EP.2

1722 Words
(หลิว) สองเดือนก่อน 9.26 AM. "ร้านนี้โอเคสุดแล้วใช่ป่ะเนี่ย?" "อืม โอเคเลยนะไม่ค่อยแพงเท่าไหร่ซื้อขาดได้ด้วยชั้นสองทำเป็นห้องนอนได้" "ไม่ใช่ว่าต้องรีโนเวทเยอะนะ" "มันก็ต้องเยอะอยู่แล้วสิแป้งพูดอะไรแปลกๆ" ฉันหัวเราะขำแป้งเพื่อนของตัวเองที่เข้ามาดูร้านช่วย จริงๆตึกนี้ฉันกะจะทำเป็นบ้านเลยแหละ ชั้นล่างทำเป็นร้านเบเกอรี่ส่วนชั้นสองทำเป็นห้องนอน "หาใหม่ไหมจริงๆกูหาให้ได้ดีกว่าตรงนี้นะ เอาใกล้มหาลัยกว่านี้ยังได้" "เอาตรงนี้แหละพอดีแล้ว มีทั้งที่บริษัทกับโรงบาลอยู่ใกล้ๆอีกอย่างกลุ่มลูกค้าที่หลิวคิดไว้ว่าน่าจะแวะมาบ่อยคงเป็นวัยทำงานซะส่วนใหญ่" "ก็จริง ขนมราคานี้เด็กๆไม่น่ามากินซ้ำ" "คุณภาพไหมเล่า" "เรื่องคุณภาพมันก็มีมาตรฐานอยู่แล้วแหละ แต่กูล่ะกลัวคนอื่นๆไม่คิดแบบนี้ไง" "ก็ต้องทำให้มันดี" "โอเค ยังไงซะกูก็โน้มน้าวจิตใจมึงไม่ได้อยู่แล้ว" ฉันหัวเราะออกมาอีกครั้งหลังแป้งตัดพ้อออกมาแบบนั้น และแน่นอนว่าการที่ฉันตัดสินใจเปิดร้านเบเกอรี่หลังกลับมาจากต่างประเทศมันเป็นอะไรที่สิ้นคิดมาก แต่มันเป็นสิ่งที่ฉันอยากทำมาตั้งนานแล้ว "แล้วทุกอย่างโอเครึยัง พวกเอกสารการหย่าน่ะ" แป้งเดินมานั่งบนเก้าอี้ตรงข้ามกับฉันก่อนจะเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "เรียบร้อยทุกอย่างแล้วทั้งเรื่องทรัพย์สินแล้วก็หุ้นที่ถือร่วมกัน" "แล้วมันยังโทรมาไหม?" "ไม่รู้สิหลังจากเคลียร์ทุกอย่างจบหลิวก็บล็อกไปทุกช่องทางเลย มาไทยก็เพิ่งเปลี่ยนเบอร์ไป" "ดีตัดมันขาดสักที เดี๋ยวแกเคลียร์เรื่องร้านอยู่ตัวแล้วกูจะพาไปรดน้ำมนต์" "โอ๊ยก็ว่าเกินไป" "ถึงมึงจะไม่เชื่อเรื่องคู่เวรคู่กรรมแต่กูเชื่อนะ แบบคบกับมันชีวิตมึงจมดิ่งสุดนี่ดีแค่ไหนแล้วที่มึงไม่ต้องเพิ่งยาเพื่อรักษา" "ก็เพราะเรามีเพื่อนเป็นที่ปรึกษาดีแถมยังเป็นจิตแพทย์ด้วยนี่ไง" ฉันยิ้มให้แป้งด้วยความซึ้งใจ และถึงแป้งจะดูเชื่อในสิ่งลี้ลับแต่จริงๆแล้วเธอเป็นจิตแพทย์ที่เป็นที่ปรึกษาที่ดีสุดๆของฉันเลยนะ ถ้าไม่ได้แป้งฉันคงไม่รอดจากโรคซึมเศร้าแน่ "เอาเถอะยังไงซะกูก็จะพามึงไปรดน้ำมนต์ล้างซวยแต่ตอนนี้ต้องไปเข้าเวรแล้ว" "จ้า อย่าลืมเอาขนมไปด้วย" "เค ไว้เจอกันนะสาวโสด" "ฮ่าๆ โอเค" ฉันเดินมาออกมาส่งแป้งที่หน้าที่อยู่ใหม่ของตัวเองก่อนจะหันมองร้านด้านหลังที่ตอนนี้ยังเป็นร้านอาหารเก่าอยู่ เดี๋ยวอีกสักหน่อยจะมีนักออกแบบภายในมาดูร้านให้อีกครั้งก่อนการรีโนเวทฉันจึงใช้เวลาว่างที่มีอยู่ขึ้นมาจัดของที่ชั้นสองแทน จริงๆตึกนี้มีสามชั้นนะแต่ชั้นสามเป็นดาดฟ้าที่ฉันยังไม่แน่ใจว่าจะทำอะไร กะว่าจะปลุกผักก็กลัวจะตายเพราะแดดประเทศไทยมันแรงเหลือเกิน "โอเคอยู่นะเนี่ย" จริงๆวันนี้เป็นวันที่สองหลังย้ายของเข้ามาอยู่ที่ตึกนี้ฉันเลยยังไม่ได้จัดอะไรมาก แต่ตอนนี้จัดไปได้ครึ่งแล้วแหละ มันก็นานแล้วที่ไม่ได้กลับมาที่ไทยหลังจากแต่งงานก็ย้ายตามสามีเก่าไปอยู่กับเขาที่อเมริกาเลยจนกระทั่งเมื่อสามเดือนก่อนที่ฟ้องหย่ากับเขานั่นแหละฉันถึงเลือกที่จะย้ายกลับมาบ้านเกิดตัวเอง เพราะอยากเริ่มต้นใหม่และตัดขาดจากเขา เราจบกันไม่ดีเท่าไหร่ และฉันไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องของเขาอีก เพราะตอนนี้ฉันจะเริ่มต้นชีวิตตัวเองใหม่แล้ว ปัจจุบัน 6.26 pm. "ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เจอโปรดอีกครั้ง" "ผมก็ไม่คิดว่าจะได้เจอหลิวเหมือนกันครับ นึกว่าจะไม่กลับไทยแล้ว" ฉันยิ้มให้น้องโปรดเด็กที่เคยรู้จักเมื่อหลายปีก่อน ตอนเจอกันครั้งแรกโปรดอายุสิบหกปีเองแต่ดูตอนนี้สิ โตเป็นหนุ่มซะแล้ว "แล้วหลิวกลับมาที่นี่นานยังครับ ถามได้ไหม?" "ถามได้สิ พี่กลับมาเมื่อสองสามเดือนก่อนแล้วก็มาเปิดร้านเบเกอรี่ที่นี่นี่แหละ" "ดีจัง บ้านผมเดินเข้าไปในซอยนี้เอง" "เหรอ บังเอิญจังแล้วทำไมถึงมาอยู่แถวนี้แทนที่จะเป็นหอพักล่ะ?" โปรดวางแก้วน้ำที่เพิ่งยกดื่มลงบนโต๊ะก่อนจะยิ้มให้ฉันบางๆ "พอดีผมไม่ชอบความวุ่นวายน่ะครับ แถวนั้นมีแต่คนที่อายุเท่ากันพวกเขาเสียงดังไปหน่อย" "อ่อ ชอบความสงบสินะงั้นก็ดีเลยสิจะได้แวะมากินขนมกับพี่บ่อยๆ" "จริงๆผมกะว่าจะมาเป็นลูกค้าประจำอยู่แล้วล่ะ" "ฮ่าๆ น่ารักจริงๆขอบคุณมากนะ" โปรดยิ้มให้ฉันก่อนเขาจะมองไปรอบๆร้านอีกครั้ง หลังจากที่เขากลับจากมหาลัยเขาก็แวะมาหาฉันอย่างที่เขาบอกไว้จริงๆ "ไม่มีพนักงานคนอื่นเลยเหรอครับ?" "ไม่มีค่ะ พี่อยากลองทำคนเดียวดูก่อนยังไม่อยากเพิ่มรายจ่ายน่ะนะ" โปรดพยักหน้าตอบอีกครั้ง "แล้วนี่กินข้าวเย็นรึยัง?" "ยังครับ กะว่าจะกลับไปต้มมาม่ากินน่ะ" "หื้มต้มมาม่าเนี่ยนะ" "อ่า อาหารเด็กมหาลัยน่ะครับ" โปรดหัวเราะออกมาเบาๆจนฉันยิ้มตามก่อนฉันจะขยับลุก และมองออกไปนอกร้านที่ตอนนี้ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่แล้ว "มาม่าก็อร่อยดีอยู่หรอก แต่กินข้าวจะดีกว่านะเดี๋ยวพี่จะทำข้าวเย็นพอดียังไงอยู่กินด้วยกันก่อนแล้วค่อยกลับดีไหม" "ผมดูรบกวนหลิวเกินไปไหม?" "ไม่ พี่เต็มใจดีซะอีกเราจะได้อยู่คุยเป็นเพื่อนต่อ" "งั้นผมขอฝากท้องเลยแล้วกันครับ" "โอเค ยังไงพี่ฝากหน้าร้านหน่อยนะ" "ครับ" ฉันยิ้มให้โปรดก่อนจะเดินเข้ามาหลังร้านทำอาหารง่ายๆที่มีของในตู้เย็นเผื่อน้องโปรดด้วย ของที่มีอยู่ก็ไม่น่าจะพ้นข้าวผัด...ก็พอได้อยู่ว่าแล้วก็รีบทำก่อนเดี๋ยวน้องโปรดจะรอนาน เวลาต่อมา "ข้าวเสร็จแล้ว" ฉันเดินถือจานข้าวผัดออกมาจากหลังร้านก่อนจะมองน้องโปรดที่กำลังนั่งทำงานตัวเองอยู่ เขาบอกว่าเขาเรียนด้านการทำเกมน่ะนะ ฉันเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่แต่ดูแล้วน่าจะเข้าทางโปรดเลยเพราะเขาเองก็ชอบเล่นแถมยังเก่งเรื่องไอทีอีก "ขอบคุณครับ น่ากินจัง" "จริงๆพี่อายอยู่นะที่มีแต่ข้าวผัด แต่พอนึกถึงความผัดที่ร้านคุณย่าแล้วเลยอยากทำให้โปรดกินด้วยกันน่ะ" "ครับ ผมกำลังจะพูดเลยว่าเหมือนคุณย่าทำให้ตอนเด็กๆเลย" โปรดยิ้มให้ฉันก่อนจะเดินมาถือจานข้าวผัดช่วย และคุณย่าที่ฉันพูดถึงคือคุณย่าของน้องโปรดนี่แหละ ตอนที่ฉันเรียนมหาลัยฉันเคยไปทำงานที่ร้านของคุณย่าของน้องโปรดเลยทำให้ฉันกับน้องรู้จักกันนี่แหละ "ว่าแล้วพี่ก็ไม่ได้ไปไหว้หลุมศพเธอเลยตั้งแต่มา สงสัยต้องแวะไปสักหน่อยแล้ว" "ครับ เพิ่งครบรอบที่ยายเสียไปเมื่อเดือนก่อนผมเองก็ไม่ค่อยได้ไปเท่าไหร่" ฉันมองโปรดที่กำลังตักข้าวผัดเข้าปากก่อนเขาจะเลิกคิ้ว และเงยหน้ามามองฉันด้วยรอยยิ้ม "รสชาติอร่อยเหมือนย่าทำเลย" "พี่มีสูตรข้าวผัดที่ย่าโปรดทำไง เพราะเธอทำบ่อยพี่เลยขโมยสูตรไว้น่ะนะ" ฉันหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะตักข้าวผัดกินด้วยรอยยิ้ม แต่น้องโปรดดูจะชอบมากเลยนะกินไม่หยุดเลย ล่าสุดกินจนได้ถอนแว่นออกมาเช็ดไอร้อนจากข้าว "แล้วเรียนเป็นยังไงบ้าง อยู่ปีไหนแล้ว" "เรียนไม่หนักแล้วครับ จะหนักไปทางงานที่ต้องออกแบบส่งมากกว่าเพราะปีสุดท้ายแล้วเลยงานเกมเยอะ" "ปีสี่แล้วสินะ แล้วนี่บริษัทเกมเขาไม่มาทาบทามตัวไว้เหรอ?" "ก็มีบ้างครับ แต่ผมยังไม่ได้สนใจที่ไหนเป็นพิเศษแล้วก็ยังชอบทำฟรีแลนซ์มากกว่า" "อืม เพราะกำหนดเวลาตัวเองได้สินะดีจัง" "แล้วหลิวเป็นยังไงบ้างครับ" ฉันเลิกคิ้วมองน้องโปรดหลังจากเขาถามมาแบบนั้นพร้อมกับมองฉันเหมือนกำลังชั่งใจว่าจะพูดต่อหรือไม่พูดต่อดี สงสัยคงอยากรู้เหตุผลที่ฉันกลับมาไทยสินะ "พี่สบายดีค่ะ แต่เพราะหย่ากับสามีเก่าเลยย้ายมาที่ไทย" "หย่า..กับแฟนคนนั้นสินะ" "อืม กับแดนนั่นแหละจำเขาได้อยู่ใช่ไหม?" "ครับจำได้ ผมไม่ถามหรอกนะว่าเหตุผลที่หย่าคืออะไรเพราะแค่นี้ผมก็เสียมารยาทมากแล้ว แต่เอาเป็นว่ายินดีต้อนรับกลับไทยนะครับ" "ขอบคุณสำหรับการต้อนรับนะ ตอนแรกพี่ก็คิดว่าคงต้องเหงามากที่ย้ายกลับมาทั้งๆที่ไม่มีเพื่อนๆอยู่แถวนี้แต่พอได้เจอโปรดก็ใจชื้นขึ้นหน่อย" โปรดยิ้มออกมาบางๆหลังฉันตอบไปแบบนั้นก่อนเขาจะมองสบตาฉันด้วยรอยยิ้มจนฉันรู้สึกแปลกๆ เพราะคำพูดและสายตาของเขา แต่มันก็เป็นเพียงแค่ความรู้สึกวูบเดียวเท่านั้นน่ะนะ "หลิวจะไม่เหงาแน่นอน เพราะผมจะแวะมากวนใจหลิวทุกวันเลย" คำพูดแปลกๆแฮะ กวนใจงั้นเหรอ...สงสัยเด็กสมัยนี้เขาชอบพูดอะไรแบบนี้กันล่ะมั้ง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD