักอย่างพิมพ์ลดาเท่านั้นที่มา “ลาก่อนค่ะ คุณทิม” นั่นคือประโยคสุดท้ายที่เธอพึมพำออกมาเบาๆ ยามที่เจ้านกยักษ์ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้านำพาเธอไปตามความฝันและมันก็นำพาเธอจากลาผู้ชายคนแรกและคนเดียวที่เธอรักเช่นกัน ไม่มีใครรู้ว่าตลอดทางเธอแอบปาดน้ำตานับครั้งไม่ถ้วนจนกระทั่งถึงจุดหมายปลายทาง อ่านมาถึงตรงนี้มีใครอยากฟาดปากคุณทิมหรือหักคะแนนคุณเค้ามั้ยคะ ไหงปากเสียแบบนั้นล่ะพ่อ แต่หนูกั้งลงโทษแทนทุกคนแล้วนะคะ สมน้ำหน้าคนปากแจ๋วโดนทิ้งเบยยยย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD