EP.6 อกหักทิพย์

1113 Words
หลายวันหลังจากนั้น ร้านบาร์เบียร์ อึก!อึก! "เบาหน่อยอีเยลลี่แดกเหมือนสามล้อถูกหวย" นินิวถูกเรียกให้มาหา ซึ่งมีนไม่ว่างจึงไม่ได้มาด้วย "กูอกหัก ฮึก" "เดี๋ยวนะคะมึง..เท่าที่กูทราบพี่ไทเกอร์กับมึงยังไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วมึงจะอกหักได้ยังไง" "กูอกหักทิพย์" "เอ้า!!" เพื่อนขมวดคิ้วเป็นปมพยายามดึงรั้งมือน้อยที่คว้าแก้วเหล้ากระดกดื่มแบบไม่พัก ตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งทุ่มตรง ผู้คนยังไม่มากนักแต่เยลลี่ดื่มเหล้าไปเกือบครึ่งกลม "โอ๊ยยยย!!" ฉันร้องโวยวาย "เป็นอะไรอีก มึงเมาแล้วช่วยเก็บอาการหน่อยได้ไหม คนอื่นเขามองกันหมดแล้ว" "มึงเหยียบตีน อัก กู" "อุ๊ย โทษๆ ใต้โต๊ะกูมองไม่เห็น ฮ่าๆ" ดวงตาพร่ามัว เยลลี่เริ่มง่วงเนื่องจากแอลกอฮอล์แทรกซึม ศีรษะฟัดเหวี่ยงจนผมยาวสลวยที่หนีบไดร์จากร้านเสริมสวยยุ่งเหยิง "เจ็บซ้ำเจ็บซ้อนโดนหักอก ฮึก ยังโดนเพื่อนเหยียบตีน โธ่..ชีวิต ฮือออ" เก็บอาการไม่ไหวมันเจ็บแปลบจริงๆ "กูว่ามึงเมาแล้วนะ กลับโรงแรมดีกว่าไหมเดี๋ยวกูไปส่งนั่งแท็กซี่ไปด้วยกัน" "กูไม่กลับ! อยากดื่มเพื่อลืมเธอ" นินิวฐานะทางบ้านปานกลาง เธอต้องช่วยแม่ทำงานบัญชีที่บริษัท วันนี้จึงไม่สามารถอยู่กับเยลลี่ได้ดึก สามทุ่ม สองสาวจึงออกมายืนริมฟุตบาทเพื่อรอรถแท็กซี่ "แน่ใจนะว่าไหวถึงโรงแรมเมื่อไหร่ส่งข้อความมาบอกด้วยจะได้ไม่เป็นห่วง" สภาพที่ยืนไม่นิ่งทำให้นินิวต้องจับแขนของเยลลี่เขย่า "เฮ้ยยย" "เออ ไม่ต้องห่วงหรอกน่า คนอย่างเยลลี่ไม่ตายง่ายหรอก" "ไม่ได้ห่วงว่ามึงจะตาย..ห่วงว่าใครจะลากมึงไปทำไม่ดีไม่ร้ายน่ะสิ" บรื้นนน เมื่อแท็กซี่จอดรับนินิวจำต้องขึ้นรถกลับโดยมีเยลลี่โบกไม้โบกมือส่ง จากนั้นเธอเริ่มรู้สึกมวนท้องเนื่องจากแอลกอฮอล์ปั่นป่วน ฝีเท้าเล็กเดินเลาะไปตามไหล่ทาง พอเห็นตึกก็เลี้ยวเข้าไปเพื่ออาเจียน อ้วกกก เพียะ!! "มึงมากับมันได้ไงอีส้ม ไหนบอกไม่คิดอะไร" "พะ พี่ฟังฉันก่อนสิ" "กูเห็นนะ ยืนกอดกันเต้นกลางผับ เหอะ มึงคิดว่ากูโง่เหรออีส้ม!!" "พี่" เพียะ! ถัดไปไม่ไกลมีคู่รักกำลังทะเลาะกันอย่างรุนแรง หญิงสาวบอบบางถูกชายร่างแกร่งตบจนเลือดซิบมุมปาก คล้ายอารมณ์ของเขาจะเดือดดาลทำร้ายทุบตีอย่างทารุณ "เฮ้ยยย!! ทำเหี้ยอะไรผู้หญิงวะไอ้หน้าตัวเมีย" ด้วยความเป็นสตรีแกร่งเต็มเปี่ยม ฉันจึงตะโกนดังลั่นจนไอ้ผู้ชายคนนั้นหันขวับกลับมามอง "อย่าเสือกเรื่องของผัวเมีย" "ผัวไม่ใช่พ่อ!! มีสิทธิ์อะไรมาทำร้ายร่างกายของคนอื่น พ่อแม่เขายังไม่เคยตบตีด้วยซ้ำมั้ง ไอ้สัส" "อ้าวว อีห่าด่ากู" ดวงตากลมโตดุดัน ชายตัวใหญ่ผิวเข้มเดินตรงดิ่งเข้ามาหาทันทีและการอาเจียนทำให้เยลลี่มีสติขึ้นมาเล็กน้อย เธอยังคงยืนหยัดสู้ไม่ถอย คลับ Very Hot ตึก ตึก ตึก เคว้ง! "เชี้ย!" ขณะที่ผมกำลังชงค็อกเทลให้ลูกค้าทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก มีร่างเล็กแทรกเข้ามาในบาร์ก่อนจะนั่งลงใต้เคาน์เตอร์ "ทำอะไรของเธอเนี่ย" "อย่าเรียกหนู" "อะไร!" "เงียบ!" เยลลี่หายไปหลายวันแต่ไทเกอร์ก็ไม่ได้สนใจอะไรจนกระทั่งโผล่มาวันนี้ "เฮ้ย ไอ้หน้าหล่อเห็นอีตัวเล็กๆ ใส่เสื้อเอวลอยสีฟ้ากับกระโปรงสีดำไหม?" "____" "มันวิ่งมาในนี้แวบๆ" ทันทีไทเกอร์ก็รู้สึกได้ว่าคนที่ชายฉกรรจ์ตัวใหญ่ตามหาก็คือเยลลี่ที่ตอนนี้มุดอยู่ใต้หว่างขาของเขาในบาร์ "มีอะไรให้ช่วยไหมครับ" ผมถามกลับแต่มือหนาของผู้ชายตรงหน้ากุมที่ข้างขมับตัวเอง "กูถามว่าเห็นอีตัวเล็กที่กูบอกไหม!! แล้วมึงจะมาถามกูกลับทำไมวะกวนตีนเหรอ" "ที่ผมถามเพราะว่าตอนนี้เลือดของคุณมันหยดย้อยลงมาอาบหน้าทำให้ผู้คนแตกตื่นน่ะครับ อีกอย่างถ้าติดเชื้อขึ้นมาอาจจะได้ตัดหัวทิ้งรีบไปโรงพยาบาลเถอะ" "!!!!" ย้อนกลับไป หลังจากที่เยลลี่ขัดขวาง ผู้ชายตัวใหญ่ตรงดิ่งเข้ามาแต่ไม่ทันได้เห็นว่าในมือของเธอถือขวดเหล้าเปล่าที่เจอข้างถังขยะ ก่อนที่จะเหวี่ยงฟาดเข้าเต็มกบาล "เกือบไม่รอด" หลังจากได้ยินเสียงผู้ชายสันดานเลววิ่งออกไป ฉันก็ลุกขึ้นยืน "ฝีมือเธอใช่ไหม? หัวมันถึงแตกขนาดนั้น" "ใช่ค่ะ..เจ๋งไหม" "เจ๋งบ้าอะไรถ้าหากมันมีพรรคพวกแล้วเธอวิ่งหนีไม่ทันอาจจะเกิดอันตรายก็ได้...ทำอะไรหัดใช้สมองคิดหน่อยได้ไหม" มีแต่เรื่องละเหี่ยใจ ผมสาดเสียงดุดันแต่ก็ต้องรีบทำหน้าที่ต่อ "ก็มันตบตีผู้หญิง ถ้าพี่เห็นเหตุการณ์ตรงหน้าจะไม่ช่วยหรือไง" ฉันเถียงกลับ "พี่จะปล่อยให้ผู้หญิงถูกทำร้ายไม่ได้นะคะ ใจดำไปไหม" ต๊บ! ขวดเหล้าราคาแพงวางกระทบบาร์เคาน์เตอร์เต็มแรง ขณะนี้สองคนยืนอยู่ข้างกัน ไทเกอร์ที่ตัวสูงกว่าหันมาพร้อมกับพูดจาเสียงดัง "การที่เธอจะช่วยใครสักคนก็ต้องดูก่อนว่าไหวหรือเปล่า..ถ้าหากมันมีปืนหรือมีมีด คนที่จะตายหรือบาดเจ็บก็คือเธอแล้วพ่อแม่ของเธอจะอยู่ยังไง คิดหน่อยสิ! ถ้าเห็นว่าเหตุการณ์ไม่ดีถ่ายคลิปถ่ายรูปเก็บหลักฐานโทรแจ้งตำรวจ" ผมเริ่มโมโหกับการขาดสติของเด็กนี่ "บนโลกนี้ไม่ได้เป็นสีชมพูและไม่ใช่ว่าเธอจะรอดแบบนี้ทุกครั้งหรอกนะ" คำพูดของเขาทำให้เธอสำนึกผิดรีบก้มหน้าลง ก่อนที่จะเดินคอตกไปนั่งหน้าบาร์ แววตาเศร้าเริ่มบรรเทาอารมณ์ร้อนของอีกฝ่าย "จะดื่มไหมเดี๋ยวชงให้" "ดะ ดื่มค่ะเมื่อกี้ตกใจจนสร่าง" เป็นคำถามที่ทำให้ฉันตื่นเต้น รีบเงยหน้าขึ้นตอบรับพร้อมจ้องมองวิธีการชงเหล้าด้วยศิลปะของชายหนุ่มรูปงามอย่างพี่ไทเกอร์ช่างน่าหลงใหล ไม่ว่าเขาจะใจร้ายแค่ไหนแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความชอบพอที่มีลดน้อยลงไปเลยแม้แต่นิดเดียวจริงๆ เฮ้อ~
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD