9

1502 Words
“ใช่ฉันเอง...ไอ้คนโรคจิต!” รุจรวีเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่เกรงกลัว ใบหน้าเรียวเล็กเชิดรั้งขึ้นบอกว่าเจ้าตัวไม่ยอมแพ้ ฌอนเห็นแววอาฆาตมาดร้ายจากคนตัวเล็กแทนที่จะรู้สึกหวั่น เขากลับรู้สึกเขารู้สึกโมโหแกมขบขัน โถ...แม่คุณ ตัวสูงไม่พ้นไหล่เขาดี คิดว่าจะทำอะไรเขาได้ ฮึ! ยัยตัวเล็ก! “โรคจิต?” ดวงตาสีน้ำเงินเข้มวาววับ ก้าวเข้าไปชิดหญิงสาวจนเธอก้าวถอยหลังแทบไม่ทัน “เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ?” “หูตึงรึไง อ้อ ลืมไป แก่ขนาดนี้หูก็ย่อมตึงเป็นธรรมดา ฉันเรียกคุณว่าไอ้โรคจิต ไอ้ผู้ชายโรคจิต ไอ้นายแบบโรคจิตวิปริต ไอ้...” หญิงสาวร่ายออกมายาวเหยียด หากคำพูดเธอเป็นกระสุนมันคงสาดใส่ร่างฌอนจนพรุนไปแล้ว และถึงแม้จะปากกล้า กระนั้นแม่ตัวเล็กก็ด่าเขาไป ถอยหนีเขาไปพลาง ในขณะที่คนฟังอย่างฌอนถึงกับฉุน ความโกรธถูกจุดวาบในดวงตา แก่...ยัยเตี้ยนี่ด่าเขาว่าแก่อย่างนั้นเหรอ? เขาอายุเพียงยี่สิบเก้าปีเท่านั้น! ไม่เรียกกว่าแก่หรอกนะ! แล้วไหนยังจะว่าเขาโรคจิตวิปริตอีก ฌอนบอกได้คำเดียว...เขารับไม่ได้! “หุบปากที่เอาแต่พ่นคำเสียๆ ของเธอซะยัยตัวเล็ก” ฌอนคว้าไหล่เล็กของอีกฝ่าย บีบแน่นอย่างโมโห “ก่อนที่ฉันจะอดใจไม่ไหวคิดบัญชีกับเธอตรงนี้เลย” รุจรวีเริ่มกลัวสายตาดุดันของนายแบบหนุ่ม แต่ด้วยนิสัยดื้อรั้นทำให้เธอจ้องเขากลับแล้วทำตาพองใส่ ไม่รู้เลยว่าท่าทางของเธอมันไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิด หญิงสาวพยายามสะบัดตัวออกจากอุ้งมือใหญ่ที่บีบแน่นของเขาแต่ก็ไม่หลุด กระนั้นปากเล็กๆ ก็ยังวอนหาเรื่องเอ่ยท้าทายคนตัวโตกว่าไม่หยุด “อะไร? นายคิดจะทำอะไรฉัน?” หญิงสาวท้าทาย...ยังไงก็คิดว่าเขาไม่กล้าทำอะไรเธอที่เป็นถึงน้องสาวผู้จัดการของเขาหรอก แต่มันก็ทำเอาฌอนถึงกับอยากจะทำอะไรลงโทษเจ้าหล่อน ให้สมกับปากเก่งกล้านี่เสียจริง ดวงตาคมสีน้ำเงินเข้มจ้องมองดวงหน้าเล็กหวาน แล้วแลเลยไปยังริมฝีปากอิ่มสีระเรื่อ มองหน้าคนลอยหน้าลอยตาแล้วก็ชักอยากจะรับคำท้าทายนักว่า ไอ้ปากสวยๆ แต่พ้นคำเสียๆ นี่มันจะหวานสักแค่ไหน! “ก็ทำ...อย่างที่ผู้ชายโรคจิตทำยังไงละ” ฌอนจ้องมองริมฝีปาก อิ่มสวยของรุจรวีแล้วแลเลยสบตากับเจ้าของ ทำให้รุจรวีรู้สึกสะท้านกับแววตาของผู้ชายคนนี้ หญิงสาวพยายามสะบัดตัวให้หลุดจากอุ้งมือเขาแต่ก็ไม่หลุด หญิงสาวเผลอหลุดอุทานไปพร้อมกัน เมื่อรู้สึกได้ถึงแรงบีบที่กระชับแน่นมากขึ้นจนเธอเริ่มปวดไปต้นแขนทั้งสองข้าง “ไอ้...โรคจิตจริงๆ!” ฌอนได้ฟังก็ดวงตาวาววับ...ความรู้สึกอยากบดขยี้ปากสวยๆ สั่งสอนทวีมากยิ่งขึ้น คนอย่างเขาไม่เคยโดนใครว่าถึงขนาดนี้มาก่อนตลอดเวลาเขาเคยเก็บอารมณ์ต่างๆ ของตนเองได้ดี จนได้รับฉายาที่นอกเหนือจากคาสโนวาตัวพ่อที่เพิ่งได้มาเมื่อปีที่แล้วก็คือฉายานักบุญ ด้วยชอบบริจาคเงินให้สาธารณกุศลต่างๆ กอรปกับใบหน้าหล่อเหลาดั่งพระเจ้าบรรจงสร้างทำให้คนยิ่งเห็นเขาเหมือนนักบุญเทพบุตร แต่นิสัยแท้จริงของเจ้าตัว ที่คนส่วนน้อยจะรู้...ฌอนคิดว่าตนเองเป็นนักบุญซาตานมากกว่า เขาไม่ใช่คนอารมณ์ดีอย่างที่แสดงออก...เขาไม่ใช่คนอารมณ์เย็น เขาปากร้าย เขาไม่แคร์ใคร แล้วทำไมเขาถึงต้องยอมให้ผู้หญิงตัวเล็กๆ ตรงหน้ามาด่าเขาปาวๆ ขนาดนี้! ฌอนเหยียดยิ้มราวเทพบุตรให้หญิงสาว แต่ดวงตาวาววับและเย็นชาไม่มีรอยยิ้มน่ามองถูกจุดอยู่ในดวงตาคู่คมสีสวยนั่นเลย มือใหญ่ดึงรั้งร่างบางเข้ามาปะทะอกแกร่งตนเองจนอีกฝ่ายเซถลาเข้ามาอย่างที่หมาย รวบร่างเล็กๆ ของอีกฝ่ายกอดกระชับแน่นด้วยมือเพียงข้างเดียว มืออีกข้างตรึงศีรษะเล็กไว้มั่น แล้วใบหน้าหล่อเหลาก็ฉกวูบเข้าหา ริมฝีปากสวยๆ นั่นอย่างรวดเร็ว รุจรวีไม่คาดคิดว่าตัวเองจะถูกจู่โจมรวดเร็วขนาดนี้ และที่สำคัญที่นี่คือหน้าบ้านของเธอเอง... ฌอนกล้าเกินไปแล้ว! “อื้อ!” หญิงสาวรู้ตัวอีกที ริมฝีปากอิ่มสวยก็ถูกบกเคล้าคลึงจากริมฝีปากของไอ้นายแบบที่แสนเกลียด รุจรวีพยายามประท้วงโดยการดิ้นรนเต็มแรงให้หลุดพ้นจากอ้อมแขนของเขา แต่ดูเหมือนฌอนจะกอดเธอแนบแน่นจนเธอรู้สึกได้ถึงอกแข็งๆ ของเขาที่เสียดสีกับร่างกายเธอ มืออีกข้างบังคับใบหน้าของเธอไม่ให้สะบัดหนีออกไปได้ แต่ที่ร้ายกาจที่สุดเห็นจะเป็นจูบนี้ของเขาต่างหาก! รุจรวีครางอือในลำคออย่างพยายามประท้วง แต่ฌอนไม่ยอม ชายหนุ่มปิดริมฝีปากอิ่มของหญิงสาว เคล้าคลึงราวกับอยากจะสั่งสอนให้เธอหลาบจำว่าไม่ควรปากดีกับเขาอีก และเล็มไปทั่วริมฝีปาก ปิดการประท้วงทุกวิถีทางของหญิงสาว ชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงร่างน้อยที่สั่นระริกในอกเขาด้วยความหวาดกลัวแต่ฌอนไม่สนใจ ริมฝีปากหยักสวยของเขายังคงแนบเคล้ากับริมฝีปากของหญิงสาวต่อไป ไม่ปล่อยให้เธอได้มีโอกาสหายใจ ก่อนจะอาศัยช่วงจังหวะที่ผละออกมาให้รุจรวีได้เผยอหายใจด้วยไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้กับใครๆ แม้ตัวเธอจะเป็นนักเขียนนิยายก็ตาม ฌอนประกบปิดมันอีกครั้ง คราวนี้ลิ้นร้อนๆ สอดเข้าไปในโพรงปากหวานราวกับน้ำผึ้งอย่างย่ามใจ อารมณ์อยากสั่งสอนเริ่มหายไป แปรเปลี่ยนมาซึมซับความหวานของโพรงปากจากร่างเล็กโดยไม่รู้ตัว หากเพียงแค่ลิ้มชิมรสได้ไม่กี่วินาที สวรรค์ของฌอนก็เหมือนจะล่มเพราะรุจรวีที่คาดคิดว่าน่าจะเคลิบเคลิ้มกับจูบแสนเร่าร้อนกับนายแบบเจ้าเสนห์อย่างเขา กลับเลือกที่จะ...กัดลิ้นเขาเต็มๆ แรง! “โอ๊ย!” ฌอนร้องลั่น รู้สึกเหมือนได้รสชาติของเลือดอยู่ในปาก อารมณ์อ่อนหวานหายวับไปกับตา มองหญิงสาวที่ยืนเอามือถูปากตนเองแรงๆ ริมฝีปากเจ่อบวมเพราะฝีมือเขาอย่างโกรธจัด แต่เมื่อเห็นดวงหน้าเล็กๆ แดงก่ำและหยาดน้ำตาที่ปริ่มขอบตากลมโตของอีกฝ่ายก็ใจอ่อนยวบ ท่าทางถูริมฝีปากราวกับเด็กของผู้หญิงอายุ 22 ทำให้ฌอนทั้งเอ็นดูและฉุนไปในคราวเดียวกัน เอ้า! เช็ดเข้าไป...รังเกียจเขามากรึไง! ฌอนคิดอย่างหงุดหงิด แต่ไม่ได้พูดอะไรนอกจากจ้องอีกฝ่ายหน้าตาดุดัน ฝ่ายรุจรวีนั้น เธอต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาให้ศัตรูตัวร้ายอย่างฌอนได้เห็น หญิงสาวมองเขาดวงตาวาววับด้วยหยาดน้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ด้วยสายตาโกรธแค้น หญิงสาวเม้มริมฝีปากเจ่อของตนเพราะฝีมือไอ้นายแบบโรคจิตที่ตอนนี้พ่วงคำว่าบ้ากามเข้าไปด้วย เดินตรงมายังฌอน แล้วทำสิ่งที่ฌอนไม่คาดคิด เผียะ! หญิงสาวสะบัดมือตบหน้าเขาเต็มๆ แรงเท่าที่แรงตอนนี้ของเธอจะอำนวย แล้วเอาเท้ายันร่างสูงของอีกฝ่ายให้ถอยออกไปเต็มๆ แรง ท่ามกลางอาการตกตะลึงของฌอน หากผิดคาดสำหรับเธอที่เขาไม่ได้ล้ม แต่ก็เซถลาไปเหมือนกัน ทำให้ฌอนตั้งหลักได้อย่างรวดเร็ว และกระทำการตอบโต้หญิงสาวด้วยการกระชากร่างเล็กของเธอเข้ามากอดแน่น หญิงสาวร่างเล็กลอยหวือตามมือที่กระชากจนเซมาปะทะอกหนา ถูกกอดแนบแน่นจนรู้สึกว่าหากแน่นอีกเพียงนิดเดียว ร่างของเธอคงกลายเป็นร่างเดียวกันกับเขาแล้ว แต่ฌอนไม่สนใจ เขามองใบหน้าเรียวหวานด้วยดวงตาโกรธจัด...ยัยนี่ตบเขา เขาไม่ว่า แต่เจ้าหล่อน...เจ้าหล่อนกล้า ‘ถีบ!’ เขาด้วย! ลบเหลี่ยมเขามากเกินไปแล้ว! “เธอกล้ามากนะยัยเตี้ย” ฌอนพูดเสียงลอดไรฟัน จนรุจรวีแทบจะได้ยินเสียงเขากัดฟันกรอดเลยทีเดียว หากหญิงสาวร่างเล็กแต่เลือดนักสู้เต็มเปี่ยม แม้จะกลัวแต่ปากยังกล้าตอบโต้ไปว่า “แล้วไง กล้าไม่กล้าก็ทำแล้ว มันก็เหมาะสมดีกับการกระทำชั่วๆ ของคุณแล้วกัน!” ฌอนมองเธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ มองดวงหน้าหวานด้วยสายตาเข้มจัด “งั้นก็เตรียมรับสิ่งชั่วๆ อีกรอบแล้วกัน!” “อย่านะ...พี่วิทย์ช่วยรวีด้วย กรี๊ด...”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD