ธาราอดคิดถึงครั้งแรกที่เธอได้รู้จักกับ อเล็กซานเดอร์ ชาน หยาง เวสลีย์ ไม่ได้
ก่อนหน้านั้นเธอได้ยินชื่อเขาผ่านๆ ว่าเป็นนายแบบเชื้อสายจีนหน้าตาดี ในโซเชียลมีการพูดถึงเขาบ้างเป็นช่วงๆ แต่ก่อนหน้านั้นเธอยังมีใจรักภักดีในเหล่าโอปป้าอยู่ ถึงพวกเขาจะวงแตก แต่เธอก็ยังมีหน้าที่สนับสนุนเมนของเธอต่อไป แต่วันนั้นท้องฟ้าสว่างไสว รถไฟฟ้าก็ไม่ขัดข้อง สวรรค์เป็นใจ เป็นสามประสานทั้งฟ้า ดิน และคนโดยแท้ ระหว่างที่นั่งบีทีเอสไปซื้อของแถวสยาม ก่อนรถไฟฟ้าจะจอดเทียบชานชาลา เธอก็ได้สบตากับนายแบบคนหนึ่ง เขาอยู่ใน
ชุดสูทแบรนด์ดังที่เพิ่งได้เป็นพรีเซนเตอร์ของทางฝั่งเอเชีย และกำลังเริ่มมีงาน
ซีรีส์เรื่องแรกในเร็ววันนี้
หัวใจของเธอพลันเต้นแรงเมื่อสบตาเขา...พองโตคับอก เต็มไปด้วยความตื่นตะลึง โลกทั้งใบเหมือนไร้ผู้คน กาลเวลาหยุดนิ่ง มีเพียงคนในบิลบอร์ด
ที่อยู่ในชุดสูทยืนทำหน้านิ่งเย็นชาและปรายตามองลงมาสบตาเธอเท่านั้น
ในวันแรกของฤดูร้อนที่ปกติมันก็ร้อนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันของปีนั้น...ธารารู้ตัวในวินาทีนั้นว่าเธอกำลังตกหลุมรัก
รักอย่างลุ่มหลง ไร้สติ และหมดตัว...
แม้ในยามกระเป๋าสตางค์กรีดร้อง สมุดบัญชีร่ำไห้ว่าไม่ไหวแล้วเธอก็ยังกัดฟันสู้ต่อไป
เส้นทางการเป็นนักแสดงของอเล็กซ์เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ในเวลานั้นนอกจากสนับสนุนเขาแล้วเธอจะทำอะไรได้!
สนับสนุนให้สุดตัวให้เขาเจิดจรัสขึ้นไปบนฟ้า และเธอก็แค่อยู่บนผืนดิน โบกมืออวยพรให้คนที่รักอย่างสุดหัวใจ
คนทั่วไปมองว่าเธอเป็นติ่ง[1]ศิลปิน จ่ายเงินเปย์พวกเขาอย่างโง่ๆ แต่ใครจะรู้ว่าการรักเขาทำให้เธอพัฒนาตัวเองไปมากแค่ไหน จากที่เคยเรียนถูๆ ไถๆ เพราะดันเลือกเรียนสาขาวิชาเอกผิด จากภาษาเกาหลีเป็นภาษาจีน เธอก็ผลการเรียนดีขึ้นผิดหูผิดตาเพราะหลงรักอเล็กซ์ ขยันหมั่นเพียรตั้งใจจนสปีดไวมาแรงคว้าเกียรตินิยมอันดับสองมาได้ ได้เข้าทำงานในแผนกธุรการในเอเจนซี่ชื่อดังระดับโลกอย่างแอนเดอร์สันก็เพราะ อเล็กซานเดอร์ ชาน หยาง เวสลีย์ ได้ทำงานเป็นนักแปลอิสระก็เพรา ะอเล็กซานเดอร์ ชาน หยาง เวลสีย์ จากคนขี้เกียจทำอะไร ใช้ชีวิตลอยชายไปวันๆ ก็ขยันทำงานหาเงินจนพ่อแม่พี่ชายยังตกใจ แล้วอย่างนี้จะหาว่าการรักใครสักคนของเธอมันไร้สาระ ไร้ประโยชน์ และไร้ค่าได้อย่างไร!
....
“นายไปเมืองไทยทำไมน่ะ”
กวนเสี่ยวหมิงยังคงวอแวโทร.มาตามจิกเขาทันทีที่เขาเปิดเครื่อง
นี่คือข้อเสียของการมีเพื่อนสนิทขี้เสือกอย่างนั้นใช่ไหม
“มาธุระน่ะสิ ไม่ต้องถามมาก แค่นี้นะ”
เขากำลังวางสาย แต่อีกฝ่ายโวยวายลั่น “เดี๋ยวสิ! ทำไมต้องไปคนเดียวไม่ให้ใครไปด้วย ช่วงนี้ฉันเองก็ว่าง ละครปิดกล้องหมดแล้ว ฉันไปกับนายได้นะ เมืองไทยฉันก็อยากไป ตอนที่ไปเชียงใหม่ครั้งที่แล้วฉันชอบมาก”
อีกฝ่ายพล่ามอีกยาว ความเสือกเข้าเส้นเลือดแท้ๆ แต่อเล็กซ์ไม่คิดจะฟังกวนเสี่ยวหมิงพล่ามอีกต่อไป เขาเลยกดตัดสายอย่างไม่ลังเล
ชายหนุ่มเข้าเช็กอินในโรงแรมเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พักผ่อนนอนหลับไปตื่นหนึ่งก็เป็นเวลาบ่ายคล้อย เขาส่งข้อความไปบอกผู้ช่วยที่มาร์คัสเตรียมไว้ให้ว่าเขาต้องการไปบ้านผู้หญิงคนนั้น อีกหนึ่งชั่วโมงเจอกัน เมื่อถึงเวลานัดหมายชายหนุ่มก็ลงไปยังชั้นล่าง นั่งรออีกฝ่ายที่คอฟฟี่ช็อป ก็เห็นคนขับรถร่างสูงในชุดสูทพูดได้ทั้งจีนและอังกฤษมารอเขาอยู่ก่อนแล้ว
อเล็กซ์กระชับแว่นสายตาของตนเองแน่น พยายามทำตัวตามสบายไม่สนใจผู้คน แล้วรีบก้าวขึ้นไปยังรถยนต์สัญชาติยุโรปซึ่งไม่เด่นสะดุดตาผู้คนตรงไปหาผู้หญิงคนนั้น
แต่กรุงเทพฯ นี่รถติดไม่ต่างจากปักกิ่งหรือนิวยอร์ก เขาใช้เวลาบนรถถึงสองชั่วโมงกว่าจะถึงบ้านของผู้หญิงคนนั้น
อเล็กซ์ให้คนขับรถจอดรถแถวนี้ ส่วนตัวเขาจะเข้าไปเอง ชายหนุ่มรู้มาว่าเธอพูดภาษาจีนกลางได้ ฉะนั้นไม่ใช่ปัญหาที่เขาจะต้องการล่ามอีกต่อไป
บ้านของผู้หญิงคนนั้นอยู่ในหมู่บ้านย่านชานเมือง เขามองซ้ายขวาเห็นบ้านคล้ายกันเรียงราย ก่อนจะก้มมองตรงรั้วบ้านแล้วจึงเห็นว่าเลขที่บ้านกับที่อยู่ในความทรงจำของเขาตรงกัน ตอนแรกเขาคิดจะให้คนพาเธอมาเจอกันที่โรงแรม แต่คิดดูแล้วก็ไม่ดี แถมเธอยังไม่สบายลางานไปอีกสองวัน เขาร้อนใจต้องรีบจัดการทุกอย่างให้เสร็จ ถึงได้มาที่นี่
อเล็กซ์มองตรงไปข้างใน เห็นเพียงความเงียบสงบก่อนจะตัดสินใจกดออด
....
ธาราตื่นนอนก็รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว เธอมองนาฬิกา เป็นเวลาบ่ายคล้อย พ่อยังไม่เลิกงาน พี่ชาร์มก็คงอยู่โรงพยาบาล แต่ยังขี้เกียจอยู่จึงกลิ้งๆ นอนๆ
อยู่บนเตียง เนื่องจากจิตใจยังไม่เข้มแข็งพอจะเปิดโทรศัพท์เข้าสู่โลกโซเชียล หญิงสาวเลยเลือกจะอ่านนิยายที่ดองเอาไว้ก่อน
และเพื่อความปลอดภัยต่อจิตใจอันบอบบาง เลยไม่ได้อ่านอะไรก็ตาม
ที่เกี่ยวข้องกับอเล็กซ์
ขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับหนังสือ เสียงกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้น ครั้งแรกเธอปล่อยผ่านไป แต่ดูเหมือนว่าแม่จะไม่อยู่บ้านหรือไม่ก็คงไม่ได้ยิน ธาราเลยตัดสินใจลุกจากเตียงแล้วไปส่องดูว่าใครมา
หญิงสาวหรี่ตามองผ่านกระจกห้องนั่งเล่นที่มองทะลุออกไปข้างนอกบ้านได้ ม่านเนื้อบางที่กั้นไว้ทำให้เห็นรูปร่างของคนข้างนอกที่มายืนหน้าบ้านได้อย่างเลือนราง
เอ๊ะ ผู้ชาย...มีผู้ชายมายืนอยู่หน้าบ้าน ท่าทางไม่เหมือนพี่ไปรษณีย์ส่งของหรือคนจากเคอร์รี่
หรือจะเป็นคนส่งจากที่ใหม่ พี่ไลน์แมน พี่นินจา หรือพี่ลาล่ามูฟ หญิงสาวคิดถึงบริษัทขนส่งต่างๆ ที่เคยมาส่งของให้ที่บ้าน
“เอาไงดีวะ”
ธาราก้มมองสภาพตัวเอง ชุดนอนแบบกระโปรงยาวแค่ต้นขาลายเอลซ่า
นี่พี่ชายซื้อให้ตอนวันเกิดอายุยี่สิบสอง เธอโกรธมันแทบตายที่คิดว่าเธอเป็นเด็ก แต่ต่อมาก็กลายเป็นชุดนอนตัวโปรดเพราะใส่แล้วสบายจริงๆ ผมยาวสีน้ำตาลเข้มกระเซอะกระเซิง ถึงจะแปรงฟันแต่หน้าก็ยังไม่ได้ล้าง
ฟุดฟิดๆ
เธอดมตัวเอง นี่น้ำก็ไม่ได้อาบด้วย
“โอ๊ย แม่หายไปไหนเนี่ย”
ธาราบ่นพึมพำกับตนเอง แล้วก็จำต้องออกไปรับพัสดุมาจนได้ เมื่อคนข้างนอกกดกริ่งเร่งเร้าเป็นครั้งที่สาม
“มาแล้วค่า มาแล้ว”
ธาราตัดสินใจตะโกนนำไปก่อนตัว นึกเสียดายที่ดันไม่ได้สวมเสื้อคลุมมาด้วย ใครจะไปคิดล่ะว่าจะต้องลุกจากเตียงมาเปิดประตู แถมตอนนี้เธอยัง
โนบรา หญิงสาวเลยกอดอกปกปิดร่างกายแล้ววิ่งเซถลาซ้ายขวาเหมือนเป็ดขาขัดไปหน้าบ้าน เมื่อออกไปจึงได้เห็นว่าชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ผิวขาวมากจนสะท้อนแสงแดดในยามบ่าย เปล่งประกายออร่าจนตัวแทบเรืองแสงออกมา ดูดีเกินกว่าจะเป็นคนส่งของ
แหมเสียดายจัง รู้งี้หยิบโทรศัพท์มาแอบถ่ายรูปไว้ก่อน จะได้อัปขึ้น
ทวิตเตอร์พร้อมติดแฮชแท็ก #คนส่งของหล่อบอกต่อด้วย ที่กำลังฮิตอยู่ในช่วงนี้
“มาส่งของหรือเปล่าค้า”
หญิงสาวถามนำพร้อมยิ้มเอียงอาย อย่างไรเห็นคนหล่อก็ทำให้รู้สึกอายอยู่ดี แถมต้องไม่ลืมว่าเธอยังไม่ได้อาบน้ำด้วย
พออีกฝ่ายเห็นว่าธาราออกมาจากบ้านก็หันกลับมามองเธอ ทำให้
หญิงสาวถึงกับเบรกหัวทิ่มสะดุดกึกทันที
หุ่นอย่างนี้...มืออย่างนี้...ผิวอย่างนี้...ปลายคางอย่างนี้...ริมฝีปากแบบนี้...โหนกแก้มสูงอย่างนี้
พุทธโธ ธัมโม สังโฆ
นี่ไม่ใช่ที่เธอคิดใช่ไหมบีหนึ่ง...
เธอพึมพำถามตนเองในใจ และยิ่งทำให้ความคิดนั้นเป็นจริงเมื่อคงตรงหน้าเอ่ยถามเธอออกมาเป็นภาษาจีน ปลดแว่นกันแดดเผยให้เห็นดวงตาสีน้ำตาลใสจนเป็นเฉดสีอำพัน เผยใบหน้าของเขาให้เห็นอย่างชัดเจน
“ผมมาหาคุณธารา...”
เขาพูดแค่นั้นก็พลันสะดุดกึกเมื่อเห็นสภาพของหญิงสาวตรงหน้า ขณะที่ธาราแทบจะเข่าอ่อนทรุดลงกับพื้นเมื่อเห็นชัดเจนว่าคนตรงหน้านั้นเป็นใคร
ถ้าบอกว่ามนุษย์จากดาวอังคารมาส่งของให้เธอถึงหน้าบ้านยังจะน่าเชื่อถือมากกว่านี้อีก แต่นี่ไม่มีชาวดาวอังคาร มีแต่ซูเปอร์สตาร์ระดับเอเชียสุดยอดหนุ่มฮ็อตที่สามารถบรรยายความรักที่เธอมีต่อเขาได้ถึงหนึ่งร้อยหน้า
กระดาษเอสี่ ตัวเป็นๆ มายืนอยู่ตรงหน้าเวลานี้
อเล็กซานเดอร์ ชาน หยาง เวสลีย์ มาหาเธอที่บ้าน…
เขามาหาเธอที่ตอนนี้อยู่ในชุดนอนลายเอลซ่า ผมฟู หน้าไม่ล้าง น้ำไม่อาบ และที่สำคัญโนบราอยู่!
[1] ติ่ง เป็นคำที่ใช้เรียกแฟนคลับของศิลปิน