ฉันเดินตามเข้าไปในห้องกระจกของเขาก็เห็นเจ้าตัวกำลังนั่งทำหน้าบึ้งอยู่ตรงโซฟาตัวใหญ่ ในมือขวาเลื่อนจอโทรศัพท์มือถือเครื่องแพงของเขาไปมาจนแสงไฟจากหน้าจอนั้นสาดส่องในที่ใบหน้าหล่อเหลาทำให้เห็นว่าคิ้วเข้มนั้นกำลังชนกันอย่างกับคนหงุดหงิด “ดรีมไม่ได้เป็นห่วงคนอื่น แค่คิดว่ามันเกินไป ไม่อยากให้มันเป็นเรื่องเป็นราวขนาดนั้น” ฉันเอ่ยด้วยน้ำเสียงปกติแต่ก็ติดไปทางอ้อนวอนขอความเห็นใจ “เดี๋ยวตัวเองนั่นแหละจะเดือดร้อนเพราะความใจร้อนน่ะ” พูดจบฉันก็ขยับตัวนั่งลงข้างเขาที่เอาแต่เงียบ ขนาดว่าฉันพูดจบเขาก็ยังทำเหมือนไม่ได้ยินเลย เพราะเขาทำอย่างกับฉันเป็นอากาศ เมินเก่งเหลือเกิน งอนเก่งกว่าผู้หญิงอีก “ขอโทษ ที่ทำให้โกรธ” ฉันพูดต่อ คราวนี้เขายอมปรายตามมามองแล้วก็หันกลับไปมองบนจอเหมือนเดิม “จะไม่คุยกันแล้วใช่ไหม จะได้กลับก่อน” ฉันใบหน้าด้านข้างของเขาที่เอาแต่นิ่งจนเริ่มจะทนไม่ไหว ก็เพิ่งจะเคยมีแฟน นี่ฉันก็ง้อ

