เห็นกับตา

1001 Words
ไม่มีคำพูดใด ดังออกมาจากปากของคนที่พึ่ง 'ผลักไส' ไม่มีคำตอบ ของคำถาม ที่ฉันพึ่งถามออกไป และฉันก็ไม่ได้หน้าด้านหน้าทน พอที่จะทนยืนต่อไปได้ ในเมื่อการที่ฉันยังไม่ชัดเจนในเรื่องของการตัดสินใจ มันส่งผลให้มันมีคนใหม่ ฉันก็ไม่รู้จะพูดยังไง ขนาดมันเอ่ยปาก ว่า 'รักฉันหมดใจ' มันยังทำแบบนี้ได้ มันคงไม่แปลก ถ้าฉันจะเลิกเชื่อใจในน้ำคำของผู้ชาย! ฉันเงยหน้า เพื่อสบตากับมันใหม่ แล้วน้ำตาที่ฉันพึ่งจะปาดออกไป มันก็ไหลออกมาใหม่ทันที ตอง : กูต้องไปส่งไหม! ประโยคที่ฉันได้ยินออกจะบ่อยไป แต่วินาทีนี้ ความหมายของมันที่อยู่ในใจฉัน มันไม่เหมือนเดิมเลย มันอาจจะแค่อยากไล่ หาใช่อยากไปส่งซะเมื่อไหร่! และฉันก็เลือกที่จะเดินออกไป โดยไม่พูดอะไรสักคำ! เจ็บดีไหม! เป็นเพื่อนกัน ทะเลาะแค่ไหน มันก็คงไม่โกรธจนไม่สามารถมองหน้ากันได้! และพอสถานะมันเลื่อนขั้นขึ้นไป ฉันควรปฏิบัติกับมันแบบไหน หรือควรนิ่งเฉยแบบไม่เคยมีอะไร! ฉันกลับมาที่ห้องของตัวเองด้วยสภาพที่แย่จนรู้สึกได้ คราบน้ำตามันยังทิ้งร่องรอยไว้ให้ รวมไปถึงร่องรอยบนลำคอที่เมื่อคืนมันเผลอทำทิ้งไว้ พอมองชัดๆผ่านกระจกใส ฉันก็นึกถึงร่องรอยที่อยู่บนลำคอผู้หญิงคนนั้นอย่างอดไม่ได้ และฉันคงไม่จุกในอกแบบนี้ ถ้าไม่รู้ว่าคนที่ทำ มันคือผู้ชายคนเดียวกัน! ฉันตัดสินใจลบเบอร์บล็อคไลน์ และเอาตัวเองออกจากกลุ่มที่ตัวเองเป็นคนสร้างไว้ เพื่อคุยกันเฉพาะเพื่อนในกลุ่มเท่านั้น และทันทีที่ฉันลงมือทำ เพื่อนที่สนิทกันก็โทรเข้ามาทันที (ลบตัวเองออกจากแชตกลุ่มทำไมวะ หรือมึงโกรธที่ไอ้ตองเห็นแชตนั้นในมือถือกู) แตงโมถามเร็วๆเหมือนคนร้อนใจ แต่เรื่องนั้นมันใช่ความผิดของแตงโมซะเมื่อไหร่ ฉัน : ช่างเถอะ กูเลิกกับมันละ! (แสดงว่ามึงก็รู้แล้วใช่ป่ะ!) คำถามสั้นๆ แต่ทว่าพอได้ยิน ทำไมมันถึงรู้สึกใจหาย มันจุกลึกๆในใจ แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ต้องยอมรับความจริงให้ได้ ฉัน : เรื่องที่มันเอาผู้หญิงไปนอนที่ห้องอ่ะหรอ! (มึงไปฟังใครมา) ปลายสายร้องถามออกมาทันที และฉันก็กล้าพอที่จะตอกย้ำความช้ำด้วยน้ำคำของตัวเอง ฉัน : กูเห็นกับตา! ทันทีที่พูดออกมา ขอบตาก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งฉันจำไม่ได้ ว่ากี่ครั้งที่ฉันนั่งร้องไห้ กี่ครััง ที่ฉันก็รีบเช็ดมันออกไป (แม่งเอ้ย ทำไมเป็นแบบนี้วะ ไอ้ตองแม่งก็ไม่รู้อะไร คนที่พึ่งรู้จักกัน มันก็เอาเข้าห้องซะได้ กูจะไปคุยกับมันให้เข้าใจ) ฉัน : มันเลือกของมันเอง ไม่ว่ามึงหรือใคร ก็ไปเปลี่ยนความจริงไม่ได้! เพื่อนที่เหมือนจะใจร้าย ถือสายเพื่อปลอบใจ ไม่ยอมห่างไปไหน มันไม่ได้เอ่ยโทษ ว่าเป็นความผิดของใคร และมันก็ขอร้อง ให้ฉันทำในสิ่งที่เพื่อนในกลุ่มอยากได้ คือการ 'เป็นเพื่อนกันต่อไป' ตลกดีใช่ไหม ตอนเป็นเพื่อน มันก็อยากเลื่อนสถานะขึ้นไป พอฉันยอมรับสถานะที่มันอยากได้ สถานะก็เปลี่ยนได้ง่ายๆโดยไม่ทันได้ตั้งตัว! ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใด ในความเป็นจริง ทุกสิ่งก็ต้องเดินหน้าต่อไป ฉันเลี่ยงการมาเรียนไม่ได้ เช่นเดียวกับการที่ต้องเจอหน้ามันต่อไป ทั้งๆที่พยายามจะไม่สนใจ แต่ฉันก็รู้อย่างไม่ได้ตั้งใจ ว่าวันนี้ไอ้ตองมาเรียนสาย บอย : รีบหรอวะ คำถามของเพื่อนที่เอ่ยถามออกมา เรียกสายตาของฉันให้หันไปมองคนมาใหม่อย่างอดไม่ได้ และสายตาของเราก็สบประสานอย่างไม่ได้ตั้งใจ แล้วก็เป็นฉัน ที่รีบโฟกัสสายตาไปที่จุดใหม่ ฉัน : กูหิวว่ะ ขอไปโรงอาหารก่อนนะ ฉันบอกให้ทุกคนเข้าใจ และเลือกที่จะเล็งสายตาไปที่แตงโม แตงโม : ไปด้วย หิวเหมือนกัน แตงโมรวบหนังสือรวมกันไว้ จากนั้นมันก็คว้ากระเป๋าสะพาย ก่อนที่เราจะเดินออกไปพร้อมกัน มือของเพื่อนเคลื่อนมาจับมือของฉันเอาไว้ และสายตาของฉันก็เลื่อนไปหามันโดยปริยาย แตงโม : มันมีคนใหม่ แต่กูกลับขอให้มึงเป็นเพื่อนกับมันต่อไป มึงโอเคใช่ไหม ฉันยิ้มให้ เพราะไม่อยากจะตอบอะไร... แตงโม : ขอโทษนะมึง กูไม่อยากโทษใคร ถ้ามึงไม่ไหว บอกกูนะ ฉันพยักหน้าให้ และเลือกที่จะไม่พูดอะไรเหมือนเดิม ไม่อยากเปิดปากเพื่อออกเสียงเท่าไหร่ กลัวกลั้นเสียงไม่ให้สั่นไม่ได้! แตงโม : กินไรดี ก๋วยเตี๋ยวไหม เส้นเล็กน้ำตกของโปรดมึงไง! เพื่อนสาวถามไถ่ และมันก็คงจะดี ถ้าสิ่งที่ฉันชอบ ไม่ได้ตรงกับของโปรดของใคร ฉัน : ไม่ล่ะ กูอยากกินนมมากกว่า! ฉันบอก ก่อนจะเลี่ยงออกมา และไม่คิดไม่ฝัน ว่าจะเลี่ยงออกมา ทางเดียวกับใครอีกคนเหมือนกัน... แต่มันไม่ได้ยืนคนเดียวแบบที่ฉันเข้าใจ เพราะมันยืนคนเดียวได้ไม่เท่าไหร่ ผู้หญิงที่อยู่กับมันในวันนั้น ก็เดินยิ้มเข้ามาหา และท่าทีที่มันแสดงกลับไป คือยิ้มให้เหมือนกัน และสิ่งที่ฉันควรเลือกทำ คือการหันหลังกลับไปที่เดิม!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD