“สรุปจะทำรึเปล่า ถ้าไม่ทำฉันจะได้กลับเสียเวลา”
นี่คือคำแรกที่พ่นออกมาจากปากเขา หลังจากไม่เจอกันมาสามกว่าปี
“ทะทำค่ะ”
ตอบเขาอย่างตะกุกตะกัก มือเรียวเล็กรีบหยิบแก้ว เตรียมชงเหล้าให้กับเขา
“ คุณปกป้องชอบแบบไหนคะ เดี๋ยวแพรจะชงให้”
เธอเอาแต่ก้มหน้าถามเขา จนไม่ทันได้สังเกตว่าเขาเองก็มองเธออยู่เหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่ามองแบบไหน อาจจะสมเพชนั่นแหละที่ลูกคุณหนูบ้านรวยอย่างเธอ ตอนนี้ต้องมาทำงานแบบนี้แล้ว
“ โซดากับเหล้าเข้มๆ”
ตอบเธอทั้งที่จ้องหน้าสวยไม่วางตา
“รอซักครู่นะคะ”
เสียงหวานเอ่ยบอกเขา หน้าสวยจดจ่ออยู่ที่แก้วเครื่องดื่ม
“นี่ค่ะได้แล้ว”
ผ้าแพรวางแก้วเหล้าตรงหน้าเขา โดยที่ยังก้มหน้าอยู่
“ ชงแบบเดิมอีกแก้ว”
เมื่อเขาสั่ง เธอก็ไม่ได้ถามอะไร พยักหน้ารับคำและรีบชงแบบเดิมอีก1แก้ว ก่อนจะวางไว้ข้างๆแก้วแรกที่เธอชงก่อนหน้า
“ได้แล้วค่ะ”
“เอาไปสิ ดื่มเป็นเพื่อนฉันหน่อย”
เธอรีบเงยหน้าขึ้นมองหน้าเขา จนตอนนี้ถึงได้รู้ว่าเขาก็มองเธออยู่เหมือนกัน แต่ในแววตานั้นกลับมีแต่ความว่างเปล่า ไม่ได้บ่งบอกความรู้สึกใดๆเลย
แต่เป็นเธอต่างหากที่เสียอาการ ดวงตากลมโตไหวระริก ยิ่งในยามที่ได้สบตากับเขา หัวใจเธอก็เต้นโครมครามอย่างแรง มันอธิบายไม่ได้ว่าเต้นแรงเพราะอะไร เพราะตื่นเต้นหรือเพราะยังรู้สึกอะไรกับเขาอยู่กันแน่
“คือฉันดื่มไม่เก่งค่ะ ขอโทษลูกค้าด้วยที่ไม่สามารถดื่มเป็นเพื่อนได้”
เธอพูดกับเขาในฐานะลูกค้ากับพนักงานเท่านั้น
“ดื่มกับลูกค้าไม่ได้ ชวนพูดคุยไม่เก่ง การเอนเตอร์เทนไม่ได้เรื่อง แบบนี้ฉันคงให้เธอผ่านงานไม่ได้ ถ้าให้ผ่านไปก็มีแต่จะเสียลูกค้ากันหมด”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา เย็นจนใจของผ้าแพรเจ็บ
“ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นแพรจะดื่มเป็นเพื่อนคุณ”
ผ้าแพรทำใจกล้า รีบยกเหล้าเข้มๆดื่มจนหมดแก้ว ปกป้องยิ้มร้ายที่มุมปาก เมื่อเห็นท่าทีใจกล้าบ้าบิ่นของเธอ
“ชงอีกสิ แล้วก็ดื่มกับฉันอีก”
เขาพูดด้วยท่าทีที่เรียบนิ่ง บังคับให้เธอดื่มต่อไปอีก
อึก อึก
ปึก!!
ผ้าแพรยกแก้วแล้วแก้วเล่า ดีเหมือนกันเมาแล้วจะได้หลุดออกจากความรู้สึกแย่ๆนี้ซักที
“ ไหนลองพูดเอนเตอร์เทนลูกค้าให้ฉันดูหน่อยสิ”
เขายังสั่งเธอต่อ หลังจากยกแก้วสุดท้ายเสร็จ เธอก็ปาดเหล้าที่เลอะข้างปากลวกๆ จ้องหน้าเขาด้วยตาหวานเยิ้ม
“คุณมีแฟนรึยังคะ”
คำถามเอนเตอร์เทนลูกค้าของเธอ มันช่างน่าขบขันเสียจริง
“ คนอย่างฉันไม่คิดจะมีแฟนหรอก และไม่คิดจะสนใจผู้หญิงคนไหนด้วย สำหรับฉันแล้วผู้หญิงก็แค่เซ็กส์ เอาไว้สำหรับปลดปล่อยก็แค่นั้นแหละ”
เขาตอบเธอด้วยท่าทีสบายอารมณ์
“ค่ะ คิดได้แบบนี้ก็ดีเหมือนกันค่ะ จะได้ไม่ต้องเจ็บปวดกับความสัมพันธ์ที่เรียกว่าความรักดี”
เธอตอบเขาไปอย่างคนไม่รู้จะพูดอะไร
“ มานั่งที่ตักฉันสิ เผื่อเธอบริการถูกใจ
ฉันจะให้ทิปหนักๆ ร้อนเงินไม่ใช่เหรอ”
ผ้าแพรไม่ได้คิดอะไรมาก แม้คำพูดนั้นมันฟังดูเหมือนดูถูก แต่ในเวลานี้เธอไม่ควรเก็บมาใส่ใจ
อนาคตเธอสำคัญที่สุด เธอจะต้องก้าวต่อไปจนถึงจุดหมาย ต่อให้ต้องทนคำดูถูกนี้อีกนานแค่ไหนก็ตาม
“อุ้ย!!”
เพียงแค่สะโพกมนนั่งที่ตักเขา ท่อนแขนแกร่งก็โอบกอดเอวเล็กของเธอทันที
“ ทำเป็นตกใจ ไม่ใช่ว่าทำแบบนี้จนชินแล้วหรอ”
เขาเห็นมารยาผู้หญิงมาก็เยอะ อาการแบบนี้
มองจากดาวอังคารก็ดูออก ว่าคือมารยาของผู้หญิง แสร้งทำหวงเนื้อหวงตัว บางคนกลับหลวม
เหมือนผ่านศึกสงครามอย่างหนักมา
“แหม คุณปกป้องละก็ ผู้หญิงก็ต้องมีจริตจะก้านกันบ้างสิคะ แพรเคยได้ยินมาบ้าง ว่าผู้ชายไม่ชอบผู้หญิงใสซื้อบริสุทธิ์ แต่ผู้ชายชอบผู้หญิงเป็นงาน เป็นแบบนั้นจริงหรือเปล่าคะ”
เมื่อตั้งหลักได้ ผ้าแพรไม่ยอมให้เขารุกเธออยู่ฝ่ายเดียว แต่กลับตอบโต้เขาบ้างพร้อมยังหันมาโอบรอบคอแกร่งเขาเอาไว้ด้วย ตอนนี้หน้าสองคนใกล้กันมาก จนรับรู้ลมหายใจของกันและกัน
ปกป้องเสียอาการเล็กน้อย ทั้งที่ทำนิ่งแล้วแท้ๆ
“ฮึ!!ร่านดีหนิ คงผ่านมาเยอะแล้วสินะ”
เขาหัวเราะอย่างเย้ยหยัน กับคำพูดที่แสนจะดูถูกเธอ มันเจ็บนะแต่นี่ไม่ใช่เวลามาอ่อนแอ
“ก็พอตัวค่ะ แล้วคุณปกป้องสนใจแพรรึเปล่าคะ แพรทำให้คุณพอใจได้นะ”
มือเล็กอีกข้าง เริ่มลูบที่แผงอกเขาเบาๆ ทั้งตื่นเต้นทั้งสั่น แต่ด้วยน้ำเมาที่ดื่มเข้าไป ทำให้เธอกล้าที่จะทำอะไรแบบนี้
“ร้อนเงินขนาดนั้นเลยเหรอผ้าแพร เธอถึงได้มาเสนอตัวให้ฉันแบบนี้”
ปกป้องขบกรามแน่น ผ้าแพรที่เขาเคยรู้จักในวันนั้น บัดนี้เธอเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ไม่มีผ้าแพรคนที่น่ารักสดใสอย่างเช่นวันนั้นอีกแล้ว รอยยิ้มใสซื่อที่เขาเคยหลงไหล ดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยประกายของความน่าเอ็นดู บัดนี้มันหายไปหมดสิ้น
“ใช่ค่ะฉันร้อนเงิน กำลังจะหาเงินไปจ่ายค่าเทอม คุณสนใจดูแลค่าเทอมของฉันรึเปล่าละคะ ยิ่งรวยแบบคุณเนี่ยกระเป๋าหนักแพรบริการเต็มที่เลยนะคะ”
หน้าเล็กโน้มเข้ามาใกล้ ราวกับว่ากำลังจะจูบเขา แต่ปกป้องกลับเบือนหน้าหนี ไม่ยอมให้เธอจูบ
พรึบ!!
“โอ้ย!!”
และรีบลุกขึ้นยืนจนเธอตกจากตักเขา ลงไปกองอยู่ที่พื้น
“น่ารังเกียจที่สุด ต่อให้ฉันหลับตาจินตนาการว่าเป็นดาราหรือนางแบบ ฉันยังไม่รู้ว่าจะเอาเธอลงรึเปล่า น่าสมเพชที่สุด”
ปึก
เขาวางเงินให้เธอห้าพันและรีบสาวเท้าออกไปจากห้อง และไม่หันกลับมามองเธอเลยซักนิด
“ฮึก”
มือเล็กกำเอาเงินห้าพันทั้งน้ำตา อย่างน้อยๆมันก็แลกมาด้วยการทำงานของเธอ เธอต้องยิ้มสิผ้าแพร เธอควรดีใจที่ได้ทิปเยอะขนาดนี้
“เอ่อ คุณผ้าแพรเพื่อนผมบอกว่าคุณผ่าน เดี๋ยวคุณเตรียมตัวทำงานได้เลยนะครับ ”
ผ้าแพรยิ้มกว้าง ในที่สุดเธอก็ได้งานบริการโซนvip โอกาสที่จะมีเงินจ่ายค่าเทอม ก็มากตามมาด้วยเช่นกัน
“ ขอบคุณนะคะคุณไดจิ ”
เธอหันไปขอบคุณเจ้านาย และเก็บเงิน ห้าพันที่เขาให้ ยัดใส่ลงในกระเป๋า และพร้อมทำงานที่ได้รับมอบหมาย
“ น้องผ้าแพรดูแลโต๊ะ6เลยครับ”
ไม่นานผู้จัดการโซนvip ก็มาเรียกให้ไปดูแลแขกvip6 พอเดินไปถึงก็จะเป็นกลุ่มคนทำงานนั่นแหละ อายุก็จะประมาณ 20 ปลายๆ ก็ไม่ได้แก่มากเรียกว่ากำลังดีจะถูกกว่า
“ สวัสดีค่ะ หนูขอแนะนำตัวเองก่อนนะคะ หนูชื่อผ้าแพรค่ะ วันนี้จะมาให้บริการพวกพี่ๆค่ะ”
ผู้ชายที่นั่งอยู่สามสี่คนเงียบ และหันมาจ้องมองฉันอย่างไม่วางตา พร้อมกับสายตาที่โลมเลีย ซึ่งฉันคิดว่าไม่นานก็คงชิน
“ว้าว!!สวย เชิญนั่งก่อนเลยครับ”
และฉันก็นั่งตามที่เขาบอก
“ พวกพี่ดื่มอะไรกันบ้างคะ เดี๋ยวแพรจะได้ชงให้ถูก”
และหน้าที่ของฉันหลักๆก็คือชงเหล้า แล้วก็เอนเตอร์เทนลูกค้านั่นแหละ ตามที่ผู้จัดการโซนvipอธิบายให้ฟัง
“ ของพี่เอาโซดาน้ำครับ/ของพี่ชอบดื่มเพียวๆ”
ฉันรีบชงตามใจลูกค้า ไม่ว่าลูกค้าจะสั่งอะไร
ฉันก็จัดให้ตามที่สั่งทั้งหมดเลย และบางคนก็มีลูบที่ขาอ่อนบ้าง ลูบต้นแขนเรียวบ้าง ถึงแม้จะไม่ได้ชอบ แต่ก็ไม่ได้อยากมีปัญหากับลูกค้า
อะไรยอมได้ฉันก็ยอมไปก่อน
“ แล้วน้องผ้าแพรมาทำงานแบบนี้แฟนไม่ว่าเหรอครับ”
เสียงหนึ่งเอ่ยถามขึ้น
“ แพรไม่มีแฟนหรอกนะคะ จนๆอย่างแพรใครจะอยากมาลำบากด้วย”
ตอบลูกค้าไปด้วยรอยยิ้ม เรื่องแฟนไม่เคยมีในหัวด้วยซ้ำ จนอย่างเธอใครจะมาสนใจ
“ ถ้าน้องผ้าแพรไม่มีแฟน แล้วสนใจไปเป็นเด็กของพี่มั้ยครับพี่เปย์หนักนะ แค่น้องผ้าแพรอยู่ในที่ของตัวเอง ไม่ยุ่งกับบ้านใหญ่ของพี่ ชาตินี้น้องผ้าแพรก็สบายไปทั้งชาติ”
จะหาเมียน้อยล่ะสิไม่ว่า พวกผู้ชายนี้ช่างไม่รู้จักพอจริงๆ
“ ไม่เอาอะค่ะแพรกลัว แพรยังอยากอยู่ใช้ชีวิตอีกนาน”
ตอบลูกค้าเชิงล้อเล่น แต่เธอคิดแบบนี้จริงๆ
“ ถ้าน้องผ้าแพรไม่สนใจคนมีครอบครัว งั้นสนใจพี่มั้ยครับ แต่พี่เป็นเพลย์บอยเจ้าชู้หน่อย
มีเด็กเลี้ยงหลายคน แต่พี่ให้ทุกคนเท่ากันหมด
แบบนี้ไหวหรือเปล่าครับ ”
เฮ้อ!! แต่ละคนก็ดูพอๆกัน สมกับเป็นเพื่อนแก๊งค์เดียวกันนั่นแหละ