“และแล้วก็มาถึงสุภาพบุรุษท่านที่เจ็ดในค่ำคืนนี้นะคะ หลังจากที่สถิติรายได้สูงสุดคือมิสเตอร์โคลตัน” เธอเอ่ยชื่อนักแสดงหนุ่มชื่อดังที่เพิ่งถูกประมูลไปก่อนหน้าเขาอย่างดุเดือด “…ที่จำนวนหนึ่งล้านเหรียญ ก็สมราคานะคะ ถ้าหากไม่ติดว่าฉันเป็นพิธีกรก็อยากจะประมูลพ่อหนุ่มซูเปอร์ฮีโร่คนนี้เหมือนกัน แค่เห็นกล้ามของเขาฉันก็อดใจไม่ไหวแล้วล่ะค่ะ ฮ่าๆ” เสียงหัวเราะของคนในงานดังร่วมไปกับเสียงหัวเราะของพิธีกรสาววัยห้าสิบผิวสี ซึ่งเป็นพิธีกรรายการชื่อดังของอเมริกาที่มีเรตติ้งรายการติดหนึ่งในสามรายการที่มีผู้ชมมากที่สุดและเมื่อเสียงหัวเราะจางลง เธอจึงเอ่ยต่อไปว่า “เอาละค่ะ ก็หวังว่าคราวนี้หนุ่มโสดสุดฮอตของเราคนนี้จะพอมีค่าตัวไปช่วยเหลือเด็กๆ ที่ยากไร้นะคะ เชิญมิสเตอร์เบรดฟอร์ดด้านหน้าเลยค่ะ”
ฟลินน์ก้าวตามมาอยู่ข้างกายพิธีกรสาว ตอนนี้รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเป็นสัตว์ในกรงที่ให้คนเบื้องล่างรับชม และประเมินเขา ตีราคาของเขาอย่างไรอย่างนั้น
ฟลินน์มองสีหน้ากระเหี้ยนกระหือรือของพวกสาวๆ ด้านล่าง การต่อสู้ที่ดุเดือดของเหล่าสาวๆ กระเป๋าเงินหนานั้นทำให้เขาเริ่มรู้สึกขนลุกอย่างระงับไม่อยู่ รู้อย่างนี้เขาควรจะแข็งข้อแล้วบริจาคเงินสักล้านเพื่อตัดปัญหา ไม่ใช่ทำเป็นท้าทายกรินเดลแล้วเอาตัวเองขึ้นมาเสี่ยงกับเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้
หลังจากที่บรรยายศัพท์คุณของเขาราวกับกำลังขายสินค้าอะไรสักอย่างในทีวีไดเร็กซ์ สาวๆ พวกนี้ก็เริ่มประมูลตัวเขาอย่างรวดเร็วจน
ฟลินน์เองยังตกใจ ที่มากกว่านั้นหลายคนมีสีหน้าอยากได้เขาอย่างชัดเจน เพราะในจำนวนนั้นคือสาวๆ ที่เขาหักอกพวกเธอไปทั้งสิ้น!
“หนึ่งแสนดอลล่าร์ค่ะ”
“หนึ่งแสนสองหมื่น”
“หนึ่งแสนห้าหมื่น”
“สองแสน”
“สองแสนสี่”
“สองแสนแปด”
“สามแสนสอง”
“ห้าแสนค่ะ”
ไม่ถึงสิบนาทีค่าตัวของฟลินน์ก็ทะลุไปถึงห้าแสนดอลล่าร์ ชายหนุ่มนึกอยากจะตะโกนบอกให้หยุดแล้วเขายอมจ่ายเป็นสองเท่า ตอนนี้เองดูเหมือนหลายคนจะลังเลเพราะมันเป็นตัวเลขที่สูง พิธีกรสาวเห็นอย่างนั้นจึงเริ่มนับถอยหลัง
“ห้าแสนครั้งที่หนึ่ง...ห้าแสนครั้งที่สอง”
“หกแสนค่ะ”
ใครคนหนึ่งตะโกนขึ้นพร้อมกับชูป้ายที่ใช้สำหรับการประมูลไปต่อ ฟลินน์ถึงกับแอบสบถในใจเมื่อดูท่าว่าเขาจะไม่ได้ลงจากเวทีนี้ง่ายๆ แต่การที่ใครบางคนอัพค่าตัวของเขาขึ้นมาอีกหนึ่งแสนก็ทำให้เป็นที่ฮือฮาพอสมควร
“หกแสนดอลล่าร์แล้วนะคะ”
พิธีกรสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ทว่าก่อนที่เจ้าหล่อนจะเริ่มนับถอยหลังเพื่อยุติการประมูลที่ฟลินน์อยากให้มันจบไปโดยไว กลับมีใครบางคนเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง
“หกแสนห้าหมื่นค่ะ”
เสียงฮือฮาดังไปทั่ว เพราะนี่ถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงติดหนึ่งในห้าของคนที่ได้รับการประมูลสูงสุด พิธีกรสาวเองก็มีท่าทางตื่นเต้นไม่แพ้กัน จากนั้นเมื่อไม่มีใครเสนอราคาแข่งต่อมา เธอจึงเอ่ยต่อไปอย่างรวดเร็วว่า
“หกแสนห้าครั้งที่หนึ่ง...หกแสนห้าครั้งที่สอง...หกแสนห้าครั้งที่สาม มิสเตอร์เบรดฟอร์ดได้รับการประมูลในราคาหกแสนห้าหมื่นดอลลาร์ค่ะ ขอเชิญคุณสุภาพสตรีขึ้นมาบนเวทีด้วยนะคะ”
เจ้าหล่อนเอ่ยด้วยท่าทีตื่นเต้น และตอนนั้นเองเจ้าของมือที่ถือป้ายประมูลก็ค่อยๆ เคลื่อนกายมาปรากฏที่ด้านหน้า ก้าวขึ้นบนเวทีตาม
ที่พิธีกรสาวเชื้อเชิญ
ฟลินน์ไล่มองร่างโปร่งของหญิงสาวคนนั้น เธอมีผิวขาวเหลืองแบบเอเชีย เส้นผมสีน้ำตาลเข้ม รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น ชุดที่สวมใส่เน้นส่วนโค้งเว้าและขับเน้นความเป็นผู้หญิง ฟลินน์ไล้โลมสายตาจากสะโพกผายของเธอขึ้นไปยังทรวงอกอิ่มที่ดูกระทัดรัดสำหรับเขา ลำคอเรียวยาวของดูราวกับนางหงส์ที่เชิดหยิ่ง ทว่าเมื่อดูใบหน้านั้นเขาก็ต้องเบิกตากว้างอย่างเก็บอาการไม่อยู่ ความชื่นชมที่มีเพียงน้อยนิดเมื่อครู่หายวับไปในอากาศ
ยายกระดานมาทำบ้าอะไรที่นี่วะ!
ทว่ายังไม่ทันได้เอ่ยอะไรออกมาสักคำ หญิงสาวที่แม้จะใส่ส้นสูงก็สูงเลยปลายคางของเขาขึ้นมานิดหน่อยก็มาหยุดอยู่ข้างๆ โดยมีพิธีกรสาวยืนถัดไปจากเจ้าหล่อน แล้วเอ่ยสัมภาษณ์ด้วยท่าทีตื่นเต้น
“เอาละค่ะ สำหรับหญิงสาวที่จะได้รับเดตสุดพิเศษ อยากทราบว่าทำไมคุณถึงเลือกประมูลมิสเตอร์เบรดฟอร์ดด้วยมูลค่าสูงถึงหกแสนห้าหมื่นดอลล่าร์คะ ค่าตัวของเขาถือเป็นลำดับที่สามเลยทีเดียว”
คำถามนั้นทำให้ผู้คนในงานอดหัวเราะไม่ได้ ฟลินน์มีชื่อเสียงเป็นอย่างไร ฉาวโฉ่ร้ายกาจแค่ไหน และเป็นเสือผู้หญิงตัวฉกาจเพียงใด การประมูลคนอื่นอาจจะจบลงที่โต๊ะดินเนอร์สุดประทับใจและแสนจะโรแมนติก แต่กับฟลินน์สาวๆ มักจะอยากลากเขาขึ้นไปบนเตียง เจ้าหล่อนประมูลเขาอย่างเปิดเผยเช่นนี้ ไม่เป็นคู่กรณีเก่ากันมาก่อน ก็อาจจะเป็นคนที่อยากได้เขาบนเตียง นั่นคือสิ่งที่ใครๆ ก็รับรู้กันอยู่แก่ใจ
ทว่าถึงอย่างนั้นการประมูลฟลินน์สูงถึงหกแสนห้าหมื่นดอลล่าร์ก็ถือว่าเป็นค่าตัวที่สูงมากกว่าที่ประเมินกันเอาไว้เสียอีก
เจ้าหล่อนยิ้ม ดวงหน้าเรียวรูปไข่นั้นดูเปล่งประกาย เธอปรายตามองมาทางเขาแวบหนึ่ง เขาเห็นประกายขบขันในดวงตาสีน้ำตาลใสคู่นั้น ฟลินน์ขยับตัวหมายจะลากเธอให้ลงไปจากเวทีด้วยกัน ไม่ให้เธอตอบอะไรให้เขาขายหน้าอย่างที่นึกสังหรณ์ แต่กลับไม่ทันเสียแล้ว เมื่อเธอแย้มยิ้ม รับไมค์มาถือไว้ในมือเล็ก กุมมันเอาไว้ด้วยปลายนิ้วเรียวสวยราวกับลำเทียนของเธอ ก่อนจะตอบพิธีกรสาววัยกลางคนว่า
“ฉันมีเหตุผลสั้นๆ สองสามข้อค่ะ”
“โอ้ จริงเหรอคะ” พิธีกรสาวทำเสียงตื่นเต้น “ฉันคิดว่าคนในงานก็คงอยากจะรู้เหมือนกันนะคะ”
นอกจากเธอแล้ว คนในงานรวมถึงนักข่าวทุกคนก็อยากรู้ด้วยเช่นเดียวกัน ว่าสาวสวยแปลกหน้าคนนี้เป็นใคร เหตุใดจึงทุ่มเทเงินทองมากมายเช่นนี้ประมูลผู้ชายที่มีชื่อเสียที่สุดคนนี้ไป
“ข้อแรก เขาหล่อค่ะ”
คำตอบของมาริสาสร้างเสียงหัวเราะให้คนอื่น ปกติฟลินน์เองถูกชมมามากกว่าล้านครั้งแล้วว่าเขาหล่อ ทุกครั้งเขาพึงพอใจ ทว่าไม่ใช่ครั้งนี้...
ยายกระดานโต้คลื่นนี่ต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่ๆ ...
“จริงค่ะ อันนี้ฉันเห็นด้วย แต่คนอื่นๆ ก็หล่อนะคะ” พิธีกรสาวยังไม่หยุดซักไซ้ และดูเหมือนเธอจะให้ความสนใจในตัวฟลินน์เป็นพิเศษ
แน่ล่ะว่าฟลินน์รู้ว่าเขาคือคนพิเศษ แต่ตอนนี้เขาไม่ต้องการรู้เหตุผลบ้าบอห่าเหวอะไรจากยายกระดานโต้คลื่นนี่!
เขาขยับตัว คิดจะยอมเสี่ยงฉีกหน้าตัวเองแล้วลากยายกระดานลงไปด้วยกันหรือจะทนฟังเธอตอบคำถามหายนะพวกนี้ต่อไปดี เพราะมัวแต่คิดเขาก็ไม่ทันเสียแล้ว...
“ข้อสองเขาดูร้อนแรง ร้ายกาจ แล้วฉันก็ชอบผู้ชายแบบเขาค่ะ”
คำตอบต่อมายิ่งสร้างเสียงหัวเราะให้คนในงานมากขึ้น หลายคนดูจะชอบใจในความกล้าของเธอ ทว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ที่พลาดไปกลับสาดสายตาชิงชังให้เธอแทน
“โอ๊ะ!” พิธีกรสาวผิวสีอุทานกลั้วหัวเราะ “ฉันเข้าใจคุณเลยค่ะ” เป็นที่รู้กันดีว่าใครๆ ก็จดจำเซ็กซ์เทปสุดร้อนแรงของฟลินน์ได้แม่นยำ “แล้วข้อสุดท้ายละคะ” เธอถามต่ออย่างกระตือรือร้น
รอยยิ้มแบบปีศาจเหมือนวันนั้นผุดพรายบนเรียวปากสีสดของยายกระดาน ฟลินน์ฉวยข้อมือเธอบีบแน่นเป็นเชิงปราม แต่เธอไม่สนใจสักนิด กลับเอ่ยต่อไปอย่างรวดเร็วว่า
“ก็…พูดว่ายังไงดีละค่ะ ฉันเป็นคนขี้หึงค่ะ”
“เอ๋…”
คราวนี้สีหน้าแปลกใจปรากฏขึ้นบนดวงหน้าของพิธีกรสาว แทบจะเห็นเครื่องหมายเควสชั่นมาร์กแปะอยู่บนหน้าผากของเธอ
ฟลินน์เห็นลางหายนะของตนเองมารำไร เขาออกแรงดึงแต่หญิงสาวขืนตัวเองไว้ และตอนนั้นเองที่เธอพูดใส่ไมค์ในมือเสียงดังฟังชัด ดังก้องไปทั่วทั้งห้องที่กำลังบรรจุคนกว่าหนึ่งพันคนว่า
“ฉันเป็น ‘แฟน’ ของเขาค่ะ เลยทนไม่ได้ที่จะเห็นแฟนหนุ่มของตัวเองไปเดตกับใคร ถึงจะเป็นเพราะการกุศลก็เถอะ ฉันรับไม่ได้จริงๆ ค่ะ เลยต้องยอมทุ่มหน้าตักหมดตัวเพื่อเขา นี่บอกตามตรงว่าเกินงบนะคะ จริงๆ ค่าตัวฟลินน์ควรจะได้สูงสุดแค่สองแสนเท่านั้นละค่ะ ขอบคุณค่ะ”
เอ่ยจบเธอก็ยื่นไมค์คืนให้กับเจ้าหน้าที่บนเวทีที่รีบวิ่งขึ้นมารับอย่างว่องไว
ฟลินน์ตัวแข็งค้าง ถลึงตามองเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลใสของยายกระดานแล้วพูดไม่ออก ความโกรธแผ่ขยายอยู่ภายใต้อกผึ่งผายของเขาจนแทบจะระเบิด
“ว้าววว” เสียงอุทานดังลั่นมาจากพิธีกรสาวผิวสี ประสานไปกับเสียงของอีกหลายคนที่ดังขึ้น และนักข่าวซึ่งระดมถ่ายรูปของเขาเหมือน
กับเขาเป็นสัตว์หายาก! “มิสเตอร์เบรดฟอร์ด คุณไม่โสดแล้วนี่คะ!”
ฟลินน์จ้องมองยายผู้หญิงบ้าตรงหน้าตาวาว ในใจได้แต่สบถอย่างหยาบคายยาวเหยียดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้
ยาย-โรค-จิต!
กล้ามารังควานเขาถึงที่นี่เลยเหรอ!