"โอ๊ย ปวดหลัง"
เจ้าขาร้องขึ้นด้วยสีหน้าเหน็ดเหนื่อย เธอยืดลำตัวและชูแขนเล็กขึ้นสุดความยาวเพื่อบิดขี้เกียจไปมาหลังจากที่นั่งทำการบ้านนานจนรู้สึกปวดตัวไปหมด จากนั้นดวงตากลมของเธอก็เลื่อนไปมองเวลาที่หน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะต้องเบิกตากว้าง
"สี่ทุ่มครึ่งแล้วเหรอเนี่ย ดึกขนาดนี้ไม่ใช่หลับไปแล้วเหรอ"
คนตัวเล็กพึมพำตามความคิด ก่อนจะรีบดันตัวลุกขึ้นและเดินไปหยิบเสื้อช็อปสีกรมที่ตากอยู่ตรงระเบียงด้านนอก
"แห้งพอดีเลย รีบเอาไปคืนดีกว่า" ว่าจบเจ้าขาก็เอาเสื้อช็อปใส่ถุงผ้าขนาดพอดี เธอเดินไปหยิบเสื้อคลุมแขนยาวสีเทาอ่อนที่แขวนอยู่ในตู้เสื้อผ้ามาสวมทับเสื้อสายเดี่ยวสีดำที่ตัวเองสวมใส่อยู่อีกที จากนั้นมือเล็กก็เอื้อมหยิบคีย์การ์ดและเดินออกมาจากห้องของตัวเองเพื่อไปหาเจ้าของเสื้อช็อปที่อยู่ชั้นสี่สิบแปด
ก๊อก! ก๊อก!
"สี่แปดศูนย์ห้า" คนตัวเล็กพึมพำขึ้นเพื่อทวนความจำ ขณะที่ดวงตากลมกำลังไล่เดินอ่านป้ายเลขห้อง จนกระทั่งเธอเดินมาอยู่หยุดอยู่ห้องริมสุดของทางเดินฝั่งซ้าย
"สี่แปดศูนย์ห้า เจอแล้ว"
เจ้าขาใช้กำปั้นเล็กของตัวเองเคาะไปที่ประตูห้องเบา ๆ และไม่นานประตูห้องก็ถูกเปิดออกโดยเจ้าของ
"สวัสดีค่ะ เอาเสื้อมาคะ…" ยังไม่ทันที่เจ้าขาจะได้เอ่ยจบประโยค เธอก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าพายุเดินมาเปิดประตูด้วยสภาพที่ล่อแหลม เขาเปลือยเปล่าท่อนบนจนเห็นร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม โดยเฉพาะร่องนูนของซิกซ์แพ็กที่มันเตะตาเจ้าขาสุด ๆ ไปเลย ผิวของเขาก็ขาวมาก เกือบจะขาวเท่าสาวเหนืออย่างเธออยู่แล้ว ส่วนท่อนล่างของเขาก็ใช้เพียงผ้าขนหนูสีขาวพันไว้อย่างหลวม ๆ เท่านั้น
"อะ…เอ่อ เอาเสื้อมาคืนค่ะ" เจ้าขาพูดด้วยท่าทางเลิ่กลั่ก เธอรีบยื่นถุงที่มีเสื้อช็อปให้กับเขา ซึ่งพายุก็รับถุงเสื้อนั้นมา
"ขอโทษอีกครั้งนะคะ ยังไงเจ้าขาขอตัวก่อนนะคะ" เจ้าขาพูดแบบพยายามที่จะไม่มองหน้าเขา เพราะกลัวว่าสายตาตัวเองจะหลุดโฟกัสไปมองอย่างอื่นแทน ซึ่งพอพูดจบเธอก็ทำท่าจะหมุนตัวกลับ
ทว่า…
"เดี๋ยวก่อน" สองเท้าเล็กชะงักกึกเมื่อเสียงทุ้มของพายุได้ดังขึ้น
"คะ?" เธอขานตอบพร้อมกับหมุนตัวกลับไปหาเขาอีกครั้ง
"เธอว่างอยู่ไหม"
"กะ ก็ว่างนะคะ พี่มีอะไรหรือเปล่าคะ?"
"ช่วยฉันหน่อยสิ"
"ช่วยอะไรเหรอคะ" คนตัวเล็กเอ่ยถามพายุกลับด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความงุนงง
"เข้ามาก่อนแล้วเดี๋ยวบอก"
"…" พอได้ยินแบบนั้นเจ้าขาก็ยืนทำหน้าลังเล เธอกับเขาไม่ได้รู้จักกันดีขนาดนั้นแล้วอยู่ ๆ จะให้เข้าไปในห้องเขาเพียงสองต่อสอง มันทำให้เธอรู้สึกแปลก ๆ
"ทำไมหรือเธอช่วยคนที่เคยช่วยเธอไม่ได้?"
พายุถาม ซึ่งน้ำเสียงที่ฉายออกมาแสดงถึงการทวงบุญคุณอย่างชัดเจน เจ้าขาที่ได้ยินแบบนั้นก็แน่นอนว่าเธอปฏิเสธเขาไม่ลง คนตัวเล็กที่ยืนทำหน้าลังเลอยู่เงยหน้าไปมองใบหน้าหล่อก่อนส่ายหน้าไปมาเบา ๆ
"เปล่าค่ะ เดี๋ยวเจ้าขาช่วยก็ได้ค่ะ" เธอตอบทั้งที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะต้องช่วยอะไร
"งั้นเข้ามาสิ" พายุเปิดประตูห้องตัวเองกว้างขึ้น พร้อมกับเบี่ยงตัวเล็กน้อยเพื่อให้คนตัวเล็กเข้ามา
"ค่ะ ขออนุญาตนะคะ" ว่าจบคนตัวเล็กก็แทรกตัวเดินเข้าไปในห้องของพายุทันที
ปึ้ง
เสียงปิดประตูห้องดังขึ้น จากนั้นร่างแกร่งของเจ้าของห้องก็เดินนำหน้าเจ้าขาไปที่โซฟา ดวงตากลมของเจ้าขามองตามแผ่นหลังของเขาไป แล้วม่านตาของเธอก็ขยายขึ้นเมื่อเห็นรอยสักรูปนกตัวใหญ่อยู่บนแผ่นหลังกว้างของเขา
"พี่ไปแต่งตัวก่อนไหมคะ เดี๋ยวเจ้าขารอตรงนี้"
"ทำไม?"
"เผื่อมันสะดวกมากกว่า"
"ฉันสะดวกแบบนี้" พายุสวนตอบพร้อมกับใช้สายตาที่ยากจะคาดเดาของตัวเองหลุบมองใบหน้าหวานของเจ้าขา จากนั้นก็เอ่ยพูดต่อว่า "ทำไม อาย?"
"ค่ะ พี่ไม่อายเหรอคะ"
"ไม่เห็นมีอะไรต้องอาย" พายุเอ่ยตอบออกมาหน้าตาเฉยทำเอาเจ้าขาที่ได้ยินถึงกับไปไม่เป็น แต่แล้วเจ้าขาก็เหมือนจะนึกอะไรได้ เธอจึงเอ่ยถามเขาขึ้นว่า
"พี่คะ เจ้าขาขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ"
"อือ" พายุขานตอบออกมา จากนั้นเขาก็พิงตัวไปที่ขอบโซฟาของตัวเอง มือสองข้างยกขึ้นมากอดอกอย่างรอฟัง
"พี่ใช่พี่ไล่หมารึเปล่าคะ"
"ฮะ?"
"คนที่ไล่ฝูงหมาจรให้เจ้าขาวันปฐมนิเทศ ใช่พี่ไหมคะ" เจ้าขาเอ่ยอธิบายเสริม พอได้ยินเช่นนั้นสีหน้างุนงงของพายุในตอนแรกก็คลายลง
"อือ ฉันเอง"
"จำเจ้าขาได้ใช่ไหมคะ เพราะเมื่อกี้พี่พูดว่าเคยช่วยเจ้าขา"
"จำได้" เขาพยักหน้าตอบเธอเบา ๆ
"ว่าแล้ว" เรียวปากเล็กพึมพำขึ้นเบา ๆ จากนั้นดวงตากลมโตของเจ้าขาก็เลื่อนขึ้นไปประสานกับคนที่จ้องมองตัวเองอยู่
"เราชื่อเจ้าขานะคะ พี่ชื่ออะไรเหรอคะ"
"พายุ"
"พายุเหรอคะ?" เจ้าขาเอ่ยทวนคำตอบของพายุ พร้อมกับความรู้สึกตงิดในใจ เพราะชื่อนี้มันคือชื่อเดียวกันกับหนุ่มฮอตผู้โด่งดังในมหาลัยเอส หรือว่าเขาจะเป็นหนุ่มฮอตที่เนียน่าพูดถึงเมื่อตอนเที่ยง?
"อืม ฉันชื่อพายุ"
"อ้อค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะพี่พายุ" เจ้าขายกยิ้มบาง ๆ ให้กับเขา ก่อนจะเอ่ยถามเขาต่อว่า "ว่าแต่ที่บอกว่ามีอะไรให้ช่วย คือช่วยอะไรคะ?"
"ตามมานี่" พายุพูด จากนั้นก็เดินนำคนตัวเล็กเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง ซึ่งเจ้าขาก็ยอมเดินตามไปแต่โดยดีก่อนจะพบว่ามันคือห้องนอนขนาดใหญ่ของเขา
"ช่วยเอาของบนหลังตู้ให้หน่อย เดี๋ยวฉันอุ้มเธอขึ้นไป ฉันเอาไม่ถึง"
"อะ อุ้มเจ้าขาเหรอคะ?!"
"อืม"
"ดูจากส่วนสูงพี่ พี่น่าจะเอาถึงนะคะ" เจ้าขาพูดตามความคิด ซึ่งความจริงแล้วพายุนั้นก็เป็นผู้ชายที่สูงมากจริง ๆ ส่วนสูงของเขามันมากถึงร้อยแปดสิบห้าเลยทีเดียว
"ถ้าฉันเอาถึงแล้วจะให้เธอมาช่วยทำไม?" พายุที่ได้ยินคำพูดของเจ้าขาก็เลิกคิ้วถามกลับ ทำเอาเจ้าขาที่ได้ยินทำหน้าคิดตาม
"ก็จริงค่ะ งั้นเดี๋ยวเจ้าขาช่วยก็ได้"
คนตัวเล็กพยักหน้าและตัดสินใจไม่เซ้าซี้ถามอะไรต่อ เพราะชายตัวสูงคนนี้ท่าทางเขาดูนิ่ง จะดูดุก็ไม่ใช่จะใจดีก็ไม่เชิง เธอเดาไม่ออกว่าเขาเป็นคนยังไงกันแน่ แต่นั่นไม่สำคัญเท่าไหร่ เพราะตัวเธอเองก็ไม่อยากติดค้างบุญคุณใคร หากช่วยเหลืออะไรเขาได้แม้จะเล็กน้อยก็อยากช่วยตอบแทน
"มานี่สิ" พายุเรียก เจ้าขาก็สาวเท้าเดินเข้าไปหาเขาใกล้ ๆ แต่ก่อนที่เขาจะทำอะไร ใบหน้าหวานของเธอก็เงยไปมองหน้าเขาอีกครั้ง
"พี่อุ้มเจ้าขาได้จริง ๆ ใช่ไหมคะ เจ้าขาตัวหนักนะ"
"ตัวแค่นี้น่ะเหรอ หนัก?" คิ้วของพายุเลิกขึ้นขณะพูดสวนเจ้าขากลับไป เพราะเจ้าขาตัวเล็กกว่าเขามาก เธอสูงเพียงหนึ่งร้อยห้าสิบแปดเซนติเมตร ตัวขาวผิวเนียนเหมือนคนญี่ปุ่น ผมสีน้ำตาลยาวสลวยเตะตาเขาตั้งแต่แรกเห็น
"คือเจ้าขากลัวตก"
"ไม่ตกหรอก" พายุบอก ว่าจบเขาก็ใช้สองมือแกร่งของตัวเองเคลื่อนลงไปจับบริเวณช่วงเอวของเจ้าขาไว้
"อ๊ะ…!" เจ้าขาเบิกตากว้างและเผลอเปล่งเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อตัวของเธอถูกยกขึ้นลอยเหนือพื้น ซึ่งพายุก็อุ้มเจ้าขาให้ขึ้นมานั่งบนไหล่แกร่ง ๆ ของเขาด้วยเพียงสองแขนของตัวเองอย่างง่ายดาย
หมับ!
ถึงแม้พายุจะคอยประคองร่างของเธอไว้เป็นอย่างดี แต่เจ้าขาที่ตกใจกับความสูงก็รีบตวัดมือไปเกาะไหล่ของเขาแน่น
"พะ พี่จะให้เราเอาอะไรบนหลังตู้คะ"
"เห็นสร้อยเกียร์ไหม" พายุถาม
"สร้อยเกียร์อะไรคะ"
"สร้อยเกียร์วิศวะ" พอได้ยินแบบนั้นเจ้าขาก็กวาดสายตามองบนหลังตู้ ก่อนจะสะดุดตาเข้าสร้อยเกียร์วิศวะที่มันวางอยู่ด้านสุดของชั้นวางของตู้เสื้อผ้า
"พี่จับเจ้าขาดี ๆ นะ เจ้าขากลัวตก" เจ้าขาเอ่ยพูดน้ำเสียงกำชับ
"รู้แล้ว" พายุตอบ พอได้ยินแบบนั้นเจ้าขาก็ขยับตัวเล็กน้อยและเอื้อมแขนไปหยิบสร้อยเกียร์วิศวะมา ซึ่งจังหวะที่เธอขยับตัวนั้น พายุก็ใช้มืออีกข้างเลื่อนมาจับต้นขาของเจ้าขาไว้จนเจ้าขาที่รับรู้ได้ถึงฝ่ามืออุ่น ๆ นั้นถึงกับเม้มปากแน่น
"ดะ ได้แล้วค่ะ ทีนี้เอาเจ้าขาลงหน่อยค่ะ"
เสียงเล็กเอ่ยบอก จากนั้นร่างของเธอก็ค่อย ๆ ถูกพายุอุ้มลงจากไหล่แกร่งของตัวเอง ก่อนที่ร่างของเธอจะถูกวางลงบนเก้าอี้หนุ่มที่อยู่ไม่ไกล โดยร่างแกร่งก็ยืนโน้มตัวไปใกล้เธอในระยะประชิด
"เดี๋ยวนะคะ เก้าอี้? ทำไมพี่ถึงไม่ใช้เก้าอี้ปีนเอาเอง?"
"ขาเก้าอี้ไม่ค่อยดี ถ้าฉันล้มลงไปแล้วหน้ามีแผล ใครจะรับผิดชอบหน้าหล่อ ๆ ของฉันล่ะ?"
พายุเลิกคิ้วถามเจ้าขากลับขณะที่ดวงตาของเขาและเธอกำลังประสานกันนิ่ง ซึ่งทั้งใบหน้าหล่อคมและสายตาที่ยากจะคาดเดาของพายุนั้นมันทำเอาเจ้าขาถึงกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคออย่างทำตัวไม่ถูก