หลายวันต่อมา
12.36 pm.
"วันนี้ทำงานป่ะ?" ฉันที่กำลังเล่นโทรศัพท์หันมองจุ๊บแจงก่อนจะพยักหน้า "โอ๊ยแม่มึงจะไม่พักบ้างเลยรึไง??"
"ใจจริงกูอยากลาออกด้วยซ้ำ แต่ออกแล้วกูจะทำไงจะเอาอะไรแดกคิดสิคิด" ยัยจุ๊บแจงเพื่อนสาวสุดแซ่บของฉันหัวเราะก่อนมันจะดันฉันเบาๆจนฉันต้องขมวดคิ้วใส่ "ผลักกูเพื่อ?"
"ขยับไปผัวกูจะนั่ง"
ฉันมองบนก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ใต้คณะพร้อมกับร่างสูงในสุดนักศึกษาที่เดินเข้ามา ไอ้ต้นแฟนใหม่คนที่แปดล้านของจุ๊บแจงยิ้มให้ฉันบางๆเมื่อเห็นฉันขยับลุกให้
"หวัดดีเบลล์"
"จ้า"
ฉันทักและนั่งลงที่เก้าอี้อีกตัวขณะที่จุ๊บแจงก็กอดแขนแฟนตัวเองแทบจะทันทีด้วยความคิดถึง
"คิดถึงอ่ะไม่เจอกันตั้งสามชั่วโมง"
"เค้าก็คิดถึงตัวเหมือนกัน"
"ไม่ได้อยู่ด้วยกันเหรอ?"
"โอ๊ยอีเบลล์มึงจะขัดเพื่อ!?" ฉันยักไหล่
"รำคาญน่ะ" ฉันตอบก่อนจะหัวเราะเยาะจุ๊บแจงที่ชี้หน้าฉันก่อนฉันจะหยิบกระเป๋าถือตัวเองมาสะพาย "ไปล่ะ"
"อ้าวกลับแล้วเหรอ ไม่ไปกินข้าวด้วยกันอ่ะ?" ต้นแฟนจุ๊บแจงถามฉันทันทีที่ฉันลุกฉันจึงโบกมือปฏิเสธ
"ไดเอทน่ะ"
"ไดเอทรึไม่มีเงินกินข้าว?" ฉันเบะปากก่อนจะสะบัดผมใส่
"ถึงไม่มีเงินกินข้าวแต่เดี๋ยวก็มีคนเลี้ยง"
"เกลียด!"
ฉันยิ้มเยาะเพื่อนนักแซะของตัวเอง ก่อนจะเดินออกมาจากใต้คณะพลางมองนาฬิกาข้อมือตอนนี้เพิ่งสี่โมงเย็นเอง ฉันข้ามถนนมาขึ้นรถบัสที่จอดอยู่ก่อนจะตรงไปนั่งที่ว่างพร้อมหยิบหูฟังมาใส่ที่หูและเปิดเพลงดังๆกลบเสียงวุ่นวายรอบตัว ฉันมองออกไปนอกกระจกอย่างเหม่อลอยตลอดทางจนถึงที่พัก แต่ยังเดินไม่ถึงชั้นตัวเองด้วยซ้ำฉันกลับได้ยินเสียงดังลอยมาแต่ไกลแล้ว
"ขนออกให้หมดเลยนั้นด้วยๆ"
เสียงดังจากชั้นบนทำฉันขมวดคิ้วก่อนจะรีบเดินขึ้นบันได เพราะรู้สึกว่าต้นกำเนิดของเสียงมันมาจากห้องของฉันและใช่จริงๆ ฉันมองป้าเจ้าของหอกำลังเปิดประตูห้องฉันให้ผู้ชายร่างใหญ่อีกสองคนเข้าไปฉันจึงรีบเดินไปดึงป้าให้หันมาเผชิญหน้ากันทันที
"ป้าทำอะไร??"
"มาแล้วเหรอ ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เอาเงินมาจ่ายนี่ค้างมาสามเดือนแล้วนะ!"
"โอ๊ยป้าหนูก็บอกแล้วไงว่าจะโอนให้คืนนี้ เนี่ยหนูกำลังจะไปหาเงินมาให้!" ฉันตอบเสียงดังก่อนจะดันเธอออกให้พ้นทางเพื่อเดินมาที่หน้าห้องตัวเอง "อย่ายุ่งกับของของฉันนะ!"
คนที่กำลังจะขนของห้องฉันออกชะงักและหันมองฉันที่กำลังถลึงตามองพวกมันทันที ฉันถอนหายใจเสียงดังก่อนจะควักเงินแบงก์พันที่เพิ่งไปกดมาเมื่อกี้ไปยัดใส่มือป้า
"เอาไปก่อนพันนึงเดี๋ยวที่เหลือจะโอนให้คืนนี้!"
"อย่าให้รู้นะว่าตอแหลอีก" ฉันมองบนและถอนหายใจใส่
"บอกลูกน้องป้าออกไปจากห้องฉันเถอะ"
เธอเบะปากใส่ฉันก่อนพยักหน้าให้ลูกน้องออกมา ฉันกอดอกและขยับหลีกทางให้พวกมันเดินออกก่อนเธอจะหันมาชี้หน้าฉันอีกครั้งก่อนเดินไป ฉันถอนหายใจออกมาเสียงดังและปิดประตูล็อกห้องตัวเองทันที..ห้องก็แค่นี้ยังงกอีก
"ฮัลโหลแม่"
(อืมว่าไง?)
เสียงเรียบของแม่ฉันตอบกลับมาทันทีที่เธอรับสาย
"ไหนเงินที่บอกจะส่งให้เบลล์อ่ะ เงินที่เบลล์ไปทำงานให้น่ะ"
(โทรมากี่ครั้งก็ทวงแต่เงินมึงนี่นะเบลล์)
"ไม่ให้ทวงเงินจะให้ทวงไรล่ะ ส่งมาเลยเขาจะไล่ออกอยู่แล้ว"
(ใช้หมดแล้ว)
"ไงนะ!!?" เงินเป็นหมื่นใช้หมดแล้วเนี่ยนะ!? "หมายความว่าไงแม่นั้นมันเงินที่เบลล์แบกหน้าไปหามานะ!"
(มึงเป็นลูกไหมเบลล์มึงก็ต้องหาเงินให้กูถูกไหม)
"แล้วเบลล์ไม่ต้องใช้รึไงเงินเบลล์ขอแค่หกพันเองที่เหลืออีกเป็นหมื่นเบลล์ก็ให้แม่!"
(ก็กูใช้หมดแล้วจะให้กูทำยังไงมันยุ่งยากนักมึงก็กลับมาอยู่บ้านสิ!)
"โอ๊ย!"
ฟึ่บ!
อะไรนักหนาวะ! ฉันโยนโทรศัพท์ลงที่เตียงอย่างหัวเสีย..แม่งเงินเป็นหมื่นใช้แค่สี่วันหมดได้ไงแล้วฉันจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าห้อง!? ฉันกัดริมฝีปากตัวเองก่อนจะตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรออกอีกครั้ง
(ว่าไง) เสียงผู้หญิงวัยกลางคนดังมาตามสาย
"เจ๊มีงานอะไรที่ได้เงินเร็วๆไหม"
(ขายตัว)
"ที่ไม่ใช่ขายตัว"
(ถ้าแกยอมขายฉันรับรองฉันจะดันแกขึ้นที่หนึ่งแน่เบลล์) ฉันถอนหายใจออกมาอย่างเอือมระอา (โทรมาของานแบบนี้แม่แกทำไรอีก?)
"เหมือนเดิมแหละเจ๊แต่ตอนนี้หนูอยากได้งานอ่ะเอาสักสองสามชั่วโมงจากนี้ก็ได้"
(ก็ใช่ว่าจะไม่มีนะ) เธอเงียบไปสักพักก่อนจะส่งรูปลูกค้ามาให้ในไลน์ เป็นผู้ชายวัยทำงานหน้าตาโอเคเลยล่ะ (เห็นยัง?)
"ค่ะ เขาเอากี่ชั่วโมงอ่ะ?"
(สาม ข้อตกลงเหมือนเดิมแต่ถ้าอยากเพิ่มอะไรก็แล้วแต่)
"เจ๊ส่งรูปหนูให้เขายัง เขาโอเคนะ?"
(ชอบแกเลยล่ะ) ดีขึ้นมาหน่อย (เดี๋ยวส่งที่นัดพบให้ตรงเวลาล่ะ)
"ขอบคุณนะเจ๊"
(อืม มีอะไรก็บอกฉันล่ะอย่าให้ต้องถาม)
"ค่ะ"
ฉันยิ้มออกมาอย่างเบาใจก่อนจะกดวางสายเธอใจดีมากนะแม้จะดูแข็งๆไปหน่อย ฉันรีบลุกมาเปลี่ยนชุดให้เหมาะกับการออกไปเจอลูกค้า สามชั่วโมงก็น่าจะได้สักพันห้า...น่าจะซื้อเวลาต่อได้อยู่นะ
เวลาต่อมา
"สวัสดีค่ะใช่พี่ไม้ไหมคะ?" ร่างสูงในชุดทำงานหันมามองฉัน เขาขยับแว่นนิดๆก่อนจะยิ้มให้เมื่อฉันยกมือไหว้และยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร "หนูชื่อเบลล์ค่ะ"
"ตัวจริงสวยกว่าในรูปอีกนะครับ"
"ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะพี่"
ฉันยิ้มด้วยท่าทีขวยเขินทำเอาพี่ไม้ยิ้มออกด้วยความเอ็นดู..และใช่คนตรงหน้าฉันตอนนี้คือลูกค้าของฉันในวันนี้ ส่วนงานที่ฉันทำก็เรียกง่ายๆว่าเพื่อนเที่ยวเรทตามเวลาและมีข้อตกลงที่รัดกุมส่วนใครจะมากกว่านั้นก็แล้วแต่จะตกลงกับลูกค้า แต่งานนี้ฉันไม่ได้ทำประจำหรอกทำแต่ช่วงที่เงินขาดมือแบบตอนนี้
"แล้วน้องเบลล์ตอนนี้อยู่ปีไหนเหรอครับ?"
"ปีหนึ่งน่ะค่ะ" คนตรงหน้าฉันเบิกตากว้างขณะที่เรากำลังกินข้าวกันอยู่ ฉันหัวเราะเบาๆและเม้มปากมองเขาด้วยท่าทีออดอ้อน "หน้าเบลล์แก่ใช่ไหมคะถึงตกใจขนาดนั้น"
"ไม่ๆ พี่แค่ไม่นึกว่าจะทำงานนี้ได้น่ะ" อ่อ..เขาคงกังวลเรื่องอายุสินะ ฉันยิ้มและยักไหล่
"ทำได้สิคะก็เราไม่ได้จะไปทำไรที่มากกว่านี้นิเนาะ"
ฉันตอบพร้อมจิ้มเนื้อสเต๊กเข้าปากพร้อมกับชวนเขาคุยไปเรื่อย ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องทำและต้องทำให้ธรรมชาติและสนุกด้วยเขาจะได้ไม่เบื่อและฉันคิดว่าฉันทำมันได้ดีนะ เขาคุยกับฉันทุกเรื่องเหมือนคนเก็บกดและไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่คนวัยนี้มีเรื่องมากมายให้เครียด แต่จะคุยกับใครก็ไม่ได้เพราะหาคนที่ไว้ใจยากเลยมาจบที่คุยกับคนที่ทำงานแบบฉันไง..เราจะไม่เอาเรื่องของลูกค้าไปพูดต่อแน่นอน เรามีหน้าที่รับฟังและคอยพูดให้เขาสบายใจเท่านั้น
"งานพี่นี่ดูหนักมากๆเลยนะคะ ดูสิไหล่พี่ตกตลอดเลย"
ฉันว่าพร้อมกับบีบไหล่ให้เขาเบาๆขณะที่เรากำลังเดินเล่นอยู่ในห้าง เขาบีบมือฉันและยิ้มบางๆ
"งานหนักมากเลยครับตอนแรกที่เข้าไม่เท่าไหร่แต่ช่วงนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงเยอะหน่อย" เขาว่าขณะที่จับมือฉันเดินไปตามทาง "พอลูกชายประธานเข้ามาทำงานอะไรๆก็เปลี่ยน แต่ก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีน่ะนะ"
"แล้วเปลี่ยนไปในทางที่ดีพี่ทำไมดูเหนื่อยล่ะคะ" ฉันเอียงใบหน้าถามอย่างเป็นห่วง
"ก็นั่นแหละ...เขาทำงานเก่งมากจนหลายแผนกต้องตื่นตัวตามพี่นี่หัวหมุนไปหมด"
ฉันยิ้มและบีบมือเขาเบาๆ
"ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงเสมอแหละค่ะพี่แค่ต้องการเวลาปรับตัวแต่เบลล์ว่าพี่ทำมันได้ดีแน่" คนข้างๆฉันยิ้มเขิน
"คุยกับเบลล์แล้วพี่สบายใจขึ้นเยอะเลย เบลล์อยากได้อะไรไหมพี่อาจจะพอซื้อให้ได้นะ"
ฉันเบิกตานิดๆ คือถ้าลูกค้าจะซื้ออะไรให้มันก็เป็นเรื่องปกติแหละแต่ฉันไม่ได้อยากได้อะไรเพิ่มแล้ว..เขาก็คงมีเรื่องที่ต้องใช้เงินเพราะงั้นให้เขาจ่ายแค่เรทเวลาก็พอ
"เบลล์อยากกินไอติมค่ะ"
"ห๊ะ?" เขามองฉันอย่างไม่เชื่อสายตาฉันเลยชี้ไปที่ร้านขายไอศกรีมเล็กๆในห้างใหญ่ "พี่นึกว่าเบลล์อยากได้พวกกระเป๋ารองเท้า"
"มันกินไม่ได้หนิคะ เบลล์อยากกินแค่ไอติมโคนน่ะค่ะ"
"ฮะๆ งั้นรอพี่แป๊บเดี๋ยวพี่ไปซื้อให้"
ฉันพยักหน้าและยืนรอเขาไปซื้อไอศกรีมก่อนจะดูเวลา...จะสามทุ่มแล้วและอีกไม่ถึงยี่สิบนาทีก็จะหมดเวลาของเขา
ฟึ้บ..
"ได้แล้วครับคนสวย"
"ขอบคุณนะคะ" ฉันรับมาและเลียตามโคนทันทีส่วนเขาไม่กินแฮะ เราสบตากันก่อนพี่ไม้จะยิ้มเขินๆ
"วันนี้ขอบคุณมากนะครับที่รับฟังพี่"
"เบลล์มากกว่าที่ต้องขอบคุณพี่"
เขาเป็นลูกค้าชั้นดีของฉันที่นานๆทีจะเจอเลยนะ ไม่ล่วงเกินและให้เกียรติกว่าที่ฉันคิดไว้ พี่ไม้จับมือฉันก่อนเขาจะหันหลังเหมือนจะพาฉันเดินไปส่งที่หน้าห้างแต่เขากลับชะงักหยุดยืนฉันจึงเหลือบมองด้วยแม้จะยังกินไอติมอยู่
"สะ สวัสดีครับคุณยักษ์"
ชื่อนี่ทำเอาฉันชะงักไปด้วย พี่ไม้ขยับนิดๆทำให้ฉันเผชิญหน้ากับร่างสูงที่อยู่ในชุดนักศึกษาอย่างเลี่ยงไม่ได้ พี่ยักษ์มีท่าทีแปลกใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเขาสบตากับฉัน เขาเหลือบมองมือของฉันที่กำลังจับกับพี่ไม้อยู่ก่อนจะเหลือบมองพี่ไม้อีกครั้ง
"สวัสดีครับคุณไม้" พี่ยักษ์ยิ้มและก้มหัวให้พี่ไม้นิดๆ "มาเดทเหรอครับ?"
"อ่อ ก็ทำนองนั้นครับแล้ว..คุณยักษ์มาทำอะไรเหรอครับ?"
"หาหนังสือน่ะครับพอดีผมต้องทำวิจัย"
"ครับ เอ่องั้นผมขอตัว"
"ครับ"
พี่ยักษ์ก้มหัวให้คุณไม้ที่ก้มหัวลาเขานิดๆก่อนฉันจะถูกดึงให้เดินตามออกมา ฉันไม่ได้หันมองพี่ยักษ์..ไม่ได้สบตาหรือทำอะไรทั้งนั้นฉันเลยไม่รู้ว่าเขาจะมองฉันไหมหรือกำลังทำหน้าตายังไง แต่ให้ตาย..ทำไมต้องมาเจอในเวลาแบบนี้ด้วย
(ยักษ์)
"คุณยักษ์ครับ" เสียงของลุงสงค์ดังขึ้นทำเอาผมหลุดจากภวังค์ ผมเงยหน้ามองเขาที่กำลังเปิดประตูให้อยู่ก่อนจะลงจากรถและยิ้มให้เขาบางๆ "ผมเห็นคุณยักษ์นั่งอยู่ในรถนานแล้วน่ะครับเลยเป็นห่วง"
"ผมโอเคครับ ลุงสงค์กลับเลยก็ได้นะครับดึกแล้ว"
"ครับ"
ผมยืนมองลุงสงค์ที่เดินไปที่รถตัวเองก่อนจะเดินกลับเข้าบ้าน เขาเป็นพ่อบ้านน่ะแต่ปกติจะประจำอยู่บ้านใหญ่ที่มาขับรถให้ เพราะแม่อยากให้มาดูแลผมที่อยู่คนเดียว ผมปิดประตูบ้านและเดินขึ้นชั้นสองก่อนจะตรงไปที่โต๊ะในห้องทำงาน ได้หนังสือมาสามเล่มซึ่งน่าจะพอกับข้อมูลที่ต้องอ่านเพิ่ม
ติ๊ดๆๆๆ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นผมจึงหยิบมาดูก่อนจะเห็นชื่อไอ้ใบเตยโชว์อยู่ ไอ้นี่โทรมาชวนไปกินเหล้าอีกแน่ๆ
"ว่าไง"
(แดกเหล้ากันที่รัก) เดาผิดซะที่ไหน
"วันนี้กูบายนะกะจะเคลียร์วิจัย"
(โอ๊ย จารเพิ่งสั่งมึงจะรีบไปไหน!?)
"รีบส่งไงมึงคิดว่าทำเนี่ยจารจะไม่ให้มึงแก้เลยว่างั้น?"
(กลัวไรแค่เอฟ)
"แดกไปเถอะ"
(หูย งี้ก็มีกูกะไอ้พายุสองคนดิมันไม่มารับกูแน่อ่ะ) ผมถอนหายใจทันที (เออๆไว้เจอกัน)
"อย่าเมามากนะพวกมึงน่ะ"
(เป็นห่วงเค้า!?)
"ฮึ ขี้เกียจไปเก็บกวาด"
(ใจร้ายย)
ผมส่ายอย่างเอือมระอาเพราะช่วงนี้ไอ้สองคนนี้ไปดื่มกันบ่อยมาก ผมเช็คโทรศัพท์ต่ออีกหน่อยก่อนจะกดมาที่เบอร์โทรของเบลล์..เราเพิ่งเจอกันไปไม่กี่ชั่วโมงก่อน ผมทั้งแปลกใจและไม่สบายใจ ผมไม่แน่ใจนักว่าทำไมเธอถึงคบกับคนอายุเยอะกว่าขนาดนั้นได้ คุณไม้เป็นผู้จัดการแผนกบัญชีที่ผมคุ้นดีซึ่งผมคิดว่าเขาเป็นคนที่ค่อนข้างเก็บกด
"..."
ผมพิงตัวไปกับพนักเก้าอี้พร้อมประสานมือที่ตักตัวเอง หรือผมควรโทรหาน้อง...หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาสองปีจู่ๆไปถามเธอแบบนั้นมันแปลกๆ และเบลล์ก็ดูอึดอัดที่ได้เจอผม มันก็น่าอึดอัดอยู่หรอกขนาดผมยังอึดอัด แต่มันอดห่วงไม่ได้จริงๆ
วันต่อมา
08.15 am.
"นึกว่าจะไม่เข้าบริษัท"
"ผมมาดูเอกสารนิดหน่อยน่ะครับ" ผมยิ้มให้ประธานของบริษัทที่เป็นพ่อของผมบางๆ เราบังเอิญเจอกันในลิฟต์น่ะพ่อหันมองผมที่อยู่ในชุดนักศึกษาก่อนจะตบไหล่เบาๆ "อะไรครับพ่อ?"
"แกดูดีในชุดนี้นะ แต่พ่อคิดว่าเวลาใส่สูทจะดูดีกว่า"
"เดี๋ยวผมก็ได้ใส่ให้พ่อดูทุกวันแล้วน่า" ผมว่าพร้อมกับประตูลิฟต์ที่เลื่อนเปิดเมื่อถึงชั้นที่ผมจะลง "อย่าลืมทานข้าวนะครับ"
"รู้น่า แม่แกก็พูดแบบนี้"
"ทานยาหลังอาหารด้วยนะครับ"
"ไอ้ยักษ์ รู้แล้วน่า!"
ผมหัวเราะขำพ่อที่มองผมดุๆเพราะเขาไม่ชอบให้ผมทำเหมือนกับเขาเป็นเด็กแต่ก็นั่นแหละ พ่อมีโรคประจำตัวที่ต้องกินยาเพราะโหมงานหนักผมเลยเป็นห่วงพ่อมากไง ผมเดินเข้ามาที่แผนกบัญชี
"สวัสดีค่ะคุณยักษ์ มาหาใครแต่เช้าคะเนี่ย??"
"พี่ไม้น่ะครับ ผมอยากคุยด้วยถ้าเขามาแล้วบอกไปห้องผมหน่อยนะ"
"ได้เลยค่ะคุณยักษ์"
เธอรับปากผมจึงพยักหน้าและเดินผ่านเข้ามาที่ห้องใหญ่ด้านในเข้าไปอีกซึ่งเป็นห้องทำงานของผม ผมมาไม่บ่อยหรอกส่วนมากจะทำงานที่บ้านเอาด้วยความที่ยังเรียนอยู่ด้วยเลยอยากโฟกัสกับทางนั้นให้มากกว่า
ก๊อกๆ
"เชิญครับ" ผมว่าพร้อมกับวางเอกสารลงที่โต๊ะ ผมพยักหน้าให้พี่ไม้นั่งลงซึ่งเขาก็นั่งแม้จะยังมีท่าทีสงสัยอยู่มากก็ตาม "ขอโทษนะครับที่เรียกมาแบบนี้"
"ไม่เป็นไรครับคุณยักษ์ ว่าแต่ผมต้องแก้งานอะไรอีกเหรอครับ?"
"ไม่ใช่เรื่องงานหรอกครับ" ผมตอบก่อนจะดันเอกสารออกให้พ้นตรงหน้าและมองสบตาเขา "ผมจะถามเรื่องเมื่อวานน่ะครับ"
"เมื่อวาน...ที่ผมเจอคุณยักษ์น่ะเหรอครับ?"
"ครับ พอดีผมสงสัย"
"ครับ?"
"คุณคบกับเบลล์เหรอครับ?"
"คุณยักษ์รู้จักน้องเบลล์ด้วยเหรอครับ??" ผมพยักหน้าขณะที่เขาก็เบิกตากว้างดูตกใจมากจนผมสงสัย "คุณยักษ์ก็ซื้อเหรอครับ!?"
"ครับ? ผมไม่แน่ใจว่าคุณกำลังพูดเรื่องอะไร"
"อ่อ ซื้อเพื่อนเที่ยวน่ะครับเมื่อวานนี้ผมก็ซื้อเธอ"
ซื้อเพื่อนเที่ยว...?
"ผมนึกว่าคุณเป็นแฟนกัน"
"ไม่ครับๆ ผมเป็นลูกค้าน้องเบลล์น่ะ"
"ลูกค้า"
"ผมนึกว่าคุณยักษ์รู้ซะอีก...คุณไม่ได้ซื้อเธอเหรอครับ"
"ไม่ใช่ครับ พอดีเธอเป็นคนรู้จักผม"
ผมตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบทำเอาคนตรงหน้าเริ่มทำตัวไม่ถูก พี่ไม้กระแอมไอเบาๆก่อนจะมองผม
"เอ่อ ผมขอโทษครับถ้ารู้ว่าคุณรู้จักเธอผมคงไม่เลือก"
"คุณช่วยอธิบายมากกว่านี้หน่อยได้ไหมผมอยากรู้ให้มากกว่านี้ อะไรคือเพื่อนเที่ยวและทำไมต้องซื้อ?"
มันคงไม่ใช่การขายตัวหรอกใช่ไหม...ให้ตายเบลล์ชักน่าห่วงเกินไปแล้วนะ