รถจักรยานยนต์ราคาแพงมาจอดอยู่ที่หน้าร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทาง ชวกรเดินลงไปนั่งที่โต๊ะ ก่อนที่เขาจะปล่อยให้เธอสั่งให้เขา เพราะตั้งแต่เขากลับมาเมืองไทย เขาก็เพิ่งจะเคยกินก๋วยเตี๋ยว ทุกอย่างที่เมืองไทยยังดูแปลกไปหมดสำหรับเขา เพราะการไปใช้ชีวิตอยู่เบลเยี่ยมตั้งแต่เด็ก ทำให้เขาต้องปรับตัวกับการกลับมาอยู่ที่นี่เป็นอย่างมาก และช่วงเวลายี่สิบปีที่ผ่านมา ป้าของเขาก็ไม่เคยพาเขากลับมาที่เมืองไทยเลย
“คุณจะทานไรคะ ฉันมีงบให้หนึ่งร้อยบาท” มัทนากล่าวเย้าชายหนุ่ม
“สั่งให้หน่อยสิ ผมไม่ได้กินนานแล้ว ไม่รู้ว่าแบบไหนถึงจะอร่อย” ชวกรเอ่ยเสียงเบา
“ตลกน่าคุณชอบเส้นอะไรคุณก็แค่สั่งเขาไป หมูหรือเนื้อ ก็แค่นั้น” มัทนารู้สึกขบขันผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า หรือชีวิตเขาเคยเข้าแต่ภัตตาคารหรูๆ เลยไม่เคยมานั่งทานที่ร้านข้างถนนแบบนี้
“สั่งให้หน่อยเถอะน่า เอาแบบที่คุณกินแล้วกัน” ชวกรอ้อนหญิงสาว ทำให้เธอยอมสั่งให้เขาตามที่เขาต้องการ
เมื่ออาหารมาส่ง เธอก็แปลกใจอย่างมากที่เขาไม่ยอมปรุงอะไรเพิ่ม เขากลับรับประทานทันที
“ทำไมไม่ปรุงล่ะคะ” มัทนาเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ
“ผมกินเผ็ดไม่ได้” ชวกรตอบตามจริง เพราะการที่เขาใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศตั้งแต่เด็ก ทำให้เขาได้ทานอาหารที่มีรสชาติจืดเสียส่วนใหญ่ ดังนั้นลิ้นของเขาจึงไม่สามารถรับรสของความเผ็ดร้อนได้เหมือนกับคนไทยทั่วไป
“เด็กน้อยจัง ว่าแต่ทำไมคุณถึงกินเผ็ดไม่ได้คะ” หญิงสาวยังคงซักชายหนุ่มต่อราวกับรู้จักกันมานาน ทั้งที่ทั้งคู่เพิ่งเจอกันเมื่อเช้านี่เอง
“ผมอยู่ต่างประเทศมาตั้งแต่เด็ก เลยไม่ชินกับรสเผ็ด ผมเพิ่งกลับมาเทคโอเวอร์บริษัทที่คุณไปสัมภาษณ์งานมานั่นแหล่ะ” ชวกรบอกตามความจริง หากแต่เขาจะไม่มีวันบอกถึงจุดประสงค์จริงๆ ที่เขากลับมาเทคโอเวอร์บริษัทแห่งนี้
“เป็นเกียรติอย่างมากเลยค่ะที่ได้รับประทานอาหารกับท่านผู้บริหาร” รอยยิ้มสดใสของมัทนาถูกส่งให้กับชายหนุ่ม เธอคงได้รับความรักจากบิดาของเขา ทำให้เธอเติบโตมาด้วยความรักและความอบอุ่น ในขณะที่เขาซึ่งเป็นบุตรชายของนายชัชวาลย์แท้ๆ แต่กลับไม่เคยได้รับความเอาใจใส่แม้สักนิด สิ่งเดียวที่เขาได้จากบิดา นั่นก็คือการผลักไสไล่ส่งเขาออกไปจากชีวิตเท่านั้น