วันถัดมา
"เวลารีบ ๆ แท็กซี่หายไปไหนหมดเนี่ย" เสียงของฉันยืนพึมพำอยู่ตรงฟุตพาทติดถนนใหญ่หน้าคอนโดของตัวเอง คือวันนี้ฉันมีคลาสเรียนช่วงเช้าที่อาจารย์ค่อนข้างดุ แถมคลาสนี้ยังมีการเช็กชื่อก่อนเข้าเรียนทุกครั้ง ซึ่งมันจะมีผลต่อคะแนนเก็บสำหรับรายวิชานี้ถึงสิบเปอร์เซ็นเลยทีเดียว สำหรับคนอื่นคะแนนเท่านี้อาจจะฟังดูเล็กน้อย แต่สำหรับเด็กทุนอย่างฉันคะแนนทุกคะแนนมันสำคัญกับฉันมาก
"เมื่อคืนไม่น่านอนดึกเลย จะบ้าตาย!" ฉันกล่าวโทษตัวเองด้วยท่าทางเคร่งเครียดที่เมื่อคืนไม่ยอมหลับยอมนอน มัวแต่ปัดติ๊กต็อกทั้งคืนจนเป็นสาเหตุที่ทำให้ตื่นสายในเช้าของวันนี้ ทว่าขณะที่ดวงตากลมของฉันกำลังยืนมองหารถแท็กซี่อยู่นั้นเอง ฉันก็ต้องเลื่อนสายตาไปมองด้านข้างเมื่อได้ยินเสียงชะลอของรถดังเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ จนมันมาหยุดอยู่ข้างฉัน
แล้วคิ้วเรียงเส้นของฉันก็ต้องขมวดเข้าหากันขึ้นเมื่อพบว่ามีคนขับรถบิกไบก์คันใหญ่สีดำมาจอดอยู่ข้าง ๆ คนขับสวมหมวกกันน็อกดำสนิทปิดหน้าไว้ แต่เสื้อช็อปสีกรมที่เขาสวมใส่อยู่มันทำให้ฉันมั่นใจว่าผู้ชายคนนี้คือใคร
พรึบ
และไม่นานพี่เขาก็ถอดหมวกกันน็อกของตัวเองออกมาวางไว้บนถังน้ำมันรถ พี่เขาสะบัดผมให้เข้าที่เข้าทางเล็กน้อยแล้วก็หันมาจ้องหน้าฉัน
"ทำอะไร ยืนลุกลี้ลุกลน" พี่พายุเจ้าของรถบิกไบก์คันใหญ่เอ่ยถามฉันขึ้น
"มองหารถแท็กซี่อยู่ค่ะ เจ้าขาต้องรีบไปเรียน"
"ฉันก็กำลังจะไปมอ ไปไหม?"
"คะ?"
"…" ทว่าพี่พายุไม่พูดซ้ำ เขาเพียงใช้สายตาที่ยากจะคาดเดาของตัวเองมองมาที่ฉัน สายตาแบบนี้อีกแล้ว…ทำไมเขาต้องมองฉันแบบนี้ตลอดเลยก็ไม่รู้
"คือพี่จะให้เจ้าขาไปด้วยเหรอคะ"
"จะไปไหม ฉันมีเวลาไม่เยอะ สายแล้วเหมือนกัน" พี่เขาพูดย้ำ พอฉันได้ยินแบบนั้นก็ตัดสินใจได้ในทันที
"ไปค่ะ ไป ๆ" ฉันผงกหัวหงึก ๆ อย่างไม่คิดอะไรเยอะ เพราะตอนนี้ฉันสายมากแล้ว
"จะไปก็ขึ้นมา" พี่พายุพูดพร้อมกับส่งสายตาไปที่เบาะหลังของรถบิกไบก์ ฉันจึงขยับขาเดินเข้าไปหมายจะก้าวขึ้นรถ
ทว่า!
ฉันขึ้นไม่ได้ วันนี้ฉันใส่กระโปรงทรงเอยาวสิบหกนิ้วทำให้ก้าวขากว้างมากไม่ได้ แล้วรถบิกไบก์พี่พายุก็สูงมากด้วย ซึ่งพี่พายุก็เลื่อนสายตามามองฉันที่ยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่และเหมือนเขาจะเลื่อนสายตาต่ำลงมองมาที่กระโปรงของฉันด้วย
"ยุ่งยากจริง ๆ" พี่เขาบ่นขึ้นเหมือนตั้งใจให้ฉันได้ยิน จากนั้นก็จัดการถอดเสื้อช็อปสีกรมของตัวเองออกและยื่นให้กับฉัน "มัดเอวไว้แล้วปีนขึ้นมา"
"ขอบคุณค่ะ" ฉันรับเสื้อเขามามัดที่เอวตัวเองแน่น จากนั้นก็กวาดสายตามองหาที่จับเพื่อจะปีนขึ้นไป
"จับบ่าฉันแล้วปีนขึ้นมา" พี่พายุบอกฉัน
"ค่ะ" ฉันพยักหน้าเบา ๆ จากนั้นก็ใช้มือของตัวเองจับบ่าของพี่เขาแน่นแล้วกระโดดปีนขึ้นรถบิกไบก์คันใหญ่ด้วยความทุลักทุเล
ขาสั้นนี่มันใช้ชีวิตลำบากจริง ๆ!
"พร้อมยัง?" พี่พายุเอ่ยถามพร้อมกับหยิบหมวกกันน็อกของตัวเองยื่นมาให้ฉัน
คือเขาจะให้ฉันใส่เหรอ?
"เอาไปใส่" พี่พายุบอกเมื่อเห็นฉันทำหน้างง ๆ
"แล้วพี่ไม่ใส่เหรอคะ?"
"ไม่เป็นไร ฉันทำประกันแล้ว"
"พูดแบบนี้เจ้าขาขอลงดีกว่า" ฉันพูดพร้อมกับทำท่าจะปีนลง เพราะถึงฉันจะมีประกันแล้วแต่ฉันก็ไม่ได้อยากใช้มันหรอกนะ แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ไปไหนพี่พายุก็เอ่ยขึ้นเสียงเข้มว่า
"อย่าลีลาเยอะ เอาหมวกไปใส่สักที"
"งั้นพี่อย่าขับเร็วนะ กระโปรงเจ้าขามันรัด นั่งไม่ค่อยถนัดค่ะ" ฉันบอกพี่เขาพร้อมกับรับหมวกกันน็อกสีดำอันใหญ่มากำลังจะสวมใส่เข้าไปในหัว
"แล้วใครใช้ให้เธอซื้อกระโปรงไม่สมประกอบมาใส่"
"กระโปรงไม่สมประกอบ? คนอื่นเขาก็ใส่แบบนี้กันเยอะแยะค่ะ"
"รุ่นนี้เถียงเก่งจังวะ" พี่เขาพึมพำเบา ๆ แต่ฉันได้ยิน! "กอดให้แน่น ๆ เพราะถ้าตกไปฉันไม่รับผิดชอบ ที่บ้านไม่ได้รับจัดงานศพ" พี่พายุเอี้ยวหน้ามาบอกหลังจากที่ฉันสวมใส่หมวกกันน็อกเรียบร้อยแล้ว
บรื้น~
"อ๊ะ!…" แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ตอบอะไร สองมือของฉันก็ต้องรีบตวัดไปกอดเอวของพี่พายุแน่น เพราะทันทีที่พี่เขาพูดจบ รถบิกไบก์คันใหญ่ก็เคลื่อนตัวออกไปบนท้องถนนด้วยความรวดเร็ว ถึงพี่เขาจะดูคล่องแคล่วมาก แต่ฉันก็ยังกลัวอยู่ดี ระหว่างนี้ฉันจึงได้แต่หลับตาปี๋เพราะพี่พายุเขาขับรถเร็วมากจริง ๆ
มหาลัยเอส
"ถึงแล้ว" เสียงทุ้มของพี่พายุดังขึ้น ทำให้ฉันที่หลับตาปี๋ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาก่อนจะพบว่าตอนนี้พวกเรามาถึงมหาลัยแล้วและที่สำคัญพี่เขามาส่งฉันถึงหน้าตึกคณะบริหารเลย
แป๊บนะ พี่เขารู้ได้ยังไงว่าฉันเรียนคณะบริหาร?
"ไม่ลง?"
"โห ยังมีชีวิตรอดอยู่เหรอเนี่ย" ฉันพึมพำกับตัวเอง หลังจากเพิ่งผ่านประสบการณ์หวาดเสียวที่สุดในชีวิตมา
"ปล่อยมือที่กอดฉันออกได้แล้วมั้ง" เสียงพี่พายุดังขึ้นพร้อมกับเอี้ยวหน้ามามองฉัน ฉันที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้สติรีบปล่อยมือที่กอดเอวพี่พายุแน่นออก จากนั้นฉันก็จับบ่าพี่เขาอีกครั้งและรีบกระโดดลงจากรถบิกไบก์ทันที
ตุบ! สองเท้าของฉันแตะพื้นอย่างปลอดภัย ฉันจึงถอดหมวกกันน็อกใบใหญ่และคืนมันให้กับเจ้าของ
"คืนค่ะ" พี่พายุรับหมวกกันน็อกตัวเองคืนไป แต่แล้วฉันก็ต้องเม้มปากเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าพี่พายุกำลังยิ้มมุมปากใส่ฉันด้วยสายตาที่ดูเจ้าเล่ห์ต่างจากทุกครั้ง
"กอดแน่นเชียว ฉันขับรถน่ากลัวขนาดนั้นเลย?"
"น่ากลัวมากค่ะ" นึกว่าจะไม่รอดมาถึงมหาลัยด้วยซ้ำ ขับปาดซ้ายปาดขวาเหมือนพวกนักแข่งรถที่ขับในสนามแข่งเลย
"ใช่เหรอ ไม่ใช่ว่าเธออยากฉวยโอกาสกอดฉันหรอกเหรอ" พี่พายุเลิกคิ้วถามฉัน ทำเอาฉันที่ได้ยินถึงกับชะงักไปเล็กน้อย
อะไรกัน ฉันไม่ได้ฉวยโอกาสสักหน่อย
"เจ้าขาเปล่านะ พี่ขับน่ากลัวจริง ๆ ค่ะ ไม่เคยมีใครบอกพี่บ้างเลยเหรอคะว่าพี่ขับรถเร็วมาก"
"ไม่รู้สิ"
"เอ้า ทำไมถึงไม่รู้ล่ะคะ"
"ก็ไม่เคยมีใครได้ซ้อน" พี่พายุพูดพร้อมกับใช้สายตาแบบที่เขาชอบใช้มันมองฉัน มองมาที่ฉันอีกแล้ว ทำเอาฉันทำตัวไม่ถูกเลย อะไรกันผู้ชายคนนี้!?
"ยังไงเจ้าขาขอบคุณมากนะคะที่ให้ติดรถมาด้วย ถ้าพี่ว่าง เดี๋ยวเจ้าขาเลี้ยงข้าวคืนนะ"
"ฉันกินดุ เธอจะเลี้ยงไหว?"
"ดุมากเลยเหรอคะ"
"อยากรู้?"
"ทำไมพี่ทำหน้าแปลก ๆ เหมือนไม่ได้คุยเรื่องข้าวเลย" ฉันพูดออกไปตามความคิด คือฉันไม่รู้หรอกว่าพี่เขากำลังหมายถึงอะไร แต่สายตาเจ้าเล่ห์เอาเรื่องเลย
"หึ" พอได้ยินคำพูดของฉันพี่พายุเขาก็หัวเราะออกมาในลำคอเบา ๆ แล้วก็พูดกับฉันต่อว่า "เอาโทรศัพท์เธอมาสิ"
"จะเอาไปทำอะไรคะ?" ฉันถามอย่างไม่ไว้ใจ ไม่ได้กลัวว่าพี่เขาจะขโมยหรอกนะ แต่พี่เขาจะเอาไปทำอะไรล่ะ
"จะเลี้ยงข้าวฉันไม่ใช่เหรอ ก็ต้องมีช่องทางติดต่อกันไว้ไม่ใช่รึไง จะได้นัดกันได้สะดวก"
"อ้อ แบบนี้นี่เอง" พอได้ยินแบบนั้นฉันจึงล้วงเอาโทรศัพท์ของตัวเองที่อยู่ในกระเป๋าสะพายออกมาปลดล็อกหน้าจอและยื่นมันให้กับพี่เขา
"นี่ค่ะ"
พี่พายุรับโทรศัพท์ของฉันไปแล้วก็ได้กดทำอะไรไม่รู้ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็ส่งมันคืนมาให้กับฉัน
"ถ้าเรียบร้อยแล้วเจ้าขาไปก่อนนะคะ ต้องไปเรียนแล้วค่ะ"
"อืม" พี่พายุขานตอบฉัน จากนั้นเขาก็หยิบหมวกกันน็อกมาสวมใส่แล้วขับออกไปจากตึกคณะบริหารอย่างเร็ว ส่วนฉันก็ต้องรีบหมุนตัวเดินเข้าอาคารเรียนของตัวเองไปเช่นกัน
ติ๊ง!
ระหว่างที่ฉันกำลังนั่งเรียนอย่างตั้งใจอยู่นั้นเองเสียงการแจ้งเตือนจากอินสตาแกรมก็ดังขึ้น พร้อมกับหน้าจอโทรศัพท์ที่แจ้งว่ามีคนฟอลไอจีฉันมา
Payu.u started following you.
ชื่อพี่พายุ?
พอเห็นแบบนั้นฉันก็กดเข้าไปดูด้วยความสงสัย แล้วก็พบว่ามันคือไอจีของพี่พายุจริง ๆ ไอจีพี่เขาเปิดเป็นสาธารณะเหมือนกับฉัน แล้วฉันก็ติดตามที่เขาอยู่ แสดงว่าเมื่อกี้พี่เขาเอาไอจีของฉันไปกดติดตามไอจีตัวเองเหรอ? เพราะฉันไม่เคยติดตามไอจีพี่เขามาก่อนนะ
"โห คนติดตามเกือบหกแสน" สิ่งนี้มันยืนยันได้เลยว่าพี่เขาคือหนุ่มฮอตที่เนียน่าพูดถึงวันนั้น แต่ขณะที่ฉันกำลังพึมพำอยู่นั้นเองก็มีใครบางคนส่งข้อความเข้ามาหาฉันทางไลน์
ชื่อไม่คุ้นเลย เพราะมีแค่ตัวอักษรภาษาอังกฤษแค่ตัวเดียว
ครืด ครืด
P : จะเลี้ยงข้าวฉันวันไหน?
พี่พายุอีกแล้ว! พี่เขาเอาโทรศัพท์ไปเพิ่มเพื่อนในไลน์ด้วยเหรอเนี่ย อะไรกันผู้ชายคนนี้ เขาเป็นหนุ่มฮอตที่หลาย ๆ คนชอบจริงเหรอ ทำไมถึงได้ทำตัวหน้ามึนแบบนี้ล่ะ?