บทที่ 3
เงียบหาย
ถึงแม้จรัสรักจะถือว่ายังเป็นเด็กใหม่ ทว่าสกิลการดูแลและเอาใจแขกครั้งที่แล้วถือว่าสอบตก เจ๊ระเบียบจึงสั่งให้เธอลงมานั่งรอรับแขกรวมกับคนอื่น ๆ ที่ชั้นล่าง เนื่องจากเจ๊ไม่วางใจให้เธอดูแลลูกค้าวีไอพี
แขกคนแล้วคนเล่าเดินเข้ามาเลือกนางฟ้าไปนั่งคลอเคลียข้างกาย จรัสรักสะดุ้งทุกครั้งเมื่อเผลอสบตากับแขกที่กำลังกวาดสายตาเลือก หากแล้วเธอก็รีบดึงสายตาหลบทุกครั้งราวกับกลัวว่าจะเป็นคนที่ถูกเลือก
“น้องหนูคนสวย เสี่ยขอดูหน้าชัด ๆ หน่อยสิ”
ทว่าเหมือนว่าครั้งนี้เธอจะหลบไม่พ้น จรัสรักจำต้องเงยหน้าขึ้นไปให้ลูกค้าชายวัยกลางคนได้ดูชัด ๆ ตามคำขอ คนที่แทนตัวเองว่าเสี่ยพยักหน้าราวกับพอใจ จากนั้นก็หันไปพูดกับผู้ช่วยผู้จัดการร้านซึ่งรับหน้าที่ดูแลลูกค้าในขั้นต้น
“น้องสวยขนาดนี้ทำไมถึงได้โดนมองข้าม”
“น้องรอให้เสี่ยมาเลือกไงครับ” ผู้ช่วยหนุ่มตอบเอาใจ เชียร์ขายเด็กในร้านสุดฤทธิ์ เพราะตัวเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมน้องไอลีฟถึงยังไม่ถูกเลือก “น้องเพิ่งมาใหม่ครับ แขกคนก่อน ๆ อาจจะมีเด็กที่นั่งด้วยประจำอยู่แล้ว”
เสี่ยพยักหน้าเข้าใจ ยกมือลูบคางพลางมอง ‘น้องไอลีฟ’ อย่างพิจารณาครั้งสุดท้าย หากเทียบกับเด็กคนอื่น ๆ ที่ยังเหลืออยู่ บอกเลยว่าไม่มีใครสวยเท่าน้องไอลีฟอีกแล้ว
“โอเคครับ ผมให้น้องมานั่ง...”
“ลีฟ มานี่ ลูกค้าเรียก”
เสี่ยยังพูดไม่ทันจบ ถูกเจ๊ระเบียบซึ่งเดินมาจากไหนไม่รู้เอ่ยแทรกอย่างรีบร้อน พร้อมกวักมือเร่งให้หญิงสาวรีบเดินออกไปหา
“เจ๊ครับ” ผู้ช่วยหนุ่มรีบสะกิดให้เจ๊ระเบียบรู้ตัว ว่ากำลังแย่งเด็กคนเดียวกันกับลูกค้า
“อ้าว เสี่ยพจน์ รอบนี้หายหน้าหายตาไปนานเลยนะคะ” สาวใหญ่ทักทายลูกค้าเสียงหวานอย่างเป็นกันเองเพราะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
“ช่วงที่ผ่านมางานยุ่งนิดหน่อย เพิ่งจะมีเวลาว่างน่ะ”
“เหรอคะ แล้วนี่เสี่ยเลือกน้อง ๆ ได้หรือยังเอ่ย เบียบรับรองเลยนะคะว่าเด็กที่ร้านเอาใจเก่งกันทุกคน”
“เลือกได้แล้ว ผมเลือกน้องไอลีฟ” เสี่ยตอบพร้อมบุ้ยใบหน้าไปยังหญิงสาวที่เดินไปยืนอยู่ข้างหลังคู่สนทนาหลังจากโดนเรียกตัว
“อุ๊ย คงไม่ได้ค่ะเสี่ย น้องไอลีฟมีคนจองแล้ว” ระเบียบเอ่ยคล้ายแสนเสียดาย ก่อนจะเริ่มเสนอเด็กคนอื่น ๆ ให้ “วันนี้ลองให้น้องมิ้นต์เอาใจดูไหมคะ แขกทุกคนชมเป็นเสียงเดียวกันเลยนะคะว่าน้องดูแลดี เอาใจเก่ง”
“แต่ผมเลือกน้องไอลีฟไปแล้ว” เสี่ยวัยกลางคนไม่ยอมเปลี่ยนใจง่าย ๆ ยิ่งโดนตัดหน้าไปแบบนี้ก็ยิ่งยอมไม่ได้ ในเมื่อเขามายืนเลือกก่อน ก็ต้องมีสิทธิ์ได้ก่อนสิ
“ไม่ได้จริง ๆ ค่ะเสี่ย น้องไอลีฟไม่ว่างแล้วจริง ๆ”
“ไม่ว่างได้ยังไง ก็เห็นยืนว่างอยู่เนี่ย”
“มีลูกค้าคนอื่นโทรเข้ามาจองค่ะ ลูกค้ากำลังขับรถมารับ”
จรัสรักมองคนพูดด้วยความสงสัย กำลังขับรถมารับงั้นหรือ หมายความว่าเธอต้องออกไปข้างนอกเลยใช่ไหม แล้วลูกค้าคนนั้นคือใครกัน เธออยากรู้แต่ไม่มีจังหวะให้ถาม เพราะคนที่ตอบเธอได้กำลังคลี่คลายสถานการณ์ตรงหน้าอยู่
“ใครกันที่กล้ามาตัดหน้าผม มันจ่ายให้คุณมากเท่าผมหรือเปล่า” เสี่ยเริ่มแสดงความกร่างออกมา เขาเป็นลูกค้าประจำของที่นี่ แต่ละคืนที่มาเขาจ่ายเงินไปไม่ใช่น้อย ๆ ซึ่งควรได้รับสิทธิ์พิเศษเหนือคนอื่นด้วยซ้ำ
“เสี่ยขา สำหรับเบียบ เบียบคิดว่าไม่มีใครเปย์เก่งเท่าเสี่ยอีกแล้วค่ะ” เจ๊ระเบียบตอบเอาใจ “แต่เบียบกลัวว่าน้องไอลีฟจะดูแลเสี่ยได้ไม่ดีพอ คือน้องอ้อนไม่เก่งเลยค่ะ เบียบเลยคิดว่าน้องมิ้นต์น่าจะทำให้เสี่ยพอใจได้มากกว่า”
“แต่ผมเลือกแล้ว” เสี่ยพจน์ยืนยันคำเดิม
“เอางี้ค่ะเสี่ย ถ้าเสี่ยยอมเลือกคนอื่น ๆ แทน เดี๋ยวคืนนี้เบียบจะลดค่าตัวน้อง ๆ ให้เสี่ยเป็นกรณีพิเศษเลย ดีไหมคะ”
เสี่ยพจน์หรี่ตาลง นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามออกมา “…ลดเท่าไร”
โถ่เอ๊ย! ทำมาเป็นโม้ว่าตัวเองจ่ายเยอะ ความจริงก็แค่ตาแก่ขี้เหนียวดี ๆ นี่แหละ ระเบียบแอบเบะปากและพูดแขวะในใจ ทว่าสีหน้ายังยิ้มแย้ม รีบยื่นข้อเสนอสุดพิเศษ
“สักสิบเปอร์เซ็นต์ดีไหมคะ”
“ยี่สิบ”
ยังจะมีหน้ามาต่อรองอีก แต่เพื่อให้เรื่องมันจบลงอย่างง่ายดาย ระเบียบจึงยอมจบที่ตัวเลขยี่สิบเปอร์เซ็นต์ คำนวณแล้วก็ยังกำไรงาม ด้วยลูกค้าปริศนาที่โทรเข้ามาให้ค่าตัวจรัสรักเทียบเท่ากับตัวท็อปที่คอยบริการอยู่โซนวีไอพี ซึ่งมากกว่าเรตธรรมดาถึงเท่าตัว
“ลูกค้าลีฟคือใครเหรอคะ” จรัสรักถามด้วยความสงสัยหลังจากสถานการณ์คลี่คลาย เสี่ยพจน์ยอมเลือกคนอื่นไปเอนเตอร์เทนแต่โดยดี
“ฉันก็ไม่รู้ ไม่เห็นหน้า” สาวใหญ่ยักไหล่ราวกับเป็นเรื่องปกติ ทำเอาคนฟังใจร่วงไปอยู่ตาตุ่ม เจ๊รับงานให้เธอโดยไม่สแกนลูกค้าก่อน ถ้าเกิดเป็นคนไม่ดีขึ้นมาเธอจะทำอย่างไร อย่างน้อย ๆ เจ๊ก็น่าจะรู้จักชื่อ หรืออาจจะเคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อน เป็นแบบนี้เธอไม่สบายใจเลย
ระเบียบสังเกตเห็นแววตาเป็นกังวลของเด็กสาว กำลังจะอธิบายรายละเอียดให้ฟัง ทว่าโทรศัพท์ในมือกลับดังขึ้นมาขัดจังหวะ หล่อนรับสายและพูดคุยเพียงแค่ครู่เดียวก็วาง ก่อนจะเร่งคนที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เข้าไปเก็บของ
“ลูกค้ามาถึงแล้ว รีบไปเก็บของแล้วออกไปที่หน้าร้าน ลูกค้าบอกรอในลานจอดรถทิศใต้ รีบไป อย่าให้ลูกค้ารอนาน”
เพราะคำว่า ‘เงิน’ คือปัจจัยสำคัญ จรัสรักจึงไม่มีทางเลือก อย่างไรชีวิตเธอก็แขวนอยู่บนความเสี่ยงอยู่แล้ว เสี่ยงเพิ่มอีกนิดคงไม่เป็นไร หรือบางทีเธออาจจะคิดมากไปเอง หญิงสาวเดินเข้าไปหยิบกระเป๋า จากนั้นก็ออกไปหาลูกค้าที่ลานจอดรถ
ร่างบางยืนหันซ้ายหันขวา มองไปรอบ ๆ บริเวณ แต่ก็ไม่เห็นลูกค้าคนที่ว่า มีชายสองคนยืนสูบบุหรี่คุยกันอยู่ พวกเขาหันมามองเธอแค่แวบเดียวก่อนจะหันกลับไปคุยกันต่อ คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากัน ไหนเจ๊ระเบียบบอกว่าลูกค้ารออยู่ที่ลานจดรถทิศใต้ไง เธอก็มาถูกที่แล้วนี่นา
แรงสั่นจากสมาร์ตโฟนรุ่นเก่าในกระเป๋า เรียกให้จรัสรักละความสนใจจากการตามหาลูกค้าไว้ชั่วคราว เธอหยิบออกมาดูก็พบว่าเบอร์ที่โทรเข้ามาคือเบอร์แปลก แต่กระนั้นเธอก็เลือกที่จะกดรับ
[จำรถผมไม่ได้ ?]
“คะ” หญิงสาวไม่เข้าใจที่ปลายสายพูด “ใครคะ”
[ผมเอง]
ระหว่างที่จรัสรักกำลังนึกว่าใครคือคนในสาย ไฟหน้าของรถคันหนึ่งก็สาดสูงขึ้น ก่อนที่รถคันนั้นจะเคลื่อนตัวออกจากช่องจอด มาจอดใกล้ ๆ กับจุดที่เธอยืนอยู่ พร้อมกระจกฝั่งคนขับถูกลดลง
หญิงสาวตาโตขึ้น หัวใจพลันกระหน่ำอย่างรุนแรง เมื่อเห็นว่าใครนั่งอยู่หลังพวงมาลัย
“คุณ!”