ตอนที่ 12

1127 Words
ดูเหมือนพวกเขาจะชื่อ... “เอียนกับแอชตันใช่ไหม?” เพื่อนร่วมงานคนที่สองเอ่ยขึ้นตรงกับที่ปาหนันคิดพอดี ทำให้หญิงสาวลอบพยักหน้าไปด้วย ขณะที่หูก็ฟังเพื่อนสนิทคุยกัน “เธอชอบคนไหนล่ะ” “แน่นอนว่าต้องเอียนสิ” คนแรกเอ่ย “ฉันชอบผู้ชายที่ดูดิบเถื่อนหน่อยๆ น่ะ มันตื่นเต้นเร้าใจดี” เอียน แอดดิสันได้ยินมาว่าเขาดูแลกิจการด้านอสังหาริมทรัพย์ของแอดดิสัน และแอชตัน แอดดิสันก็ดูแลกิจการค้าปลีกของตระกูลแอดดิสัน “ต๊าย!” คนที่สองกลับแย้งขึ้นมาอย่างไม่เห็นด้วย “แต่ฉันชอบเย็นชาอย่างเจ้านายเรามากกว่า” เจ้านายที่พูดถึงก็คือเอเดรียนซึ่งเป็นซีอีโอของแอดดิสันไฟแนนซ์เชียลนั่นเอง “ฉันว่าต้องดูร้ายๆ อย่างเอียนสิ” ทว่าเพื่อนคนแรกก็เถึยงอย่างไม่ยอมแพ้ “เวลาเขายิ้มนะมันดึงดูดออก” “ว่าแต่เธอล่ะปาหนัน เธอชอบผู้ชายแบบไหน?” แล้วหนึ่งในสามสาวก็วกมาถามเธอ “ฉันเหรอ อืม…” ปาหนันกะพริบตา ไม่คิดว่าเรื่องจะวกเข้ามาหาตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ตอบออกไปตามที่ตัวเองคิดเอาไว้ “ไม่รู้สิ แต่ที่แน่ๆ ฉันคงไม่ชอบพวกจอมมารในชุดสูทอย่างสามพี่น้องแอดดิสันเด็ดขาด พวกเขาร้ายกาจมากเกินไป ฉันคงตามไม่ทันหรอก ฉันขอคนธรรมดาก็พอแล้วล่ะ” ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นเจ้าชาย ทว่าแท้จริงแล้วอีกภาคหนึ่งของผู้ชายตระกูลแอดดิสันก็คือ ‘จอมมาร’ ดีๆ นี่เอง สื่อบางที่เหน็บแหนมพวกเขาว่าเป็น ‘จอมมารในชุดสูท’ หรือ ‘จอมมารในคราบของเจ้าชาย’ สุภาพ เรียบร้อย สง่างาม แต่ย่างกรายไปที่ใดพวกเขาต่างทำให้ผู้คนสั่นไหวด้วยความหวาดกลัว โดยเฉพาะเอเดรียน แอดดิสันที่ต่างรู้ดีว่าเขามีสไตล์การทำงานที่ไร้หัวใจมากเพียงใด อะไรที่กลืนกิน ควบรวมได้เอเดรียนทำทันที ไม่สนใจสิ่งอื่นใดนอกจากผลประโยชน์ของแอดดิสัน “เฮ้อ…” เพื่อนสาวทั้งสามคนพร้อมใจกันถอนหายใจใส่เธอในทันที “เธอก็จืดชืดพออยู่แล้วนะที่รัก ยังจะชอบคนจืดๆ อีกเหรอ!” หนึ่งในนั้นเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่ชอบใจนัก ปาหนันเป็นคนเดียวที่แต่งตัวทุกๆ อย่างได้ถูกต้องตามกฏระเบียบของบริษัทมากที่สุด! แถมแม่สาวไทยกลับชอบแต่งหน้าเบาบางเสียจนเรียกได้ว่าแทบไม่แต่งแต้มสีสันใดๆ ลงบนใบหน้าเลย แล้วไอ้แว่นสายตากรอบดำอันโตที่ชอบใส่เวลางานอีก โอย…นี่มันยุคสมัยไหนกัน แม่นี่ยังชอบทำตัวคร่ำครึจนไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีคนแบบนี้บนโลก! ถึงความฝันเฟื่องที่ว่าจะได้ครอบรักกับเจ้าชายของแอดดิสันไม่ใช่ความจริง แต่หนุ่มๆ ที่ทำงานในแอดดิสันต่างก็ดูดีทั้งนั้น! อย่างน้อยก็ควรเห็นแก่อนาคตตัวเองด้วยการทำตัวดีๆ แล้วสะดุดตาหนุ่มๆ พวกนั้นบ้างสิ! ปาหนันได้ยินเพื่อนค่อนขอดก็ทั้งฉุนทั้งขำ แต่ค่อนไปทางขำมากกว่า “คนธรรมดาสิ!” เธอแย้งขึ้นมา “ไม่ใช่คนจืดๆ” รักคนธรรมดาไม่ดีตรงไหน หรูหราเลิศเลอเกินไปน่าปวดหัวทั้งนั้นแหละ! “แต่ฟังแล้วยังไงมันก็คิดถึงแต่พวกจืดๆ แค่นั้นแหละ!” เพื่อนคนที่สองเอ่ยแย้งขึ้นมาอย่างไม่เห็นด้วยอยู่ดี ก่อนที่อีกฝ่ายจะหรี่ตาลง ฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วล้อเลียนเธอว่า “งั้นเธอคงจะชอบเยเกอร์ที่ทำงานฝ่ายไอทีสินะ หมอนั่นเขาสนใจเธอนี่” ปาหนันถึงกับสะดุ้งโหยงแล้วโบกมือว่อนไปมาปฏิเสธอย่างรวดเร็ว “ฉันไม่ได้ชอบใครทั้งนั้นแหละจ้ะ ฉันไม่มีแผนอยากจะแต่งงาน” เธอเพิ่งอายุยี่สิบสามย่างยี่สิบสี่ ทำงานได้ปีสองปี อะไรจะคิดเรื่องแต่งงานไวขนาดน้าน... พอได้ยินเธอปฏิเสธอย่างขึงขังแบบนั้น เพื่อนคนที่สองก็เปลี่ยนมานั่งข้างเธอ แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง ปาหนันเหลือบตามองไปทางประตูห้องประชุมใหญ่ด้วยความระแวงว่าเจ้านายจะโผล่มาแวบหนึ่ง เมื่อไม่เห็นก็โล่งใจ เพราะดูท่าเธอจะทำงานต่ออย่างจริงจังนี่ลำบากแล้ว ความอยากรู้อยากเห็นของคนเรานี่เอาชนะได้ทุกสิ่งจริงๆ! “ถามจริงๆ นะที่รัก เธอเคยคบใครไหม?” คำถามของอีกฝ่ายทำให้ปาหนันเกือบหลุดหัวเราะ ก่อนจะตอบว่า “ไม่” “เคยชอบใครหรือเปล่า” คราวนี้เธอส่ายหน้าอย่างระอา ก่อนจะตอบว่า “ก็ต้องเคยสิ” “นี่” เพื่อนคนที่สามซึ่งเงียบอยู่นานคงทนไม่ไหว จึงขัดทั้งคู่ขึ้นมาว่า “ทำไมไม่ถามปาหนันไปตรงๆ เลยล่ะว่าเธอน่ะเคยมีเซ็กซ์บ้างไหม” “เมแกน!” ปาหนันอุทานออกมาเสียงดังอย่างตกใจกับคำถามนั้น นั่นทำให้เพื่อนสาวคนแรกถึงกับปรบมือเข้าหากันพร้อมกับเอ่ยอย่างมั่นอกมั่นใจว่า “ไม่เคยชัวร์ๆ เลย ตายแล้ว! ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยนะว่าจะเจอกับสาวพรหมจารีย์แบบเธอน่ะปาหนัน!” ปาหนันหน้าแดงแปร๊ด ทั้งๆ ที่ไม่ใช่เรื่องน่าอายกับการที่เธอไม่เคยมีความสัมพันธ์กับใคร แต่การเอามาพูดอย่างหน้าตาเฉยอย่างนี้ ต่อให้เธอมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่อายุสิบสองก็ยังไม่ชินอยู่ดี “ก็ฉัน...” “นี่ๆ” ใครคนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเร่งเร้า “เลิกไล่ต้อนปาหนันได้แล้วล่ะน่า หัวหน้าเดินมาโน่นแล้ว ถ้าเขาเห็นเราอยู่ด้วยกันนานเกินไปต้องหาว่าเราอู้อีกแน่ๆ” “แยกย้ายๆ” สองสาวเอ่ยอย่างเสียดาย แต่ก็ยอมแยกไปแต่โดยดี ทว่าถึงอย่างนั้นพวกเธอก็ยังมิวายหัวมาถามปาหนันและคนอื่นๆ ในกลุ่มที่ค่อนข้างสนิทกันว่า “แต่เดี๋ยวเย็นนี้นัดกินข้าวเย็นด้วยกันนะ ห้ามปฏิเสธล่ะ?” “ต้องขอโทษด้วยนะ” ปาหนันเอ่ยขึ้น “แต่ฉันคงไปไม่ได้ ฉันต้องอยู่ทำโอทีต่อ งานฉันยังไม่เสร็จ” “โธ่ ปาหนัน…” ใครคนอื่นร้องครางอย่างเสียดาย เธอว่าไม่ได้เสียดายที่เธอไปไม่ได้ แต่เสียดายที่เธอไม่ได้ไปให้ซักไซ้ต่อต่างหาก …ขอบคุณโอทีช่วยชีวิตแท้ๆ “ขอให้สนุกกันนะ” ปาหนันอวยพรพลางยิ้มบาง ขณะที่เพื่อนสาวมองหน้าเธออย่างรู้ทัน “คราวหน้าเธอห้ามเบี้ยวด้วยนะ ไม่อย่างนั้นโกรธเธอจริงๆ ด้วย” “ได้เจนนี่” ปาหนันรับปากด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มบาง “ฉันไม่เบี้ยวเธอแน่ๆ” ๐๐๐๐
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD