บทนำ
วันปฐมนิเทศของมหาลัยเอซิด
ร่างเล็กของต้นหลิวหญิงสาวที่อายุเพิ่งเข้าสิบเก้าปีมาได้หมาด ๆ กำลังสาวเท้าเดินอยู่บริเวณริมถนนหลังมหาลัยเอกชนชื่อดัง ซึ่งเป็นมหาลัยที่เธอเลือกเข้ารับการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี
ขณะที่เธอกำลังเดินอยู่ที่ถนนหลังมหาลัยหลังจากจบกิจกรรมปฐมนิเทศของคณะ ในตอนนั้นเองเสียงโทรศัพท์ที่อยู่ในมือเล็กก็สั่นขึ้น
ครืด ครืด
เธอหลุบสายตามองชื่อปลายสายที่โทรเข้ามาก่อนจะกดรับสายนั้นทันที
"เป็นไงบ้างอะต้นหลิว เพื่อนใหม่ที่คณะมีเจ๋งเท่าเพื่อนเก่งเพื่อนเก่าอย่างฉันบ้างปะ"
"อืม…ไม่รู้ดิ ยังไม่มีเพื่อนสักคนเลยอะ" ต้นหลิวเอ่ยตอบประโยคคำถามของพะแพงเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยมัธยมต้นของตัวเอง
"ถามจริง?"
"ตอบจริง ก็แบบว่าไม่มีใครมาทัก ส่วนเราก็ไม่ได้เข้าไปทักใครเลยอะ เหมือนคนอื่น ๆ เขารู้จักกันมาอยู่แล้วเราก็เลยไม่อยากเข้าไปแทรกเท่าไหร่" ต้นหลิวเอ่ยตอบ
"แล้วงี้จะมีเพื่อนไหมไอ้หนู แกต้องเลิกนิสัยอินโทรเวิร์ตไม่กล้าเข้าสังคมได้แล้ว ไม่งั้นจะใช้ชีวิตในมหาลัยลำบากนะเว้ยบอกก่อน"
"โอ๊ย เลิกบ่นเถอะน่า เดี๋ยวเปิดเทอมก็คงมีเพื่อนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เองนั่นแหละ แต่ถึงไม่มีเราก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรอยู่แล้ว เรามีพะแพงอยู่นี่…"
"…เดี๋ยวเราไปหาพะแพงที่คณะก็ได้ เราเรียนคนละคณะไม่ได้เรียนคนละมหาลัยสักหน่อย อีกอย่างตึกคณะเรายังอยู่ติดกันอีกด้วย"
ต้นหลิวเอ่ยตอบพะแพง ซึ่งต้นหลิวเรียนอยู่คณะบัญชีส่วนพะแพงเรียนอยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์
"ดูทรงชาตินี้เราคงได้คบกันจนตายแน่เลยต้นหลิว" พะแพงเอ่ยตอบ
"โอ้โห แค่ได้ยินเสียงก็รู้แล้วว่าทำหน้าแบบไหนอยู่ ทำไม? คบกับเรามันไม่ดีเหรอหรือพะแพงเจอเพื่อนใหม่ที่เข้าขากันได้ดีแล้วเหรอจ๊ะ" เสียงหวานของต้นหลิวเอ่ยถามอย่างไม่จริงจัง
"เปล่า ที่ฉันบอกว่าได้คบกันจนตาย เพราะฉันก็ไม่เห็นใครที่จะเข้ากับฉันได้สักคนน่ะสิ"
"โชคชะตามันคงกำหนดมาแล้วอะ ฮ่า ๆ" ต้นหลิวพูดพร้อมกับหัวเราะออกมาเบา ๆ
"เถียงไม่ออกเลยฉัน ว่าแต่นี่ยังไม่ถึงคอนโดอีกเหรอ"
"อืม เดินอยู่แถวหลังมหาลัยเนี่ย กำลังจะเดินไปขึ้นรถเมล์แล้ว"
"อ๋อ ถ้างั้นแค่นี้ก่อนนะต้นหลิว พี่ว้ากเรียกไปรวมกลุ่มอีกแล้ว แม่งดุชิบเป๋งเลย ยิ่งกว่าไอ้โบ้ที่บ้านฉันอีก" ไอ้โบ้ที่พะแพงพูดถึงมันคือชื่อหมาที่แม่พะแพงเลี้ยงไว้ที่บ้านต่างจังหวัด
"หึ ระวังพี่เขาได้ยินแล้วจะเป็นเรื่อง"
"ไม่กลัว ๆ! งั้นแค่นี้นะ ถึงห้องแล้วทักมาบอกฉันด้วยล่ะ"
"อ่า ๆ โอเค ไปทำกิจกรรมต่อเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วง"
หลังจากวางสายจากพะแพงต้นหลิวก็เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าก่อนจะควักอมยิ้มจากกระเป๋ากระโปรงนักศึกษาออกมา เธอแกะอมยิ้มรสหวานออกก่อนจะเอาเข้าปากและดูดรับรสชาติแสนหวานด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย จากนั้นก็หยิบหูฟังไร้สายออกมาสวมใส่พร้อมกับกำลังจะกดเปิดเพลง
แต่แล้วจังหวะที่เธอกำลังจะเดินข้ามถนนเพื่อไปฝั่งตรงข้ามจู่ ๆ ก็มีบิกไบก์คันหนึ่งขับเข้ามาด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะหักหลบเธอแล้วก็…
โครม!!!
"ไอ้เชี่ยย!!" ต้นหลิวอุทานออกมาเสียงดังพร้อมกับเบิกตากว้าง ก่อนจะรีบจ้ำเท้าวิ่งไปหาผู้ชายร่างสูงเจ้าของบิกไบก์ซึ่งเขากำลังดันตัวเองลุกขึ้นมา
"ปะ เป็นอะไรไหมคะ" ต้นหลิวเอ่ยถามพร้อมกับจะเข้าไปช่วยประคองเขา
"เจ็บตรงไหนหรือเปล่าคะ"
แต่เขากลับลุกยืนขึ้นมาได้ตามปกติพร้อมกับถอดหมวกกันน็อกเต็มใบสีดำด้านของตัวเองออกและสะบัดผมตัวเองเบา ๆ ก่อนจะตวัดสายตามามองหน้าเธอนิ่ง
ต้นหลิวชะงักมองชายที่มีใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้า เพราะสายตาที่เขามองเธอมามันดุยิ่งกว่าไอ้โบ้บ้านพะแพงซะอีก
"เฮ้ย! ไอ้ไต้ฝุ่นมันอยู่ตรงนั้นเว้ย" ต้นหลิวหันขวับคอแทบเคล็ดเมื่อได้ยินเสียงกลุ่มคนตะโกนดังลั่นสลับกับเสียงรถบิกไบก์ที่กำลังขับมุ่งหน้ามาทางเธอที่ยืนอยู่กับเขาด้วยท่าทีเดือดดาลพร้อมกับชี้หน้าผู้ชายหน้าหล่อที่ยืนอยู่กับเธอตอนนี้
ฉากแบบนี้คุ้น ๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหน? ใบหน้าสวยทำหน้าครุ่นคิดแต่ไม่นานก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อหัวสมองดันไปนึกถึงภาพของกลุ่มเด็กช่างโดนไล่ตีที่เธอเคยพบเจอในอินเทอร์เน็ต
หมับ!
"ไป วิ่ง!"
พูดจบต้นหลิวก็รีบจับมือชายร่างสูงคนนั้นวิ่งเข้าซอยเล็ก ๆ ซอยหนึ่ง แต่พวกผู้ชายกลุ่มที่ไล่ตามเหมือนจะตามมาไม่หยุด
"เฮ้ย! หยุดนะเว้ย" เสียงคนพวกนั้นตะโกนไล่มาตามหลัง ต้นหลิวที่กำลังจับมือชายหน้าหล่อคนนั้นวิ่งหนีอยู่ สุดท้ายชายหน้าหล่อคนนั้นก็สลับเป็นคนมาจับมือ
ต้นหลิวและเป็นฝ่ายวิ่งนำแทน
ต้นหลิวไม่รู้ว่าวิ่งมาไกลแค่ไหน ชายหน้าหล่อคนนั้นพาเธอวิ่งมาที่ซอยเล็ก ๆ แคบ ๆ ที่รถบิกไบก์คันใหญ่ไม่สามารถขับเข้ามาได้ ทว่าตอนนี้เธอเหนื่อยมาก ต้นหลิวชะลอสองขาที่กำลังพยายามสับให้ทันคนขายาว ๆ ที่จับมือเธอวิ่งนำอยู่
"ดะ เดี๋ยวก่อน ขอพักเบรกหน่อยค่ะ" ต้นหลิวพูดจบก็ยืนหอบหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะชะโงกหน้าไปย่องดูกลุ่มคนที่ตามเธอมา ไม่สิ! ตามผู้ชายหน้าหล่อคนนี้ต่างหาก
"ไปยังนะ" เธอเอ่ยพูดขณะชะโงกหน้าไปมอง
"ไปแล้วแฮะ" เรียวปากสวยพูดอีกครั้งก่อนจะค่อย ๆ ถอยสองเท้ากลับมา
ปึก!
"โอ๊ย! เหยียบตีน" เสียงชายหน้าหล่อคนนั้นร้องดังลั่นทำให้ต้นหลิวสะดุ้งตัวเฮือกและหลุบมองสองเท้าเล็กของเธอที่เหยียบเท้าชายหน้าหล่อคนนั้นอยู่
"ขะ ขอโทษค่ะ" ต้นหลิวรีบยกเท้าออกพร้อมกับก้มหัวให้คนตรงหน้าเพื่อเป็นการขอโทษ
"เธอมาจับมือฉันวิ่งหนีพวกมันทำไม บ้ารึเปล่า" ไต้ฝุ่นชายเจ้าของหน้าหล่อผู้มีรอยสักรูปงูพันที่แขนและห้อยสร้อยเกียร์วิศวะไว้ที่คอเอ่ยพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
บะ บ้างั้นเหรอ? ไอ้คนนิสัยไม่ดีนี่คนเขาอุตส่าห์ช่วยให้รอดพ้นจากการโดนกระทืบ
"ก็เมื่อกี้พี่จะโดนคนพวกนั้นไล่ตีมาไม่ใช่เหรอ เราช่วยไว้นะ ทำไมถึงมาด่าเราว่าบ้า"
"คนอุตส่าห์พาวิ่งออกมา ขาลากหมดแล้วขอบคุณสักคำก็ไม่มี" เรียวปากสวยบ่นอุบอิบออกมา
"ฉันไม่ได้ขอ แล้วอีกอย่างฉันก็ไม่ได้หนีไอ้พวกโง่นั่นด้วย"
"ไม่ได้หนีแล้วจะวิ่งมากับเราทำไมล่ะคะ?"
"ก็เธอจับมือฉันวิ่งไง"
"แล้วทำไมไม่ปล่อยล่ะคะ" ต้นหลิวสวนกลับทันควัน ก็ใครมันจะไปรู้ เห็นชายกลุ่มนั้นชี้หน้าแถมตะโกนโหวกเหวกโวยวาย ใครเห็นก็ต้องคิดว่าโดนไล่ตีมาทั้งนั้นแหละ
"เธอน่ะ! เด็กเอซิดเหรอ" ไต้ฝุ่นหลุบมองกระดุมเสื้อสลับกับเข็มกลัดของมหาลัยที่ติดอยู่ที่เสื้อนักศึกษาด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตรสุด ๆ ทำเอาต้นหลิวถึงกับหรี่ตามองคนตัวสูงตรงหน้าแววตาไม่ไว้ใจ
"ฉันถาม ไม่มีปากรึไง" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ทำเอาคนตัวเล็กสะดุ้งตัวโหยง
ถ้าเขาบอกว่าไม่ได้หนีก็แปลว่าเป็นพวกเดียวกัน? ทรงพี่เขาก็เหมือนพวกนักเลงทรงช่าง แถมยังมีรอยสักใหญ่ ๆ ที่ต้นแขนด้วย
นี่เรากำลังอยู่กับนักเลงเหรอวะเนี่ย แถมยังไปต่อปากต่อคำกับเขาอีก ถ้าเกิดเราทำเขาโมโหแล้วหยิบมีดขึ้นมาแทงเราทำยังไง เคยเห็นบ่อย ๆ ว่าพวกนักเลงชอบพกมีดไล่แทงคู่อริ
"ฉันถาม" น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นทำเอาเธอที่กำลังคิดอะไรอยู่ขนลุกซู่ เธอหลุบมองต่ำก็เห็นว่าเขากำลังล้วงมือไปควักอะไรในกระเป๋ากางเกงออกมา
ยะ อย่าบอกนะว่ามีด!
"ขะ ขอโทษค่าา…อ๊ากก!! มะ ไม่อยู่แล้วเว้ยย"
"เฮ้ย เดี๋ยว!"
พรึบ!
มือแกร่งกำลังจะเอื้อมไปคว้าเธอไว้แต่ดันพลาดหยิบติดแค่พวงกุญแจหมีธรรมดา ๆ หลุดติดมือมาแทน
แล้วจะวิ่งหนีหาพระแสงอะไรวะ แม่งวิ่งออกไปอย่างไวเลย…เธอเป็นบ้ารึไงวะ
คนที่กำลังจะเอามือล้วงกระเป๋าเพื่อยืนแอ็กเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้างุนงง ก่อนที่จะหลุบมองพวงกุญแจหมีที่อยู่ในมือ