ญาณินเดินคอตกออกมาจากห้องทำงานของปกป้อง หญิงสาวถอนหายใจออกมาเบาๆ ดูเหมือนความหวังตอนนี้ไกลริบหรี่ โชคชะตาเล่นตลกอะไรด้วยทำไมถึงใจร้ายขนาดนี้ ชีวิตดิ้นรนมาโดยตลอดแต่ไม่เคยดูสิ้นหวังเท่าตอนนี้
เธอนั่งคิดเรื่องที่เกิดขึ้นคนเดียวอยู่มุมหนึ่งของไนต์คลับ จะหาเงินก้อนนั้นทันภายในระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์ได้ยังไง เงินตั้งห้าแสนไม่มีทางทันแน่นอน ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว ไม่คิดเหมือนกันว่าวันนึงต้องยอมรับงานที่ตัวเองปฏิเสธมาโดยตลอด ขณะนั่งคิดพลางยกมือปาดน้ำตาตามไปด้วย
เหนื่อยเหลือเกิน…
เพียะ!
‘โอ๊ย!’
‘แม่!!’ ญาณินที่เพิ่งกลับมาถึงบ้านร้องเสียงดังเมื่อเห็นแม่โดนพ่อเลี้ยงตบอย่างแรงจนล้มลง เธอปรี่เข้าไปกอดแม่จนตัวเองโดนฝ่ามือฟาดเข้าที่กลางหลัง
กัลยา ตกใจสุดขีดที่เห็นลูกสาวเจ็บตัวแบบนั้น รีบเอาตัวเองมาบังไว้อีกทีเพื่อไม่ให้โดนลูกหลง ชรัน ที่กำลังโกรธจัดก็ยังคงลงไม้ลงมือกับกัลยาไม่หยุด ทั้งเตะ ทั้งทุบ สารพัดอย่าง
‘อย่าทำแม่นะ! ฮืออ พอแล้ว อย่าทำแม่ แม่เจ็บแล้วฮือๆ’ เธอพยายามห้ามพ่อเลี้ยงแต่ไม่เป็นผล จังหวะที่พ่อเลี้ยงจะตบแม่อีกครั้งเธอรีบเข้าไปกอดขาเอาไว้ไม่ให้ทำ
หมับ
‘ปล่อยกู!’
‘ญะ…ญาณินขอร้องฮือๆ อย่าทำแม่เลย แม่เจ็บมากแล้วฮืออ’
‘ปล่อยกูอีญาณิน ไม่งั้นมึงจะโดนไปด้วยอีกคน!’
‘ไม่! ถ้าจะทำ ทำญาณินแทนแม่เลย จะตี จะตบ พ่อเลี้ยงก็ทำเลย แต่ขอร้องอย่าทำแม่เลยนะฮืออ’
‘ไม่นะ! ยะ…อย่าทำญาณิน ถ้าจะทำก็ทำฉันเถอะพี่ ฉันขอร้องล่ะ’ กัลยาที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำและเลือดกลบปาก นั่งประนมมือไหว้อ้อนวอนสามีทั้งน้ำตา
สองแม่ลูกพยายามปกป้องกันจากชรันที่อยู่ในสภาพโกรธจัดบวกดื่มแอลกอฮอล์มาพอสมควร
‘พะ..พ่อเลี้ยงอย่าตีแม่อีกเลยนะ ถ้าพ่อเลี้ยงอยากได้เงินญาณินมีให้ อะ…เอาไปหมดเลย ขอแค่อย่าตีแม่’
ชรันชะงัก เมื่อได้ยินญาณินพูดถึงเงิน แววตาจากโกรธจัดค่อยๆ อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด มุมปากพลันกระตุกยิ้มเล็กๆ
‘ไหนเงินมึง?’
ญาณินรีบควักออกจากกระเป๋าแล้วยื่นให้พ่อเลี้ยงจนหมด พอชรันได้เงินก็เดินออกไปโดยไม่พูดอะไรต่อจากนั้น
‘มะ…แม่เจ็บไหม’
‘เอาเงินไปให้มันทำไม ทำไมแกไม่เก็บไว้หืม’
‘ช่างเงินเถอะแม่ เงินแค่นั้นถ้าแลกกับการที่พ่อเลี้ยงไม่ตีแม่ ญาณินก็ยอม’
กัลยามองลูกสาวผ่านม่านน้ำตา
‘แม่เจ็บมากไหม’
กัลยาส่ายหน้าเป็นคำตอบ
‘เดี๋ยวญาณินพาแม่ไปทำแผลนะ’ เธอประคองแม่ขึ้นเพื่อพาไปทำแผลบนใบหน้าจากฝีมือพ่อเลี้ยง
กัลยามองลูกสาวที่นั่งทำแผลให้ด้วยความสงสาร ทำไมญาณินต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ หากย้อนเวลากลับไปได้ตนจะไม่เอาผู้ชายแบบนั้นมาทำผัวเด็ดขาด
‘แม่มีอะไรจะบอก’
‘อะไรเหรอแม่’
‘ชรันมันเอาบ้านหลังนี้ไปจำนองกับบ่อน วันนี้พวกที่บ่อนมาหามันบ้านแม่เลยรู้ พวกมันบอกแม่ว่า ภายในหนึ่งอาทิตย์ถ้าเราไม่รีบเอาเงินไปให้พวกมัน พวกมันจะยึดบ้านหลังนี้ของเรา’ กัลยาพูดไปร้องไห้ไป
หัวใจของเธอพลันกระตุกวูบกับสิ่งที่ได้ยิน ราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุนไปชั่วขณะ เธอสูดลมหายใจลึกก่อนหันไปมองแม่ที่น้ำตายังคงไหลอาบแก้ม
“ละ…แล้วเราจะทำยังไงดี” เธอถามเสียงสั่น
‘แม่เองก็ไม่รู้ เงินมากมายขนาดนั้นแม่ไม่มีไปจ่ายพวกมันหรอก แม่ขอโทษนะญาณิน ที่พาแกมาเจอเรื่องแบบนี้’
‘แม่ไม่ต้องขอโทษหรอก มันไม่ใช่ความผิดของแม่เลย แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ เดี๋ยวญาณินหาเงินไปให้พวกมันเอง ญาณินไม่ยอมเสียบ้านหลังนี้ไปเด็ดขาด’
‘แกจะไปเอาเงินมากมายขนาดนั้นมาจากไหน ลำพังทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟเงินเดือนก็ไม่พอใช้แล้ว แม่กำลังหาบ้านเช่าราคาถูกๆ พออยู่ได้ไปก่อน’
‘ให้โอกาสญาณินก่อนนะแม่ เชื่อมั่นในตัวลูกสาวของแม่อีกสักครั้ง’
กัลยามองหน้าลูกสาวอย่างลังเล เพราะไม่อยากให้ลูกสาวเดือดร้อนหาเงินมากมายขนาดนั้นลำพัง เงินครึ่งล้านไม่ใช่จะหาได้ง่ายๆ ภายในหนึ่งอาทิตย์
‘…อืม’
ปัจจุบัน
ญาณินยังคงนั่งร้องไห้เงียบๆ หากเธอหาเงินก้อนนั้นภายในหนึ่งอาทิตย์ไม่ได้ บ้านของเธอก็จะถูกพวกจากบ่อนยึดไป
ทำไมโชคชะตาถึงเล่นตลกกับเธอนัก…
แม่ของเธอพยายามออกมาจากพ่อเลี้ยง ทว่าทุกครั้งที่คิดจะทำกลับถูกพ่อเลี้ยงขู่จะทำร้ายเธอ จึงทำให้แม่ไม่สามารถออกมาได้ทั้งที่อยากออกมาเต็มทน
ครืด ครืด
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นดึงเธอออกจากภวังค์ความคิด สายตามองเบอร์ที่โชว์หลาขึ้นมา พอรู้ว่าเป็นเบอร์ของปกป้องก็รีบกดรับสาย
“ค่ะคุณปกป้อง”
(มาหาฉันที่ห้องตอนนี้ ฉันมีงานให้เธอทำแล้ว)
หัวใจของเธอกระตุกวูบเมื่อได้ยินปกป้องบอกแบบนั้น ไฟแห่งความหวังที่ใกล้มอดลงกลับมาสว่างไสวอีกครั้ง
“ดะ…ได้ค่ะ ญาณินจะไปเดี๋ยวนี้”