ขนมนั่งอยู่ภายในรถยนต์ที่แฟนหนุ่มขับมารับอย่างทุกครั้ง ดวงตากลมโตภายใต้แว่นหนาเตอะยังคงจับจ้องรายละเอียดของงานในวันพรุ่งนี้
“เลิกทำงานได้แล้วขนม”
‘การันต์’ ยกมือขึ้นแย่งโทรศัพท์จากมือของหญิงสาวหลังเห็นเธอเอาแต่ก้มหน้าทำงานไม่หยุด แม้จะรู้ว่าคนตรงหน้าจริงจังกับงานมากเพราะเป็นถึงเลขาของประธานเจ้าของโรงแรมหรูที่มีเครือมากมายอยู่แทบทั่วโลก
“นิดเดียวเองค่ะ ขนมต้องรีบเคลียร์งานให้คุณอาทิตย์”
“วันนี้อยากไปนอนที่คอนโดใหม่ของรันต์ไหม”
ชายหนุ่มชวนแฟนสาวที่คบกันมานานถึงสามปีแต่ทว่าเธอก็ยังคงเว้นระยะห่างกับเขา อย่าว่าแต่ทำเรื่องอย่างว่าเลยแค่จูบกันเธอยังบ่ายเบี่ยงและเอาแต่พร่ำพูดถึงความไม่เหมาะสม
“ตกลงรันต์ซื้อคอนโดนั่นจริงๆ เหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ รันต์ทำเรื่องกู้ไปแล้วด้วย”
“แต่ว่ามันแพงมากเลยนะ แถมขนมก็รู้สึกว่าคอนโดเก่าของรันต์ก็ยังน่าอยู่ดีนี่”
“ขนมไม่เคยมานอนกับรันต์เลยสักครั้งจะรู้ได้ยังไงว่าคอนโดเก่ามันดี”
“ถึงไม่เคยนอนแต่ขนมก็เคยไปมาก่อน”
ขนมตอบกลับไปแทบจะในทันที อันที่จริงเธอไม่อยากที่จะไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของแฟนหนุ่มทว่าอดไม่ได้ที่จะเอ่ยเตือนถึงการใช้จ่ายเงินที่เกินตัวของเขา
เมื่อก่อนที่เราคบกันแรกๆ การันต์เป็นเพียงพนักงานบริษัทรับเหมาก่อสร้างเล็กๆ แต่พอได้งานใหม่เป็นถึงวิศวกรที่บริษัทรับเหมารายใหญ่ของประเทศ ชายหนุ่มก็เปลี่ยนไป
จากเป็นคนที่กินง่ายอยู่ง่าย เขาก็เกิดมีปัญหาเวลาไปทานอาหารที่ร้านข้างทางทุกครั้ง รถที่ใช้ขับก็เปลี่ยนใหม่เป็นรถหรู รวมไปถึงคอนโดที่มีมูลค่าหลายล้านบาท
“รันต์เป็นถึงหัวหน้าวิศวกรที่บริษัทรุ่งอรุณเลยนะขนม จะให้ไปอยู่ที่คอนโดเล็กอย่างกับรูหนูแบบนั้นได้ยังไง”
“ขนมก็แค่เป็นห่วง กลัวรันต์จะติดขัดเรื่องเงิน”
“ช่างเถอะ”
การันต์รีบโบกมือห้ามปรามแฟนสาวที่เริ่มจะไม่เห็นด้วยกับการใช้เงินของเขา ชายหนุ่มก็แค่อยากจะสร้างสังคมให้ตัวเองดูดีแม้จะแลกมาด้วยการลงทุนที่มากโขก็ตาม
“แล้วตกลงขนมจะไปดูคอนโดใหม่ของรันต์ไหม”
“วันนี้คงไม่ได้ พอดีต้องกลับไปช่วยที่บ้านเตรียมของ ได้ข่าวว่ามีลูกค้าติดต่อสั่งขนมคุณยายไว้เยอะเลย”
“อีกแล้วนะ เมื่อไหร่ขนมจะยอมรันต์สักที”
“ขนมติดธุระจริงๆ”
ขนมเอนศีรษะซบท่อนแขนของคนที่เริ่มจะมีอาการไม่สบอารมณ์ขึ้นมา เธอส่งสายตาออดอ้อนให้เขาเห็นใจ เพราะต้องรีบกลับไปช่วยที่บ้านเตรียมของ
“พอเลย อ้างติดธุระตลอด ขนมคงไม่ได้รักรันต์ตามที่ปากว่าหรอกใช่ไหม”
“เปล่าสักหน่อย ถ้าขนมไม่รักรันต์แล้วจะมาคบทำไม”
“ถ้ารักรันต์ก็ยอมเสียสิ”
“ต้องยอมนอนกับรันต์เหรอถึงจะบ่งบอกว่าเรารักกัน”
“เราเป็นแฟนกันนะขนม!”
เสียงตวาดลั่นทำเอาหญิงสาวสะดุ้งตกใจ และดูเหมือนชายหนุ่มจะเพิ่งมีสติว่าเผลอตะคอกใส่เธอ เขารีบลูบใบหน้าของตัวเองเพื่อกดกลั้นความหงุดหงิดพร้อมฉีกยิ้มกว้างส่งมอบให้
“รันต์ขอโทษ”
“ถึงบ้านแล้ว ขนมขอตัวก่อน”
“เดี๋ยวสิขนม...”
ขนมเปิดประตูลงจากรถหลังเห็นว่าคนเป็นตายืนรออยู่ที่หน้าประตูรั้ว ก่อนจะเห็นการันต์เปิดประตูลงมายกมือไหว้ทักทายท่านทีไปเช่นกัน
“ทำไมกลับช้า”
“วันนี้ที่บริษัทมีประชุมค่ะ”
“รีบเข้าบ้านเถอะ ยายเขารอขนมอยู่”
“ค่ะตา”
“งั้นพรุ่งนี้รันต์มารับนะครับ”
การันต์เดินกลับไปที่รถพร้อมจ้องมองแฟนสาวเดินเข้าไปในบ้านด้วยความหัวเสียเนืองๆ ขนมมีนิสัยรักนวลสงวนตัวมากเพราะเติบโตมากับตาและยายที่มีความคิดหัวโบราณ
“สวัสดีครับน้องแคท พอดีพี่ซื้อคอนโดใหม่อยากมานอนเล่นดูไหมครับ”
ขนมรีบขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้ามาเป็นชุดลำลองหลังต้องรีบมาช่วยยายทำขนมไปส่งลูกค้าเจ้าประจำ ของยายเธอเป็นแม่ค้าขนมหวานไทย เมื่อก่อนท่านหาบเร่ขายในตลาด แต่พอมีอายุที่มากขึ้นก็เปลี่ยนมารับออเดอร์จากลูกค้าเจ้าประจำแทน
“วันนี้ลูกค้าสั่งเยอะเลยนะคะยาย”
“ใช่จ้ะ เห็นว่าจะเอาไปเลี้ยงแขกที่งานขึ้นบ้านใหม่”
“ทำเยอะแบบนี้เหนื่อยหรือเปล่าคะ ขนมทำงานแล้วก็อยากจะเลี้ยงตากับยายให้สบาย”
“ไม่เหนื่อยหรอกลูก และที่สำคัญจะให้มานั่งๆ นอนๆ ยายคงทำไม่ได้”
‘ยายสาย’ เอ่ยตอบกลับด้วยรอยยิ้มใจดี เธอทำงานมาตลอดอยู่ๆ จะให้มานอนรอใช้เงินจากหลานคงทำไม่ได้จริงๆ แถมการทำขนมก็ถือว่าเป็นความสุขอย่างหนึ่งเหมือนกัน
“นั่นสิ แล้วขนมล่ะเหนื่อยไหม ทำงานมาทั้งวันขึ้นไปพักผ่อนดีกว่า”
“ขนมมาช่วยยายกับตาทำงานดีกว่า จะได้เสร็จไวๆ แล้วเราไปทานข้าวพร้อมกัน”
‘ตาช่วง’ ยกมือขึ้นลูบเรือนผมยาวสลวยของหลานสาวเพียงคนเดียวอย่างนึกเอ็นดู ตั้งแต่โตมาขนมไม่เคยทำให้ผิดหวัง หญิงสาวตั้งใจเรียนจนได้ทำงาน แถมไม่เคยนอกลู่นอกทางให้เขาต้องทุกข์ใจ
ผิดกับลูกสาวไม่รักดี ซ้ำยังท้องทั้งๆ ที่ยังเรียนไม่จบ แถมใจไม้ไส้ระกำหอบลูกตัวเองมาทิ้งให้คนเป็นพ่อและแม่เลี้ยงโดยไม่คิดที่จะมาดูดำดูดีเลยสักครั้ง
“ตาไม่ค่อยไว้ใจแฟนหนูเลยขนม”
“ตาขา รันต์เขาดีกับขนมมากนะคะ”
“ไม่รู้สิ ตาไม่ถูกชะตาเลย”
“ขนมคบกับรันต์มาสามปีแล้ว แถมเขาไม่เคยคิดล่วงเกินเลยสักครั้ง ตาสบายใจได้ค่ะ”
รีบหันไปแก้ต่างให้คนเป็นตาเข้าใจในตัวแฟนหนุ่ม แม้จะแอบปกปิดเรื่องที่เขามักจะทะเลาะกับเธอหลายต่อหลายครั้งในเรื่องที่หญิงสาวไม่ยอมมีอะไรด้วย
ขนมถูกพร่ำสอนในเรื่องการวางตัวเพราะครั้งหนึ่งมารดาเคยทำผิดพลาดไป จนทำให้ตากับยายเสียใจและโกรธเคืองลูกสาวตัวเองเป็นอย่างมาก
“ก็ดีแล้วล่ะ ที่ตาพูดเพราะเป็นห่วง”
“ถ้ารักกันจริงๆ ยายก็ไม่ขัดหรอกนะลูก แต่อยากทำให้มันถูกต้อง เราเป็นผู้หญิงเวลาเกิดอะไรขึ้นจะเสียหายที่สุด”
“ค่ะยาย ขนมสัญญาว่าจะไม่ทำให้ตากับยายผิดหวัง”
ใบหน้าหวานปรากฏรอยยิ้มส่งมอบให้ผู้มีพระคุณทั้งสอง ถึงหญิงสาวจะไม่มีพ่อแม่ทว่าก็ยังมีตาและยายคอยเลี้ยงดูและสั่งสอนมาอย่างดีตลอด
“มีขนมฝอยทองด้วยเหรอคะ ตาป้อนหน่อยขนมอยากจะชิม”
ขนมอ้าปากรอคนตรงหน้านำขนมหวานของโปรดมาป้อนให้อย่างออดอ้อน ขณะเดียวกันมือก็ช่วยนวดแป้งสำหรับทำขนมบัวลอยไข่หวานเพิ่ม
“อย่าป้อนหลานหมดสิพี่ ของลูกค้านะ”
“เถอะน่า ไม่พอก็ทำใหม่”
“ขนมรักตาที่สุดเลย”
ตาช่วงหัวเราะออกมาหลังเห็นหลานสาวสุดที่รักเอนซบพิงท่อนแขนของเขา มือหนาไม่หยุดที่จะป้อนขนมชิดริมฝีปากแดงระเรื่อที่เอาแต่ฉีกยิ้มกว้างมีความสุข
“และก็รักยายด้วยเหมือนกันค่ะ”
.
.
.