"เจ้าขา"
"เจ้าขาครับ" เสียงทุ้มที่คุ้นเคยเอ่ยเรียกชื่อของฉันดังแทรกเข้ามาในหู ทำให้ฉันชะงักเท้าและถอดหูฟังออกจากหู ฉันรีบหันไปมองตามเสียงด้วยความตกใจ แล้วม่านตาของฉันก็ขยายขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเป็นใคร
"พี่แทน มีอะไรหรือเปล่าคะ" ฉันเอ่ยถามเขากลับไปอย่างนิ่ง ๆ เพราะหลังจากที่ฉันรับรู้ว่าเขามีแฟนฉันก็ยังไม่ได้คุยกับพี่เขาต่อเลย แต่ฉันยังยืนคำเดิมนะว่าฉันไม่ได้โกรธพี่เขา ฉันแค่ทำตัวไม่ถูกมากกว่าเพราะรู้สึกว่าอะไร ๆ มันไม่เหมือนเดิมแล้ว
"พี่เรียกเราตั้งนานมัวฟังอะไรอยู่ถึงไม่ได้ยินเสียงพี่ หืม"
"ขอโทษค่ะ พอดีเจ้าขาใส่หูฟังอยู่"
"เพิ่งเลิกเรียนเหรอเรา"
"ใช่ค่ะ ว่าแต่พี่แทนมีอะไรกับเจ้าขารึเปล่าคะ" ฉันเอ่ยถามเขาขึ้นอีกครั้ง ซึ่งพอพี่แทนได้ยินคำถามของฉันก็เหมือนจะชะงักไปเล็กน้อย
"เจ้าขา เป็นอะไรหรือเปล่า เราดูไม่ค่อยสดใสเหมือนปกติเลย" เขาเอ่ยถามฉันพร้อมกับใช้สายตาจ้องมองมาที่ใบหน้าของฉันอย่างสังเกต
"ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ" ฉันส่ายหน้าเบา ๆ ขณะเอ่ยตอบ
"แล้วเมื่อคืนนี้เรากลับคอนโดยังไงนะ เห็นบอกว่ามีธุระด่วน เรื่องอะไรเหรอ" พี่แทนใจเอ่ยถามฉันอย่างใส่ใจ คือถ้าเป็นเหมือนก่อนฉันคงรู้สึกดีที่ได้พูดคุยกับพี่เขาแบบนี้ แต่บอกตามตรงตอนนี้ฉันทำตัวไม่ถูกจริง ๆ เหมือนยิ่งคุยกับพี่แทนฉันก็ยิ่งรู้สึกอึดอัด
"ธุระส่วนตัวนิดหน่อยค่ะ" ฉันยิ้มตอบพี่แทนกลับไป ก่อนจะเอ่ยถามพี่เขาอีกครั้งว่า "สรุปพี่แทนมีอะไรกับเจ้าขาเหรอคะ"
"เปล่าหรอก พี่เห็นเจ้าขาเดินอยู่ก็เลยเข้ามาทักน่ะ"
"อ้อ" ฉันขานตอบออกมาเบา ๆ ก่อนจะส่งยิ้มบาง ๆ ให้พี่แทนใจ ซึ่งพี่แทนใจก็ยิ้มให้ฉันเหมือนกัน เราสองคนก็ยืนมองหน้ากันครู่หนึ่งโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา ทำให้ฉันที่รู้สึกอึดอัดมากขึ้นเรื่อย ๆ ตัดสินใจเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้น
"เอ่อ ถ้าไม่มีอะไรแล้วเดี๋ยวเจ้าขาขอตัวกลับก่อนนะคะพี่แทน พอดีเจ้าขามีการบ้านที่ต้องรีบกลับไปทำค่ะ" พูดจบฉันก็ส่งยิ้มให้พี่แทนเบา ๆ ก่อนจะหมุนตัวแล้วกำลังจะก้าวเท้าเดินออกมา
หมับ
ฉันชะงักตกใจเล็กน้อยเพราะพี่แทนคว้าแขนของฉันไว้ "พี่แทน มีอะไรรึเปล่าคะ"
"จะกลับคอนโดใช่ไหม เดี๋ยวพี่ไปส่ง" พี่แทนพูดอีกทั้งยังจับแขนของฉันไว้ไม่ยอมปล่อย จนฉันรู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังตกเป็นเป้าสายตาของคนบริเวณนั้น…จนกระทั่ง
"นั่นพี่พายุนี่!"
"กรี๊ด! หล่อมากเลยว่ะแก นาน ๆ ทีจะเห็นพี่เขา วาสนาตาฉันสุด ๆ"
"อยากไปขอถ่ายรูปอะแก"
"ไม่ได้ ไม่รู้เหรอว่าพี่พายุเขาไม่ชอบให้ใครรุกล้ำความเป็นส่วนตัวอะ"
เสียงฮือฮาของเหล่านักศึกษาบริเวณนั้นดังขึ้น พร้อมกับความสนใจทั้งหมดถูกเปลี่ยนไปยังรถบิกไบก์คันหนึ่งที่กำลังขับผ่านฉันไป ฉันก็เลื่อนสายตาไปมองตามด้วยความอยากรู้ แล้วก็ต้องชะงักขึ้นเพราะขณะที่รถบิกไบก์คันนั้นกำลังขับผ่านฉัน ผู้ชายหน้าหล่อคนที่นั่งซ้อนอยู่ด้านหลังได้หันหน้ามามองฉัน ทำให้เราทั้งสองคนประสานสายตากันครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเป็นฝ่ายพี่เขาที่หันหน้ากลับไป
เขามองเหมือนว่าเขารู้จักกับฉันอย่างไงอย่างงั้น ว่าแต่ทำไมฉันรู้สึกคุ้นหน้าเขาแปลก ๆ เหมือนเคยเจอที่ไหนเลย
"ไปกัน รถพี่จอดอยู่ทางนู้น" เสียงพี่แทนดังขึ้น ทำให้ฉันดึงสายตาและสติของตัวเองกลับมา
"ไม่เป็นไรค่ะ เจ้าขากลับเองดีกว่า" ฉันเอ่ยปฏิเสธด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและค่อย ๆ ดึงมือที่พี่แทนจับอยู่ออก ฉันควรเว้นระยะห่างกับเขา เพราะฉันคิดว่ามันไม่สมควรเท่าไหร่ที่จะไปไหนมาไหนกับพี่เขาสองต่อสอง เพราะพี่เขามีแฟนแล้ว
"งั้นเจ้าขาขอตัวก่อนนะคะ" ฉันบอกลาพี่แทนอีกครั้ง ก่อนจะหมุนตัวเดินออกมาในทันที
เวลาผ่านไปพักใหญ่
ไม่นานฉันก็ก้าวขาลงจากรถแท็กซี่ที่จอดทาบอยู่ข้างถนนใหญ่หน้าคอนโดของฉัน และขณะที่ฉันกำลังจะก้าวเดินอยู่นั้นเองเสียงโทรศัพท์ในมือของฉันก็ดังขึ้น
ติ้ง!
Tanjai : วันนี้เจ้าขาดูไม่ค่อยสดใสเลย ถ้ามีปัญหาอะไรบอกพี่ได้นะครับ
ฉันยกโทรศัพท์ขึ้นมาและกวาดสายตาอ่านข้อความที่เด้งขึ้นมาที่หน้าจอโทรศัพท์ จากนั้นก็ต้องพ่นลมหายใจออกมายาว ๆ อย่างไม่รู้ว่าจะต้องรู้สึกยังไงกับมันดี ฉันรู้ว่าพี่แทนไม่ได้คิดอะไรกับฉันไปมากกว่าน้องสาวข้างบ้าน เพราะเขาใส่ใจฉันแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ซึ่งฉันเองก็พยายามตัดใจอยู่ไง รบกวนช่วยลดนิสัยใส่ใจลงหน่อยก็ได้มั้ง
พรึบ! สุดท้ายฉันก็ตัดสินใจเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋าสะพายอย่างไม่อยากคิดอะไรแล้ว ในขณะที่ฉันเงยหน้าขึ้นมาสายตาของฉันก็ไปสะดุดเข้ากับคาเฟ่น่ารักร้านหนึ่งที่อยู่หน้าคอนโด
"เครียด ๆ แบบนี้กินชาเขียวปั่นย้อมใจดีกว่า" ฉันพูดกับตัวเอง ก่อนจะก้าวเดินอย่างไม่ลังเลไปที่ร้านเพื่อซื้อชาเขียวปั่นเมนูโปรด
"หื้ม อร่อย~" ฉันเดินดูดชาเขียวปั่นเพิ่มวิปครีมออกมาจากร้านด้วยอารมณ์ที่ดีขึ้นกว่าเดิมมาก หรือจริง ๆ แล้วที่ฉันรู้สึกแปลก ๆ ก่อนหน้านี้เป็นเพราะขาดน้ำตาล?
ไม่รู้เหมือนกันแต่ชาเขียวปั่นร้านนี้อร่อยสุด ๆ
พออารมณ์ดีขึ้นแล้วฉันจึงเอามืออีกข้างที่ว่างอยู่ล้วงหาหูฟังไร้สายที่อยู่ในกระเป๋า หมายจะหยิบมาใส่เพื่อฟังเพลงระหว่างเดินขึ้นคอนโด
ตุบ!
"อ๊ะ!…"
ด้วยความที่ฉันมัวแต่มองหาของในกระเป๋า ฉันจึงชนเข้ากับร่างแกร่งของใครบางคนที่ยืนอยู่ตรงมุมทางเข้าคอนโดอย่างไม่ตั้งใจ แก้วชาเขียวในมือหล่นกระจายเปรอะเปื้อนเต็มเสื้อนักศึกษา
เขียวอี๋ทั้งตัวเลยทีนี้!
"ขอโทษจริง ๆ ค่ะ หนูไม่ได้ตั้งใจ" ฉันรีบเงยหน้าไปขอโทษชายที่ฉันเดินชนเป็นอย่างแรก แต่แล้วฉันก็ต้องชะงักเบิกตาขึ้น
เขา คนที่ซ้อนบิกไบก์และมองหน้าฉันก่อนหน้านี้ มันคือเขาคนนั้น
"มัวแต่ทำอะไร เดินไม่ดูทาง" น้ำเสียงทุ้มของเขาเอ่ยขึ้นอย่างเรียบ ๆ ไม่ได้ดูโมโหแต่ก็ไม่ได้ดูใจดี แต่ตอนนั้นเองดวงตาของฉันก็ต้องเบิกกว้างขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเสื้อช็อปที่พี่เขาสวมใส่มันเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบชาเขียวปั่นของฉันเหมือนกัน TT
"ขอโทษจริง ๆ ค่ะ…เสื้อพี่เปื้อนหมดแล้ว เจ้าขาขอโทษอีกครั้งนะคะ"
"ไม่เป็นไร"
"พี่ถอดออกมาไหม เดี๋ยวเจ้าขาเอาไปซักให้ค่ะ"
"พรุ่งนี้เช้าต้องใช้"
"พี่อยู่คอนโดนี้เหมือนกันใช่ไหมคะ" ฉันถาม เพราะทางที่ฉันเดินชนเขามันคือหัวมุมทางเข้าคอนโดพอดี
"อืม"
"เจ้าขาก็อยู่คอนโดนี้เหมือนกันค่ะ งั้นเดี๋ยวเจ้าขารีบซักแล้วอบแห้งให้เสร็จภายในคืนนี้ค่ะ ถ้าเสร็จแล้วเจ้าขาจะเอาไปคืนให้ ทันใช้แน่นอนค่ะ"
"…" ฉันพูดจบไปพักหนึ่งแล้ว แต่พี่เขาก็ยังคงเอาแต่จ้องมองหน้าฉันนิ่ง
"ถอดมาเถอะค่ะ เจ้าขารู้สึกผิด เจ้าขาอยากรับผิดชอบ"
"ถ้าเสร็จแล้วเอามาคืนที่ห้อง 4805 ชั้นสี่สิบแปด" พี่เขาพูด พร้อมกับถอดเสื้อช็อปของตัวเองออกและยื่นมาให้ฉัน
"ได้ค่ะ ถ้าซักเสร็จเรียบร้อยแล้วจะรีบเอาไปคืนให้นะคะ" ฉันฉีกยิ้มให้พี่เขาพร้อมกับรับเสื้อช็อปมาถือไว้
"ยังไงเจ้าขาขอโทษอีกครั้งนะคะที่ทำเสื้อพี่เปื้อนแบบนี้"
"ไม่เป็นไร" ว่าจบพี่เขาก็หมุนตัวเข้าคอนโดไปด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง เหลือแต่ฉันที่ย่อตัวก้มเก็บแก้วชาเขียวไปทิ้งถังขยะ แล้วตอนนั้นเองหัวของฉันมีภาพเหตุการณ์บางอย่างฉายเข้ามา
"เสื้อช็อปสีกรม ใส่เสื้อยืดสีดำด้านใน หน้านิ่ง ๆ น้ำเสียงทุ้ม ๆ แบบนี้ทำไมมันคุ้นจังเลย"
ฉันพึมพำกับตัวเองพักหนึ่ง ขณะที่มองภาพแผ่นหลังกว้างไปจนสุดสายตา และแล้วดวงตาของฉันก็เบิกกว้างขึ้นอย่างนึกได้
"พี่ไล่หมา"
พี่ไล่หมาจริง ๆ ด้วย!
ฉันจำได้แล้ว พี่เขาคือคนที่ไล่หมาให้ฉันในวันปฐมนิเทศ!