ตอนที่ 2 ทดลองก่อน
ตะวันทอแสงอบอุ่นลอดผ่านผ้าม่านสีขาวขลิบทองบาง ๆ เฉียวเวยเวยถูกแม่นมฝูปลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวแต่เช้า
“แม่นมฝู วันนี้มีงานหรือไร” ขณะพูดใบหน้าของเฉียวเวยเวยยังไม่ตื่นดวงตายังปรือๆ ปากยังหาวไม่หยุด
“ฮูหยินน้อย...วันนี้วันที่หนึ่งท่านต้องไปคารวะฮูหยินแม่เฒ่าเจ้าค่ะ”
แม่นมหยิบผ้าซุบน้ำเช็ดใบหน้าหญิงสาวแผ่วเบาพร้อมบ่าวรับใช้ที่กำลังพยุงร่างกายของนางที่เอนเอียงพร้อมจะลงไปนอนใหม่
บ่าวไพร่ล้วนมือคล่องแคล่วว่องไว ถึงแม้เฉียวเวยเวยจะไม่ให้ความร่วมมือ ทว่าไม่นานนางก็กลายเป็นหญิงสาวงดงามหยาดเยิ้ม นั่งแช่มชื่นอยู่หน้ากระจก
“ฮูหยินน้อย...ไม่อาจจะให้ท่านเสนาบดีรอได้” แม่นมฝูพูดพลางสังเกตคุณหนูยามปกติวันนี้คุณหนูจะตื่นขึ้นมาแต่งกายอย่างกระตือรือร้นเพื่อเอาใจนายท่าน นางพินิจดูหญิงสาวอีกครั้งอย่างลอบถอนใจ ผู้ใดบ้างจะไม่เบื่อหน่ายเอาใจผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เมื่อไม่ได้รับความเอ็นดู ย่อมไม่แปลกที่คุณหนูจะถอดใจละความพยายาม
เฉียวเวยเวยแทบจะตะโกนบอกว่าตนไม่ไป แต่กลัวว่าจะผิดแผกเกินไป ตอนนี้นางกำลังข่มใจให้เรื่องราวเป็นไปตามเหตุตามผลให้มากที่สุดปั้นใบหน้าแช่มชื่นขึ้น
“เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ”
เสนาบดีหลีเซียวหยวน นั่งจิบชารอนางอยู่เรือนพักด้านหน้า แสงตะวันทอดตามร่างสูงโปรงใบหน้าหมดจดหล่อเหลาอย่างวิญญูชน ภายในความทรงจำจะมีใบหน้าของหลีเซียวหยวนทว่าเมื่อได้มาเห็นตัวจริงก็ทำให้หญิงสาวตกตะลึงไม่ได้ ดวงหน้าล่อลวงจนนางแอบกลื้นน้ำลายตนเอง หญิงสาวตกอยู่ในภวังค์ลอบถามถามใจตนหรือนางจะไม่หย่าดี
เสียงฝีเท้าทำให้ชายหนุ่มหันมา เมื่อเห็นว่าเป็นผู้ใดเขาก็ส่งยิ้มบางๆ อย่างผู้มีมารยาทให้เฉียวเวยเวย
ทว่ารอยยิ้มนั่นช่างแห้งแล้งไร้ชีวิตชีวา ทำให้ความหวั่นไหวของเฉียวเวยเวยเมื่อสักครู่สลายไปจนหมดสิ้น นางก้มศรีษะลงบ่นพึมพำในใจ
แม้รูปลักษณ์จะหล่อเหลา แต่ก็เป็นเพียงบุรุษไร้ความรับผิดชอบ รับเงินของข้าไปตั้งมากมายแค่รอยยิ้มที่จริงใจก็ให้ไม่ได้
หลีเซียวหยวนไม่เห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเฉียวเวยเวย เขาลุกขึ้นแล้วพูด
“ไปกันเถอะ”
ชายหนุ่มเดินนำหน้าหญิงสาวออกไป เมื่อไปใกล้จะถึงเรือนใหญ่บ่าวหน้าห้องก็เข้าไปรายงานคนข้างใน ครั้งคนทั้งสองไปถึงก็ถูกเชิญเข้าไปในเรือนทัน
“เวยเอ๋อร์ข้าได้ข่าวว่าเจ้าไม่สบาย เป็นอย่างไรบ้าง”
ในตระกูลหลีนอกจากสามีของนางผู้อื่นก็ล้วนดีหมด ในความทรงจำมารดาของสามีดีกับหญิงสาวไม่น้อย นางจึงตอบด้วยน้ำเสียงจริงใจหลายส่วน
“เจ็บป่วยเล็กน้อย หายดีแล้วเจ้าค่ะ ขอบคุณท่านแม่ที่เป็นห่วง”
“เช่นนั้นก็ดีแล้ว...เซียวหยวน วันนี้หากมีเวลา ...เจ้าก็อยู่เป็นเพื่อนเวยเอ๋อร์เสียหน่อย”
“ขอรับท่านแม่” หลีเซียวหยวนเอ่ยตอบรับ
เมื่อสั่งความเสร็จเอ่ยถามไถ่อีกไม่กี่ประโยค ฮูหยินผู้เฒ่าก็ปล่อยคนทั้งสองออกมา หวังอยากจะให้บุตรชายและสะใภ้มีเวลาอยู่ด้วยให้มาก ทว่าเมื่อทั้งสองเดินมาถึงเรือน หลีเซียวหยวนก็หันกายกลับมากล่าว
“ข้ามีธุระเล็กน้อย แล้วตอนเย็นจะกลับมาทานมื้อเย็นกับเจ้า”
ทุกครั้งหลีเซียวหยวนจะมีข้ออ้างเพื่อปลีกตัวออกจากเฉียวเวยเวยเสมอ ทั้งที่เป็นวันเวลาที่ตกลงกันไว้ชายหนุ่มก็ไม่เคยรักษาสัญญา
หญิงสาวไม่แปลกใจรับคำสั่งง่าย ๆ
“เจ้าค่ะ”
แล้วก็เดินจากไป น้ำเสียงที่เย็นชาท่าทีที่เหินห่าง ทำให้หลีเซียวหยวนกระพริบตา ภายในใจกระพรืบไหวขึ้นมา เขามองตามร่างระหงที่กำลังเดินห่างออกไปหญิงสาวในวันนี้ให้ความรู้สึกไม่เหมือนเดิม
แม่นมฝูเห็นเฉียวเวยเวยเดินกลับเรือนมาคนเดียวก็ไม่แปลกใจ หันไปสั่งให้บ่าวไพร่เตรียมสำรับมื้อเช้า
หญิงสาวนั่งทานอาหารพร้อมรับการปรนนิบัติรับใช้ของบ่าวไพร่พร้อมทบทวนคิดถึงอดีตของเจ้าของร่างคนนี้ ในยามปกตินางก็เตรียมตัวเตรียมกายเพื่อหวังว่าในค่ำคืนนี้จะทำให้หลีเซียวหยวนพึงพอใจ
เฉียวเวยเวย ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายชีวิตช่างอนาจโดยแท้ ทว่าเมื่อนึกถึงรูปร่างหน้าตาของชายหนุ่มก็ทำให้นางยิ้มกรุ้มกริ่ม ท่าทางซึนๆ เช่นนั้น ยามอยู่บนเตียงเร่าร้อนไม่น้อย
อย่างไรก็ถือว่าเป็นสามีภรรยากัน
ก่อนโบกมือลา
คืนนี้นางก็จะขอลิ้มลองทดลองด้วยตนเองสักครั้ง