"มากี่ท่านครับ?"
"ผมจองไว้"
ผมยื่นนามบัตรให้คนคุมที่ยืนอยู่หน้าทางเข้าคลับใหญ่ใจที่อยู่ใจกลางซอยโลกีย์ ผมไม่ค่อยมาเที่ยวซอยนี้เท่าไหร่นักเพราะมันไกล และที่มาวันนี้ผมก็ไม่ได้มาเที่ยว
"อ่อ เชิญทางนี้เลยครับ"
ชายร่างใหญ่ผายมือให้ผมเดินเข้าไปภายในก่อนพนักงานจะมารับหน้าที่ต่อพาผมเดินไปทางหน้าเวทีซึ่งเป็นเวทีขนาดใหญ่ที่มีทางเดินเยื้องออกมา และตรงกลางระหว่างทางเดินมีเสาตั้งอยู่ ผมนั่งลงที่โซฟาตรงกลางและสั่งเครื่องดื่มนิดหน่อยขณะที่สายตาหลายคู่จากทั่วบริเวณกำลังจับจ้องมายังผม..บ้างก็ยิ้มบ้างก็ส่งสายตาแต่ผมเลือกที่จะไม่โต้ตอบ เพราะวันนี้ผมมาเพื่อคนคนเดียว
"ไม่รับอะไรเพิ่มนะคะ?"
"ครับ ขอบคุณมาก"
เธอยิ้มให้ผมด้วยท่าทีขวยเขินก่อนจะเดินออกไป ผมเอนตัวพิงไปกับพนักโซฟาและหยิบโทรศัพท์มานั่งดูหุ้นรอเวลาการแสดงเริ่มก่อนจะรู้สึกถึงสายตาที่กำลังมองมา ผมเงยหน้ามองร่างเพรียวหน้าตาดีซึ่งการแต่งตัวไม่ต้องพูดถึง เธอยิ้มให้ผม
"สวัสดีค่ะเราชื่อพิงค์นะ" เธอแนะนำตัวผมจึงพยักหน้าและยิ้มให้
"ผมยักษ์ครับ"
"เราไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน เพิ่งมาครั้งแรกเหรอคะ?"
เธอว่าพลางเดินมานั่งข้างๆผมซึ่งผมก็ไม่ได้ห้ามอะไร อยากนั่งก็นั่งผมยังไงก็ได้อยู่แล้ว
"ครับ ครั้งแรกที่มาคนเดียวน่ะนะ"
"หื้ม..ทำไมได้มาคนเดียวล่ะ เหงาแย่เลยสิ"
เธอว่าพร้อมลูบไหล่ผมอย่างปลอบประโลมขณะที่ผมก็ได้แต่ยิ้ม
"ไม่เหงานะ" ผมตอบและสบตากับเธอ "ก็มีคุณนั่งอยู่ด้วยนี่ไง"
เธอกัดริมฝีปากตัวเองและซบใบหน้าลงที่ลานไหล่ผม ผมยกยิ้มและหันมองทางเวทีเมื่อมีเสียงเพลงดังกระหึ่มขึ้น
"ตัวยักษ์หอมมากเลย"
คนข้างๆผมยังพูดจาหวานหูไม่หยุดแต่ผมไม่ได้ใส่ใจอะไรนักเพราะตอนนี้บนเวทีกำลังดึงความสนใจจากผมอยู่ ตอนนี้มีผู้หญิงออกมาเต้นยั่วยวนบนเวทีท่ามกลางเสียงโห่ร้องจากผู้ชายที่นั่งเต็มที่นั่งที่ถูกจัดไว้..ที่นี่ไม่ใช่คลับธรรมดาเพราะมันคล้ายคลับเปลื้องผ้าและตอนนี้ผู้หญิงบนเวทีต่างเริ่มถอดเสื้อผ้ากันทีล่ะชิ้นจนเหลือแค่บรากับซับใน
"ยักษ์ชอบใครบอกพิงค์ได้เลยนะเดี๋ยวพิงค์ดีลให้"
"คุณเป็นพนักงานที่นี่เหรอ" พิงค์หัวเราะและส่ายหน้าไปมา
"ไม่ค่ะ เป็นหุ้นส่วนแค่เข้ามาดูงานกะว่าจะกลับแล้วจนเห็นยักษ์เลยไม่อยากกลับ"
"พอดีผมมารอดูโชว์ใหญ่ของที่นี่น่ะ ที่โฆษณากันว่าห้ามพลาด" ผมถามพิงค์ทันทีซึ่งเธอก็เลิกคิ้วก่อนจะยิ้มบางๆ
"โชว์ต่อจากโชว์นี้แหละค่ะ เป็นโชว์เด็ดสุดของเราเลยนะ" ผมพยักหน้า "แต่พิงค์บอกไว้ก่อนถ้าจะดีลเธอต้องเงินถึงนะคะ"
"ผมไม่ได้สนใจเรื่องนั้นหรอกครับ"
พิงค์เลิกคิ้วมองผมอย่างงงๆ ผมจึงยกยิ้มและหันมองเวทีที่ตอนนี้ไฟดับลง
"ขอบคุณสำหรับการรับชมโชว์เล็กๆน้อยๆยั่วน้ำลายจากทางเรา และต่อไปเป็นเวลาที่ทุกท่านรอค่อย" เสียงโห่ร้องจากทั่วทั้งคลับดังขึ้นหลังจากดีเจพูดแบบนั้น "วันนี้เธอจะมาพร้อมกับเพลงร้อนๆ ขอเสียงปรบมือให้น้องเบลล์และเพลง Crazy in love!"
เสียงของเปียโนดังนำขึ้นด้วยจังหวะเชื่องช้าพร้อมกับสปอตไลต์ที่ฉายลงที่กลางเวทีที่มาร่างเพรียวนอนตะแคงมองมาที่คนดูอยู่ เธอใส่ผ้าตาข่ายปิดปากเพื่อปกปิดใบหน้าขณะที่ชุดก็ใส่เสื้อกล้ามที่เว้าจนเห็นเนินอกที่โผล่พ้นออกมาและกางเกงยีนขาดๆขาสั้น..และใช่ เบลล์คือคนที่ผมตั้งใจมาดู
I look and stare so deep in your eyes
I touch on you more and more every time
When you leave I'm beggin' you not to go
Call your name two, three times in a row
เสียงเพลงบรรเลงขึ้นพร้อมกับร่างบางที่ค่อยๆลุกขึ้นขยับร่างกายเข้ากับจังหวะแม้ว่าเพลงจะเชื่องช้า แต่มันกลับไม่ได้น่าเบื่อเหมือนโชว์ที่ผ่านมา เบลล์ขยับร่างกายไปตามท่วงทำนองและใช้สายตาสะกดทุกคนไว้อยู่หมัด
Such a funny thing for me to try to explain
How I'm feeling and my pride is the one to blame
Yeah, cause I know I don't understand
Just how your love can do what no on else can
เสียงโห่ร้องชอบใจดังขึ้นเมื่อร่างเพรียวเดินขึ้นมายังเวทีที่เยื้องออกมา และค่อยๆใช้มือตัวเองรูดรั้งไปกับต้นเสา เบลล์หลับตาพร้อมกับขยับร่างกายไปตามจังหวะดนตรีที่เริ่มหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ
Got me lookin' so crazy right now
Your love's got me lookin' so crazy right now
Got me lookin' so crazy right now your touch's
Got me lookin' so crazy right now
ผมเบิกตามองร่างเพรียวที่ปีนป่ายขึ้นไปกับเสาและเหวี่ยงตัวรูดลงมากับจังหวะเพลงและบีสท์หนักๆด้วยใบหน้า และสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและท่วงท่าที่เร่าร้อน สายตาเธอมันกำลังสะกดทุกคนรวมถึงผม
Got me hoping you page me right now your kiss's
Got me hoping you save me right now
Lookin' so crazy your love's got me lookin'
Got me lookin' so crazy your love
เบลล์ปีนขึ้นสูงและเกี่ยวขากับเสาก่อนจะทำในสิ่งที่ทำเอาคนดูร้องโห่ลั่น เธอหมุนตัวรูดลงมากับเสาด้วยจังหวะที่เร็วจนผมใจหายตรงท่อนที่ลากเสียงยาว เบลล์ไม่กลัวว่าเธอจะตกด้วยซ้ำก่อนเธอจะยืนนิ่งตรงกลางพร้อมกับไฟที่เปลี่ยนเป็นสีแดง เธอเงยหน้าขึ้นมองคนดูพร้อมยกมือขึ้นจับคอเสื้อตัวเองในตอนที่เพลงดับไป
แคว้ก!!
