"กอไก่ ขอไข่ "
เด็กน้อยวัยเพียงหกขวบท่องหนังสือการบ้านหลังกลับมาจากโรงเรียน ชุมชนชนบท ที่ผู้คนต่างหาเช้ากินค่ำมีลักษณะบ้านเป็นปูนเปลือยมุงด้วยหลังคาสังกะสี
"พักพิงมากินข้าวสิ"
"แล้วพี่พิมพาไปไหนล่ะคะแม่"
"คงไปเล่นอยู่แถวนี้แหละ เรามากินก่อนพี่ได้เลยแม่ทำของโปรดให้ ไข่เจียวใส่ดอกอัญชันไง"
รอยยิ้มสดใสดีใจมาก เด็กน้อยรีบวางกระเป๋าเป็นที่เป็นทางก่อนจะนั่งลงพื้นข้างแม่
"สัญญากับแม่ได้ไหม ไม่ว่ายังไงหนูจะเป็นเด็กดีและที่สำคัญอย่าทิ้งพี่นะ"
"แม่จะไปไหนหรือคะ"
"คือแม่.."
แม้พักพิงจะอยู่ชั้นเตรียมประถมหรืออนุบาลสาม แต่เนื่องจากเธอฉลาดและเรียนเก่ง ตรงกันข้ามกับพี่สาวที่เรียนชั้นประถมแต่ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไรสักอย่าง
หลังจากกินข้าวเสร็จ พักพิงมักจะเก็บถ้วยชามให้เเม่เสมอ ก่อนที่เธอจะขอตัวไปทำการบ้านต่อ จนกระทั่งเวลาล่วงเลยผ่านจนใกล้พระอาทิตย์ตกดิน
"แม่จ๋าาา พักพิงทำการบ้านเรียบร้อยแล้ว" เสียงแจ๋ววิ่งถือสมุดไปยังหลังบ้านเพื่ออวดผู้เป็นแม่ "มะ..แม่"
ดวงตาซื่อใสจ้องมองภาพอย่างไร้เดียงสา แต่เธอเริ่มเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ
"ฮื้อ แม่ลงมาเดี๋ยวนี้นะคะ มะ แม่จ๋า"
สภาพผู้เป็นแม่ห้อยโตงเตงกลางไม้ที่ห้องครัว พร้อมทั้งลิ้นจุกปาก พักพิงเอื้อมมือขึ้นสูงเพื่อพยายามจะดึงขาแม่ลงมา เพราะแม่ไม่ตอบกลับจึงทำให้เธอร้องไห้สะอื้น โดยที่เด็กน้อยไม่รู้ว่าแม่แขวนคอตายอยู่..สักพักก็มีเสียงพูดตะโกนกันอยู่หน้าบ้าน
"ค้นบ้านให้ทั่วสิ ถ้าเจออีสายบัวก็ฆ่ามันซะเสือกมาขายตัวรับเงินล่วงหน้าแต่โดนแขกรุมเอาแค่นี้ใจเสาะไม่มาทำงาน"
"แล้วลูกมันจะทำยังไงดีพี่ยังเด็กอยู่เลย"
"เลี้ยงไปเดี๋ยวก็โตท่าทางดูโง่ๆ ด้วย"
เหล่าลูกน้องปรี่เข้ามาในบ้าน ในขณะที่พักพิงมองลอดผ่านประตูเห็นสภาพพี่สาวใบหน้าเลอะเลือดทั้งตาเขียวปูดโปน เด็กวัยเพียงประถมพวกสัตว์เดรัฐฉานยังทำร้ายได้ลงคอ
"พี่..อีสายบัวมันผูกคอตาย ส่วนลูกมันอีกคนหายไป สงสารตายห่าไปแล้วเห็นรองเท้าวางอยู่ริมบึงหลังบ้าน"
"เออดี! งั้นเผาที่นี่ให้ราบทุกคนจะได้คิดว่าอีสามแม่ลูกถูกไฟคลอกตายจนกลายเป็นผุยผง"
กรี๊ดดด ไฟไหม้?
บรรดาชายชั่วลากพิมพาออกไปและคอยยืนดูผลงานใกล้ๆ เมื่อเผาบ้านเป็นเพลิง เพราะความฉลาดน้อยและความกลัว เด็กอย่างพิมพาจึงไม่กล้าพูดอะไร มีเพียงหยดน้ำตาใสที่ไหลรินอาบเต็มสองแก้มเพราะคิดว่าว่าน้องสาวกับแม่ได้ตายไปกับกองไฟ
"แม่!!!!"
น้ำเสียงตะโกนลั่นเมื่อสะดุ้งตื่นจนสุดตัว และบ่อยครั้งที่เธอจะฝันเห็นเหตุการณ์เดิมซ้ำๆ จากความทรงจำในอดีต สักพักก็หยัดกายลุกนั่งอยู่ใต้ล่างกองผักที่เตรียมขายเช้ามืด
"เสียงดังทำไมใครตายเหรอ..อีพักพิง!"
"พ่อมึงตายมั้งอีปลาทู"
"เอ้าอีนี่มาด่าพ่อกูเดี๋ยวเถอะ"
"อย่าเสือกให้มากรำคาญ"
ปลาทู ลูกแม่ในตลาดมักทะเลาะวิวาทกับพักพิงเสมอทุกวัน
"เรียบร้อยค่ะครู ส่วนนี่ขายผักของวันนี้" เงินหลายพันถูกยื่นให้เจ้าของแผง
"พักพิงครูมีอะไรจะบอก"
"อะไรหรือคะ.."
"แม่ครูป่วยต้องกลับบ้านนอกไปดูแล แกแก่แล้วอีกอย่างไม่กี่วันก็จะถึงวันเกิด พักพิงอายุครบสิบแปดปี แล้วเรียนจบมอหกพอดี ครูคงส่งพักพิงได้เท่านี้แล้วนะ"
น้ำตาผู้เป็นครูไหลพราก เมื่อย้อนนึกถึงวันวานเมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมา เด็กน้อยในสภาพมอมแมมตัวมีแต่โคลนวิ่งเท้าเปล่ามาหา
หลังจากพักพิงเห็นพี่สาวที่เจ็บจึงเข้าใจว่าโดนทำร้าย เธอรีบเดินไปหลบในตู้ไม้ชั้นล่างสุดที่ไว้เก็บหม้อข้าวทันที หลังจากพวกนั้นจุดไฟเผา ควันไฟก็ลอยละล่อง
พักพิงชอบเล่นน้ำคลองมาก เธอจึงรีบวิ่งหาทางออกไปหลบในคูน้ำที่มีก้อนหินพอจะยืนได้และช่วงนั้นก็มืดค่ำไร้แสงไฟ จึงไม่มีใครสังเกตเห็น ก่อนจะร้องไห้แล้วคลานฝ่าโคลนดำไปถึงทาง จากนั้นก็วิ่งไปหาครูประจำชั้นที่อยู่ถัดไปยังอีกหมู่บ้านหนึ่งทันที
แต่ตอนนี้..ครูเกษียณออกมาขายผัก และรับเลี้ยงพักพิงพาไปทำบัตรประชาชนทุกอย่าง แต่เนื่องด้วยทางบ้านครูก็เป็นหนี้จึงไม่สามารถเลี้ยงพักพิงต่อไปอีกได้
หลายวันผ่านไป
"น้อง!ซิกก้าไวท์กล่องหนึ่ง"
"ได้ค่ะพี่ชาย"
"น่ารักฉิบหาย"
"งั้นสั่งเยอะๆ นะคะ"
พักพิงออกมาใช้ชีวิตโดยมีเงินติดตัวนิดหน่อย เธอจึงมารับจ้างขายบุหรี่ในโรงเบียร์แถวบ้าน
หมึบ!
มือหนาคว้าบีบที่ก้นแล้วขยำหนึบหนับ ก่อนจะแทะโลมอย่างคุกคาม
"มาขายใหม่สินะเนี่ย..ยังฟิตอยู่เลย"
"ราคาเท่าไหร่พี่จะเหมาจ่ายทั้งคืน ฮ่าๆ"
เพล้ง
ขวดเบียร์ฟาดเข้าเต็มแรงจนอีกฝ่ายศีรษะแตกเลือดไหลเป็นทาง
"อย่ามายุ่งกับอีพักพิงนะเว้ย!!" พักพิงถือขวดชี้ด่าหน้าอย่างไม่เกรงกลัว ก่อนสตินึกคิดจะกลับมา "ตายห่าจะโดนตำรวจจับไหมวะ"
วิ่งสิรออะไร..สาวน้อยสปีดเท้าเร่งออกไป เหลือเพียงความตกใจของทุกคนในโรงเบียร์
"อยู่ที่นี่คงอดตายเอาวะ!เป็นไงเป็นกัน"
บรื้น
รถทัวร์แล่นออกจากสถานีมุ่งหน้าไปยังกรุงเทพฯ เธอนั่งเบาะหลังกอดหมอนพร้อมกระเป๋าหนึ่งใบ พักพิงตัดสินใจไปหางานทำ ณ.เมืองกรุง
"ตรงนี้เหรอพี่ที่เขาให้นอนฟรี"
"เออใช่ ไปสิ"
"ขอบคุณจ้า"
สาวน้อยสวมใส่เสื้อผ้าปิดหน้าตามิดชิด เธอป้องกันตัวเองอย่างดี และขอให้คนขับรถแวะจอดสถานที่แบบว่า..ให้นอนพักฟรีได้
"แฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูยู...ฮึก"
น้ำเสียงสั่นเครือร้องเพลงให้ตัวเองครบรอบอายุสิบแปดปีเต็ม ในขณะที่นั่งอยู่ใต้สะพานลอยริมแม่น้ำ เธอเองไม่เข้าใจว่าทำไมผู้คนสวมเสื้อผ้าเก่าขาดเวิ่นถึงมารวมตัวกันที่นี่ แต่ช่างเถอะยังไงก็นอนฟรี เพียงแต่ว่าต้องนอนพื้นปูน
"พี่พิมพาจ๋า หนูจะตามหาพี่ให้เจอ..ตะวันตกที่พวกมันพูดว่าจะพาพี่ไปขาย ถึงแม้มันจะอยู่ไกลแค่ไหนหนูจะหาพี่ให้จนได้" พักพิงทรุดนอนลงร้องไห้กอดเพียงหมอนกับกระเป๋าหนึ่งใบที่พกมาด้วย "แม่ไม่ต้องห่วงนะหนูจะต้องเจอพี่แน่"