8

1689 Words
ธาราเข้าใจคำว่าวัวสันหลังหวะ...คนมีชนักติดหลัง…หรือพฤติกรรมหลบหน้าของดาราที่กำลังมีข่าวฉาวก็วันนี้นี่แหละ! เพราะธาราก็กำลังทำอย่างนั้น เธอปิดโซเชียลทุกทางหนีข่าว ไม่กล้าเปิดดู ไม่กล้าคุยกับใคร ระแวงไปหมดว่าเขาจะจับได้ ความรู้สึกยามนี้ละม้ายคล้ายกับตัวเองเป็นอาชญากรที่ทำผิดหนัก ทั้งๆ ที่เธอเป็นฝ่ายโดนกระทำแท้ๆ เป็นผู้หญิงสมัยนี้มันลำบาก พอมีข่าวกับคนดังแล้วผู้คนก็จะจับจ้องว่าแรดจับเขา ทั้งๆ ที่เธอก็ไม่ได้แรด ตอนนั้นเธอไม่รู้ด้วยซ้ำ คิดว่าหน้าเหมือนเท่านั้น โฮ... ตั้งแต่วันก่อนที่รู้ข่าว ธารากลับบ้านถึงกับล้มป่วย ทว่าถึงเธอจะลางานที่บริษัทได้ แต่ก็ต้องลากสังขารมาทำงานนอกที่แอบรับไว้แล้วดันป่วยเสียก่อนอยู่ดี วิถีฟรีแลนซ์ก็อย่างนี้ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามตาย ส่งงานแล้วจะตายก็ค่อยตาย ตอนยังไม่ส่งต่อให้ตายก็ต้องขุดซากตัวเองขึ้นมาทำ โชคดีเอกสารแปลนี้เธอทำเก็บมาตลอดอยู่แล้ว ที่ลากตัวเองขึ้นมาวันนี้ก็แค่เช็กงานและแปลแผ่นสุดท้าย หลังจากทวนแล้วก็ส่งงานไปพร้อมกับล้มตัวนอนตายยาวๆ ข้อดีของการมีหมออยู่ในบ้านคือเธอไม่ต้องลากสังขารไปหาหมอข้างนอก แต่หมอต้องลากสังขารมาดูแลเธอเอง ชามัยนี่ถึงขั้นร้อนใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แทบจะหามเธอไปโรงพยาบาลตอนที่ตรวจไข้เธอ “เดี๋ยวนี้คนบ้าก็ป่วยเป็นด้วยเหรอ” พี่ชายปากหมาที่เป็นหมอของเธอบ่นพึมพำ ธาราไม่รู้จะเอาอะไรไปสู้ เพราะตลอดชีวิตตั้งแต่เกิดมาเธอเถียงสู้เขาไม่ได้เลยไอใส่หน้าเขาแทน เค้นสุดพลังหวังให้น้ำลายกระเด็นใส่หน้าของหมอนี่จะได้ป่วยไปพร้อมกัน แต่คนเกิดก่อนก็เหมือนจะรู้ทัน ชามัยเลยเอาหมอนยัดใส่หน้าเธอแล้วดุเสียงขึงขัง “อย่าแว้งกัด เดี๋ยวตีเลย” พี่ชายผู้เรียนต่อด้านศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิคส์[1]เอ็ดเสียงเขียว ใบหน้าหล่อแบบหนุ่มตี๋อินเตอร์ของเขาเต็มไปด้วยแววรู้ทัน โธ่ถัง เสียดายจัง... เขาเรียนหนักมากนะ ควรจะติดหวัดแล้วได้พักผ่อนเหมือนกับเธอไง “ไข้ตั้งสามสิบเก้า แน่ใจเหรอว่าจะไม่ไปนอนโรงพยาบาล เดี๋ยวฝากน้องกิ๊ก พยาบาลดูแลให้” ชามัยถามยั่วเย้า เธอเลยยกมือขึ้นหยิกหลังมือพี่ชายแล้วส่ายหน้าแต่ไม่พูดอะไร พูดเยอะทำไมเดี๋ยวเจ็บคอ “งั้นพี่จะจดชื่อยาให้แม่ไปซื้อให้แล้วกัน เดี๋ยวไปโรงพยาบาลก่อน สายแล้วเนี่ย” อีกฝ่ายเขกศีรษะเธอเป็นการเอาคืน แล้วกล่าวเสียงทุ้มนุ่มหลอกตาผู้คนว่าเป็นคุณหมอใจดี ทั้งๆ ที่ไส้ในมีแต่ความป่าเถื่อนโหดร้าย มีแต่พวกถึกๆ ใช้กำลังเท่านั้นแหละที่เลือกเรียนออโธปิดิกส์ ซึ่งก็เข้ากับคนถึกตายยากอย่าง ชามัยดี นี่ไม่ได้ด่านะ เธอชื่นชม “ไป” เธอตัดสินใจโบกมือไล่อีกฝ่ายอย่างอ่อนแรง กระซิบบอกเสียงสั่นพร่าสั้นๆ ใจก็อยากพูดมากกว่านี้ แต่อย่างที่บอก พูดเยอะไปทำไม เดี๋ยวเจ็บคอ “งั้นนอนพัก แล้วพี่จะมาดูอีกทีตอนเย็น” ชามัยเอ่ยทิ้งท้ายแล้วจึงออกไปทำงาน ปล่อยให้เธอได้นอนหลับพักผ่อนอย่างสบายใจ ไม่หรอก เธอไม่สบายใจเลยสักนิดเดียว ยังมีเรื่องของอเล็กซ์ให้กังวล เธอถึงขั้นกำพระเข้านอน สวดมนต์อ้อนวอนขอให้ไม่มีคนจับได้ งวดนี้อย่ามีพวกนักสืบพันทิพย์ ทวิตเตอร์มาจับผิดอะไรอีกเลย เธออดคิดถึงพฤติกรรมชอบจับผิดก่อนหน้านี้ของตัวเองไม่ได้ ความสามารถของนักสืบออนไลน์นี้เก่งกาจเสียยิ่งกว่านักสืบตัวจริงเสียอีกเธอรู้ดี ธาราได้แต่หวังว่าจะไม่มีใครรู้ว่านั่นคือเธอ พุทโธ ธัมโม สังโฆ ขอให้คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองเธอด้วย อย่าให้โดนขุดคุ้ยอะไรเลย... ทว่าถึงอย่างนั้นในยามที่นอนหลับ เธอกลับกังวลจนเอาไปฝัน ในฝันนั้นมีคนตามล่าเธอ เป็นสาวๆ แฟนคลับเดนตาย พวกนั้นเอาไข่ปาใส่เธอทั้งตัว ขณะที่เธอได้แต่ยืนหลบบื้อใบ้ท่ามกลางฝูงชน ประหนึ่งเธอเป็นกึมจันดี[2]ที่ริจะปีนเกลียวรุ่นพี่กูจุนเพียว[3]แล้วโดนสั่งสอนอย่างดุดันรุนแรง พร้อมเสียงประณามของคนรอบข้าง นังชะนีเลว แกยั่วอเล็กซ์ใช่ไหมถึงได้ไปนอนกับเขา แกวางยาผัวหนูใช่ไหมสารภาพมานะ พี่มันร้ายที่สุด หนูไม่คิดเลยว่าพี่จะแรดถึงขั้นไปอ่อยอเล็กซ์ถึงสิงคโปร์ พี่ทำให้เมนเราเสื่อมเสีย! หวังเฉา หม่าฮั่น จางหลง ต้าหู่ เครื่องประหารหัวสุนัข ตัดหัวนังคนทรยศนี่เสีย! ฮือ...ธาราได้แต่ร้องคร่ำครวญ อย่าประหารเธอ เธอผิดไปแล้ว ต่อไปเธอจะไม่ขอพระแล้วว่าเธออยากได้เขา ไม่เอาแล้ว น่ากลัวเกินไปแล้ว เบญจเพสปีนี้ไม่ดีเลยจริงๆ! .................. “ธาร หนูเป็นยังไงบ้างลูก” น้ำเสียงอ่อนโยนของแม่ที่ปลุกเธอขึ้นมาทำให้ธาราสะดุ้งตื่นจากฝันร้าย ใบหน้าของเธอชุ่มเหงื่อขณะที่ยังสับสนกับความรู้สึกกึ่งจริงกึ่งฝันอยู่ เมื่อมองไปยังปลายเตียง สแตนดี้ของอเล็กซ์ที่เธอไปขโมยมาก็มองสบตาเธอ ในมือของเขามีโทรศัพท์มือถือสัญชาติจีนที่เปิดตัวเมื่อปีก่อนยิ่งทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวมากขึ้น เสียวคอวาบที่เกือบโดนประหารชีวิตอย่างไรอย่างนั้น จนนี่เป็นครั้งแรกที่ไม่นึกอยากเห็นหน้าเขา “ไม่เป็นไรแล้วค่ะ” หญิงสาวตอบมารดาเสียงแห้ง เธอไอค็อกแค็กสองสามครั้ง ระหว่างนั้นแม่ก็เอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดใบหน้าให้เธอจนรู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้าง “ถ้าอย่างนั้นหนูลุกขึ้นมากินข้าวไหมลูก แล้วค่อยกินยานอนต่อนะ พี่เขาโทร.มาถามอยู่ว่าหนูดีขึ้นหรือยัง” มารดาของเธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ทำให้จิตใจที่หวาดหวั่นของเธอพลอยดีขึ้นไปด้วย “ได้ค่ะแม่ เดี๋ยวหนูกินแล้วจะเอาลงไปล้างให้นะคะ” เธอเพิ่งสังเกตว่าแม่ถือชามข้าวต้มกุ้งขึ้นมาให้ด้วย ธาราลุกขึ้นยืน รู้สึกตัวร้อนผ่าววูบวาบเพราะพิษไข้อยู่บ้าง ทว่าก็ยังดีกว่าเมื่อตอนเช้าเยอะเลย ธารายื่นมือรับถาดที่แม่ยกมาให้เธอลงกับโต๊ะทำงาน ปัดๆ เอาเศษกระดาษที่รกเต็มโต๊ะไปกองอีกฝั่งให้พอมีที่ว่างแล้วจึงนั่งกินอาหารเที่ยงของตนเองเงียบๆ แม่มองเธออยู่พักหนึ่ง พอคลายใจแล้วจึงเดินออกไปจากห้องนอนของเธอ ระหว่างกินข้าว ธาราก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างไรชอบกล คล้ายกับมีใครสักคนจ้องมองเธอตลอดเวลา หญิงสาวมองไปทางนั้นจึงได้พบกับ...สแตนดี้ขนาดเท่าตัวจริงของอเล็กซ์สุดที่รักที่ส่งยิ้มมาให้ราวกับเชิญชวนให้เธอซื้อโทรศัพท์ในมือของเขา เชิญชวนทำไม ซื้อมาแล้วเนี่ย รุ่นแพงสุดด้วย วางอยู่ข้างๆ ตรงนี้นี่แหละ... ฉันเปย์สิ่งนี้ก็เพื่อเธอ... ทว่าถึงอย่างนั้นปกติเธอมีความสุขมากกับการกินไปชมใบหน้าหล่อเหลางดงามราวกับว่าพระเจ้าปั้นแต่งขึ้นมาด้วยสัดส่วนทองคำ[4]ของเขา ใบหน้าที่หล่อเหลางดงามและมีความลงตัวของสามเชื้อชาตินั้นยิ่งทำให้อเล็กซ์ใช้คำว่าหน้าตาดีมาบรรยายสักร้อยหน้าก็ไม่รู้จะทดแทนความรู้สึกนั้นได้ไหม แต่วันนี้เธอไม่ไหวจริงๆ ธาราเลยลุกขึ้นไปหยิบเอาคาดิแกนของตัวเองปิดหน้าเขาเอาไว้ “ขอโทษนะอเล็กซ์ แต่ครั้งนี้ธารทนมองหน้าคุณไม่ไหวจริงๆ แค่คิดถึงคุณ ธารก็อยากจะล้มป่วย กระอักกระอ่วนปวดมวนในท้องแล้วค่ะ ขอโทษที่เหมือนรังเกียจคุณนะคะ แต่จริงๆ ธารแค่ทำใจยังไม่ได้ คุณเซ็กซี่เร่าร้อนเกินไป โฮ...” เมื่อไม่รับรู้สายตานั้นแล้ว ธาราก็กินได้คล่องคอมากขึ้น หญิงสาวดื่มน้ำตามด้วยกินยาหลังอาหาร ก่อนจะเดินเอาชามข้าวต้มที่ตัวเองกินไปเก็บ ไม่อยากเรียกแม่เลยยืนล้างชามใบเดียวของตัวเองแล้วจึงขึ้นมาแปรงฟันและนอนต่อ คราวนี้พอไม่มีสายตาของเขาจับจ้อง ธาราเลยนอนหลับสนิทรวดเดียว ไม่ฝันอะไรให้น่าหวาดผวาเหมือนตอนแรกอีกด้วย! ................................ [1] ออร์โธปิดิกส์ เป็นชื่อสาขาวิชาแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ดูแลรักษาคนไข้ที่มีปัญหาเรื่องเกี่ยวกับ กระดูกและข้อ เอ็นยึดกระดูก กล้ามเนื้อและเส้นประสาท โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสาขานี้บางทีเรียกว่า ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ หรือศัลยแพทย์โรคกระดูกและข้อ [2] กึมจันดี เป็นนางเอกในซีรีส์เกาหลีเรื่อง Boy Over Flower ดัดแปลงมาจากซีรีส์ไต้หวันเรื่อง Meteor Garden รักใสใสหัวใจสี่ดวง เป็นเรื่องราวของกึมจันดี เด็กสาวยากจนที่ถูกกลั่นแกล้งในมหาวิทยาลัยโดยกลุ่ม F4 ซึ่งเป็นกลุ่มของลูกคนรวยมีอิทธิพลรวมตัวกัน เธอท้าทายพวกเขาและไม่ยอมก้มหัวให้กับความไม่ถูกต้อง ต่อมาความกล้าหาญของเธอทำให้กูจุนเพียวซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่ม F4 ตกหลุมรักเธอ [3] กูจุนเพียว เป็นพระเอกในซีรีส์เกาหลีเรื่อง Boy Over Flower ดัดแปลงมาจากซีรีส์ไต้หวันเรื่อง Meteor Garden รักใสใสหัวใจสี่ดวง [4] สัดส่วนทองคำ (Golden Ratio) มาจากการคำนวณทางคณิตศาสตร์เพื่อทำให้งานออกแบบมีสัดส่วนที่งดงามตามสูตรคำนวณที่คิดค้นโดย เลโอนาร์โด ฟีโบนัชชี ที่ใช้ตัวเลขทางคณิตศาสตร์มาอธิบายความงดงามของธรรมชาติ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD