EP.2

2927 Words
หลายวันต่อมา 12.36 pm. "วันนี้ทำงานป่ะ?" ฉันที่กำลังเล่นโทรศัพท์หันมองจุ๊บแจงก่อนจะพยักหน้า "โอ๊ยแม่มึงจะไม่พักบ้างเลยรึไง??" "ใจจริงกูอยากลาออกด้วยซ้ำ แต่ออกแล้วกูจะทำไงจะเอาอะไรแดกคิดสิคิด" ยัยจุ๊บแจงเพื่อนสาวสุดแซ่บของฉันหัวเราะก่อนมันจะดันฉันเบาๆจนฉันต้องขมวดคิ้วใส่ "ผลักกูเพื่อ?" "ขยับไปผัวกูจะนั่ง" ฉันมองบนก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ใต้คณะพร้อมกับร่างสูงในสุดนักศึกษาที่เดินเข้ามา ไอ้ต้นแฟนใหม่คนที่แปดล้านของจุ๊บแจงยิ้มให้ฉันบางๆเมื่อเห็นฉันขยับลุกให้ "หวัดดีเบลล์" "จ้า" ฉันทักและนั่งลงที่เก้าอี้อีกตัวขณะที่จุ๊บแจงก็กอดแขนแฟนตัวเองแทบจะทันทีด้วยความคิดถึง "คิดถึงอ่ะไม่เจอกันตั้งสามชั่วโมง" "เค้าก็คิดถึงตัวเหมือนกัน" "ไม่ได้อยู่ด้วยกันเหรอ?" "โอ๊ยอีเบลล์มึงจะขัดเพื่อ!?" ฉันยักไหล่ "รำคาญน่ะ" ฉันตอบก่อนจะหัวเราะเยาะจุ๊บแจงที่ชี้หน้าฉันก่อนฉันจะหยิบกระเป๋าถือตัวเองมาสะพาย "ไปล่ะ" "อ้าวกลับแล้วเหรอ ไม่ไปกินข้าวด้วยกันอ่ะ?" ต้นแฟนจุ๊บแจงถามฉันทันทีที่ฉันลุกฉันจึงโบกมือปฏิเสธ "ไดเอทน่ะ" "ไดเอทรึไม่มีเงินกินข้าว?" ฉันเบะปากก่อนจะสะบัดผมใส่ "ถึงไม่มีเงินกินข้าวแต่เดี๋ยวก็มีคนเลี้ยง" "เกลียด!" ฉันยิ้มเยาะเพื่อนนักแซะของตัวเอง ก่อนจะเดินออกมาจากใต้คณะพลางมองนาฬิกาข้อมือตอนนี้เพิ่งสี่โมงเย็นเอง ฉันข้ามถนนมาขึ้นรถบัสที่จอดอยู่ก่อนจะตรงไปนั่งที่ว่างพร้อมหยิบหูฟังมาใส่ที่หูและเปิดเพลงดังๆกลบเสียงวุ่นวายรอบตัว ฉันมองออกไปนอกกระจกอย่างเหม่อลอยตลอดทางจนถึงที่พัก แต่ยังเดินไม่ถึงชั้นตัวเองด้วยซ้ำฉันกลับได้ยินเสียงดังลอยมาแต่ไกลแล้ว "ขนออกให้หมดเลยนั้นด้วยๆ" เสียงดังจากชั้นบนทำฉันขมวดคิ้วก่อนจะรีบเดินขึ้นบันได เพราะรู้สึกว่าต้นกำเนิดของเสียงมันมาจากห้องของฉันและใช่จริงๆ ฉันมองป้าเจ้าของหอกำลังเปิดประตูห้องฉันให้ผู้ชายร่างใหญ่อีกสองคนเข้าไปฉันจึงรีบเดินไปดึงป้าให้หันมาเผชิญหน้ากันทันที "ป้าทำอะไร??" "มาแล้วเหรอ ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เอาเงินมาจ่ายนี่ค้างมาสามเดือนแล้วนะ!" "โอ๊ยป้าหนูก็บอกแล้วไงว่าจะโอนให้คืนนี้ เนี่ยหนูกำลังจะไปหาเงินมาให้!" ฉันตอบเสียงดังก่อนจะดันเธอออกให้พ้นทางเพื่อเดินมาที่หน้าห้องตัวเอง "อย่ายุ่งกับของของฉันนะ!" คนที่กำลังจะขนของห้องฉันออกชะงักและหันมองฉันที่กำลังถลึงตามองพวกมันทันที ฉันถอนหายใจเสียงดังก่อนจะควักเงินแบงก์พันที่เพิ่งไปกดมาเมื่อกี้ไปยัดใส่มือป้า "เอาไปก่อนพันนึงเดี๋ยวที่เหลือจะโอนให้คืนนี้!" "อย่าให้รู้นะว่าตอแหลอีก" ฉันมองบนและถอนหายใจใส่ "บอกลูกน้องป้าออกไปจากห้องฉันเถอะ" เธอเบะปากใส่ฉันก่อนพยักหน้าให้ลูกน้องออกมา ฉันกอดอกและขยับหลีกทางให้พวกมันเดินออกก่อนเธอจะหันมาชี้หน้าฉันอีกครั้งก่อนเดินไป ฉันถอนหายใจออกมาเสียงดังและปิดประตูล็อกห้องตัวเองทันที..ห้องก็แค่นี้ยังงกอีก "ฮัลโหลแม่" (อืมว่าไง?) เสียงเรียบของแม่ฉันตอบกลับมาทันทีที่เธอรับสาย "ไหนเงินที่บอกจะส่งให้เบลล์อ่ะ เงินที่เบลล์ไปทำงานให้น่ะ" (โทรมากี่ครั้งก็ทวงแต่เงินมึงนี่นะเบลล์) "ไม่ให้ทวงเงินจะให้ทวงไรล่ะ ส่งมาเลยเขาจะไล่ออกอยู่แล้ว" (ใช้หมดแล้ว) "ไงนะ!!?" เงินเป็นหมื่นใช้หมดแล้วเนี่ยนะ!? "หมายความว่าไงแม่นั้นมันเงินที่เบลล์แบกหน้าไปหามานะ!" (มึงเป็นลูกไหมเบลล์มึงก็ต้องหาเงินให้กูถูกไหม) "แล้วเบลล์ไม่ต้องใช้รึไงเงินเบลล์ขอแค่หกพันเองที่เหลืออีกเป็นหมื่นเบลล์ก็ให้แม่!" (ก็กูใช้หมดแล้วจะให้กูทำยังไงมันยุ่งยากนักมึงก็กลับมาอยู่บ้านสิ!) "โอ๊ย!" ฟึ่บ! อะไรนักหนาวะ! ฉันโยนโทรศัพท์ลงที่เตียงอย่างหัวเสีย..แม่งเงินเป็นหมื่นใช้แค่สี่วันหมดได้ไงแล้วฉันจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าห้อง!? ฉันกัดริมฝีปากตัวเองก่อนจะตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรออกอีกครั้ง (ว่าไง) เสียงผู้หญิงวัยกลางคนดังมาตามสาย "เจ๊มีงานอะไรที่ได้เงินเร็วๆไหม" (ขายตัว) "ที่ไม่ใช่ขายตัว" (ถ้าแกยอมขายฉันรับรองฉันจะดันแกขึ้นที่หนึ่งแน่เบลล์) ฉันถอนหายใจออกมาอย่างเอือมระอา (โทรมาของานแบบนี้แม่แกทำไรอีก?) "เหมือนเดิมแหละเจ๊แต่ตอนนี้หนูอยากได้งานอ่ะเอาสักสองสามชั่วโมงจากนี้ก็ได้" (ก็ใช่ว่าจะไม่มีนะ) เธอเงียบไปสักพักก่อนจะส่งรูปลูกค้ามาให้ในไลน์ เป็นผู้ชายวัยทำงานหน้าตาโอเคเลยล่ะ (เห็นยัง?) "ค่ะ เขาเอากี่ชั่วโมงอ่ะ?" (สาม ข้อตกลงเหมือนเดิมแต่ถ้าอยากเพิ่มอะไรก็แล้วแต่) "เจ๊ส่งรูปหนูให้เขายัง เขาโอเคนะ?" (ชอบแกเลยล่ะ) ดีขึ้นมาหน่อย (เดี๋ยวส่งที่นัดพบให้ตรงเวลาล่ะ) "ขอบคุณนะเจ๊" (อืม มีอะไรก็บอกฉันล่ะอย่าให้ต้องถาม) "ค่ะ" ฉันยิ้มออกมาอย่างเบาใจก่อนจะกดวางสายเธอใจดีมากนะแม้จะดูแข็งๆไปหน่อย ฉันรีบลุกมาเปลี่ยนชุดให้เหมาะกับการออกไปเจอลูกค้า สามชั่วโมงก็น่าจะได้สักพันห้า...น่าจะซื้อเวลาต่อได้อยู่นะ เวลาต่อมา "สวัสดีค่ะใช่พี่ไม้ไหมคะ?" ร่างสูงในชุดทำงานหันมามองฉัน เขาขยับแว่นนิดๆก่อนจะยิ้มให้เมื่อฉันยกมือไหว้และยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร "หนูชื่อเบลล์ค่ะ" "ตัวจริงสวยกว่าในรูปอีกนะครับ" "ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะพี่" ฉันยิ้มด้วยท่าทีขวยเขินทำเอาพี่ไม้ยิ้มออกด้วยความเอ็นดู..และใช่คนตรงหน้าฉันตอนนี้คือลูกค้าของฉันในวันนี้ ส่วนงานที่ฉันทำก็เรียกง่ายๆว่าเพื่อนเที่ยวเรทตามเวลาและมีข้อตกลงที่รัดกุมส่วนใครจะมากกว่านั้นก็แล้วแต่จะตกลงกับลูกค้า แต่งานนี้ฉันไม่ได้ทำประจำหรอกทำแต่ช่วงที่เงินขาดมือแบบตอนนี้ "แล้วน้องเบลล์ตอนนี้อยู่ปีไหนเหรอครับ?" "ปีหนึ่งน่ะค่ะ" คนตรงหน้าฉันเบิกตากว้างขณะที่เรากำลังกินข้าวกันอยู่ ฉันหัวเราะเบาๆและเม้มปากมองเขาด้วยท่าทีออดอ้อน "หน้าเบลล์แก่ใช่ไหมคะถึงตกใจขนาดนั้น" "ไม่ๆ พี่แค่ไม่นึกว่าจะทำงานนี้ได้น่ะ" อ่อ..เขาคงกังวลเรื่องอายุสินะ ฉันยิ้มและยักไหล่ "ทำได้สิคะก็เราไม่ได้จะไปทำไรที่มากกว่านี้นิเนาะ" ฉันตอบพร้อมจิ้มเนื้อสเต๊กเข้าปากพร้อมกับชวนเขาคุยไปเรื่อย ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องทำและต้องทำให้ธรรมชาติและสนุกด้วยเขาจะได้ไม่เบื่อและฉันคิดว่าฉันทำมันได้ดีนะ เขาคุยกับฉันทุกเรื่องเหมือนคนเก็บกดและไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่คนวัยนี้มีเรื่องมากมายให้เครียด แต่จะคุยกับใครก็ไม่ได้เพราะหาคนที่ไว้ใจยากเลยมาจบที่คุยกับคนที่ทำงานแบบฉันไง..เราจะไม่เอาเรื่องของลูกค้าไปพูดต่อแน่นอน เรามีหน้าที่รับฟังและคอยพูดให้เขาสบายใจเท่านั้น "งานพี่นี่ดูหนักมากๆเลยนะคะ ดูสิไหล่พี่ตกตลอดเลย" ฉันว่าพร้อมกับบีบไหล่ให้เขาเบาๆขณะที่เรากำลังเดินเล่นอยู่ในห้าง เขาบีบมือฉันและยิ้มบางๆ "งานหนักมากเลยครับตอนแรกที่เข้าไม่เท่าไหร่แต่ช่วงนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงเยอะหน่อย" เขาว่าขณะที่จับมือฉันเดินไปตามทาง "พอลูกชายประธานเข้ามาทำงานอะไรๆก็เปลี่ยน แต่ก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีน่ะนะ" "แล้วเปลี่ยนไปในทางที่ดีพี่ทำไมดูเหนื่อยล่ะคะ" ฉันเอียงใบหน้าถามอย่างเป็นห่วง "ก็นั่นแหละ...เขาทำงานเก่งมากจนหลายแผนกต้องตื่นตัวตามพี่นี่หัวหมุนไปหมด" ฉันยิ้มและบีบมือเขาเบาๆ "ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงเสมอแหละค่ะพี่แค่ต้องการเวลาปรับตัวแต่เบลล์ว่าพี่ทำมันได้ดีแน่" คนข้างๆฉันยิ้มเขิน "คุยกับเบลล์แล้วพี่สบายใจขึ้นเยอะเลย เบลล์อยากได้อะไรไหมพี่อาจจะพอซื้อให้ได้นะ" ฉันเบิกตานิดๆ คือถ้าลูกค้าจะซื้ออะไรให้มันก็เป็นเรื่องปกติแหละแต่ฉันไม่ได้อยากได้อะไรเพิ่มแล้ว..เขาก็คงมีเรื่องที่ต้องใช้เงินเพราะงั้นให้เขาจ่ายแค่เรทเวลาก็พอ "เบลล์อยากกินไอติมค่ะ" "ห๊ะ?" เขามองฉันอย่างไม่เชื่อสายตาฉันเลยชี้ไปที่ร้านขายไอศกรีมเล็กๆในห้างใหญ่ "พี่นึกว่าเบลล์อยากได้พวกกระเป๋ารองเท้า" "มันกินไม่ได้หนิคะ เบลล์อยากกินแค่ไอติมโคนน่ะค่ะ" "ฮะๆ งั้นรอพี่แป๊บเดี๋ยวพี่ไปซื้อให้" ฉันพยักหน้าและยืนรอเขาไปซื้อไอศกรีมก่อนจะดูเวลา...จะสามทุ่มแล้วและอีกไม่ถึงยี่สิบนาทีก็จะหมดเวลาของเขา ฟึ้บ.. "ได้แล้วครับคนสวย" "ขอบคุณนะคะ" ฉันรับมาและเลียตามโคนทันทีส่วนเขาไม่กินแฮะ เราสบตากันก่อนพี่ไม้จะยิ้มเขินๆ "วันนี้ขอบคุณมากนะครับที่รับฟังพี่" "เบลล์มากกว่าที่ต้องขอบคุณพี่" เขาเป็นลูกค้าชั้นดีของฉันที่นานๆทีจะเจอเลยนะ ไม่ล่วงเกินและให้เกียรติกว่าที่ฉันคิดไว้ พี่ไม้จับมือฉันก่อนเขาจะหันหลังเหมือนจะพาฉันเดินไปส่งที่หน้าห้างแต่เขากลับชะงักหยุดยืนฉันจึงเหลือบมองด้วยแม้จะยังกินไอติมอยู่ "สะ สวัสดีครับคุณยักษ์" ชื่อนี่ทำเอาฉันชะงักไปด้วย พี่ไม้ขยับนิดๆทำให้ฉันเผชิญหน้ากับร่างสูงที่อยู่ในชุดนักศึกษาอย่างเลี่ยงไม่ได้ พี่ยักษ์มีท่าทีแปลกใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเขาสบตากับฉัน เขาเหลือบมองมือของฉันที่กำลังจับกับพี่ไม้อยู่ก่อนจะเหลือบมองพี่ไม้อีกครั้ง "สวัสดีครับคุณไม้" พี่ยักษ์ยิ้มและก้มหัวให้พี่ไม้นิดๆ "มาเดทเหรอครับ?" "อ่อ ก็ทำนองนั้นครับแล้ว..คุณยักษ์มาทำอะไรเหรอครับ?" "หาหนังสือน่ะครับพอดีผมต้องทำวิจัย" "ครับ เอ่องั้นผมขอตัว" "ครับ" พี่ยักษ์ก้มหัวให้คุณไม้ที่ก้มหัวลาเขานิดๆก่อนฉันจะถูกดึงให้เดินตามออกมา ฉันไม่ได้หันมองพี่ยักษ์..ไม่ได้สบตาหรือทำอะไรทั้งนั้นฉันเลยไม่รู้ว่าเขาจะมองฉันไหมหรือกำลังทำหน้าตายังไง แต่ให้ตาย..ทำไมต้องมาเจอในเวลาแบบนี้ด้วย (ยักษ์) "คุณยักษ์ครับ" เสียงของลุงสงค์ดังขึ้นทำเอาผมหลุดจากภวังค์ ผมเงยหน้ามองเขาที่กำลังเปิดประตูให้อยู่ก่อนจะลงจากรถและยิ้มให้เขาบางๆ "ผมเห็นคุณยักษ์นั่งอยู่ในรถนานแล้วน่ะครับเลยเป็นห่วง" "ผมโอเคครับ ลุงสงค์กลับเลยก็ได้นะครับดึกแล้ว" "ครับ" ผมยืนมองลุงสงค์ที่เดินไปที่รถตัวเองก่อนจะเดินกลับเข้าบ้าน เขาเป็นพ่อบ้านน่ะแต่ปกติจะประจำอยู่บ้านใหญ่ที่มาขับรถให้ เพราะแม่อยากให้มาดูแลผมที่อยู่คนเดียว ผมปิดประตูบ้านและเดินขึ้นชั้นสองก่อนจะตรงไปที่โต๊ะในห้องทำงาน ได้หนังสือมาสามเล่มซึ่งน่าจะพอกับข้อมูลที่ต้องอ่านเพิ่ม ติ๊ดๆๆๆ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นผมจึงหยิบมาดูก่อนจะเห็นชื่อไอ้ใบเตยโชว์อยู่ ไอ้นี่โทรมาชวนไปกินเหล้าอีกแน่ๆ "ว่าไง" (แดกเหล้ากันที่รัก) เดาผิดซะที่ไหน "วันนี้กูบายนะกะจะเคลียร์วิจัย" (โอ๊ย จารเพิ่งสั่งมึงจะรีบไปไหน!?) "รีบส่งไงมึงคิดว่าทำเนี่ยจารจะไม่ให้มึงแก้เลยว่างั้น?" (กลัวไรแค่เอฟ) "แดกไปเถอะ" (หูย งี้ก็มีกูกะไอ้พายุสองคนดิมันไม่มารับกูแน่อ่ะ) ผมถอนหายใจทันที (เออๆไว้เจอกัน) "อย่าเมามากนะพวกมึงน่ะ" (เป็นห่วงเค้า!?) "ฮึ ขี้เกียจไปเก็บกวาด" (ใจร้ายย) ผมส่ายอย่างเอือมระอาเพราะช่วงนี้ไอ้สองคนนี้ไปดื่มกันบ่อยมาก ผมเช็คโทรศัพท์ต่ออีกหน่อยก่อนจะกดมาที่เบอร์โทรของเบลล์..เราเพิ่งเจอกันไปไม่กี่ชั่วโมงก่อน ผมทั้งแปลกใจและไม่สบายใจ ผมไม่แน่ใจนักว่าทำไมเธอถึงคบกับคนอายุเยอะกว่าขนาดนั้นได้ คุณไม้เป็นผู้จัดการแผนกบัญชีที่ผมคุ้นดีซึ่งผมคิดว่าเขาเป็นคนที่ค่อนข้างเก็บกด "..." ผมพิงตัวไปกับพนักเก้าอี้พร้อมประสานมือที่ตักตัวเอง หรือผมควรโทรหาน้อง...หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาสองปีจู่ๆไปถามเธอแบบนั้นมันแปลกๆ และเบลล์ก็ดูอึดอัดที่ได้เจอผม มันก็น่าอึดอัดอยู่หรอกขนาดผมยังอึดอัด แต่มันอดห่วงไม่ได้จริงๆ วันต่อมา 08.15 am. "นึกว่าจะไม่เข้าบริษัท" "ผมมาดูเอกสารนิดหน่อยน่ะครับ" ผมยิ้มให้ประธานของบริษัทที่เป็นพ่อของผมบางๆ เราบังเอิญเจอกันในลิฟต์น่ะพ่อหันมองผมที่อยู่ในชุดนักศึกษาก่อนจะตบไหล่เบาๆ "อะไรครับพ่อ?" "แกดูดีในชุดนี้นะ แต่พ่อคิดว่าเวลาใส่สูทจะดูดีกว่า" "เดี๋ยวผมก็ได้ใส่ให้พ่อดูทุกวันแล้วน่า" ผมว่าพร้อมกับประตูลิฟต์ที่เลื่อนเปิดเมื่อถึงชั้นที่ผมจะลง "อย่าลืมทานข้าวนะครับ" "รู้น่า แม่แกก็พูดแบบนี้" "ทานยาหลังอาหารด้วยนะครับ" "ไอ้ยักษ์ รู้แล้วน่า!" ผมหัวเราะขำพ่อที่มองผมดุๆเพราะเขาไม่ชอบให้ผมทำเหมือนกับเขาเป็นเด็กแต่ก็นั่นแหละ พ่อมีโรคประจำตัวที่ต้องกินยาเพราะโหมงานหนักผมเลยเป็นห่วงพ่อมากไง ผมเดินเข้ามาที่แผนกบัญชี "สวัสดีค่ะคุณยักษ์ มาหาใครแต่เช้าคะเนี่ย??" "พี่ไม้น่ะครับ ผมอยากคุยด้วยถ้าเขามาแล้วบอกไปห้องผมหน่อยนะ" "ได้เลยค่ะคุณยักษ์" เธอรับปากผมจึงพยักหน้าและเดินผ่านเข้ามาที่ห้องใหญ่ด้านในเข้าไปอีกซึ่งเป็นห้องทำงานของผม ผมมาไม่บ่อยหรอกส่วนมากจะทำงานที่บ้านเอาด้วยความที่ยังเรียนอยู่ด้วยเลยอยากโฟกัสกับทางนั้นให้มากกว่า ก๊อกๆ "เชิญครับ" ผมว่าพร้อมกับวางเอกสารลงที่โต๊ะ ผมพยักหน้าให้พี่ไม้นั่งลงซึ่งเขาก็นั่งแม้จะยังมีท่าทีสงสัยอยู่มากก็ตาม "ขอโทษนะครับที่เรียกมาแบบนี้" "ไม่เป็นไรครับคุณยักษ์ ว่าแต่ผมต้องแก้งานอะไรอีกเหรอครับ?" "ไม่ใช่เรื่องงานหรอกครับ" ผมตอบก่อนจะดันเอกสารออกให้พ้นตรงหน้าและมองสบตาเขา "ผมจะถามเรื่องเมื่อวานน่ะครับ" "เมื่อวาน...ที่ผมเจอคุณยักษ์น่ะเหรอครับ?" "ครับ พอดีผมสงสัย" "ครับ?" "คุณคบกับเบลล์เหรอครับ?" "คุณยักษ์รู้จักน้องเบลล์ด้วยเหรอครับ??" ผมพยักหน้าขณะที่เขาก็เบิกตากว้างดูตกใจมากจนผมสงสัย "คุณยักษ์ก็ซื้อเหรอครับ!?" "ครับ? ผมไม่แน่ใจว่าคุณกำลังพูดเรื่องอะไร" "อ่อ ซื้อเพื่อนเที่ยวน่ะครับเมื่อวานนี้ผมก็ซื้อเธอ" ซื้อเพื่อนเที่ยว...? "ผมนึกว่าคุณเป็นแฟนกัน" "ไม่ครับๆ ผมเป็นลูกค้าน้องเบลล์น่ะ" "ลูกค้า" "ผมนึกว่าคุณยักษ์รู้ซะอีก...คุณไม่ได้ซื้อเธอเหรอครับ" "ไม่ใช่ครับ พอดีเธอเป็นคนรู้จักผม" ผมตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบทำเอาคนตรงหน้าเริ่มทำตัวไม่ถูก พี่ไม้กระแอมไอเบาๆก่อนจะมองผม "เอ่อ ผมขอโทษครับถ้ารู้ว่าคุณรู้จักเธอผมคงไม่เลือก" "คุณช่วยอธิบายมากกว่านี้หน่อยได้ไหมผมอยากรู้ให้มากกว่านี้ อะไรคือเพื่อนเที่ยวและทำไมต้องซื้อ?" มันคงไม่ใช่การขายตัวหรอกใช่ไหม...ให้ตายเบลล์ชักน่าห่วงเกินไปแล้วนะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD