ตอนที่ 2 ของบำเรอ

1163 Words
"หยุดนะ ฉันบอกให้หยุดไง!!" เสียงเล็กของลินดาตะโกนขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับทำท่าจะวิ่งเข้าไปภายในตัวบ้านเมื่อเห็นว่าเหล่าลูกน้องของภูวินทร์กำลังรื้อค้นสิ่งของภายในบ้านของตนเองไม่หยุด บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่เธอรัก สำหรับเธอสามารถเรียกได้ว่ามันเป็นสถานที่เก็บความทรงจำที่แสนอบอุ่นของเธอกับผู้เป็นแม่ที่เสียไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อหลายปีก่อนไว้มากมาย…เธอไม่อยากให้ใครมาทำลายมัน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม หมับ! แต่ไม่ทันที่เธอจะได้ก้าวขาไปไหน ร่างเล็กก็ถูกคนตัวสูงจัดการคว้าแขนไว้ ก่อนจะดึงเธอเข้าหาตัวอย่างแรงจนเธอเซไปอยู่ในอ้อมกอดของเขา ลินดาดีดดิ้นราวกับเด็กดื้อทำท่าจะวิ่งเข้าไปภายในบ้านให้ได้ "จะทำอะไรของเธอ" เสียงทุ้มกดต่ำเอ่ยถาม "ปล่อยฉันนะ…" เพล้ง! เสียงกรอบรูปของเธอกับแม่ที่แขวนอยู่หล่นแตกกระจาย ลินดารีบหันไปมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกเจ็บหน่วงที่หัวใจเป็นที่สุด ร่างเล็กที่กำลังดื้อดึงในตอนแรกหยุดยืนอยู่นิ่งขณะที่ร่างกายยังคงแนบชิดกับเขาอยู่ ก่อนที่ใบหน้าสวยจะค่อย ๆ หันไปมองคนตัวสูงและเอ่ยพูดกับเขาด้วยความรู้สึกสิ้นหวังเป็นที่สุด "ถ้าฉันตกลง คุณจะไม่มาแตะต้องบ้านฉันและพ่อของฉันอีกใช่ไหม" เรียวปากสวยเอ่ยถามพร้อมกับใช้ดวงตากลมจ้องมองใบหน้าหล่อนิ่ง ภูวินทร์ที่ได้ยินคำถามก็หลุบสายตามองด้วยความแปลกใจเล็กน้อย แต่แน่นอนว่ามีเหยื่อมาให้คาบถึงปากถ้ำ เสือร้ายอย่างเขาก็ไม่คิดจะปล่อยให้รอดหลุดมือไปอย่างแน่นอน "อืม" เสียงทุ้มขานขึ้นเพื่อเป็นการให้คำตอบหญิงสาว พอลินดาได้ยินเช่นนั้นเธอก็ตัดสินใจเอ่ยตอบเขาไปในทันที "อืม ฉันตกลง" "เฮ้ย พวกมึงหยุด!" ทันทีที่เรียวปากเอ่ยรับข้อเสนอของเขา เขาก็ไม่รอช้ารีบตะโกนบอกให้ลูกน้องตัวเองหยุดการกระทำทันที ก่อนที่เจ้าของร่างแกร่งจะค่อย ๆ ตวัดสายตามามองคนตรงหน้า "ยอมง่ายกว่าที่คิดนะ" "ลินดาลูก…" เสียงของลดินเอ่ยเรียกชื่อลูกสาวตัวเองด้วยแววตาที่ฉายออกมาถึงความเสียใจ ทว่าลินดาในตอนนี้กำลังพยายามข่มความรู้สึกตัวเองทุกอย่างที่มีข้างในไว้ เพราะเธอรู้ดีว่าสาเหตุที่ทำให้ครอบครัวของเธอต้องมาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้มันเป็นเพราะอะไร และคำตอบนั้นมันเป็นเพราะความรัก พ่อของลินดานั้นรักแม่ของเธอมาก ซึ่งชีวิตของเธอเริ่มผันเปลี่ยนไปหลังจากที่แม่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุบนท้องถนนที่ร้ายแรง หลังจากฝันร้ายในค่ำคืนนั้นเกิดขึ้น พ่อของเธอก็มีอาการซึมเศร้าอย่างหนัก เขากลายมาเป็นคนติดเหล้า หันมาเล่นการพนัน หมกมุ่นอยู่กับสิ่งอบายมุข เพราะต้องการลืมความเจ็บปวดจากการสูญเสียภรรยาที่รักมากที่สุดในชีวิต ในขณะเดียวกันเหตุการณ์ร้าย ๆ พวกนั้นมันเกิดขึ้นในช่วงวัยที่ลินดากำลังเติบโตเป็นผู้ใหญ่ หญิงสาวตัวเล็ก ๆ กลับต้องเติบโตมาด้วยตัวเองเป็นส่วนใหญ่ ทั้งค่าอาหารการกิน ค่าเทอม ค่าหอพัก ค่าใช้จ่ายทุกอย่างเธอเป็นคนรับผิดชอบเลี้ยงดูตัวเองทุกบาททุกสตางค์ เพราะเธอรับเริ่มรู้ว่าธุรกิจของทางบ้านที่เคยอู้ฟู่กำลังเริ่มสั่นคลอนลงทุกวัน มันเลยทำให้เธอไม่ต้องการที่จะสร้างภาระให้กับคุณพ่อของตัวเองเพิ่มขึ้น ซึ่งนิสัยที่ดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดีนั้นก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ลินดาอาจจะดูแข็งกร้าว ไม่เกรงกลัวใคร ลินดากลายเป็นคนกล้าพูด กล้าคิด กล้าทำ เพราะหากเธอมัวแต่กลัว…ชีวิตของเธอก็จะไม่ไปไหนสักที "ลินดา อย่าไปเลยลูก" "หนูเหนื่อยมากแล้วกับเรื่องบ้า ๆ พวกนี้ มันจะได้จบสักที แล้วถ้าวันนี้พ่อยังคิดไม่ได้อีก…หนูก็ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว" "ถ้าร่ำลากันเสร็จแล้ว ก็มาขึ้นรถ" เฮียภูวินทร์เอ่ยแทรกขึ้น ซึ่งขณะที่เขานั้นเอ่ยพูดมือแกร่งของเขาก็จับแขนของลินดาไว้ไม่ปล่อย และเป็นฝ่ายของเฮียภูวินทร์ที่จับแขนเรียวดึงเธอให้เดินออกไปที่รถหรูของเขาที่จอดอยู่ไม่ไกล ทั้งสองเดินมาที่รถหรูคันใหญ่ ลินดาหลุบสายตามองข้อมือของตัวเองที่กำลังถูกคนตัวสูงจับไว้ก่อนที่เธอจะสลัดมันออกเบา ๆ การกระทำของเธอทำให้เฮียภูวินทร์ปรายตามองเล็กน้อย แต่สุดท้ายเขาก็เป็นฝ่ายเดินนำเธอขึ้นรถหรูของตัวเองไป ลินดาที่ยืนอยู่ตรงประตูหลับตาลง สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ใช้เวลาทำใจนานนัก "มาขึ้นรถสักที มัวยืนทำอะไรอยู่ล่ะนั่น" เสียงทุ้มก็ดังขึ้น พอลินดาเหลือบสายตาไปมองก็เห็นว่าเขากำลังนั่งอ้าขาและใช้นิ้วชี้แกร่ง ๆ กระดิกเรียกเธอ "…" ลินดาไม่ได้เอื้อนเอ่ยอะไรกลับไป เธอถอนหายใจหนัก ๆ ก่อนจะก้าวขาขึ้นรถตามเขาไป จากนั้นรถหรูของเฮียภูวินทร์ก็ขับออกมาทันที "ทำหน้าทำตาให้มันดี ๆ หน่อย ฉันบังคับขืนใจเธอรึไง เมื่อกี้มึงได้ยินใช่ไหมวะไอ้สันต์ ว่าเด็กคนนี้เสนอตัวยอมมาเป็นของบำเรอให้กูเอง" เฮียภูวินทร์บ่นขึ้นด้วยท่าทางเหมือนไม่ชอบใจพลางเอ่ยเรียกชื่อลูกน้องคนสนิทที่เป็นคนขับรถให้ตัวเองอยู่เพื่อมาเกทับอีกด้วย "ฉันทำหน้าปกติ" ลินดาเอ่ยสวนกลับมาเสียงเรียบ ทว่าเฮียภูวินทร์ที่ได้ยินก็ยังรู้สึกไม่พอใจ "ดีกว่านี้อีก หน้าตาก็สวย…ทำหน้าให้มันน่ารัก ๆ หน่อย" "เพราะต้องไปเป็นของบำเรอให้คนแก่ จะให้ฉันยิ้มแย้มได้รึไง" ขวับ! คำพูดของคนตัวเล็กด้านข้างทำเอาเฮียภูวินทร์ที่ได้ยินถึงกับรีบหันขวับไปมองอย่างคาดไม่ถึง "เฮ้ย แก่เก่ออะไรวะ! ฉันเพิ่งอายุสามสิบสอง ทุกส่วนในร่างกายของฉันยังเต็งตึง…ถ้าไม่เชื่ออยากดูไหมล่ะ เดี๋ยวจะเปิดให้ดู" ไอ้เวรนี่มันเป็นไอ้เสี่ยโรคจิตจริง ๆ สินะ!…ถึงจะเคยพบเจอกับเขาแค่สองครั้ง แต่เพราะปากหมา ๆ แบบนี้ไง ฉันถึงไม่ชอบเขาเลยสักนิด…ไอ้คนเฮงซวย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD