EP.5

2132 Words
ปัจจุบัน "แล้วตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ล่ะ ตอนนี้คงยังเรียนไม่จบหรอกใช่ไหม?" "ค่ะ ตอนนี้หยกกำลังฝึกงาน" "อ่า...นักศึกษาฝึกงาน" ฉันก้มมองนิ้วตัวเองอีกครั้งเพื่อหลบสายตาของพี่โซ่ที่กำลังมองมา และจะว่าก็ว่าเถอะเพราะฉันเกร็งไปหมดแล้ว จะไม่ให้เกร็งได้ไงพี่โซ่ตัวเป็นๆกำลังนั่งดูดกาแฟเย็นอยู่ตรงหน้า แถมยังไม่พอเขายังพาฉันมากินกาแฟในร้านที่เต็มไปด้วยคนรู้จักเขาแบบนี้อ่ะ เขาคิดว่าแฟนคลับตัวเองจะจำไม่ได้เพียงเพราะตัวเองใส่แค่แว่นดำงั้นจริงๆน่ะเหรอ? "เธอดูเกร็งๆนะ" "หยกคิดว่าพี่...คุณโซ่จะไปนั่งกินในร้านที่เป็นส่วนตัวกว่านี้หน่อยน่ะค่ะ" "เฮ้ยจะไปทำไมในที่ลับตาคน รึอยากไป?" "ไม่ใช่ค่ะไม่ใช่แบบนั้น หยกกลัวว่าคุณโซ่จะมีข่าวไม่ดี" "ก็มีตลอดน่ะนะเพราะงั้นอย่าไปซีเรียส เราออกมานั่งในที่ที่คนเห็นแบบนี้ดีกว่าไปลับๆซ่อนๆอีก" ฉันเงยหน้ามองพี่โซ่อย่างไม่เชื่อหู เพราะความคิดเขามันแหวกแนวจากคนอื่นจริงๆ แต่มันก็ใช่ว่ามันจะไม่ได้ผลเพราะแฟนคลับของพี่โซ่ไม่ได้มีอาการแตกตื่นอะไรที่เขามานั่งกับฉันแบบนี้ เผลอๆพวกเขาอาจคิดว่าฉันเป็นคนดูแลของพี่โซ่ก็ได้...ประมาณว่าพวกเบ๊นั่นแหละ "แล้วนี่เรียนอะไรอยู่?" "นิเทศเอกวารสารค่ะ" "เดาไว้ไม่ผิดเลยว่ะ นี่พี่คิดว่าไม่เกี่ยวกับงานเขียนก็ครูสอนภาษาไทยอ่ะเราน่ะ" พี่โซ่ยิ้มกว้างแบบไม่เซอร์ไพรส์อะไรมากที่ฉันเรียนคณะนี้ ก่อนฉันจะเงยหน้ามองสบตาคนตรงหน้าด้วยท่าทีประหม่าหน่อยๆ "แล้วคุณโซ่เป็นยังไงบ้างคะ งานเยอะไหม?" "ตอนนี้ไม่แล้วมันหลังช่วงทัวร์ด้วยแหละเลยมีแต่งานถ่ายแบบที่ต้องกลับมาเคลียร์" "ถือว่าพักผ่อนไปในตัวเลยนะคะเนี่ย" "จะว่างั้นก็ใช่" พี่โซ่ขยับอิงพนักเก้าอี้มองฉันก่อนจะยิ้มบางๆ "แต่นี่ก็กะจะละทางโลกไปบวชแล้วแหละ" "คะ!?" "ฮ่าๆ" พี่โซ่หัวเราะขำจนต้องจับท้องตัวเองไว้ "ใครมันจะบ้าไปบวชว่ะเธอนี่แม่งหลอกง่ายเสมอต้นเสมอปลายจริงๆนะ" "โถ่ใครจะไปรู้ความคิดพี่ล่ะคะ?" "ฮ่าๆ" พี่โซ่ยังคงหัวเราะอยู่จนแฟนคลับเขาที่นั่งแอบๆมองอยู่รอบข้างต่างยกโทรศัพท์มากดถ่ายรูป ถ่ายวิดิโอเขาเต็มไปหมด "จี้ว่ะไม่เจอกันนานตั้งหลายปีก็ยังเหมือนเดิม" "เหมือนเดิมยังไงคะ?" "น่ารักเหมือนเดิมไง" พี่โซ่ยิ้มให้พร้อมกับเท้าคางมองฉันด้วยแววตาที่ไม่เหมือนเดิม และใช่แววตาเขาไม่ได้เหมือนในความทรงจำของฉัน บางครั้งอาจเป็นเพราะเขาโตขึ้นมากเลยไม่ได้มีแววตาอย่างเมื่อก่อน "อะไรกันชมแค่นี้ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้น?" "ทำหน้าแบบไหนคะ?" "เหมือนจะร้องไห้" ฉันเงยหน้ามองพี่โซ่ขณะที่เขากำลังยกยิ้มและขยับลุก "หยกไม่ได้จะร้องไห้นะคะ" "ก็พูดว่าแค่เหมือนนิพี่พูดตอนไหนว่าเราจะร้องเลย" ฉันเม้มปากมองพี่โซ่ก่อนเขาจะล้วงกระเป๋าเลิกคิ้วมองฉัน "แล้วนี่จะไปไหนต่อ?" "หยกไม่ได้จะไปไหนค่ะ" "ไปห้องพี่ไหมล่ะเผื่ออยากจะคุยกันต่อ" "ไปห้อง.." "พี่ขี้เกียจจะร้องไอ้ผู้จัดการหน้าโง่นั้นแล้ว" พี่โซ่ยกนาฬิกาขึ้นมาดูเวลาก่อนจะมองฉัน "ไปไหม?" "แล้วคุณโซ่จะกลับยังไงล่ะคะ?" "เดินมั้ง ก็บอกไปแล้วว่าไม่มีเงินสักบาท" "งั้นหยกไปส่งก็ได้ค่ะ" "เป็นความคิดที่ดีนะน่ะ" ฉันขยับลุกและหยิบแก้วน้ำปั่นของตัวเองที่ยังกินไม่หมดติดมือเดินตามพี่โซ่ออกมานอกร้าน ก่อนจะเดินนำเขาไปที่รถของตัวเอง "ไว้ใจได้ใช่ไหม?" พี่โซ่หันมาถามฉันที่กำลังปลดล็อกประตูรถ "ได้สิคะหยกสอบใบขับขี่ผ่านมาตั้งปีกว่าแล้วนะ" "ฮะๆ ยินดีด้วยนะตั้งปีกว่าแน่ะ" พี่โซ่ยกยิ้มมุมปากและเปิดประตูขึ้นรถไปก่อนฉันจึงเปิดประตูตามและเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ และสตาร์ทรถแต่ก่อนจะขับออกจากหน้าร้านฉันก็หันไปมองพี่โซ่ที่กำลังนั่งเท้าแขนกับที่วางแขนอีกครั้ง เขาเลิกคิ้วมองฉันทันทีอย่างมีคำถาม "อะไร?" "คาดเข็มขัดด้วยสิคะ" "อ่า..เคร่งครัดจังนะ" ฉันรีบหันมามองถนนเพราะพี่โซ่ที่กำลังหัวเราะขำ แต่เขาก็ยอมคาดเบลท์ให้ฉันนะ ฉันมองกระจกขวาก่อนจะตีไฟเลี้ยวขับออกจากหน้าร้านกาแฟที่เรามานั่ง "บ้านพี่อยู่ไหนเหรอคะ?" "คอนโดน่ะ ขับออกถนนใหญ่แล้วขึ้นทางด่วนไปเลย" ฉันพยักหน้ารับก่อนจะขับตามทางที่เขาบอก และมันไกลจากบริษัทที่เขามาถ่ายแบบมากอยู่นะ คืออยู่คนละฝั่งกันเลยก็ว่าได้กว่าจะมาถึงคอนโดเขามันก็ใช้เวลาไปเกือบชั่วโมงได้อ่ะ "แล้วคุณโซ่จะขึ้นห้องได้เหรอคะ?" "ก็ไปขอการ์ดสำรอง แล้วตกลงจะไม่ขึ้นห้องพี่เหรอ?" "คะ?" พี่โซ่ยกยิ้มมองฉันขณะที่เขากำลังถอดเบลท์ "ไปกินน้ำกินขนมงี้" "เอ่อ.." "ในเมื่อไม่มีอะไรทำเราก็ไปรำลึกความหลังกันไง" ฟึ้บ ฉันเบิกตามองพี่โซ่ที่ขยับมาใกล้และปลดเบลท์ให้ฉัน เขาหัวเราะเบาๆก่อนหันไปเปิดประตูรถ "ตกลงยังไง?" พี่โซ่ถามอีกครั้งขณะที่ฉันกำลังนั่งมองเขาอยู่ แต่ว่าก็ว่ามันยังมีเรื่องที่ฉันอยากจะถามเขาอีกมากมายกว่านี้ เพราะตอนที่นั่งอยู่ในร้านกาแฟคนมันเยอะด้วยฉันเลยไม่ได้ถามอะไรเลย "ไปค่ะ" ฉันตอบพี่โซ่ก่อนจะหยิบกระเป๋าตัวเองและลงจากรถเดินตามเขาที่เดินไปหานิติบุคคลของคอนโด ซึ่งพี่โซ่ใช้เวลาไม่นานในการรอคีย์การ์ดสำรองที่เหมือนจะมีไว้สำรองให้พี่โซ่ตลอดอยู่แล้วน่ะนะ "หยกคิดว่าคุณจะอยู่บ้าน" "บ้านเหรอ" พี่โซ่เลิกคิ้วมองฉันระหว่างที่เรากำลังอยู่ในลิฟต์ "พี่ไม่คิดจะกลับไปตั้งนานแล้วนะ" ฉันหันมองพี่โซ่ที่ตอบแบบนั้นทันที ก่อนเขาจะหันมามองฉันด้วยแววตานิ่งเรียบไม่ได้แสดงอารมณ์อะไร "ก็บอกแล้วไงว่าพอเข้ามหาลัยพี่ก็เป็นอิสระแล้ว" "ค่ะ" ฉันตอบกลับไปอย่างไม่มีอะไรจะพูด เพราะอย่างเท่าที่ฉันรู้คือพี่โซ่โหยหาอิสระตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ทุกวันเหมือนเขารอให้ตัวเองเรียนจบมอหกเร็วๆ เพื่อจะได้ใช้ชีวิตในช่วงมหาลัยเร็วๆน่ะนะ "ถึงแล้ว" พอประตูลิฟต์เลื่อนเปิดออกก็เจอกับประตูใหญ่ที่เดียว ซึ่งดูเหมือนชั้นนี้จะเป็นชั้นดาดฟ้าไปแล้ว แต่มันกลับเป็นห้องเดี่ยวห้องใหญ่บนชั้นดาดฟ้าไปเลยแถมกระจกรอบๆห้องยังสามารถมองออกไปดูวิวของตัวเมืองได้อีก "ฮัลโหล" ฉันละสายตาจากวิวตัวเมืองในตอนเย็นมามองพี่โซ่ที่กำลังคุยโทรศัพท์ของคอนโดอยู่ด้วยแววตานิ่งเรียบ "ตอนนี้ผมอยู่คอนโดแล้ว...ค่อยเอามาให้ตอนค่ำๆก็ได้...อ้าวใครบอกให้คุณทิ้งผมก่อนเองล่ะครับคุณผู้จัดการ รึจะให้ผมรายงานทางบริษัทว่าผู้จัดรีบไปเล่นสงการณ์มากจนทิ้งศิลปินไว้คนเดียวแถมยังเอาของไปหมดทุกอย่าง..." พี่โซ่เสยผมตัวเองขึ้นอย่างหงุดหงิด เพราะผู้จัดการคงโวยวายเขาเรื่องที่เขาบอกให้ผู้จัดการไปหาที่ร้านกาแฟ แต่เขาดันออกมาก่อนแบบนี้ "เออทีหลังอย่าปากเก่งกับกู ขอบใจ" ฟึ้บ พี่โซ่กระแทกโทรศัพท์ของคอนโดลงที่เดิม ก่อนจะหันมองฉันที่กำลังยืนนิ่งอยู่และยิ้มให้บางๆ ราวกับเป็นคนละคนกับคนเมื่อกี้นี้ "ดื่มไวน์ไหม?" "ค่ะ" ฉันตอบทั้งที่ยังประหม่าอยู่ก่อนจะเดินไปนั่งลงที่โซฟามองพี่โซ่ที่เดินไปในโซนของครัว เขาเปิดตู้เอาไวน์ออกมาหนึ่งขวดพร้อมกับแก้วสองใบ ก่อนจะเดินมาวางไว้ที่โต๊ะตรงหน้าฉัน "อ่า..มีเค้กอยู่นะ" พี่โซ่พูดอีกครั้งและหันหลังเดินกลับไปที่ตู้เย็นพร้อมกับหยิบหนังยางบนตู้เย็นมารวบผมตัวเองขึ้นมัด เหมือนตอนแรกที่เขาไปถ่าย "อันนี้เป็นเค้กที่บริษัทให้ตอนวันไปทัวร์คอนวันสุดท้าย" ฉันพยักหน้ามองพี่โซ่ที่วางก้อนเค้กลงตรงหน้า ซึ่งมันเป็นเค้กที่ใหญ่เป็นป้อนด์เลยก็ว่าได้ แต่พี่โซ่ไม่ได้แตะสักคำ เพราะรูปร่างมันยังคงสภาพดีเหมือนตอนซื้อแป๊ะๆ "พี่โซ่ไม่กินขนมเหมือนเดิมเลยนะคะ" ฉันเงยหน้ามองเขาที่กำลังนั่งลงข้างๆ ซึ่งพี่โซ่ก็พยักหน้าและเปิดขวดไวน์เทใส่แก้วให้ "ก็ไม่กินแต่ไหนแต่ไร แต่มีช่วงนึงที่ได้กินมันทุกอาทิตย์น่ะนะ" พี่โซ่ตอบขำๆขณะที่ฉันก็ทำได้แค่บึนปากไปมา เพราะรู้ว่าเขากำลังหมายถึงใคร "ก็เวลาหยกเอาให้ชิมพี่ก็ไม่เห็นบอกนิว่าไม่กินขนม" "กลัวยัยเด็กร้องไห้โชว์ไง" ฉันเบะปากและตักเค้กมาชิม..อร่อยนะเค้กนมสดธรรมดาๆแต่อร่อยเอามากๆเลย "อร่อยไหม?" "ค่ะ หยกชอบมากเลยพี่ไม่กินจริงๆเหรอคะ?" "ไม่อ่ะ" ฉันพยักหน้าอย่างเสียดายก่อนจะตักเค้กมากินอีกคำ "เรียกพี่ได้แล้วดิ" "คะ?" "ก็ตอนแรกยังเรียกพี่ว่าคุณๆอยู่เลย" พี่โซ่ว่าอย่างขำๆแต่นั่นมันกลับทำเอาฉันแทบสำลัก ฉันรีบหยิบแก้วไวน์มาดื่มแก้เขิน และเหลือบมองพี่โซ่ที่กำลังนั่งจ้องมองกันอยู่อย่างทำตัวไม่ถูก "ทำตัวห่างเหินไปได้ แต่ก่อนยังเอาแต่ตามพี่ต้อยๆอยู่เลย" "หยกไม่ได้ตาม" "ตามไปทุกที่" ฉันเบิกตามองพี่โซ่ที่ขยับตัวมาวางแก้วไวน์ตรงหน้าฉันจนใบหน้าของเขาห่างจากฉันแค่คืบ และมันยิ่งทำฉันตกใจมากขึ้นในตอนที่เขาหันมามองพร้อมขยับมาใกล้จนฉันขยับหลังชิดโซฟา "ไม่ใช่ว่าที่มาเจอกันวันนี้ก็เพราะเธอตามพี่อีกเหรอ?" "มะไม่ใช่นะคะ" "เหรอ...ใช่จริงๆเหรอ?" พี่โซ่ขยับใบหน้าเอียงเข้ามาใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจร้อนๆจากเขา ขณะที่เขากำลังเป่าลมหายใจร้อนๆรดริมฝีปากของฉันอย่างหยอกล้อ...หัวใจฉันเต้นแรงไปหมดแล้ว "ถ้าเป็นความบังเอิญมันก็เป็นความบังเอิญแบบหนึ่งในล้านน่ะนะ" ฉันกำแก้วไวน์ในมือแน่นขณะที่ดวงตาคมกริบกำลังจ้องมองฉันอย่างจับผิด "พะพี่โซ่ขยับออกหน่อยไหมคะ?" "ขยับออกทำไม?" "เอ่อ..หยกว่ามันใกล้ไป" "มันก็ต้องใกล้อยู่แล้วไหม" พี่โซ่ยกยิ้มอย่างขำๆก่อนยกมือขึ้นมาเชยคางฉันขึ้นสบตากับเขาด้วยแววตาวูบไหว "ยังไงเราก็จะนอนด้วยกันอยู่แล้วทำกลัวไปได้" "นอน?" พี่โซ่เลิกคิ้วมองก่อนจะหลุดขำ "ก็ตามพี่ขึ้นมาบนห้องขนาดนี้มันก็แน่นอนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอว่ากำลังอ่อยกัน?" "เดี๋ยวนะคะ..อื้อ!!" ดวงตาฉันเบิกกว้างในจังหวะที่ริมฝีปากของพี่โซ่บดขยี้ลงมาที่ริมฝีปากฉันอย่างจงใจ ก่อนเขาจะขยับเอียงใบหน้าเข้ามาหาพร้อมทั้งขยับริมฝีปากดึงดูดริมฝีปากฉันจนฉันตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก ไม่นะที่ฉันตามเขาขึ้นมามันไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ ทำไมพี่โซ่ถึงคิดว่าฉันต้องการเรื่องแบบนี้ล่ะ....ทำไมเขาเปลี่ยนไปแบบนี้?
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD