อีกด้านหนึ่งของเว่ยหลง ที่มองฟลัวคลับ
“เฮ้ย พี่เว่ย… ผู้หญิงคนนั้นเด็ดนะพี่ ว่าไหม?”
เสียงเพื่อนร่วมแก๊งเอ่ยขึ้นพลางพยักเพยิดไปทางหญิงสาวในชุดเดรสสีแดงเพลิงที่นั่งเด่นเป็นประกายอยู่ริมบาร์
เว่ยหลงยกแก้วค็อกเทลขึ้นแกว่งเบา ๆ ของเหลวในแก้วสะท้อนแสงไฟวูบวาบ สายตาคมกริบของเขาไม่ได้แม้แต่จะปรายไปตามทิศที่เพื่อนรุ่นน้องชี้ เขามีเพียงสีหน้าเรียบเฉยราวกับไม่มีอะไรอยู่ในสายตา
“ฉันไม่สน”
น้ำเสียงต่ำเรียบ เย็นเยียบจนทำให้เพื่อนรุ่นน้องถึงกับเงียบไปครู่หนึ่ง
“โห… พี่เว่ย พี่จะเย็นชากับผู้หญิงไปถึงไหนเนี่ย คนอย่างนั้นทั้งหุ่นทั้งหน้า โคตรพรีเมียมแล้วนะ”
เสียงหัวเราะหยันดังขึ้น แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบใด ๆ
เว่ยหลงเอนตัวพิงพนักโซฟาหนังราคาแพง พลางกระดกเหล้าเข้าปากอย่างไม่รีบร้อน แววตาเย็นชาราวกับไร้ความรู้สึก ปฏิกิริยาของเขาช่างแตกต่างจากชายหนุ่มทั่วไปที่คงไม่อาจละสายตาจากผู้หญิงในชุดแดงคนนั้นได้
เพราะเขา เว่ยหลง อัครวัฒน์ เตโชพัฒน์ อายุ 28 ปี
มาเฟียหนุ่มลูกครึ่ง ไทย–จีน–เสี้ยวเบลเยี่ยม ผู้มีอำนาจล้นมือทั้งในและต่างประเทศ ชื่อของเขาเปรียบดังเงามืดที่ใครได้ยินก็ต้องสะดุ้ง เจ้าของธุรกิจถูกกฎหมายสีขาวที่หรูหรานับไม่ถ้วน แต่เบื้องหลัง…กลับเต็มไปด้วยโลกสีเทาที่ไม่เคยปรากฏต่อหน้าสาธารณะ
และสาเหตุที่เขามาอยู่เชียงใหม่ครั้งนี้
ไม่ใช่เพียงเพราะความบังเอิญ แต่เพราะ คุณยาย ผู้เป็นเหมือนรากเหง้าเดียวที่เขายังเคารพย้ายมาอยู่ที่นี่
เขาจึงเลือกสร้าง มองฟลัว ขึ้นมาเป็นเกราะกำบัง บังหน้าในฐานะ “คลับบันเทิง” แต่ในความจริง ที่ลึกที่สุดด้านในของอาคารหลังนี้…คือ คาสิโน ที่เสือ สิงห์ กระทิง แรด จากทั่วสารทิศต่างหลั่งไหลเข้ามา
และเว่ยหลง ชายผู้ไม่เคยยอมให้ผู้หญิงคนไหนเข้ามาปั่นป่วนหัวใจ และยิ่งไม่สนใจ ผู้หญิงที่ถูกตัดสินว่าเลวร้ายจากทั้งสังคม
…แต่เขาไม่รู้เลยว่า ในค่ำคืนนี้เอง หญิงสาวชุดแดงเพลิงคนนั้น จะกลายเป็นเงื่อนไขที่ทำให้โลกอันเย็นชาของเขาสั่นสะเทือนอย่างไม่อาจหวนกลับ
ครืด… ครืด…
เสียงโทรศัพท์สั่นดังขึ้นบนโต๊ะกระจกใส เว่ยหลงเหลือบตามองหน้าจอเพียงแวบเดียว ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นยืน
“เดี๋ยวกูมานะ” เขาบอกสั้น ๆ พลางหยิบมือถือเดินแยกออกไป
“รีบมานะพี่เว่ย!”
เสียงรุ่นน้องตะโกนแซวตามหลังท่ามกลางเสียงเพลงก้องกระหึ่ม
คำว่า “พี่เว่ย” ดังสะท้อนเข้าสู่โสตประสาทของน้ำหอมอย่างแรงจนเธอชะงักไปครู่หนึ่ง แววตาที่เคยหม่นเศร้าฉายประกายวาววับขึ้นมาแทบจะทันที
“พี่เว่ยงั้นเหรอ… หึ”
ริมฝีปากแดงเพลิงยกยิ้มกว้าง ราวกับนักล่าที่พบเหยื่อชั้นเลิศ
ใช่แล้ว
สาเหตุที่เธอเลือกมาที่ มองฟลัว คืนนี้ ไม่ได้มีแค่ต้องการดื่มลืมอดีต แต่เธออยาก “เจอเขา” คนที่มีชื่อว่า เว่ยหลง อัครวัฒน์ เตโชพัฒน์
ว่าที่คู่หมั้นของ พราวรุ้ง …น้องสาวต่างแม่ที่พรากทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเธอ ทั้งความรัก ความอบอุ่น และแม้แต่บ้านที่เคยเป็นของเธอเอง
“เธอแย่งทุกอย่างไปจากฉันใช่ไหมพราวรุ้ง… งั้นคู่หมั้นของเธอ คนที่เธอชอบให้ฉันแย่งกลับมาบ้างแล้วกัน”
ความคิดนั้นแล่นขึ้นพร้อมกับไฟแค้นที่ร้อนระอุในอก น้ำหอมหยิบแบงก์ใบใหญ่ขึ้นมาวางลงบนถาดเงินสำหรับค่าเครื่องดื่ม พร้อมทิปก้อนโตที่ทำให้พนักงานถึงกับอ้าปากค้าง ก่อนจะก้าวลงจากเก้าอี้บาร์อย่างเชื่องช้า
ตึก ตึก!
เสียงส้นสูงสี่นิ้วเคาะพื้นดังเป็นจังหวะราวกับเสียงนับถอยหลัง
เธอหันหลังให้เสียงซุบซิบเสียดแทงทั้งหมด ปล่อยให้ผู้คนรอบข้างจ้องตามด้วยสายตาเหยียดหยัน
เพราะจากวินาทีนี้ไป
เกมของเธอกำลังจะเริ่มขึ้น
น้ำหอมยกคางขึ้นสูง แววตาคมกริบพลางเดินตามร่างสูงของเว่ยหลงที่เพิ่งผลักประตูออกไปด้านนอก ริมฝีปากยังคงแต้มรอยยิ้มร้ายกาจ
ค่ำคืนนี้…คือคืนแรกที่เธอจะเข้าไปปั่นป่วนโลกของเขา