ฉันมองตัวเองผ่านกระจกใส ก่อนที่คำถามจะผุดขึ้นมาในใจ ฉันไม่ดีตรงไหน หรือผู้หญิงคนนั้นมันมีดีกว่าฉันยังไง ทำไมผู้ชายที่ฉันคบหามาหลายปี ถึงกล้าที่จะสวมเขาให้กัน โดยการหันไปคั่วกับผู้หญิงคนนั้นตั้งหลายต่อหลายที
มันหลายทีจนเกินอภัย และครั้งนี้ ฉันตั้งใจ ยังไงก็ไม่ยอมอภัยแน่ๆ!
ฉันแต่งแต้มเครื่องสำอางบนใบหน้าจนเป็นที่พอใจ ก่อนจะคว้ากระเป๋ามาสะพายและตรงไปที่ประตู
ฉัน : ตอง..
ฉันมองเพื่อนชาย ที่สนิทมากกว่าใครๆภายในกลุ่ม ความแปลกใจค่อยๆคลายออกไป เมื่อเจ้าของชื่อโชว์กุญแจที่อยู่ในมือในระยะใกล้ ฉันจึงเข้าใจในการมาของมันทันที
ฉัน : เมื่อคืนกูรบกวนมึงอีกแล้วสิ
ไอ้ตองไม่ยอมตอบอะไร มันเพียงแค่ปลายตามองกายของฉันผ่านๆ ก่อนที่มันจะเมินหน้าหนีเหมือนรำคาญ
ฉัน : ขอบคุณนะ
ฉันพูดขึ้นใหม่ แต่ถึงอย่างนั้น คนฟังก็ยังไม่สนใจ ฉันรู้ดี ว่าอาการที่เพื่อนฉันคนนี้เป็น มันคือการงอน!
ยังจำได้ ว่ามันเคยบ่นเรื่องเหล้ากับฉันจนนับครั้งไม่ได้ มันบอกเสมอ ว่าการดื่มเหล้า ไม่ได้ช่วยคลายให้ความเศร้าหายไป แต่ฉันกลับไม่เคยได้เก็บคำพูดของมันมาใส่ใจ
ไอ้ตองเดินนำออกมา ในขณะที่ฉันก้าวขาเดินตามต้อยๆ
งอนทำไมนักหนา ปกติฉันก็เคยเมาแบบไม่เป็นท่า ตัวมันเอง ก็คอยหิ้วฉันกลับเสมอมา ทำไมครั้งนี้มันทำให้เป็นปัญหา โกรธเหมือนฉันเป็นแฟนมันอย่างนั้นล่ะ
ฉัน : หิวข้าวอ่ะ เลี้ยงข้าวทีดิ
ฉันอ้อนเพื่อนสนิทผ่านทางสายตา แต่ทว่าพลขับข้างกาย กลับไม่หันมาใส่ใจอะไรฉันเลย มันเอาแต่มองไปข้างหน้า ตั้งใจในการขับรถอะไรนักหนา ทั้งๆที่ฉันก็เห็น ว่ามันไม่ได้ขับเร็วอะไรเลย
แล้วก่อนที่ฉันจะได้พูดอะไรต่อไป เสียงสมาร์ทโฟนที่อยู่ในมือ ก็ส่งเสียงขัดจังหวะเข้ามาพอดี แต่ทว่า สิ่งนี้มันกลับเรียกความสนใจจากคนข้างกายของฉันได้เป็นอย่างดี
ไอ้ตองจ้องมองมาที่มือถือของฉัน ในจังหวะต่อมา ฉันก็ตัดสายนั้นทิ้งทันที และตัวไอ้ตองเอง ก็เมินฉันทันทีเช่นเดียวกัน
นี่ฉันกำลังตกอยู่ในสถานะอะไร!
แฟนห่วยๆที่กล้านอกใจ ส่งไลน์มาง้อฉันแบบเอาเป็นเอาตาย และพยายามต่อสายมาหาฉันสายแทบไหม้ จนตัวฉันเกิดความรำคาญใจ
'กินอีนั่นจนอิ่มหน่ำ ก่อนจะมองเห็นว่าฉันสำคัญ'
และในขณะที่เพื่อนสนิทของฉันนั้น มันงอนอย่างกับฉันเป็นเมียของมัน!
เมื่อรถแล่นเข้าสู่รั้วมหาลัย ไอ้ตองมันก็รีบก้าวขาลงจากรถไปทันที และฉันก็มีหน้าที่เดินตามมันอีกอย่างเคย!
ฉัน : ไอ้ตอง...
เสียงของฉันค้างกลางอากาศ เมื่อเห็นว่าคนที่ฉันร้องเรียก กำลังยืนคุยอยู่กับใคร
เด็กกว่า หน้าตาดี ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร!
เธอยื่นถุงอะไรบางอย่างมาให้ ไอ้ตองรีบรับเอาไว้ ก่อนที่มันจะพูดอะไรสักอย่าง แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ยิ้มกว้างออกมา
ฉันทิ้งกายลงบนโต๊ะม้าหินอ่อนใกล้ๆ ก่อนจะปลายตาไปมอง ว่าสิ่งของที่ไอ้ตองรับมาจากผู้หญิงคนนั้นคืออะไร
กลิ่นหอมที่ยั่วน้ำลาย และสีสันที่ตกแต่งมาอย่างน่าประทับจับใจ ทำให้ฉันเผลอห่อปากออกมาทันที
ฉัน : หูววว ข้าวผัด...
ไอ้ตองตักข้าวเข้าปากโดยไม่สนใจอะไรฉัน ฉันเลยตีหน้ามึนโดยการจ้องมองมันกินอยู่อย่างนั้น จนมันเหล่สายตามามอง
ฉัน : หิว...
ฉันบอกตาละห้อย และทำทีเป็นกลืนน้ำลาย เพื่อสร้างความน่าสงสารต่อหน้าคนที่เป็นเพื่อนกัน
ตอง : กูนึกว่ามึงจะกินเป็นแค่เหล้า!
มันลั่นคำถากถางเข้าใส่ และสมาร์ทที่อยู่ใกล้ๆ ก็ส่งเสียงร้องขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่วันนี้ฉันตัดสายทิ้งไปหลายที
ตอง : ผู้ชายมีคนเดียวในโลกรึไงวะ เสียดายทำไมนักหนา!
มันชักสีหน้าใส่ ก่อนจะเลื่อนสายตาไปหาสมาร์ทโฟน และชำเลืองสายตามามองฉันอีกครั้ง
ฉัน : ใครว่ากูเสียดาย!
ฉันยืนยันคำพูดด้วยการปิดเครื่องใส่ จากนั้นก็ยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ๆ
ฉัน : ข้าวผัดของมึง ยังน่าสนใจกว่าเลย!
และฉันก็ยืนยันคำพูดอีกครั้ง โดยการแย่งข้าวกล่องตรงหน้าของมัน และลงมือรับประทานโดยทันที
ฉัน : แย่งมึงกินแล้วอร่อยดี ยอมให้กูแย่งแบบนี้ไปตลอดเลยนะ
ฉันยิ้มกว้าง ในขณะที่เพื่อนของฉันนั้นก็กระตุกยิ้มบางๆ
ตอง : เป็นเมียกูรึไงวะ แย่งข้าวกูกินอยู่ได้!
ฉัน : เมียบ้าอะไร เมียน้อยงั้นสิ เห็นๆกันอยู่ ว่าเมียเด็กของมึงหิ้วข้าวมาส่ง!
ฉันเชิดหน้าเข้าใส่ หน้าอย่างฉัน ไม่มีวันซะล่ะ ที่จะยอมเป็นเมียน้อยใคร
ตอง : มั่วฉิบหาย อย่างกู ถ้าจะมีเมีย กูมีเมียเดียวโว้ย!
มันใช้นิ้วจิ้มลงมาที่หน้าผากของฉันแรงๆ ก่อนที่มันจะเมินหน้าหนีไป พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าที่ผุดขึ้นมาใหม่
ที่บอกว่าจะมีเมียเดียว คือมันไม่เอาฉัน หรือว่ามันมั่นคงกับเด็กนั่น!
แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่เคยแสดงออก ว่ามันมีใคร ยิ้มแต่ละที ผู้หญิงงี้ก็แทบจะละลาย แล้วทำไมมันยังไม่มีใคร!