เจ้าขาเดินวนไปมา เมื่อพบว่าเวลาบนหน้าปัดนาฬิกา ล่วงเลยเวลานัดมาเกือบสิบนาทีแล้ว แต่เพื่อนสนิทที่อาสามารับไปเรียนแต่ยังมาไม่ถึงสักที จะโทรตามก็เกรงใจ
“ทำไมวันนี้มาช้ากว่าปกติ”
คนตัวเล็กชะเง้อคอมอง รถของเธอถูกส่งซ่อมเพราะหักหลบลูกหมา จนขับพุ่งไปชนฟุตบาท จริงๆไม่ได้เสียหายอะไรมาก แต่อีกไม่กี่วันประกันก็จะสิ้นสุดแล้วเจ้าขาจึงรีบเอารถไปเคลม และช่วงที่รถยังซ่อมไม่เสร็จน้ำนิ่งจึงอาสามารับมาส่งเธอทุกวัน เพราะคอนโดของเจ้าขาเป็นทางผ่านกลับบ้านของน้ำนิ่งอยู่แล้ว
เอี๊ยด!!
ระหว่างที่เจ้าขากำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่นั้น รถหรูป้ายแดงคล้ายกับรถออฟโรดยี่ห้อเมอร์เซเดสเบนซ์ก็มาจอดเทียบหน้าคอนโด กระจกรถคันหรูเลื่อนลงถึงรู้ว่าน้ำนิ่งนั่งอยู่เบาะหลัง เจ้าขาอดแปลกใจไม่ได้เพราะปกติน้ำนิ่งจะขับรถไปเรียนเอง
“เจ้าขาขึ้นรถเร็วเข้า”
“เอ่อ...”เจ้าขาทำหน้างง ยังไม่ได้เดินไปขึ้นรถ
“ขึ้นมาเร็ว เราจะสายแล้วนะ”
“...”คำว่าสายแล้วของเพื่อนสนิท ทำให้คนที่ยืนงงไม่มีเวลาคิดอะไรมาก เธอรีบวิ่งเข้าไปเปิดประตูรถและขึ้นไปนั่งอย่างเก้ๆกังๆ เพราะรถค่อนข้างสูง โดยทุกการกระทำของคนตัวเล็กอยู่ในสายตาเจ้าของรถ ผ่านทางกระจกมองหลังตั้งแต่ขึ้นมานั่งบนรถ
“นี่รถพี่เปลวไฟ เท่ส์เปล่าแก”น้ำนิ่งเอ่ยด้วยความตื่นเต้น พลางใช้ฝ่ามือเล็กของเธอลูบเบาะรถไปมาด้วยความหลงใหล
“เฮ้ย! คลั่งอะไรขนาดนั้นวะนิ่ง”น้ำเหนือพูดไปขำไป เมื่อเอี้ยวตัวกลับมามองอาการของน้องสาวแท้ๆ ที่นั่งอยู่เบาะหลัง
“ก็นิ่งชอบอ่ะ พี่เหนือซื้อมั่งดินิ่งจะได้ยืมขับ”
“ไม่ใช่เรื่อง รู้จักทำตัวให้เรียบร้อยเหมือนเพื่อนเราด้วย”
“เชอะ”น้ำนิ่งเบะปากใส่พี่ชายของเธอ จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดถ่ายรูปตัวเองด้วยท่าทางต่างๆ
จังหวะนั้นเองเจ้าขาที่ขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้วก็ต้องชะงักไป เมื่อดวงตากลมโตสบตาเข้ากับเจ้าของสายตาคม ซึ่งเธอเคยสบตาแบบระยะประชิดมาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนที่อยู่โรงอาหาร ปรากฏว่าตอนนี้เขากำลังมองเธอผ่านทางกระจกส่องหลังอยู่ก่อนแล้ว
“สะ...สวัสดีค่ะพี่น้ำเหนือ...”เสียงหวานของคนตัวเล็กเอ่ยทักทายน้ำเหนือที่นั่งอยู่ข้างคนขับ เจ้าขายกมือไหว้พี่ชายของเพื่อนสนิทอย่างนอบน้อม โดยที่น้ำเหนือก็ยิ้มและพยักหน้าให้เธอ
“ตามสบายนะครับน้อง พอดีเพื่อนที่เพิ่งได้รถคันใหม่มา เลยอยากให้นั่งทดสอบเครื่องยนต์ด้วยกัน”
“อ่อค่ะ”โดยคนตัวเล็กไม่ลืมยกมือไหว้อีกคนด้วยท่าทางประหม่า แต่ที่แย่คือเธอตื่นเต้นจนจำชื่อคนตัวสูงไม่ได้ ทั้งๆที่น้ำนิ่งเพิ่งพูดชื่อเจ้าของรถออกมาเมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้ว “สวัสดีค่ะพี่...เอ่อ...”
“เปลวไฟ”เจ้าตัวเอ่ยขึ้นเสียงทุ้ม แม้รอยยิ้มของเธอมันทำให้หัวใจของเขากระตุกไหวก็เถอะแต่เรื่องจำชื่อไม่ได้เขาก็เคืองเธออยู่ดี
“เอ่อ...ค่ะ พี่เปลวไฟ”เจ้าขายิ้มหวานให้เปลวไฟ ทว่าเขากลับมองเธอด้วยแววตาดุปนขุ่นเคือง จากนั้นก็เบือนสายตากลับไปมองถนนและเคลื่อนรถออกไปอย่างรวดเร็ว
รถหรูควรค่าแก่การนั่งสบายๆแต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิด แววตาของเปลวไฟทำให้เจ้าขาไม่สบายใจและรู้สึกอึดอัด ถ้ารู้ว่าน้ำนิ่งไม่ได้ขับรถมาเองเธอคงเลือกนั่งรถสาธารณะมากกว่า จะได้ไม่ต้องมานั่งทำตัวลีบตัวเกร็งบนรถหรูคันนี้
แถมยังรู้สึกเหมือนถูกมองอยู่ตลอดเวลา จากทางกระจกมองหลังอีกด้วย
@ มหาวิทยาลัยH
“ไอ้ไฟกูเห็นนะ ว่ามึงมองน้องเจ้าขาตาเป็นมัน”น้ำเหนือเอ่ยขึ้นทันทีหลังจากที่น้องสาวและเพื่อนสนิทของเธอลงจากรถไปแล้ว
“แล้วไง?”เปลวไฟถามกลับด้วยท่าทางนิ่งๆ จากนั้นก็ขับรถมุ่งหน้าไปทางลานจอดรถของคณะวิศวะฯ
“คนนี้ไอ้องศามันเล็งอยู่”น้ำเหนือพูดเข้าประเด็นทันที เมื่อเห็นท่าทีของเปลวไฟ ตั้งแต่เจ้าขาขึ้นมาบนรถ แน่นอนว่าท่าทีที่มีต่อเจ้าขาไม่เหมือนกับที่มีให้น้ำนิ่ง ซึ่งเห็นเป็นแค่น้องสาวเพื่อน
โดยเฉพาะอาการไม่พอใจ ตอนที่คนตัวเล็กจำชื่อเพื่อนของเขาไม่ได้ ปกติเปลวไฟไม่ค่อยใส่ใจผู้หญิงสักเท่าไหร่ ปกติก็มีแต่คนเข้ามารุมล้อมเขาจนบางทีเบื่อหน่ายด้วยซ้ำ แต่สายตาที่มองเจ้าขามันไม่ใช่
“ก็แค่เล็งยังไม่จีบ”
“กูแค่ไม่อยากให้พวกมึงผิดใจกัน”
“แล้วมึงไม่คิดเหรอว่ากูเล็งเอาไว้ก่อนมัน”
“ถ้าคิดจะกินแล้วทิ้ง คนนี้กูขอ”
“ไอ้องศามันก็มีคู่หมั้น มึงไม่ไปขอมันมั่ง”เปลวไฟแย้งขึ้นทันทีระหว่างนั้นก็ถอยรถเข้าจอดตรงช่องจอดรถไปด้วย
ส่วนน้ำเหนือนิ่งไปเมื่อเห็นว่าสิ่งที่เปลวไฟพูดเป็นเรื่องจริง องศาเองก็กำลังจะหมั้นด้วยเหตุผลที่รู้ๆกันอยู่เรื่องคู่หมั้นสัญญาใจ ซึ่งผู้ใหญ่จัดหาให้หลังเรียนจบเผลอๆหมั้นแต่งวันเดียวเลยด้วยซ้ำ
“จะเอาให้ได้ว่างั้น”น้ำเหนือถอนหายใจออกมา ต่างจากเปลวไฟที่ยกยิ้มอย่างผู้ชนะ ตามนิสัยคนอยากได้อะไรก็ต้องได้
“ฮึ! ปกติมึงไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของกูนะ”
“กูสงสารน้องเขาเว้ย เด็กมันดูซื่อๆ ไม่ทันคน กูว่ามึงควรปล่อยเด็กมันไปมีอนาคตเถอะ”
“ไร้สาระ”ว่าจบมือหนาก็ผลักประตูรถเปิดออก จากนั้นก็เดินตรงเข้าไปในอาคารเรียนทันที โดยที่ไม่รอให้น้ำเหนือได้โต้ตอบอะไรอีก
“...”ส่วนน้ำเหนือก็เดินตามเปลวไฟเข้าไปติดๆ ระหว่างนั้นก็มีรุ่นน้องสาวสวยคณะนิเทศฯ เดินเข้ามาทักทายเปลวไฟพอดี จากนั้นทั้งคู่ก็เดินโอบกันไปทางห้องน้ำชายท่ามกลางเสียงหัวเราะคิกคักของเจ้าของร่างบาง ซึ่งไม่ต้องเดาก็รู้ว่าทั้งคู่จะเข้าไปทำอะไรกันในนั้น
“แม่งไอ้ไฟ มึงนี่มันซาตานส่งมาเกิดชัดๆ”