เมื่อผลเอกซเรย์ออก คนตัวเล็กก็โล่งใจว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรตรงไหนไปมากกว่าที่เห็น พระรามพาแสนดีไปรับยาพร้อมทั้งจ่ายเงินให้เสร็จสรรพ หญิงสาวรู้สึกเกรงใจจนยอมยกมือไหว้ขอบคุณเขา ท่าทีมือไม้อ่อนของคนตรงหน้า ทำให้ชายหนุ่มมีรอยยิ้มขึ้นมาแวบนึง แต่ก็แค่แวบเดียวเท่านั้นแหละ แล้วมันก็จางหายไป เมื่อนึกขึ้นได้ว่า ผู้หญิงที่ดูใสซื่อคนนี้ ที่แท้เธอก็เป็นเมียน้อยชอบแย่งสามีชาวบ้าน พระรามจึงกลับไปตีหน้าเข้มขรึมตามเดิม
"บ้านอยู่ไหนล่ะ เดี๋ยวพาไปส่ง" เมื่อขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว เขาจึงห้ามไปถามเจ้าของใบหน้าใส ๆ ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ พอเธอแต่งตัวแบบนี้ กลับดูสวย น่ารักกว่าตอนแต่งตัวเซ็กซี่ในผับเสียเป็นไหน ๆ
"อยู่ซอย...." เมื่อเธอบอกเขาก็พยักหน้ารับ
"จอดด้านหน้าเลยค่ะ" เมื่อถึงข้างประตูบ้าน แสนดีก็ให้ชายหนุ่มส่งเธอแค่นี้พอ เพราะเธอไม่แน่ใจว่าแขกของเจ้าของบ้านเขากลับกันรึยัง ขึ้นทะเล่อทะล่าเข้าไป พาลจะทำให้คนเป็นพ่อของเธอขายหน้าเสียเปล่า ๆ เพราะเขาไม่เคยอยากจะเปิดเผยเธอกับใครอยู่แล้ว
"หลังนี้เหรอ" พระรามขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ ก็นี้มันบ้านอาสุรศักดิ์ที่เขาขับรถเพื่อที่จะมาดูตัวเมียเมื่อเช้านี้
"ค่ะ หลังนี้แหละ แต่ฉันเป็นแค่คนอาศัย ไม่ใช่เจ้าของบ้านหรอกค่ะ" คำบอกเล่าของเธอทำให้ชายหนุ่มพยักหน้ารับ คงจะเป็นลูกคนงานในบ้าน แต่ถือว่าเธอผิวพรรณ หน้าตา ดีกว่าที่จะมาเป็นคนครับใช้ แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะคงแค่วันนี้แหละ ที่เขากับเธอจะได้เกี่ยวข้องกันอีก
"ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ที่พาไปหาหมอ แล้วก็มาส่งที่บ้าน" แสนดี ยกมือไหว้เขาอีกรอบ ก่อนจะลงจากรถ พร้อมทั้งหยิบถุงยาลงมา แต่ก่อนที่เธอจะปิดประตู เสียงเย็นชาของเขาก็พูดขึ้นมา
"อย่าลืมกินยาล่ะ" แค่คำพูดธรรมดา แต่ทำให้เกิดรอยยิ้มบนใบหน้าของแสนดี เพราะคำว่า อย่าลืมกินยาของเขา มันสื่อให้เห็นว่า เขาเป็นห่วงเธอ นานมากแล้วนะ ที่ไม่เคยได้ยินคำพูดแบบนี้จากใคร ใบหน้าของคนตัวเล็กร้อนผ่าวด้วยความรู้สึกดี ปกติเธอไม่ใช่คนใจง่ายนะ เพราะมีคนเข้ามาจีบเธอเยอะแยะมากมาย แต่กลับหวั่นไหวกับคนแปลกหน้าที่แค่บังเอิญพบกันถึงสองครั้งสองครา ทั้งที่ชื่อเขาเอง เธอก็ไม่รู้จักด้วยซ้ำ!
"แม่ค่ะ" เสียงเรียกของลูกสาว ทำให้อำภรณ์จากที่กำลังเช็ดถูเครื่องเพชรที่เป็นของสะสมของเธอเงยหน้าขึ้นมามอง ก่อนจะรีบวางข้างของลง เมื่อเห็นสีหน้าและท่าทางที่ทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่งของลูกสาว
"หนูรัก ไม่สบายอยู่แล้วออกมาทำไมล่ะลูก ทำไมไม่นอนพักผ่อนก่อน"
"รักมีเรื่องสำคัญจะคุยกับแม่ค่ะ" แสนรักพูดพร้อมกับหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟาข้าง ๆ ของคนเป็นแม่
"ว่าไงลูก มีอะไรรึเปล่า"
"รักได้ยินทั้งหมดแล้วนะคะ ที่แม่กับพ่อ คุยกับผู้ชายคนนั้นเมื่อเช้า รักไม่อยากไปเป็นเมียเขาค่ะ รักไม่ได้รักเขา รักอยากแต่งงาน อยากอยู่ที่กรุงเทพ ไม่อยากไปอยู่บ้านป่าเมืองเถื่อนแบบนั้น คุณแม่ช่วยพูดกับคุณพ่อให้รักด้วยนะคะ"
พูดจบคนตัวเล็กก็ปล่อยโฮทันที นั่นทำให้คุณอำภรณ์สงสารลูกจับใจ จนต้องรีบดึงตัวแสนรักมากอดแนบอก ตอนแรกเธอก็ดีใจอยู่หรอก ที่สามีบอกว่า พระรามที่เป็นพ่อเลี้ยงอยู่ทางเหนือ เจ้าของไร่และรีสอร์ทที่ยิ่งใหญ่และร่ำรวย จะมาขอแสนรักไปเป็นภรรยา แต่พอเธอฟังข้อเสนอของเขาวันนี้แล้ว แน่นอนว่าสำหรับหัวอกของคนเป็นแม่ การที่ลูกสาวแค่ไปอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งเฉย ๆ โดยไม่มีหลักประกันอะไรในชีวิตเลย ไม่มีการจัดการแต่งงาน ไม่มีการจดทะเบียนสมรส เวันไหนเขาเบื่อ เขาก็อาจจะเขี่ยแสนรักทิ้งโดยง่าย มองแล้ว แแสนรักก็ไม่ต่างจากเมียที่เขาเอาไปขัดดอกหนี้สินที่สามีเธอยืมเงินก้อนนั้นมา พยุงฐานะของบริษัทสักเท่าไหร่
"นะคะคุณแม่ขา คุณแม่ช่วยรักด้วยนะคะ อย่าให้รักไปกับเขาเลย" แสนรักพยายามอ้อนวอนขอความเห็นใจจากคนเป็นแม่
"แม่จะลองพูดคุยกับคุณพ่อให้นะ รักอย่าร้องไห้เลยลูก"
"คุณแม่ต้องคุยให้ได้นะคะ ทำไมค่ะ ทำไมต้องเป็นรักด้วย ทำไมไม่ให้แสนดีไปแทนรักล่ะคะ ในเมื่อแสนดีก็เป็นลูกคุณพ่อเหมือนกัน ทำไมรักต้องมาแบกรับในสิ่งที่รักไม่ได้ก่อด้วย"
แสนรักไม่เคยอินังขังขอบกับแสนดีอยู่แล้ว เธอไม่เคยมองแสนดีเป็นน้อง แต่มองว่าเป็นแค่เด็กรับใช้คนหนึ่งในบ้าน การที่มีแสนดีอยู่ในบ้านหลังนี้ หรือจะไม่มี สำหรับเธอก็มีค่าเท่ากัน และสิ่งสำคัญที่แสนรักไม่สามารถพูดออกไปได้คือ เธอมีคนรักอยู่แล้ว ก็คือ พลเทพ นี้เป็นเหตุผลสำคัญที่หัวเด็ดตีนขาดยังไง เธอก็จะไม่ยอมไปเป็นเมียเก็บของผู้ชายคนนั้นแน่นอน
อำภรณ์มีสีหน้าลำบากใจ แต่เธอพยายามกล่อมแสนรักให้หยุดร้องไห้ เมื่อคนเป็นแม่รับปากสัญญาเป็นเหมาะว่าจะพยายามเปลี่ยนใจคุณพ่อให้ได้ นั่นก็ทำให้แสนรักเบาใจลง
"คุณค่ะ หนุรักรู้แล้วนะคะ ว่าต้องไปอยู่เชียงราย หนูรักร้องไห้ใหญ่เลย ภรณ์สงสารลูกค่ะคุณ ตั้งแต่เกิดมา เราเลี้ยงหนูรักมาอย่างถนุถนอม สรรหาแต่สิ่งที่ดีที่สุดมาให้ลูก บอกตรง ๆนะคะ ว่าภรณ์ทำใจไม่ได้ ที่จะต้องส่งลูกให้ไปเป็นแค่เมียเก็บของนายพระรามอะไรนั่นนะ" เมื่อเห็นสามีกำลังอ่านหนังสือก่อนนอน อาภรณ์เลยตัดสินใจ เอาเรื่องที่แสนรักกำลังเป็นทุกข์อยู่มาปรึกษากับผู้เป็นเขา
"แล้วจะให้ผมทำยังไง เงินสิบล้านที่ยืมมาก็ไม่มีไปคืนเขา คำสัญญาที่จะให้ลูกเราไปเป็นเมียเขา ตอนแรกเราก็ยินยอมเองไม่ใช่เหรอ" คุณสุรศักดิ์พูดอย่างเคร่งเครียด เขาเองก็ไม่ได้ชอบใจนักหรอก แต่ในเมื่อสถานการณ์มันบังคับ ก็คงต้องจำยอม
"คุณก็ให้แสนดีไปแทนหนูรักสิค่ะ ไหน ๆ แสนดีก็เป็นลูกคุณเหมือนกัน เราไม่ได้ผิดคำสัญญาสักหน่อย แค่เปลี่ยนตัวจากลูกสาวคนโตเป็นคนเล็ก แค่นั้นเอง"คำพูดของอาภรณ์ทำให้สุรศักดิ์ถึงกับถอนหายใจและเอาแว่นออกพลางขยี้หัวตาเพื่อลดความตึงเครียด
"เราจะทำแบบนั้นได้ยังไง ในเมื่อในวงสังคม เขารู้ว่าผมมีลูกคนเดียวก็คือ แสนรัก ยายแสนดีนะเหรอ ขืนให้ไปอยู่ด้วย สามวันเจ็ดวัน เขาก็คงเอากลับมาคืน คุณก็รู้นิสัยแย่แบบนั้น ใครจะไปยอมรับได้ ทุกอย่างมันเป็นไปตามข้อตกลง และเราเปลี่ยนอะไรไม่ได้ ผมคิดว่าพระรามเป็นสภาพบุรุษมากพอ และอีกอย่างลูกเราก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ อยู่ ๆ กันไป เด็กมันก็รักกันเอง ถึงเวลานั้น คุณจะเอางานแต่งยิ่งใหญ่แค่ไหน ฝ่ายโน้นเขาก็คงต้องยอมจัดอยู่แล้ว" สุรศักดิ์พูดปลอบใจคนเป็นภรรยา แต่อำภรณ์ก็ยังมีท่าทีที่ไม่สบายใจอยู่ดี แล้วเธอจะบอกแสนรักยังไง ว่าทุกอย่างคงต้องเป็นไปตามคำสัญญาเดิมที่พูดไว้