เสียงโทรศัพท์จากคุณแม่ของอคิณดังขึ้น
ในเช้าวันจันทร์
เขารับสายด้วยท่าทีปกติ — จนได้ยินประโยคนั้น
“ลูกพ่ออนุชิตกลับจากอังกฤษแล้วนะ อาทิตย์หน้าว่างมั้ยลูก? แม่อยากนัดทานข้าวกันหน่อย…”
เขาเงียบไป
ก่อนจะพูดเสียงเรียบ
“แม่ไม่เคยพูดถึงเรื่องหมั้นมาก่อน”
“ก็แม่เพิ่งรู้เรื่องใหม่เหมือนกัน”
“ลูกแม่กำลังเป็นข่าวในหมู่ผู้ถือหุ้น… ว่ามีความสัมพันธ์กับ ‘เด็กฝึกงาน’ ในบริษัท”
เขาขมวดคิ้วทันที
“แม่ไม่ได้สนว่าเรื่องนั้นจริงหรือไม่ แต่แม่จะไม่ให้ใครพูดว่าลูกชายแม่เสียหลักเพราะผู้หญิงไม่รู้หัวนอนปลายเท้า”
“แม่ครับ แพรไม่ใช่แบบนั้น—”
“แม่ไม่สนว่าเธอจะเป็น ‘แบบไหน’ สำหรับลูก”
“แต่สำหรับวงศ์ตระกูลเรา เธอไม่ใช่ ‘แบบที่ควรเป็น’”
เขานิ่ง
คำว่า “ควรเป็น” กระแทกหัวใจจนชา
“แม่ไม่บังคับให้หมั้นตอนนี้ แค่อยากให้ลูกเจอเมริญาก่อน”
เธอชื่อ เมริญา
ลูกสาวนักธุรกิจการเงินระดับประเทศ เรียนจบปริญญาโทจากอังกฤษ หน้าตาดี วางตัวดี ครบเครื่องในสายตาของผู้ใหญ่ทุกคน แต่ไม่ใช่คนที่เขาคิดถึงทุกคืน
ในห้องเงียบ ๆ ของอคิณ
เขากำลังนั่งทบทวนคำพูดของแม่
เสียงของเธอ… เสียงของแพร…
“ถ้าไม่ได้สำคัญกับคุณ อย่ากอดแพรไว้แบบนั้นเลยนะคะ”
เขาเคยคิดว่าเขาเป็นฝ่ายเลือก
แต่วันนี้…ดูเหมือนทุกคนกำลังเลือกให้เขา
…ยกเว้นเธอคนนั้น
ที่เลือก “เดินจากมา” ด้วยตัวเอง
อคิณนั่งอยู่ในห้องทำงาน กดมือถือดูชื่อ “แพร” ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร
จะอธิบายอะไรให้คนที่ “เดินออกมาเพราะเจ็บ” ฟังว่า
ตอนนี้เขา “อยากรั้ง” เธอกลับมาทั้งใจ
วันอาทิตย์
ร้านอาหารหรูริมแม่น้ำ
แม่ของเขา แต่งตัวสวย ดูภูมิฐาน
เมริญา เดินเข้ามาในชุดเดรสสีพาสเทลเรียบหรู แต่รัดรูปพอดีตัวจนเห็นสัดส่วนชัดเจน
เธอก้าวมั่นใจ แววตาสวยคมแบบผู้หญิงที่รู้คุณค่าในตัวเอง
และทันทีที่เห็นอคิณ — รอยยิ้มของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างมีเป้าหมาย
“สวัสดีค่ะอคิณ ยินดีที่ได้เจออีกครั้งนะคะ”
เสียงของเธอนุ่ม ทุ้ม และเต็มไปด้วยเสน่ห์เจตนา
เธอนั่งลงฝั่งตรงข้าม
ระหว่างที่แม่ทั้งสองพูดคุยเรื่องการงานและธุรกิจ
เมริญาหันมาถามเขาด้วยน้ำเสียงแฝงความเป็นกันเอง
แต่สิ่งที่อคิณรู้…
คือเขานั่งอยู่ตรงหน้า “ผู้หญิงที่ใช่ในสายตาทุกคน” ในขณะที่ใจเขา อยากจะลุกขึ้นเดินออกไปตามหาใครอีกคนที่ไม่มีใครยอมรับ
เมริญา : “คุณยังเล่นเทนนิสอยู่ไหมคะ? ฉันจำได้ว่าสมัยก่อนคุณตีเก่งมากเลย”
เธอแตะผมเบา ๆ ก่อนจะยิ้ม
“ฉันยังแพ้คุณอยู่เลย… ยังจำได้ไหม?”
อคิณพยักหน้าเบา ๆ
“นิดหน่อยครับ”
“อยากแก้มือไหมคะ?”
เธอถาม
“อาทิตย์หน้าเรานัดกันได้ ฉันเพิ่งสมัครคอร์สที่คลับแถวสุขุมวิท…ว่างช่วงเย็น ๆ นะคะ”
อคิณมองนิ่ง ไม่ตอบรับแต่ก็ไม่ปฏิเสธ
มื้ออาหารดำเนินไปอย่างหรูหรา
แต่ในสายตาเมริญา — มันคือ “สนามเจรจา”
เธอยื่นมือมาปัดเศษอะไรบางอย่างที่ปกเสื้อของเขา ใกล้เกินกว่าเหตุ จนแม่ของอคิณยิ้มพึงพอใจ
“เมริญาเป็นผู้หญิงที่ใครเห็นก็รักนะ อคิณ”
“เรียบร้อย ฉลาด และรู้จักวางตัว”
แม่ของอคิณกล่าวขึ้น อย่างถูกใจ
เมริญายิ้มรับคำชม แล้วพูดเบา ๆ แต่ได้ยินกันทุกคน
“แต่ถ้าต้องวางตัวตลอดเวลา…ก็กลัวเหมือนกันนะคะว่าจะจับหัวใจใครไม่ได้ซักที” สายตาเธอหันไปทางอคิณเต็ม ๆ
“ฉันดีใจที่คุณยังโสดนะคะ…”เธอขยับใกล้
“และหวังว่า…จะไม่ติดใจกับใครในบริษัทของคุณมากเกินไป”
เขาหันขวับกลับไปมองเธอ —
คราวนี้ในแววตาเขาไม่มีความสุภาพเหลืออยู่
“คุณรู้เรื่องอะไร?”
เมริญาโน้มตัวเข้ามาเล็กน้อย เสียงเธอเบาลงเป็นกระซิบเฉพาะสองคน
“อย่าลืมนะคะว่า คุณกับฉันเหมาะสมกันที่สุด…ไม่ใช่ใครก็ไม่รู้ที่มานั่งแทนที่ฉันในหัวใจคุณ”
อคิณช้อนตามองเธอ แววตาเปลี่ยนเป็นเยือกเย็นอย่างชัดเจน
“ผมมาที่นี่เพราะคุณแม่ขอ ไม่ใช่เพราะอยากมา”
น้ำเสียงเขานิ่งแต่เฉียบขาด
“และอย่าดูถูกใครในชีวิตผมอีก ไม่อย่างนั้น…ผมจะไม่อดทนอีกต่อไป”
เมริญาหน้าเจื่อนไปชั่วครู่ ก่อนจะยิ้มฝืน ๆ แล้วเปลี่ยนเรื่อง
ก่อนจะเดินจากไปด้วยท่าทีมั่นใจเกินหญิงใด
เพราะเธอรู้ว่า…ผู้หญิงคนนั้น ไม่เหมาะสมเท่าเธอเลยแม้แต่นิดเดียว และเธอไม่คิดจะปล่อยเขาให้ใครทั้งนั้น
เย็นวันเดียวกันนั้น แพรเดินกลับคอนโดคนเดียว
ฝนตกปรอย ๆ เธอยืนมองตึกออฟฟิศของอคิณจากอีกฝั่งถนน
หลังจากมื้ออาหารหรูผ่านไป
เมริญายืนรอรถอยู่หน้าโรงแรม
มือข้างหนึ่งถือกระเป๋าแบรนด์เนม
อีกข้างถือโทรศัพท์ที่เพิ่งเปิดแอป IG Story ขึ้นมา
เธอเลือกรูป…
ภาพที่เธอยืนข้างอคิณแบบ “พอดีเป๊ะ”
แสงไฟอบอุ่น แววตาเธอยิ้มพอดี
และภาพนั้น — ไม่มีแม่ ๆ อยู่ในเฟรม
เธอไม่โพสต์ลงไอจี
แต่… กดส่งตรงเข้าไลน์ “แพร” ที่เพิ่งแอดไว้จากรายชื่อในบริษัทเมื่อไม่กี่วันก่อน
[ ส่งรูปภาพ ]
“ขอบคุณสำหรับมื้อค่ำที่แสนพิเศษ 🥂🙂”
ไม่มีคำอธิบายใด
ไม่มีแคปชันเกินจำเป็น
แต่คนที่รับข้อความ…เข้าใจทุกอย่าง
แพร ยืนอยู่หน้าห้อง หัวใจเต้นช้า ๆ
เธอมองภาพในมือ — เขาในมุมที่เธอเคยเห็นแค่คนเดียว
…แต่วันนี้กลับกลายเป็นของใครอีกคน
เธอไม่ตอบ ไม่ลบ แค่ปิดหน้าจอ แล้วเงยหน้าขึ้นช้า ๆ
“ถ้าใจยังสั่น…ก็ต้องหยุดอ่านข่าวของเขา”
เธอบอกตัวเองในกระจก
…แม้ในอกจะเต้นรัวแทบทรุดลงกับพื้นก็ตาม
แต่ความจริงที่แพรไม่รู้คือ อคิณนั่งอยู่ตรงโต๊ะนั้น ในร้านอาหารสุดหรู แต่สายตาเขา ไม่ได้มองเมริญาเลยแม้แต่นิดเดียว เขามองเพียง “เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ที่ควรเป็นของใครบางคนเท่านั้น”