EP.1

3092 Words
"ทำตัวให้ดีๆแค่เทเหล้าคงไม่มีอะไรยากเกินไปหรอก" ฉันเหลือบมองคนที่ได้ชื่อว่าแม่ของตัวเองที่ผ่านกระจกขณะที่เธอกำลังยืนจัดผมให้ฉันอยู่ เธอมองฉันด้วยความพอใจพร้อมกับลูบหัวฉันเบาๆ "พูดหวานๆเอาใจพวกมันเดี๋ยวก็ได้เงินมาให้ฉันแล้ว ไปทำหน้าที่ของลูกซะ" ลูก...ใช่สินะ ฉันยกยิ้มมุมปากพร้อมกับมองใบหน้าที่ถูกแต่งเติมไปด้วยเครื่องสำอางจนใบหน้าฉันออกมาสวยราวกับดอกไม้ แต่มันก็มีแค่ความสวยมันไม่ได้หอมหวานอะไรเลยสักนิด "ไปนะคะ" ฉันหันบอกแม่ที่กำลังยืนดูอยู่ เธอเดินออกมาส่งที่หน้าบ้านและกอดอกมองฉันที่กำลังเดินออกจากบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ฉันเดินขึ้นบนรถที่จอดรอรับอยู่ก่อนมันจะพาฉันตรงมาที่ร้านอาหารขนาดใหญ่สุดหรูคนขับรถเดินนำฉันมาส่งที่ห้องรับรองชั้นบนของร้านก่อนเขาจะเคาะประตูก่อนจะเปิดออก..พร้อมกับงานของฉันที่เริ่มขึ้น แกร็ง "มาแล้วคนสวยของเรา" ฉันเงยหน้าขึ้นพร้อมกับเหยียดยิ้มให้ชายที่อายุมากกว่าหลายสิบปีที่เดินมาโอบเอวฉันเข้าหาอย่างตัว เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของอย่างน่ารังเกียจแต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยกมือไหว้เขาและเดินเคียงข้างมานั่งที่เก้าอี้ตัวข้างๆ ท่ามกลางสายตาของเพื่อนเขาที่อายุรุ่นพ่อที่กำลังมองมาที่ฉันด้วยสายตาโลมเลียแบบไม่ปิดบัง ด้วยชุดเดรสสีแดงรัดติ้วที่ใส่ และหน้าอกที่เกินตัวก็คงจะไม่แปลกที่จะได้รับสายตาแบบนี้จากพวกมัน "พี่จำหนูได้นะที่แสดงต้อนรับนักท่องเที่ยวครั้งนั้นใช่ไหม?" ชายแก่อีกคนที่มีเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกับฉันนั่งขนาบข้างหันมาถามฉันจึงยิ้มและพยักหน้า "หนูสวยและเก่งจริงๆพี่ชอบ!" "อย่าๆ วันนี้น้องเบลล์มานั่งกับผมนะครับผมกว่าจะติดต่อได้นี่ยากเชียว" คนแก่ร่างอวบข้างๆว่าพร้อมยิ้มตาพราวทำเอาฉันอยากจะลุกตะบันหน้าแรงๆสักครั้ง แต่ความจริงกลับทำได้แค่หัวเราะและเทเครื่องดื่มให้เขา "พอดีว่าหนูคุยกับใครไม่ค่อยเก่งน่ะค่ะ" "งั้นหนูต้องคุยกับเสี่ยให้มากๆแล้วล่ะ" เขาว่าพร้อมขยับเข้ามาใกล้ "แล้วเสี่ยจะให้ค่าขนมเยอะๆเลยดีไหม?" ฉันกำมือแน่นและกัดฟันยิ้มแม้ในใจโคตรจะอาย น่าอับอายจนอยากตายไปจริงๆ "แล้วใครนะที่จะมาแทนคุณทศพลน่ะ" "เห็นว่าจะให้ลูกชายมาแทนน่ะ" "จะให้เราคุยกับเด็กเนี่ยนะ?" คนที่นั่งข้างๆฉันหันไปถามเพื่อนอีกสองด้วยท่าทีไม่พอใจนัก "กล้ามากนะคุณทศพล" "ลูกชายเขาเก่งใครๆก็พูดกัน" "งั้นวันนี้เราจะมาดูกันว่าจะเก่งขนาดไหน" เขาพูดกับเพื่อนพร้อมยกแก้วขึ้นให้ฉันรินเหล้าให้ก่อนเขาจะยกแก้วชนแก้วกับฉันฉันจึงต้องยกชนและดื่มด้วย "ตอนนี้หนูอยู่ปีไหนนะ?" "ปีหนึ่งค่ะ" "แล้วค่าเทอมพอไหม? ขาดเหลืออะไรบอกเสี่ยได้เลยนะ" ฉันยิ้มพร้อมวางแก้วลงบนโต๊ะขณะที่มือหยาบก็เอื้อมมาลูบไล้ที่แขนฉันเบาๆ "ไม่เป็นไรค่ะแค่วันนี้ก็มากพอแล้ว" "หนูนี่..หวังน้อยเสียจริงๆ" ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูที่ขัดจังหวะช่วยฉันได้เยอะ ฉันลอบถอนหายใจก่อนประตูจะเปิดออกพร้อมกับร่างสูงสองคนเดินเข้ามาในห้องคนนึงดูอายุมากแล้วส่วนอีกคน...มือของฉันกำเข้าหากันแน่นจนรู้สึกเจ็บเพื่อทวงถามตัวเองว่านี่มันไม่ใช่ความฝันใช่ไหม การที่ฉันได้เจอ 'เขา' อีกครั้งมันไม่ใช่ความฝันจริงๆใช่ไหม!? ฉันไม่ได้ฝันไปร่างสูงในชุดสูทแต่งตัวเนี๊ยบตั้งแต่หัวจรดเท้าทำเอาฉันทำอะไรไม่ถูก ใบหน้าคมจมูกโด่งเป็นสันและดวงตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจแต่ไม่มีความถือตัวฉายออกมาอย่างมาดมั่นและฉันจำมันได้ทันทีที่เห็นสายตานั้นของเขา...ของพี่ยักษ์ "ขอโทษที่ผมมาช้านะครับ" เขาเอ่ยพร้อมกับก้มหัวให้คนอายุมากอีกสามที่นั่งอยู่ "ไม่เป็นไรพวกผมก็นัดแบบเร่งรีบน่ะเชิญนั่งเถอะ" ฉันหันหน้าหนีทันทีทั้งความอับอายและความกลัวประดังเข้ามาไม่หยุดฉันไม่รู้จะทำยังไงแล้วในตอนนี้ เพราะฉันไม่คิดมาก่อนว่าเราจะได้มาเจอกันอีก ขอร้องอย่าจำฉันได้เลย...ขอร้องล่ะ "โทษทีพวกเราน่าจะถามคุณยักษ์ด้วยว่าต้องการสาวๆไหม" คนที่นั่งหัวโต๊ะถามขึ้นในตอนที่พี่ยักษ์นั่งตรงหน้าฉันแต่เยื้องๆไปทางขวา เขายิ้มให้คนที่ถามอย่างสุภาพ "ขอบคุณครับแต่ให้คุณดุสิตได้พักผ่อนดีกว่า" "แหม คุณยักษ์ก็ยังหนุ่มยังแน่นนี่เนาะแถมหล่อด้วยไม่เหมือนพวกเรา" คนข้างๆที่ฉันนั่งรินเหล้าให้กระแนะกระแหนทันทีที่พี่ยักษ์ตอบ ทำให้เขาเหลือบมองมาจนฉันต้องรีบหันหน้าหนีด้วยความตกใจ หัวใจฉันเต้นแรงไม่หยุดและมันยิ่งเต้นแรงมากขึ้นเพราะฉันต้องมาคอยหลบหน้าหลบตาเขาแบบนี้ "ผมจะถือว่าเป็นคำชมนะครับ ท่านประธานให้ผมมาดูเอกสารผมขอดูเลยได้ไหม?" "ได้สิ เอามา" คนหัวโต๊ะว่าพร้อมกับลูกน้องที่เอาแฟ้มมาวาง พี่ยักษ์รับไปเปิดอ่านด้วยใบหน้านิ่งเรียบหากแต่ดวงตาคมกริบกลับตวัดมองทุกตัวอักษรอย่างรวดเร็วและจริงจังด้วยท่าทีเคร่งขรึมที่ดูเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน เพียงแค่ตอนนี้เขาดูโตขึ้นและภูมิฐานขึ้นจนแทบจะละสายตาจากใบหน้าของเขาไม่ได้ "ฉันให้เธอมาปรนนิบัติฉันนะไม่ใช่ให้มามองผู้ชายอื่น" ฉันสะดุ้งหลุดจากภวังค์ก่อนจะหันมองสบตาคนแก่กว่า เขามองมาอย่างไม่พอใจฉันจึงยิ้มและหยิบเหล้ามาเทให้ "หนูก็แค่มองไปเรื่อยน่ะค่ะ หนูขอโทษนะคะ" "อย่าให้รู้ว่าสนใจมัน" เขากระซิบเสียงแข็งและใช้แขนตวัดโอบฉันเข้าหาจนฉันได้กลิ่นเหล้าอ่อนๆจากเขา "สินค้าชนิดนี้ทางบริษัทเรารับเข้ามากแล้วไม่ใช่เหรอครับ?" พี่ยักษ์พูดขึ้นหลังจากก้มอ่านไปไม่กี่นาที เขาขมวดคิ้วและมองคนตรงหน้าตัวเอง "แถมบริษัทนี้เพิ่งทำเราขาดทุน เพราะสินค้าไม่มีคุณภาพไปเมื่อปีก่อน" "แหมคุณยักษ์ใครๆเขาก็อยากค้าขายกับบริษัทใหญ่อย่างเรา แถมครั้งนี้เขายังลดราคาลงมากเพื่อซื้อความไว้ใจจากเราอีกนะผมว่ามันคุ้มที่จะลงทุน" "ผมว่าไม่ครับ ถ้าทางเขาอยากจะซื้อความมั่นใจจากบริษัทเราเขาไม่ติดต่อผ่านฝ่ายบริหารในบริษัทหรอกในเมื่อบริษัทเรามีฝ่ายจัดซื้อ" เขาพูดอย่างตรงไปตรงมาและถอนหายใจเลื่อนแฟ้มมาตรงหน้าคนที่เสนอไป "ผมปฏิเสธรับสินค้าครับ" "บ๊ะ!" คนข้างๆที่กำลังโอบฉันอยู่ตวาดเสียงดังทำให้พี่ยักษ์และคนในห้องหันมองและฉันหันหน้าหนีไม่ทัน! ดวงตานิ่งเรียบในทีแรกไม่ได้มองหน้าคนที่ตวาดด้วยซ้ำหากแต่กำลังเบิกตามองฉันอย่างประหลาดใจ และในตอนนี้ฉันรู้ได้ทันทีว่าคำขอฉันไม่เป็นผล ฉันมั่นใจว่พี่ยักษ์จำฉันได้แน่นอน! "โง่ปฏิเสธได้ไงไอ้เด็กนี่!" "ยุทธ!" คนข้างๆปรามคุณยุทธที่กำลังโมโหไว้แต่คงจะไม่ได้ช่วยอะไรนัก "อย่ามาทำเป็นเก่งกล้าตัดสินใจแทนในเมื่อยังอยู่ใต้ร่มเงาท่านประธานอยู่!" "ผมมีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจถ้าหากมันเกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ของบริษัท แต่ถ้าให้ผมพูดตรงๆผมก็อยากจะถามคุณกลับเหมือนกันนะคุณยุทธ..เงินแค่ห้าหกล้านก็ซื้อพวกคุณให้เป็นนกสองหัวได้แล้วเหรอ?" "นี่มึง!" "อย่าอ้างว่าทำงานกับพ่อผมมานานเพราะถึงอยู่มานานแต่พวกคุณไม่ได้ทำอะไรให้มันดีขึ้นเลย และวันนี้ผมมีอีกเหตุผลที่มา" พี่ยักษ์พยักหน้าให้คนที่ยืนอยู่เอาซองสีขาวมาวางตรงหน้าตัวเองสามใบ เขาเลื่อนมาข้างหน้าตัวเองช้าๆ "พ่อผมเป็นพวกใจอ่อนง่ายผมเลยอาสามาทำแทน นี่สำหรับพวกคุณส่วนของที่บริษัทผมจะจัดส่งไปให้อีกทีที่บ้าน" "คะคุณยักษ์ มะไม่ได้นะครับจะทำกับเราแบบนี้!" "ใช่เราทำงานมานาน!" "นี่เป็นการตัดสินใจจากผู้บริหารระดับสูงทั้งหมด เหตุผลที่พวกคุณโดนปลดก็เพราะการฉ้อโกงทางบริษัทไม่ฟ้องก็ดีแค่ไหนแล้ว เพราะงั้นผมอยากให้พวกคุณพักผ่อนให้มากๆนะครับ" พี่ยักษ์ยืนขึ้นเต็มความสูงดวงตาไม่มีความใจดีเหมือนตอนแรกหากแต่มันดูไร้ความปรานีและจริงจังจนน่ากลัว เขาเหลือบมองฉันที่ยังนั่งนิ่งและทันทีที่เห็นว่าเขามองฉันก็หลบสายตาทันที "เทเหล้า!" ฉันหันมองคนข้างๆที่ตวาดใส่ก่อนจะหยิบขวดแต่ดูเหมือนจะไม่ทันใจเขา "แม่งเอ๊ยกูซื้อมึงเพื่อมาทำตัวน่ารำคาญใส่หรอวะนังนี่!!" หมับ! ดวงตาฉันเบิกกว้างมองมือใหญ่คว้ามือหยาบกร้านที่กำลังจะตวัดมือตบฉันไว้ได้ทัน ฉันเงยหน้ามองพี่ยักษ์ขณะที่เขาก็มองลงมาที่ฉันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง "เธอยังเด็กนะครับทำอะไรคิดนิดนึง" "อย่ามาเสือกเด็กนี่ฉันซื้อมันมา!" "จริงเหรอ?" พี่ยักษ์ถามฉันซึ่งฉันรีบส่ายหน้าทันที "แต่เธอบอกว่าไม่นะครับ" "ฉันเพิ่งโอนเงินให้แม่มัน!" "คุณจ้างให้ฉันมานั่งเทเหล้าเฉยๆ นอกนั้นไม่ได้อยู่ในสัญญา!" "แก.." "อย่าให้เรื่องมันใหญ่ไปกว่านี้เลยครับ" หมับ.. มือใหญ่รวบข้อมือฉันและดึงให้ลุกขึ้นยืน เขาสบตากับคุณยุทธอย่างไม่เกรงกลัวก่อนจะเดินนำฉันออกมาจากห้องจนเราออกมาถึงด้านนอกร้าน ฉันกัดปากตัวเองจนรู้สึกเจ็บก่อนพี่ยักษ์จะปล่อยมือและหันมองฉัน "พี่ไม่คิดว่าจะได้เจอเราที่นี่" "เบลล์ก็ไม่คิดเหมือนกันค่ะ" ฉันตอบเสียงเบาและเบือนหน้าหนี พี่ยักษ์นิ่งไปก่อนจะถอดเสื้อนอกตัวเองมาคลุมที่ไหล่ให้ฉัน..ฉันมองเสื้อตัวนอกที่ปกคลุมไปถึงโคนขาแถมยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวเขาจนมันทำให้ฉันทำอะไรไม่ถูก ได้มาเจอกับคนที่ไม่คิดว่าจะไม่ได้เจออีกไม่พอยังมาเจอในสถานการณ์แบบนี้อีก "พี่มีเรื่องจะถามเราเยอะเลย..พี่เป็นห่วงเรามากรู้ไหม" หัวใจฉันเต้นแรงอย่างดีใจจนเผลอยิ้ม "..หลังจากวันนั้นเบลล์ก็หายไปเลย" สุดท้ายเขาก็ไม่ได้คิดถึงฉันจริงๆสินะ พี่ยักษ์สบตากับฉันพร้อมกับยิ้มอย่างใจดีแต่ถึงอย่างนั้นเวลาเขามองหน้าฉันแววตากลับดูเศร้าลงจนฉันรู้สึกเจ็บไปถึงขั้วหัวใจ อีกครั้งที่ฉันทำให้เขานึกถึงเรื่องเก่าๆสินะ ฉันรู้ดีแม้ว่าเขาจะยิ้มแต่มันกลับดูฝืนอย่างเห็นได้ชัด รอยยิ้มที่ควรสดใสแต่กลับดูฝืนทนและมันเป็นแบบนี้ตลอดเมื่ออยู่ต่อหน้าฉัน เวลาต่อมา "สองปีที่ผ่านมาเป็นไงบ้าง?" ฉันที่กำลังนั่งจ้องแก้วน้ำอยู่เงยหน้ามองพี่ยักษ์ก่อนจะยิ้มและยักไหล่เหมือนไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้น "เรื่อยๆค่ะพี่" "แล้วแม่ล่ะเธอไม่ได้ติดต่อพี่มาเลย" ริมฝีปากฉันเม้มเข้าหากันนิดๆก่อนจะเบนหน้าหนีสายตาอ่อนโยนที่กำลังมองมา "สบายดีค่ะ ทุกคนยังเหมือนเดิม" ฉันตอบก่อนจะหยิบแก้วน้ำส้มขึ้นมาจิบ พี่ยักษ์พยักหน้าและยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นดื่มเช่นกันเราเงียบกันไปสักพักจนฉันเริ่มทนกับบรรยากาศน่าอึดอัดนี่ไม่ไหว...คิดผิดหรือคิดถูกที่ยอมมานั่งคาเฟ่กับเขาในตอนนี้ "ตอนนี้เราเรียนอยู่ไหน?" พี่ยักษ์ถามอีกครั้ง "YUI ค่ะ" มันเป็นอีกมหาลัยที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไรเท่ากับมหาลัยที่พี่ยักษ์อยู่ เขาเลิกคิ้วก่อนจะยิ้มนิดๆ "นึกว่าจะเข้าที่เดียวกับพี่ซะอีกเห็นเราเคยบอกว่าอยากเรียนที่เดียวกับหนิ" "เบลล์หลายใจพี่ก็รู้เดี๋ยวก็เปลี่ยนไปนั้นนี่มั่วไปหมดแหละ" ฉันตอบยิ้มๆก่อนจะยกแขนขึ้นดูนาฬิกาที่บอกเวลาว่าเกือบจะสามทุ่ม "เบลล์ขอตัวกลับก่อนนะพี่ยักษ์พอดีมีนัดต่อน่ะ" "งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่ง ยังอยู่บ้านเดิมใช่ไหม" "เบลล์ไม่ได้อยู่บ้านแล้วล่ะค่ะ ย้ายออกมาแล้ว" พี่ยักษ์ชะงักทันทีก่อนเขาจะมองฉันอย่างไม่เข้าใจ ฉันยิ้มบางๆและโบกมือไปมาเพื่อไม่ให้เขาเป็นห่วง "เบลล์เซ็งๆน่ะอารมณ์ติสพี่อย่าใส่ใจเลย เดี๋ยวเบลล์กลับรถเมล์ได้ไม่รบกวนพี่หรอก" "เดี๋ยวพี่จะไปส่งพี่เต็มใจ" ใจดีจนน่าหงุดหงิด ฉันลอบถอนหายใจ แต่ก็ยอมพยักหน้าและลุกขึ้นยืนพี่ยักษ์จึงลุกตามโดยไม่ลืมหยิบเสื้อนอกตัวเองติดมือออกจากร้านด้วย เลขาเขาออกมาเปิดประตูรถรอทันทีฉันจึงขยับเข้าไปนั่งโดยมีพี่ยักษ์ตามเข้ามา เขาพาดเสื้อตัวเองไปกับขาของฉันพร้อมยิ้มบางๆอย่างใจดี "เดี๋ยวไปส่งเบลล์ก่อนนะครับ" "ครับ แล้วคุณผู้หญิงอยู่ไหนครับ?" "แถวถนนโลกีย์น่ะค่ะ รู้จักไหมคะ?" คนขับรถหันมามองนิดๆก่อนเขาจะพยักหน้าและขับรถออกไป ทำไมต้องแปลกใจ...แถวนั้นที่พักถูกนะแต่มันไม่ค่อยน่าอยู่เท่าไหร่ที่เที่ยวมันเยอะเหมาะกับคำว่าโลกีย์แหละ เรานั่งเงียบกันมาตลอดทางและตลอดทางฉันก็แชทคุยเรื่องงานตัวเองไปเรื่อย..ดีหน่อยที่วันนี้ว่างส่วนที่บอกว่าติดธุระฉันโกหกน่ะ "ถึงซอยแล้วครับ จะให้เข้า.." "จอดตรงหน้านี้ก็ได้ค่ะเดี๋ยวเดินเข้าไปเอง" "แต่พี่ไปส่งได้นะ" "รถเยอะโคตรอ่ะพี่เบลล์บอกเลย กว่าจะเลี้ยวกลับมีหวังพี่ได้หลับคารถแน่ๆ" ฉันว่าติดตลกก่อนจะเปิดประตูเตรียมลงแต่ก็ไม่ลืมคืนเสื้อให้เขา "ขอบคุณนะคะที่มาส่ง" ฉันยิ้มให้พี่ยักษ์ก่อนจะก้าวลงจากรถพร้อมหันหลังเดินไปตามทางเดินที่เต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังเดินสวนไปมาทันที "เดี๋ยวเบลล์!" เสียงพี่ยักษ์เรียกฉันอีกครั้ง ฉันถอนหายใจและหันกลับทางเดิมพร้อมยิ้มให้ร่างสูงที่กำลังวิ่งมาหา "เกือบลืม" "คะ?" ฟึ้บ.. ฉันมองสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่ถูกส่งมาตรงหน้า หน้าจอมันค้างที่แป้นตัวเลข "เอาเบอร์เรามาหน่อย" พี่ยักษ์ว่าพร้อมขยับสมาร์ทโฟนมาอีกนิด ฉันชั่งใจก่อนจะยอมรับมากดเบอร์ตัวเองและส่งคืนให้เขา พี่ยักษ์ยิ้มและกดโทรออกไม่นานโทรศัพท์ฉันก็ดัง "นั้นเบอร์พี่นะถ้ามีอะไรโทรหาได้ตลอด" "ค่าๆ" ฉันว่าขณะที่คนตรงหน้าก็หัวเราะพร้อมยกมือลูบผมฉันเบาๆหากแต่มันกลับทำเอาหัวใจฉันเต้นแรงอีกครั้ง...มือของเขามันยังคงอบอุ่นเหมือนเดิมเลยสินะ "โตขึ้นเยอะนะแต่นิสัยนี่ไม่เปลี่ยนจริงๆ" "ก็คนเดิมหนิคะจะให้เปลี่ยนเป็นใครได้ที่ไหน" ฉันตอบพร้อมขยับหัวออกจากมือพี่ยักษ์อย่างดูเป็นธรรมชาติแม้จะยังไม่หายคิดถึงสัมผัสนี้ "ไปนะคะ" "ครับ ไว้เจอกันนะ" ไม่ได้เจอหรอก ฉันยิ้มพร้อมโบกมือลาและเดินหันหลังกลับมาทางเดิมอีกครั้งพร้อมความรู้สึกที่ยังหน่วงในใจริมฝีปากฉันเม้มเข้าหากันแน่นเมื่อยังคิดถึงสายตาที่เต็มไปด้วยความใจดีและอบอุ่นของคนที่เพิ่งเจออยู่...ฉันนึกว่าฉันจะลืมได้แต่ไม่ใช่เลย ฉันยังรักเขาหมดหัวใจเหมือนเดิม แกร็ง.. ฉันปิดประตูห้องตัวเองพร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นด้วยความว่างเปล่า มันคิดอะไรไม่ออก...จะว่าดีใจก็ดีใจที่ได้เจอเขาอีกครั้งและได้รู้ว่าชีวิตเขาดีขนาดไหน แต่มันรู้สึกแย่มากกว่า ฉันหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาและมันแจ้งเตือนสายที่ไม่ได้รับเป็นชื่อของพี่ยักษ์.. "ไม่เปลี่ยนเบอร์เลยจริงๆสินะ" เขามักพูดกับฉันเสมอว่าโทรหาได้ตลอดเพราะเขาไม่มีทางเปลี่ยนเบอร์และใช่..แม้จะผ่านมาสองปีเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรจริงๆ ฉันหัวเราะก่อนจะลุกขึ้นเดินไปนอนที่เตียงตัวเองแทน ดวงตาฉันจ้องมองเพดานห้องตัวเองก่อนจะลากสายตามองที่กรอบรูปข้างๆเตียง..มันเป็นรูปฉันที่ถ่ายคู่กับพี่ยักษ์ เราอยู่ในชุดนักเรียนเขาคล้องคอฉันและยิ้มให้กล้องขณะที่ฉันก็ทำหน้าเซ็งหากแต่สายตากลับจ้องมองที่เขาไม่ละไปไหน "พี่ยังคงดูดี..เหมือนเดิมจริงๆ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD