ครั้งแรกแลกเงิน

1069 Words
สวบ ! อ๊าย! ฮึ... เบา! เสียงของอลินาร้องออกมาด้วยความเจ็บแสบ คีตะชะงักก่อนหยุดดันแก่นร้อนลำนั้น เขาก้มกระซิบข้างหูเธอ "พี่ไหวมั้ย! ให้มันสมกับความแซบของพี่หน่อย? อลินาเธอรู้สึกหัวใจกระตุกทันที "เธอกัดไหล่เขาแรงจนเป็นรอยฟัน" "อาาา" เสียงครางเบาจากในลำคอของคีตะ ลอดออกมา รับกับจังหวะดันแก่นร้อนเข้ามิดสุดลำ เอวสอบขยับช้าๆ ซวบ! ซวบ! ริมฝีปากหนาบดขยี่ริมฝีปากบางเบา อย่างคนเพิ่งเป็นงาน แต่กลิ่นกายและหุ่นที่สูงใหญ่ผิวขาวของเขา มันทำให้ร่างบางตรงหน้าแทบละลาย "อ๊าาา ซี๊ด" เขาเอ่ยถามเบาๆ พ้นลมหายใจร้อนเสียงหอบถี่ "พี่หายเจ็บแล้วใช่ไหม" เธอเพียงพยักหน้าเบาๆ ก่อนที่ร่างหนาตรงหน้าจะ เร่งจังหวะแรงไม่ยั้ง ตับ! ตับ! ตับ! ซู่บวบ ซู่บวบ! ซ่า ซ่า! อาร์ อ๊าาาา" คืนนั้น... เสียงลมหายใจ เสียงเนื้อแนบเนื้อ และเสียงเตียงไม้ที่ขยับตามแรงอารมณ์ กึก! กึก! กึก! ดังคลอไปกับเสียงคลื่นนอกหน้าต่าง มันควรจะเป็นแค่ 'เกมชั่วคืน' แต่น่าแปลก... ทำไมความรู้สึกบางอย่างถึงยังไม่ยอมจางหาย...? เช้าวันถัดมา แสงแดดยามเช้าทอดผ่านผ้าม่าน เสียงคลื่นซัดริมทะเลบรรยากาศอบอุ่น... แต่ไม่ได้ร้อนเท่าร่างกาย ของใครบางคนที่แนบชิดอยู่ข้างกาย อลินาลืมตาช้าๆ ภาพแรกที่เห็นคือหน้าอกแน่นๆ ของผู้ชายคนหนึ่ง อกขาวเนียนไม่แพ้ผู้หญิง ลำคอแข็งแรง และ...ลูกกระเดือกที่ขยับเบาๆ ตามจังหวะหายใจ “...พระเจ้า” เธอคิดในใจ ขณะยกศีรษะขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองหน้าคนข้างตัว คีตะนอนตะแคงเผชิญหน้ากับเธอ ใบหน้าที่ตอนกลางคืนดูดุดัน แข็งกร้าว แต่ในตอนนี้กลับดูสงบ เย็น... และหล่อจัดจนใจสั่น เขาไม่เหมือนนักศึกษาทั่วไป ไม่มีความกระหาย ไม่มีความตื่นเต้นแบบเด็กหนุ่มเลยสักนิด กลับกัน ท่าทางนิ่งขรึม เยือกเย็น และแววตาที่จ้องลึกถึงหัวใจเมื่อคืน... มันเหมือนลูกผู้ดีจากที่ไหนสักแห่งบนโลกนี้ คนที่ใช้ชีวิตแบบ 'มีอำนาจ' มากกว่าหาคะแนน อลินากลืนน้ำลายอย่างไม่ตั้งใจ ก่อนจะก้มมองตัวเองใต้ผ้าห่ม แล้วเบะปากนิดๆ พลางกระซิบเบาๆ แบบคนสติยังไม่คืนร้อยเปอร์เซ็นต์ “ไอ้เด็กบ้านี่...” “...เล่นเอาซะ 59 แล้วไม่ยั้งแรงเลยสักนิด ครั้งแรกของฉัน... ยับเยินไปแล้วมั้งเนี่ย” เธอถอนหายใจ ครึ่งหนึ่งเพราะเหนื่อย ครึ่งหนึ่งเพราะ โคตรจะไม่อยากยอมรับว่า 'ติดใจ' จังหวะนั้น... เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ คีตะลืมตาขึ้นช้าๆ มือเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ จากโต๊ะข้างเตียงด้วยสัญชาตญาณ “...ครับแม่?” เสียงปลายสายสั่นเครือจนอลินาได้ยินชัด “คีตะ... สานฝันหายใจไม่ออก ต้องพาน้องส่งโรงพยาบาลด่วนรีบกลับมานะลูก” ดวงตาคมของเขาเบิกโพลง คีตะดีดตัวลุกจากเตียงทันที ทั้งที่ยังไม่ได้สวมเสื้อ “ครับแม่! ผมจะรีบกลับเดี๋ยวนี้เลยครับ" น้ำเสียงเขาเปลี่ยนไป ดุดัน เร่งร้อน และร้อนรน ต่างจากเมื่อคืนโดยสิ้นเชิง อลินานอนอยู่บนเตียง สะบัดผ้าห่มขึ้นปิดตัวด้วยความตกใจ “เกิดอะไรขึ้น?” เธอถามอย่างลืมความโป๊ของตัวเองไปชั่วขณะ คีตะไม่ตอบทันที เขากำลังสวมกางเกงอย่างรวดเร็ว ก่อนหยิบเสื้อยืดมา สวมผ่านหัวแบบลวกๆ “น้องสาวผม... ไม่สบาย ต้องรีบกลับด่วน” “ขอโทษนะพี่ ผมไม่มีเวลาอธิบาย...” เขามองเธอเพียงเสี้ยววินาที ก่อนคว้ากระเป๋าสะพาย แล้วพูดอย่างรีบเร่งจนแทบไม่มีอารมณ์หลงเหลือจากเมื่อคืน “พี่โอนเงินให้ผมเลยนะครับ ผมรีบ” คำพูดนั้นเหมือนมีใครมาฟาดอลินาเข้ากลางอก เธอนิ่งค้างไปชั่ววูบ เมื่อคืนเขาไม่ได้พูดถึงเงินเลยแม้แต่คำเดียว แต่มาวันนี้ เขากลับ 'ทวง' ราวกับมันคือเรื่องปกติของการซื้อขาย อลินามองเขา ตะลึง อึ้ง และไม่รู้จะรู้สึกยังไง คีตะไม่พูดอะไรต่อ เขาก้าวออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้แค่เสียงประตูที่ปิด “ดังปัง” ในห้องเงียบสนิท อลินายกมือขึ้นแตะหน้าอกตัวเอง หัวใจยังเต้นแรง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่เพราะความร้อนแรงของคนเมื่อคืน... แต่... มันคือความเย็นชาของคนตรงหน้า อย่างแท้จริง "ให้ตายเถอะ แอล แกจะมาติดใจเด็กนี่ไม่ได้นะ" เธอนั่งอยู่บนเตียงพึมพำเบาๆ กัดริมฝีปากบางหลับตาอย่างไม่น่าเชื่อ กับการกระทำและความต้องการของตัวเอง สามชั่วโมงถัดมา คีตะขับรถมอไซค์บิ๊กไบร์คันคู่ใจ มาจอดหน้าบ้านก่อนจะลงไปอุ้มน้องขึ้นแนบอก “แม่... ผมมีเงินแล้วครับ” คีตะหันมองแม่อย่างแน่วแน่ มือข้างหนึ่งยังอุ้มน้องสาววัยสิบเอ็ดปีขึ้นแนบอก ร่างเล็กๆ ที่ซุกตัวอยู่เหมือนตุ๊กตา เธอหายใจหอบอ่อนแรงในอ้อมแขนของเขา แม่มาริกาเบิกตากว้างทันที “ลูกไปเอาเงินมาจากไหน...” เธอถามเสียงเบาแต่ตื่นตระหนก คีตะไม่ตอบ สายตาของเขาไม่สั่นไหวแม้แต่น้อย “ช่างมันเถอะครับแม่... ตอนนี้สานฝันต้องถึงมือหมอก่อน” เขาหันไปโบกแท็กซี่ที่วิ่งผ่านหน้าซอย เสียงเบรกดัง "เอี๊ยด" ก่อนที่รถคันสีเขียวปนเหลืองจะหยุดสนิท “ไปโรงพยาบาลวายุคีรินทร์ครับเร็วที่สุด” เวลาต่อมา โรงพยาบาลวายุคีรินทร์ ชั้นฉุกเฉิน บรรยากาศในห้องฉุกเฉินเต็มไปด้วยความรีบเร่ง เสียงเครื่องวัดชีพจรดังถี่ๆ พยาบาลสามคนช่วยกันวางอุปกรณ์ สานฝันนอนนิ่งบนเตียง สีหน้าซีดเซียวกว่าทุกครั้ง คีตะยืนอยู่นอกม่าน รอด้วยใจเต้นรัว มือเขากำแน่น เหงื่อไหลจากขมับ หมอหญิงร่างเล็ก เดินออกมาในเสื้อกาวน์สีหน้าเคร่งเครียด แต่มีความหวังในแววตา “เด็กมีอาการเหนื่อยหอบ จากหัวใจตีบระดับกลางค่อนไปทางรุนแรงค่ะ” “ดีที่พามาทัน ไม่อย่างนั้นอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนและตอนนี้ต้องอยู่โรงพยาบาลสามคืน เพื่อเตรียมการผ่าตัด ส่วนเวลาการนัดผ่าตัดต้องรอให้คุณหมอเฉพาะทางด้านหัวใจ มาแจ้งอีกทีนะคะ” คีตะเงยหน้าขึ้นทันที “ค่าใช้จ่าย... ประมาณเท่าไรครับ?”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD