2 ชั่วโมงต่อมา เวลาตี 5 ครึ่ง “ฟึบ… ฟึบ…” เสียงฝีเท้าเหยียบลงบนดินชื้น ดังสม่ำเสมอ ตามมาด้วยเสียงหอบหายใจ “แฮ่ก… แฮ่ก…” ของคนที่กำลังใช้แรงทั้งหมดในร่างพาร่างบางบนหลังฝ่าทางลาดชันลงมา ตอนนี้อากาศหนาวจัดจนควันลมหายใจของเขาแทบจะกลายเป็นหมอก แต่เหงื่อก็ยังซึมเต็มหน้าผาก ขณะที่ลมหายใจของเจ้าของร่างเล็กกลับดังแผ่วเบาแนบอยู่ข้างหูเขา “อีกนิดเดียว…” เขาพึมพำกับตัวเอง น้ำเสียงสั่นจากแรงเหนื่อยและความหนาว และในตอนนั้นเองแรงสั่นสะเทือนจากการก้าวเดินทำให้มินเริ่มรู้สึกตัว แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย พร้อมเปลือกตาที่หนักอึ้งปรือตามองไปรอบ ๆ เธอเห็นเพียงแสงไฟฉายสลัว ๆ ส่องลอดหมอก และเงาไม้ที่ไหวตามแรงลม “อื้อ…” เสียงครางแผ่วลอดออกจากเรียวปากซีดเซียว คิณชะงักก้าวทันที “น้องมิน…รู้สึกตัวแล้วเหรอ” เสียงทุ้มต่ำของเขาสั่นเล็กน้อย ทั้งโล่งใจ ทั้งหวั่น เธอพยายามขยับปาก แต่ไม่มีแรงพอจะเปล่งคำตอบออกมา ภา