วู้ๆๆๆ
ทั้งเสียงปรบมือทั้งแบงก์พันและห้าร้อยต่างถูกโยนขึ้นบนเวทีทันทีหลังจากที่เบลล์กระชากเสื้อกล้ามตัวเองจนขาดในทีเดียว และถอดออกมาโยนทิ้งอย่างไม่แยแส เบลล์ใส่บราลูกไม้สีดำภายในและแค่นั้นก็ทำเอาคนดูต่างพากันไปออที่หน้าเวที ขณะที่ผมได้แต่ขมวดคิ้วมองน้องอย่างไม่เชื่อสายตากับการแสดงที่เพิ่งผ่านไป
"เป็นไงคะ มองตาไม่กะพริบเลยน๊า" พิงค์ถามขึ้นพร้อมมองผมอย่างล้อเลียน "จะให้พิงค์ดีลให้ไหมคะ?"
"ผมอยากให้เธอออกมาหาที่โต๊ะ ช่วยได้ไหม?" คนข้างๆผมเลิกคิ้วทันทีก่อนจะหัวเราะเบาๆ
"ไม่มีปัญหาค่ะแต่..มันก็ต้องมีค่าตอบแทนหน่อยน่ะนะ"
"บอกตัวเลขมาเลยแล้วก็บัญชีคุณด้วย"
"ป๋าตัวจริงใช่ไหมเนี้ย"
ผมไม่สนใจคนข้างๆว่าจะพูดอะไรต่อ เพราะตอนนี้คนบนเวทีแย่งความสนใจจากผมไปหมดแล้ว ผมจ้องมองเบลล์ที่กำลังก้มหัวขอบคุณคนดูอยู่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจเพราะนี่เท่ากับว่าที่ผมสงสัยมันเข้าใกล้ความจริงมากขึ้นทุกที..และที่ผมมานั่งดูเธอวันนี้ก็เพราะพี่ไม้แนะนำเขารู้ทุกเรื่องของเบลล์เพราะตามมาดูบ่อย
ยอมรับเลยว่าผมค่อนข้างจะผิดหวังจริงๆที่มาเจอแบบนี้
(เบลล์)
"ทำดีมากเบลล์" ฉันที่เพิ่งลงจากเวทีเหลือบมองผู้จัดการร้านที่กำลังเอ่ยชมก่อนจะถอดผ้าที่ปิดหน้าตัวเองออก
"ถ้าเบลล์ทำดีก็ต้องเพิ่มเงินให้เบลล์แล้วล่ะค่ะ ขอบคุณไว้ก่อนเลยละกันนะ"
"โหย เขี้ยวจริงๆเด็กอะไร"
เขาว่าเสียงดังซึ่งฉันก็ยักไหล่และเดินผ่านพวกแดนซ์เซอร์ที่กำลังเดินผ่านฉัน พวกเธอมองมาที่ฉันพร้อมเบะปากใส่แสดงออกเลยว่าไม่ชอบหน้า แต่ฉันก็ทำแค่ยกยิ้มและเดินกลับไปที่ห้องพักตัวเอง
"พวกขี้อิจฉา"
ฉันว่าพร้อมกับนั่งลงที่เก้าอี้และถอนหายใจด้วยความเหนื่อยล้า การแสดงเมื่อกี้มันโคตรจะสูบวิญญาณฉันเลย แต่มมันก็คุ้มกับเงินที่ได้มา ฉันนั่งนับเงินที่พวกลูกค้าทั้งโยนและยัดใส่มือมาให้อย่างพอใจ อย่างน้อยก็น่าจะมีเงินไปต่อชีวิตที่หอไม่ให้โดนไล่ออกได้อีกสักเดือนสองเดือน
"ขอโทษที่ขัดจังหวะ" ฉันเหลือบมองที่ประตูที่ตอนนี้พี่พิงค์หุ้นส่วนร้านกำลังยืนอยู่ เธอเดินเข้ามาหาฉันที่เก้าอี้ "มีลูกค้าอยากเจอ"
"เบลล์ไม่รับนะ บอกไปหลายครั้งแล้วหนิ" ฉันมองพี่พิงค์ด้วยสายตาติดจะรำคาญอย่างไม่ปิดบัง เธอมักจะเข้ามาหาฉันเสมอและถ้าวันไหนได้เงินจากลูกค้ามาเยอะเธอจะเป็นแบบนี้แหละ "ทำไมคะได้เงินมาเยอะรึไง?"
"ก็เยอะจนพี่ต้องง้อน้องเบลล์นี่แหละค่ะ" ฉันหัวเราะและมองเธอผ่านกระจก "พี่ให้น้องเลยสามพันถ้าออกไป"
"ดูเยอะกว่าปกติจริงๆสินะ" ไม่งั้นเธอไม่ให้เงินฉันเยอะขนาดนี้แน่ ฉันเม้มปากและหยิบลิปสีแดงมาเติม "เบลล์ขอห้าพัน"
"นี่เบลล์มันจะไม่มากไปหน่อยเหรอ??"
"งั้นเบลล์ก็ขอตัวค่ะพี่พอดีเบลล์รีบกลับ" ฉันว่าพลางหยิบกระเป๋ามาเก็บของใส่ซึ่งพี่พิงค์ถอนหายใจใส่ทันทีก่อนจะยอมพยักหน้า
"เออๆ ห้าพันก็ห้าพัน!"
"โอนตอนนี้ด้วย"
พี่พิงค์มองฉันด้วยสายตาไม่พอใจและหยิบโทรศัพท์ออกมากดไม่นานเสียงข้อความโทรศัพท์ฉันก็ดังขึ้นแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีห้าพัน
"เดี๋ยวเบลล์ออกไปนะคะ ขอหาชุดดีๆใส่ก่อนนะ"
"ให้ไวล่ะ"
ฉันพยักหน้าและมองเธอเดินออกไปจากห้องก่อนจะหยิบโทรศัพท์มากดดูเงินในบัญชีพร้อมกับยิ้มออกมาบางๆ..คืนนี้โชคดีของเบลล์จริงๆสินะ ฉันลุกขึ้นหาชุดเดรสที่ตัวเองใส่มาสวมและเดินเข้าด้านในของคลับอีกครั้ง ลูกค้าต่างพยายามเดินเข้าหาฉันทันทีแต่พี่พิงค์เดินมาดึงฉันให้เดินตามลูกค้าจึงไม่กล้ายุ่งเพราะคงรู้ว่าคืนนี้ฉันถูกเรียกแล้ว ฉันเดินมาที่โต๊ะตรงหน้าเวทีพร้อมกับเลิกคิ้วมองลูกค้าที่กำลังนั่งรออยู่
"เขาชื่อยักษ์เรียกพี่ด้วยเพราะคงอายุเยอะกว่าเธอ"
อะไรนะ..ฉันหันตามพี่พิงค์ที่เดินออกไปก่อนจะหันมองร่างสูงที่กำลังนั่งดื่มอยู่ เขาเงยหน้ามามองที่ฉันและยิ้มให้บางๆแต่นั้นกลับทำเอาฉันยืนตัวสั่น
"เอ่อ.."
"นั่งก่อนสิเบลล์" พี่ยักษ์ว่าฉันจึงต้องนั่งลงที่โซฟาข้างๆเขาอย่างจำใจ
"เบลล์ไม่รู้ว่าเป็นพี่"
ฉันว่าด้วยน้ำเสียงที่เริ่มสั่นเพราะความประมาท ตอนแสดงฉันไม่ได้ดูหรอกว่าคนที่นั่งตรงกลางจะเป็นใครฉันไม่ได้ใส่ใจใครมากเวลาแสดง ตอนนี้ฉันเลยได้แต่ก้มหน้าไม่กล้าสบตาเขาเหมือนเด็กมีความผิด
"พี่..มาคนเดียวเหรอคะ?"
"ครับ ตั้งใจมาดูเราเลย"
ฉันเงยหน้ามองเขาอย่างไม่เข้าใจ พี่ยักษ์ถอนหายใจออกมาเบาๆและวางแก้วลงที่โต๊ะ
"มีปัญหาอะไรทำไมไม่บอกพี่?"
"คะ?" ฉันขมวดคิ้วมองพี่ยักษ์ที่กำลังจ้องฉันอยู่ด้วยความสงสัย
"พี่บอกแล้วไงว่าพี่ช่วยเราได้ทุกเรื่อง ไม่เว้นแม้แต่เรื่องเงิน" ฉันกัดปากตัวเองและสบตากับคนตรงหน้าทันที "พี่ขอโทษถ้าพี่ละลาบละล้วงเกินไปแต่นี่มันเรื่องใหญ่ เราจะถูกไล่ออกจากหอแล้วหนิแล้วยังพวกเงินที่ต้องใช้ตอนเรียนอีกมีปัญหาขนาดนี้ทำไมไม่บอกพี่ครับ?"
"เบลล์ไม่บอกเพราะเบลล์ไม่อยากให้พี่มายุ่งไงคะ" พี่ยักษ์ขมวดคิ้วมองฉันอย่างไม่เข้าใจ "นี่มันเป็นปัญหาของเบลล์เบลล์ก็ต้องแก้ไขมันเองพี่ไม่ต้องห่วงหรอกนะ"
"เบลล์ครับ" ฉันเม้มปากเมื่อพี่ยักษ์เรียกชื่อฉันด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ "เธอเป็นน้องพี่นะพี่บอกแล้วไงว่าพี่จะดูแลเรา"
"แต่เบลล์ดูแลตัวเองได้"
"ยังไง? ด้วยการออกมาเต้นเปลื้องผ้าหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองแบบนี้??"
"ทำไมคะในเมื่อสุดท้ายแล้วเงินที่เบลล์หามาได้มันก็แก้ปัญหาให้เบลล์ได้เสมอ" ฉันเอียงใบหน้ามองพี่ยักษ์อย่างไม่พอใจ "พี่ไม่ต้องมาเหนื่อยดูแลเบลล์หรอกสองปีที่ผ่านมาเบลล์ยังอยู่ได้ต่อไปเบลล์ก็ต้องอยู่ได้ กลับไปเถอะพี่ที่นี่ไม่เหมาะกับพี่หรอก"
ฉันลุกจากโซฟาและสบตากับพี่ยักษ์ที่กำลังมองมาที่ฉันอยู่
"แล้วก็..อย่ามาเจอเบลล์อีกนะคะ"
ฉันยกมือไหว้เขาและเดินออกมาจากโต๊ะด้วยใบหน้านิ่งเรียบจนเข้ามาในห้องตัวเอง มือฉันยังกำเข้าหากันแน่นจนมันเจ็บ แต่ที่เจ็บยิ่งกว่านั้นก็คือหัวใจ..ดวงตาฉันตวัดมองตัวเองในกระจกก่อนริมฝีปากจะยกยิ้มให้ตัวเองอย่างเย้ยหยัน...ฉันจะดึงพี่ยักษ์ลงมาเกลือกกลั้วกับคนต่ำๆอย่างฉันไม่ได้ เขาเหมาะจะยืนอยู่ที่สูงกว่านี้และเขาต้องไม่หันกลับมามองฉันอีก
..เขาควรหลุดพ้นจากอดีตบ้าๆของเราสักที
เวลาต่อมา
"ห้าสิบสองบาทครับ"
ฉันยื่นแบงก์ร้อยให้พนักงานเซเว่นและรับเงินทอนก่อนจะเดินออกมาจากเซเว่น ฉันแกะไอติมรสวานิลลาขึ้นกัดคำโตพร้อมกับสูดหายใจเข้าปอด อากาศวันนี้ค่อนข้างเย็นทีเดียวฉันจึงต้องกระชับเสื้อโค้ตที่ตัวเองใส่และเดินกลับทางหออย่างเคย
"น้องเบลล์"
ฉันหันตามเสียงที่เรียกทันทีพร้อมกับชะงักอยู่กับที่ ร่างสูงที่นั่งคร่อมอยู่บนมอเตอร์ไซค์ของตัวเองเดินเข้ามาหาฉันที่กำลังเดินอยู่บนไหล่ทางจนฉันต้องถอยหลังพร้อมกับมองพวกมันไม่วางตา
"คิดถึงพี่รึเปล่านะ"
"ไสหัวไปให้พ้น" ฉันว่าเสียงเรียบและก้าวถอยหลัง "ฉันไม่มีเงิน"
"ได้ไง??" คนตรงหน้าฉันว่าอย่างกวนๆและก้าวเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้น "มันถึงเวลาใช้ดอกแล้วนะครับพลัดมาห้าหกครั้งแล้วทำงี้เพื่อนพี่อีกคนจะไม่พอใจเอานะ"
ฉันเหลือบมองคนร่างใหญ่อีกคนที่นั่งอยู่รถที่กำลังมองฉันด้วยสายตาน่ากลัวแต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังสบตากับไอ้คนตรงหน้าไม่คิดจะแสดงออกถึงความกลัวให้มันเห็น
"เงินนั้นฉันไม่ได้รู้เรื่องด้วยหนิ คนที่ยืมเงินพวกแกมันไม่ใช่ฉัน"
"แต่เป็นพ่อเลี้ยงน้องเบลล์หนิครับ แถมมันยังบอกให้มาเอาเงินกับน้องอีกมันบอกว่าน้องเบลล์ไปขายตัวมาได้ตั้งเยอะ"
"หุบปากสวะๆของมึงไปเลยนะ" ฉันตอบด้วยความโมโหแต่มันกลับหัวเราะร่าและหันไปหาเพื่อนตัวเอง
"ฮ่าๆๆ มึงดูดิขนาดพ่อเลี้ยงยังบอกว่าน้องเขาคือคุณตัวแต่ทำไมน้องเขาไม่ยอมรับวะ!?"
"ใครจะยอมรับ" เพื่อนมันอีกคนว่าก่อนจะลุกเดินเข้ามาหาฉัน "อย่าเล่นลิ้นแล้วเอาเงินมาไม่งั้นอย่าหาว่าพวกกูไม่เตือน"
"ฮ่าๆ พี่บอกแล้วไงเพื่อนพี่มันไม่พูดเยอะน่ะ" ฉันเม้มปากและกำไอติมในมือแน่น
"ฉันไม่มีเงินจริงๆ"
"ตอแหล!"
คนที่เดินผ่านรีบเดินหนีไปทางอื่นทันทีเพราะคงคิดว่าเรากำลังมีเรื่องกันและใช่ แถวนี้มันไม่มีใครช่วยกันหรอกเพราะมันเกิดเรื่องแบบนี้บ่อย และต่อให้ตะโกนให้คนอื่นช่วยก็ไม่มีใครกล้ายุ่งหรอก ที่นี่น่ะไม่มีใครไม่รู้จักพวกมัน มันเป็นพวกของเถ้าแก่ดวงที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบรายใหญ่แถวนี้
"ไม่มีจริงๆฉันจ่ายค่าหอไปหมดแล้ว!"
พรึ่บ!
"พวกมึงจะทำอะไร!!?"
ฉันว่าพร้อมยื้อกระเป๋าตัวเองคืนทันทีที่ไอ้คนตัวใหญ่กระชากกระเป๋าฉันไปค้น ฉันกัดฟันและพยายามกระชากคืนแต่กลับถูกมันสะบัดออกอย่างแรง
"แม่งเอ้ย!"
เพียะ!!
"อึ่ก!"
ใบหน้าด้านขวาฉันชาวาบทันทีที่ไอ้เหี้ยนี่มันสะบัดหลังมือตบหน้าเต็มแรงจนฉันเซล้ม ฉันยกมือขึ้นเช็ดเลือกที่มุมปากตัวเองก่อนจะเงยหน้าเบิกตามองพวกมันที่กำลังกำเงินห้าพันของฉันอยู่!
"ไม่ได้นะ นั้นมันเงินกู!!"
"ถ้ามึงไม่อยากมีผัวทีเดียวสองคนก็หุบปาก!"
ฉันกำมือแน่นมองพวกมันที่เหยียดยิ้มมองมาที่ฉันก่อนไอ้ตัวใหญ่จะโยนกระเป๋าฉันใส่อย่างแรง ฉันกำกระเป๋าตัวเองไว้แน่นพร้อมกับจ้องมองพวกมันด้วยความแค้น
"ทำไมรึเสียดายที่พวกกูไม่เอามึงจริงๆ"
"ได้เงินกูแล้วพวกมึงก็ไสหัวไปซะสิ ไอ้พวกหน้าตัวเมีย!!"
"เดี๋ยวเถอะ!"
"พอก่อนไอ้เดียวเดี๋ยวน้องเขาหน้าพังแล้วหาเงินมาคืนไม่ได้" ไอ้เหี้ยตรงหน้าฉันห้ามเพื่อนตัวเองและมองฉันด้วยสายตาเหยียดยามก่อนจะยิ้มและยกมือโบกไปมาอย่างกวนอารมณ์ "เดี๋ยวพวกพี่มาหาอีกนะจ๊ะน้องสาว"
"ไปตายซะ"
"ฮ่าๆๆ"
ฉันยืนกำมือมองพวกมันที่ขับรถออกไปด้วยความแค้นมันแค้นจนน้ำตามันไหลออกมาเอง ฉันปล่อยให้น้ำตาไหลก่อนจะยกมือปาดน้ำตาออกและเดินกลับหอตัวเองด้วยใบหน้านิ่งเรียบ..โดนตบใครว่าไม่เจ็บ มันเจ็บจนฉันมึนแต่พอโดนบ่อยๆมันกลายเป็นชินและชาไปทั้งตัวและหัวใจแล้ว ไม่รู้จริงๆว่าวันไหนไอ้วงจรอุบาทว์นี่จะจบลงสักที
อยู่ก็เหมือนตาย แต่จะตาย...ก็ยังตายไม่ได้