ก่อนหน้านั้นห้านาที...ฝ่ายรวีวิทย์ที่นั่งรออยู่ภายในห้องนั่งเล่นก็ชักแปลกใจ ทำไมน้องสาวของเขาถึงไม่เข้ามาในบ้านเสียที แต่ไอ้ครั้นจะลุกขึ้นไปตามก็กลัวเสียฟอร์มต่อหน้าศุภางค์ ให้ยัยคู่แค้นแต่วัยเด็กมาค่อนขอดเอาได้ เพราะก่อนหน้านั้นเขาเพิ่งบอกอีกฝ่ายไปเองว่าจะไม่ไปตามรุจรวี
ฝ่ายศุภางค์ปรายตามองคู่กัดเป็นสิบๆ ปีของตนเองแล้วนึกขำคนหวงน้อง ไม่รู้จะนั่งทรมานตนเองไปทำไม ลุกขึ้นไปตามก็สิ้นเรื่อง แต่หญิงสาวก็ไม่ยอมเอ่ยอะไร เพียงแต่มองท่าทีพยายามนิ่งของอีกฝ่ายเป็นระยะๆ เท่านั้น รู้หรอกว่ารวีวิทย์กลัวเสียหน้าถ้าจะเดินออกไปตามรุจรวี
แล้วในขณะที่กำลังนั่งลองเชิงกันอยู่นั่นเอง เสียงแว่วเหมือนคนเถียงกันก็ดังลอยเข้ามา ทำให้รวีวิทย์ผุดลุกขึ้น นึกอยากกุมขมับที่น้องสาวกับนายแบบในสังกัดทะเลาะกัน สงสัยต่างฝ่ายต่างก็จำกันได้จากข่าวน่าขายหน้านั่น แต่เมื่อหันไปเห็นสีหน้าเหมือนจะยิ้มขำเขาของยัยแพม รวีวิทย์ก็นึกเปลี่ยนใจกระแทกตัวลงนั่งตามเดิม หากนั่งรอไม่นานเสียงร้องของรุจรวีก็ดังแว่วเข้ามา คราวนี้แหละ...ไม่ใช่แต่เขาคนเดียวเท่านั้นที่ลุกพรวดขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะศุภางค์ก็มีอาการเฉกเช่นเดียวกัน
“พี่วิทย์...ช่วยรวีด้วย กรี๊ด!”
ไม่ทันสิ้นประโยคขอความช่วยเหลือดี รวีวิทย์และศุภางค์ก็กระโจนไปที่ประตูพร้อมกัน แล้วภาพที่พวกเขาพบก็ทำให้ทั้งคู่ถึงกับตกใจ!
ศุภางค์แทบเอามือปิดปากกั้นเสียงร้องกรี๊ดของตนเองแทบไม่ทัน ภาพของนายแบบสุดฮอตผู้ถูกโหวตให้เป็นสุดยอดหนุ่มเซ็กซี่แห่งปีกำลังจูบเพื่อนของเธอ! แต่พี่ชายของคนถูกจูบกลับเลือดขึ้นหน้า คนที่คอยทำตัวเป็นคุณพ่อให้น้องสาวบัดนี้ดวงตาสีนิลแทบลุกเป็นไฟยามเมื่อเห็นร่างเล็กๆ ของน้องสาวดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของนายแบบในสังกัดของตน ใบหน้าขาวๆ ของผู้จัดการหนุ่มแดงก่ำด้วยฤทธิ์โทสะที่ครอบงำ เขาตรงดิ่งไปยังสองร่างที่นัวเนียกันอยู่แล้วออกแรงกระชากฌอนออกจากน้องสาวของเขาเต็มๆ!
ฌอนผงะถอยห่างจากร่างของรุจรวีโดยไม่ทันตั้งตัว พอเห็นหน้าผู้จัดการของตนเท่านั้นแหละ อารมณ์รุนแรงปนหวามไหวที่ติดมาจากสัมผัสของริมฝีปากอิ่มสวยของยัยตัวเล็กหายวับไปกับตา ใบหน้าถมึงทึงราวกับเพชรฆาตที่พร้อมจะฟ้อนดาบตัดคอเขาให้ขาดกระเด็นทำให้ฌอนรู้สึกครั่นคร้ามขึ้นมาครามครัน อารมณ์โกรธแบบไม่คิดทำให้เขาลืมคิดหน้าคิดหลังไปเสียหมดเลยว่าไม่ควรมาแสดง ‘กริยาแบบนี้’ ต่อหน้าผู้จัดการหนุ่มที่รู้เต็มอกว่าเกลียดข่าว ‘ฉาวๆ’ ของเขาแค่ไหน แล้วยิ่งเขามาทำแบบนี้ต่อหน้าเจ้าตัวอีกล่ะ
มึงก็ตายไงไอ้ฌอน! ตาย! ตาย!! ตาย!!!
รวีวิทย์มองใบหน้านายแบบที่ดูแลอยู่แล้วยิ่งรู้สึกเลือดขึ้นหน้ายังไงชอบกล เสี้ยววินาทีที่กกระชากฌอนออกมาจากน้องสาวตนเอง เขาก็คิดคำนวณไปด้วย พรุ่งนี้ฌอนมีงานเปิดตัวน้ำหอมแบรนด์ดัง หากเขาชกหน้าอีกฝ่ายรังแต่จะเป็นผลเสียกับงาน พอคิดได้อย่างนั้น ในจังหวะที่เหวี่ยงฌอนออกมา พี่ชายที่แสนดีก็บรรจงเอาเท้าของตน ‘ถีบ’ สะโพกสอบของนายแบบในสังกัดเต็มแรงโดยอีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว! คราวนี้นายแบบหนุ่มถึงกับเซถลาเมื่อเจอฤทธิ์บาทาของผู้จัดการหนุ่ม!
“พี่วิทย์! ถีบผมทำไม!?”
เขาถามเสียงหลงหลังจากถลาลงไปกองกับพื้น ห่างจากจุดที่ รวีวิทย์ยืนพอสมควร รุจรวีมองภาพนั้นอย่างสะใจ หากศุภางค์รีบเอามือปิดปากตนเองรอบสอง สาวเปรี้ยวรีบไปประคองร่างสูงใหญ่ หากเซ็กซี่เย้ายวนใจสาวน้อยสาวใหญ่ และเลยไปยังสาวเทียมอย่างที่สุดให้ลุกขึ้น สายตาของเธอรีบมองสำรวจร่างกายอีกฝ่ายว่ามีอะไรบุบสลายจากฤทธิ์ฝ่าเท้าของรวีวิทย์หรือเปล่า
ตายแล้ว! พี่วิทย์ถีบสุดยอดหนุ่มหล่อพระเจ้าบรรจงสร้างอย่างฌอน พาร์กเกอร์เข้าไปได้อย่างไรกั๊น! บุบสลายไปนี่ใครจะรับผิดชอบ...ของอย่างนี้ต้องทิ้งไว้ให้โลกชื่นชมนานๆ สิ ไม่ใช่มาทำลายล้างแบบนี้ คุยกันดีๆ ก่อนลงมือก็ไม่ได้!
แม่สาวแฟนคลับของฌอนตวัดตามองคนทำร้ายหนุ่มหล่อในดวงใจอย่างขุ่นเคือง แต่เมื่อเห็นสายตากรุ่นโกรธของเพื่อนสาวตัวเล็กก็รีบปล่อยมืออีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว รีบวิ่งดุ๊กดิ๊กกลับไปยืนข้างเพื่อน แม้ตาจ้องมองหนุ่มหล่อเซ็กซี่ดีกรีคาสโนวาตัวพ่ออย่างอาลัยอาวรณ์ก็ตาม
ลาก่อนนะคะฌอน...ถึงแพมจะปลื้มหุ่นล่ำๆ ของคุณ แต่งานนี้แพมขอเลือกเพื่อนก่อนนะคะ...หากมีวาสนาเราคงได้ครองคู่กัน
แม่สาวเปรี้ยวหากแอบเอ๋อคิดในใจเช่นนั้นในยามมายืนเคียงข้างเพื่อน รวีวิทย์ที่ยืนมองฌอนทำท่าโหวกเหวกโวยวายก็ทำท่าจะปรี่เข้าไปซ้ำอีกฝ่ายสักรอบให้หายแค้น ดีที่ศุภางค์มาดึงไว้ได้ทัน ส่วนน้องสาวของเจ้าตัวน่ะหรือ?
“เอาอีกเลยพี่วิทย์ หมอนี่มันบ้า โรคจิต สั่งสอนหนักๆ เลยค่ะ”
รุจรวียุพี่ชายเหย็งๆ มองศัตรูตัวร้ายอย่างเป็นต่อ ทั้งที่ดวงตากลมโตสีน้ำตาลของตนเองยังแดงก่ำ ริมฝีปากสีแดงของเจ้าตัวก็เม้มแน่นยามมองดวงตาวิบวับของนายแบบคนดัง
“พอเลยไอ้รวี พี่วิทย์ก็เหมือนกัน” ศุภางค์หันไปพูดเสียงดังกรอกหูคนที่พยายามจะถลาเข้าหานายแบบหนุ่มที่ไปยืนตั้งหลักเสียไกลชักเหนื่อย ไอ้พี่วิทย์นี่ก็เหลือเกิน พอโกรธนี่แรงเยอะอย่างกับควาย เธอฉุดแทบไม่อยู่แล้ว!
“หัดทำใจเย็นแล้วคุยกันดีๆ ได้ไหม?” ศุภางค์พูดเสียงดังหาก รวีวิทย์สวนกลับ
“แพมจะให้พี่ใจเย็นงั้นเหรอที่เห็นว่าฌอนมันทำอะไรรวี เธอเป็นเพื่อนรวีแท้ๆ ทำไมเข้าข้างมัน”
“แพมไม่ได้เข้าข้างใคร แต่แพมต้องการให้พี่วิทย์ใจเย็นและฟังฌอนกับรวีอธิบายเรื่องเมื่อกี้ทั้งหมด...เดี๋ยวนี้!”
หญิงสาวตะเบ็งเสียงใส่อีกฝ่ายเพราะรวีวิทย์ตั้งท่าจะพุ่งเข้าหาฌอนอีกครั้ง แล้วดูเหมือนมวยจะเปลี่ยนทิศอีกแล้วเหมือนอย่างที่เคยเป็น แต่เหตุการณ์กลับไม่ได้ลงท้ายที่ทั้งคู่ทะเลาะกันไม่หยุดอย่างที่เคย รวีวิทย์เมื่อได้ฟังอย่างนั้นก็เลิกทำท่าถลาจะเข้าไปตะปบฌอนทำให้ศุภางค์วางใจพอจะปล่อยมือได้เมื่อเห็นอีกฝ่ายสงบลงแล้ว
ผู้จัดการหนุ่มสูดลมหายใจลึกๆ เข้าปอดอย่างระงับอารมณ์ รวีวิทย์มองใบหน้าหล่อเหลาราวกับทูตสวรรค์ของฌอนแล้วจึงเบนสายตากลับไปมองใบหน้าของน้องสาว จากนั้นจึงพูดเสียงเรียบเย็นว่า
“เข้าไปในบ้านกันให้หมด แล้วจากนั้นทั้งฌอนและรวีเล่าเรื่องเมื่อกี้ให้พี่ฟังอย่างที่แพมบอก พร้อมกับไอ้เรื่องที่เป็นข่าวด้วย...เดี๋ยวนี้!”
กำชับเสียงหนัก เขาก็เดินดุ่มเข้าบ้านเป็นคนแรก หากไม่ลืมจะหันมาคว้ามือน้องสาวและเพื่อนน้องสาวให้เข้าบ้านด้วยกันทั้งหมด ทิ้งให้ฌอนยืนมองภาพนั้น
นายแบบหนุ่มกำลังนิ่งอึ้ง...เมื่อเริ่มสำนึกอะไรได้บางอย่างจากท่าทีของรวีวิทย์เมื่อครู่
ยัยรวีตัวเล็กนั่น...คือน้องสาวของพี่วิทย์
มึงตายไม่ได้ผุดได้เกิดแน่ไอ้ฌอน!
นายแบบหนุ่มที่รู้กิตติศัพท์ความหวงน้องของอีกฝ่ายจากปรัชญ์มานานเริ่มนึกสงสารตัวเอง แม้จะคิดว่าวันนี้ตนเองช่าง ‘ดวงซวย’ โดนถีบไปสองรอบ แถมรอบที่สองก็ทำเอาเขาถึงกับรู้สึกเจ็บสะโพกอย่างไรชอบกลก็รู้สึกว่านั่นยังเบากว่า ‘บทลงโทษ’ ที่เขาคาดเดาได้จากสายตาราวกับลุกเป็นไฟของรวีวิทย์!